ปัญหาของคนเพียงคนเดียวได้ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสิงคโปร์เพิ่มขึ้นอีกมิติหนึ่งแล้ว
เราจึงได้กล่าวไว้ว่าช่างมหัศจรรย์เสียจริง ๆ หนอ ที่คนเพียงคนเดียวสามารถก่อปัญหาสะท้านฟ้าสะเทือนดินได้ถึงปานนี้ เรากล่าวความประการนี้ไปเพียงสัปดาห์เดียวก็เกิดปัญหาระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นมาอีก
มองไปอีกทางหนึ่งเราเห็นถึงความมหัศจรรย์ดังกล่าวนั้น แต่อีกทางหนึ่งเราก็เห็นถึงอันตรายใหญ่หลวงที่จะบังเกิดกับคนเพียงคนเดียวนี้ว่ายิ่งก่อปัญหามากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งเร่งอายุขัยให้สั้นลงเท่านั้น
แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ฟ้าศักดิ์สิทธิ์ อาณาประชาราษฎร์คือชีวิต ความร่มเย็นสุขสันต์คือธรรม ใครก่อกรรมทำลายแผ่นดิน ฟ้า อาณาประชาราษฎร์ และความร่มเย็นเป็นสุขแล้ว ไหนเลยจะมีอายุขัยที่ยืนยาวไปได้
เพราะมนุษย์เรานั้นจะมีอำนาจวาสนามากน้อยเท่าใดก็ตาม หากจะเปรียบเทียบกับพลานุภาพแห่งฟ้าดินและธรรมแล้ว สิ่งที่มนุษย์เรามีนั้นก็แค่กระจิ๊ดริดกระจ้อยร่อยเสียยิ่งกว่าเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทร
การสร้างกรรมทำเข็ญต่อฟ้า ต่อดินและผิดต่อธรรมจึงเป็นอนันตริยกรรมและบั่นทอนอายุขัย ไม่ต่างอันใดกับอนันตริยกรรมประการที่ทำให้พระอรหันต์ถึงห้อเลือด
เวลานี้การตั้งคำถามถึงคนคนนี้ว่าเมื่อปากพูดว่าพอแล้ว ไฉนเล่าจึงไม่หยุดทำร้ายทำลายชาติบ้านเมือง กำลังดังกระหึ่มทั่วไปในบ้านเมือง จนกลบเสียงโหวกเหวกโวยวายของพวกลิ่วล้อทรราชหรือพวกทาสที่ไม่ยอมรับการปลดปล่อยจนหมดสิ้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือคนแรกสุดที่ตั้งคำถามชนิดนี้ และส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ทำให้เกิดคำถามลักษณะนี้กระเพื่อมออกไปเป็นวงกว้าง กว้างออกไป กว้างออกไป จนสุดไร้ฝาฝั่ง
และคงดังให้ได้ยินไปถึงหูคนคนนั้น ไม่ว่าขณะที่ได้ยินจะอยู่ในปักกิ่ง หรือญี่ปุ่น หรือลอนดอนก็ตาม มันจะดังกังวานจนสะท้านสะเทือนแก้วหูจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ และได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้หัวใจคนคนนั้นต้องแตกยับดับสลายในเร็ววันเลย
คำถามชนิดนี้ได้ปลุกหัวใจรักชาติ รักบ้าน รักเมือง ให้เกิดขึ้นแก่ผู้คนทั่วทั้งประเทศ ไม่ว่ารากหญ้า รากแก้ว ก้านหรือกิ่งหรือใบ
ใครที่เคยหลงเข้าใจว่าคนยากคนจน คนขับรถแท็กซี่ คนขี่รถมอเตอร์ไซค์ จะมอบหัวใจให้กับคนคนนั้นเป็นนิรันดร เป็นความเข้าใจผิด และคิดผิด ซึ่งอาจคิดเสียใหม่และเข้าใจเสียใหม่ได้
วันนี้คนยากคนจน คนขับรถแท็กซี่ คนขี่รถมอเตอร์ไซค์ ได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นแล้ว แม้ในชั่วเวลาอันสั้นและในปริมาณอันน้อยนิด แต่ความผิด ความถูก ความชั่ว ความดี ก็พอที่จะรู้และสัมผัสได้
ดังนั้นมนต์มายาอสูรแห่งลัทธิประชานิยมที่ต้มตุ๋นคนไทยหรือที่เราเคยเรียกว่าลัทธิขายยาบ้าทางเศรษฐกิจ มอมเมาชีวิตคนไทย จึงเสื่อมสลายไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งคนยากคนจน คนขับรถแท็กซี่ คนขี่รถมอเตอร์ไซค์พากันก่นด่าคน ๆ เดียวนี้ที่ทำให้ชาติบ้านเมืองย่อยยับคับขัน ทำให้ประชาชนต้องเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว
ยิ่งเกิดเหตุการณ์เผาโรงเรียน เกิดเหตุวางระเบิด จิตสำนึกรักชาติของผู้คนก็ประดังเข้ามา ยิ่งคนคนนั้นไปอาศัยต่างชาติกล่าวหาว่าร้ายทำลายบ้านเมืองตัวเองเพิ่มเข้ามาอีก ผู้คนเขาจึงได้เห็นธาตุแท้ว่าเป็นคนเช่นไร เป็นคนทำลายชาติหรือเป็นคนรักชาติ
คนคนเดียวนี้เมื่อถูกยึดอำนาจใหม่ ๆ เคยบอกว่าจะยุติบทบาททางการเมือง จะไปทำงานด้านสาธารณะกุศลเพื่อคนไทยทั้งมวล น่าเชื่อ น่าชอบเสียนี่กระไร
บัดนี้จะสี่เดือนแล้ว ไม่เคยมีใครได้เห็นสิ่งที่เรียกว่าสาธารณะกุศลเพื่อคนไทยแม้แต่เรื่องเดียวหรือแม้แต่บาทเดียว คงมีแต่ข่าวการต่อท่อน้ำเลี้ยง แล้วหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์เผาโรงเรียน เหตุการณ์วางระเบิดเกิดขึ้นไม่ขาดสาย
เสียงก่นด่าก้องกระหึ่ม แต่คนคนนั้นไม่ได้ยินเพราะถูกกรอกด้วยเสียงของลิ่วล้อที่เพียรไปพะเน้าพะนอขอน้ำเลี้ยงประทังชีวิต และหลอกลวงคนคนนั้นว่าอาณาประชาราษฎร์ยังรักหวงห่วงใยหลงใหลไม่สร่างซา
แท้จริงก็เป็นเพียงการค้าคน เอาคนไทยที่ลำบากยากจนไปขายเพื่อหลอกเอาเงินมายาไส้ตนเอง คนแบบนี้และคนที่เชื่อคนแบบนี้จึงเป็นคนที่น่าสมเพชเวทนายิ่งนัก
นักการทูตของสิงคโปร์ซึ่งเขามีความรักชาติของเขา เขาก็อดทนต่อเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วได้เขียนบทวิพากษ์วิจารณ์ลงในหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ว่าคุณทักษิณไม่ให้ความเป็นธรรมและไม่มีความเมตตากับประเทศสิงคโปร์และประชาชนสิงคโปร์
และระบุเหตุผลของการวิพากษ์วิจารณ์นี้ว่าคุณทักษิณไปใช้ดินแดนของประเทศสิงคโปร์ ทำให้ชาวสิงคโปร์และประเทศสิงคโปร์ต้องถูกลากเข้ามาสู่วิกฤต
เขาพูดด้วยภาษาการทูตอย่างนุ่มนวล แต่เจ็บถึงกระดองหัวใจ และยังพูดอย่างนุ่มนวลต่อไปอีกว่าคุณทักษิณต้องให้ความเมตตา ต้องให้ความปรานีต่อประเทศสิงคโปร์ โดยการไม่กระทำเรื่องเหล่านี้ต่อไปอีก
นั่นเป็นท่าทีของคนสิงคโปร์ที่รักชาติบ้านเมืองและรู้ดีชั่ว ต่างกับคอลัมน์นิสต์หนังสือพิมพ์หัวดำบางคนที่รู้เช่นเห็นชาติว่าสิงคโปร์คบคิดทำร้ายทำลายชาติบ้านเมืองตัวเองถึงเพียงนี้แล้ว ยังไปเชิดชูชื่นชมและคัดค้านรัฐบาลของตัวเองที่ปกป้องศักดิ์ศรีของชาติว่าทำรุนแรงเกินไป
สิงคโปร์ได้ก่อกรรมทำเข็ญกับบ้านเมืองของเรามานานนักหนา และเมื่อยอมให้คนคนนั้นใช้ดินแดนสิงคโปร์ในการเคลื่อนไหวต่อต้านประเทศไทย รัฐบาลไทย และคนไทยแล้ว เราก็มีสิทธิ์ที่จะตอบโต้
เรายังเห็นว่าการตอบโต้ที่กระทำไปนั้นยังบางเบาเกินไป เรายังคงเรียกร้องให้ยึดกิจการดาวเทียมไทยคม โทรศัพท์มือถือเอไอเอส สายการบินแอร์เอเซีย และโทรทัศน์ไอทีวี กลับเป็นของแผ่นดินทันที
เพราะเมื่อกลุ่มชินเป็นต่างด้าวเพราะถือหุ้นข้างมากโดยเทมาเส็กแล้ว ก็หมดคุณสมบัติในการได้รับสัมปทานหรือได้รับอนุญาตดำเนินกิจการดังกล่าวนี้ต่อไป กระทรวงคมนาคม สำนักนายกรัฐมนตรี และ ทศท. จะต้องเพิกถอนสัญญาและสัมปทานประการเดียวเท่านั้น
เพราะขืนให้สิงคโปร์เป็นเจ้าของกิจการเหล่านี้ต่อไป อันตรายต่อความมั่นคงของชาติก็จะเพิ่มมากขึ้น ให้ดูเอาจากการให้สัมภาษณ์ของผู้คนใน คมช. เองที่ว่าถูกล้วงตับเอาความลับไปหมด จะพูดจะทำอะไรข้อมูลก็ถูกส่งไปที่สิงคโปร์
อย่างนี้แล้วจะให้สิงคโปร์เป็นเจ้าของกิจการที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติไว้ต่อไปอีกหรือ?
นอกจากนี้เรายังจะต้องเรียกเอาอธิปไตยของชาติที่เกิดจากการให้สิงคโปร์เข้ามาเช่าฐานทัพในสามจังหวัดกลับคืนมาด้วย
การเข้าเกียร์ว่างทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้คือการไม่ภักดีชาติ ยิ่งการสนับสนุนให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับเทมาเส็กที่ตั้งตัวแทนแอบมาถือหุ้นกลุ่มชินโดยผิดกฎหมาย ก็คือการขายชาติที่คนไทยจะต้องประณามตลอดไปทุกชั่วอายุคน!
ที่รัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีพูดจาว่าดูจากหลักฐานขั้นต้น กลุ่มชินถือหุ้นใหญ่โดยคนไทย ชักจะชอบกลยังไงก็ไม่รู้ เพราะเหตุไฉนจึงทำเป็นไม่รู้ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ทำการสอบสวนเรื่องการถือหุ้นแทนโดยนอมินี่เสร็จไปแล้ว และปรากฏผลว่าเป็นนอมินี่ของเทมาเส็กอันเป็นความผิดทางอาญาและส่งดำเนินคดีอาญาไปแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้หุ้นของกลุ่มชินทั้งหมดรวมทั้งที่ถือโดยนอมินี่จึงเป็นหุ้นข้างมาก ที่ถือโดยต่างด้าว แล้วจะมาโมเมว่ายังเป็นคนไทยถือหุ้นได้อย่างไร เราจึงตั้งข้อสงสัยไว้ตรงนี้เสียชั้นหนึ่งก่อน
เราเรียกร้องให้คนไทยทั้งประเทศตื่นขึ้นจากความนิ่งสงบ ตื่นขึ้นจากมนต์มายาสมานฉันท์แบบไร้หลักการ แล้วร่วมกันพิทักษ์รักษาชาติบ้านเมืองเพื่อลูกหลานของเราสืบไป
เกิดเป็นไทยต้องมีน้ำใจรักชาติ เกิดเป็นคนต้องรู้คุณแผ่นดิน แลบัดนี้ภาระหน้าที่ทางประวัติศาสตร์ของคนไทยในการทำให้แผ่นดินไทยของเรานี้กลับมามีความร่มเย็นเป็นสุขอย่างเดิมและเจริญก้าวหน้าสืบไปอยู่บนบ่าของพวกเราทุกคนแล้ว
สลัดตนให้พ้นจากมนต์มายาอสูรของคนคนเดียวนั้น ยึดมั่นอยู่กับผลประโยชน์แห่งชาติ พิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้สถิตสถาพรตลอดไป.
เราจึงได้กล่าวไว้ว่าช่างมหัศจรรย์เสียจริง ๆ หนอ ที่คนเพียงคนเดียวสามารถก่อปัญหาสะท้านฟ้าสะเทือนดินได้ถึงปานนี้ เรากล่าวความประการนี้ไปเพียงสัปดาห์เดียวก็เกิดปัญหาระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นมาอีก
มองไปอีกทางหนึ่งเราเห็นถึงความมหัศจรรย์ดังกล่าวนั้น แต่อีกทางหนึ่งเราก็เห็นถึงอันตรายใหญ่หลวงที่จะบังเกิดกับคนเพียงคนเดียวนี้ว่ายิ่งก่อปัญหามากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งเร่งอายุขัยให้สั้นลงเท่านั้น
แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ฟ้าศักดิ์สิทธิ์ อาณาประชาราษฎร์คือชีวิต ความร่มเย็นสุขสันต์คือธรรม ใครก่อกรรมทำลายแผ่นดิน ฟ้า อาณาประชาราษฎร์ และความร่มเย็นเป็นสุขแล้ว ไหนเลยจะมีอายุขัยที่ยืนยาวไปได้
เพราะมนุษย์เรานั้นจะมีอำนาจวาสนามากน้อยเท่าใดก็ตาม หากจะเปรียบเทียบกับพลานุภาพแห่งฟ้าดินและธรรมแล้ว สิ่งที่มนุษย์เรามีนั้นก็แค่กระจิ๊ดริดกระจ้อยร่อยเสียยิ่งกว่าเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทร
การสร้างกรรมทำเข็ญต่อฟ้า ต่อดินและผิดต่อธรรมจึงเป็นอนันตริยกรรมและบั่นทอนอายุขัย ไม่ต่างอันใดกับอนันตริยกรรมประการที่ทำให้พระอรหันต์ถึงห้อเลือด
เวลานี้การตั้งคำถามถึงคนคนนี้ว่าเมื่อปากพูดว่าพอแล้ว ไฉนเล่าจึงไม่หยุดทำร้ายทำลายชาติบ้านเมือง กำลังดังกระหึ่มทั่วไปในบ้านเมือง จนกลบเสียงโหวกเหวกโวยวายของพวกลิ่วล้อทรราชหรือพวกทาสที่ไม่ยอมรับการปลดปล่อยจนหมดสิ้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือคนแรกสุดที่ตั้งคำถามชนิดนี้ และส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ทำให้เกิดคำถามลักษณะนี้กระเพื่อมออกไปเป็นวงกว้าง กว้างออกไป กว้างออกไป จนสุดไร้ฝาฝั่ง
และคงดังให้ได้ยินไปถึงหูคนคนนั้น ไม่ว่าขณะที่ได้ยินจะอยู่ในปักกิ่ง หรือญี่ปุ่น หรือลอนดอนก็ตาม มันจะดังกังวานจนสะท้านสะเทือนแก้วหูจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ และได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้หัวใจคนคนนั้นต้องแตกยับดับสลายในเร็ววันเลย
คำถามชนิดนี้ได้ปลุกหัวใจรักชาติ รักบ้าน รักเมือง ให้เกิดขึ้นแก่ผู้คนทั่วทั้งประเทศ ไม่ว่ารากหญ้า รากแก้ว ก้านหรือกิ่งหรือใบ
ใครที่เคยหลงเข้าใจว่าคนยากคนจน คนขับรถแท็กซี่ คนขี่รถมอเตอร์ไซค์ จะมอบหัวใจให้กับคนคนนั้นเป็นนิรันดร เป็นความเข้าใจผิด และคิดผิด ซึ่งอาจคิดเสียใหม่และเข้าใจเสียใหม่ได้
วันนี้คนยากคนจน คนขับรถแท็กซี่ คนขี่รถมอเตอร์ไซค์ ได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นแล้ว แม้ในชั่วเวลาอันสั้นและในปริมาณอันน้อยนิด แต่ความผิด ความถูก ความชั่ว ความดี ก็พอที่จะรู้และสัมผัสได้
ดังนั้นมนต์มายาอสูรแห่งลัทธิประชานิยมที่ต้มตุ๋นคนไทยหรือที่เราเคยเรียกว่าลัทธิขายยาบ้าทางเศรษฐกิจ มอมเมาชีวิตคนไทย จึงเสื่อมสลายไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งคนยากคนจน คนขับรถแท็กซี่ คนขี่รถมอเตอร์ไซค์พากันก่นด่าคน ๆ เดียวนี้ที่ทำให้ชาติบ้านเมืองย่อยยับคับขัน ทำให้ประชาชนต้องเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว
ยิ่งเกิดเหตุการณ์เผาโรงเรียน เกิดเหตุวางระเบิด จิตสำนึกรักชาติของผู้คนก็ประดังเข้ามา ยิ่งคนคนนั้นไปอาศัยต่างชาติกล่าวหาว่าร้ายทำลายบ้านเมืองตัวเองเพิ่มเข้ามาอีก ผู้คนเขาจึงได้เห็นธาตุแท้ว่าเป็นคนเช่นไร เป็นคนทำลายชาติหรือเป็นคนรักชาติ
คนคนเดียวนี้เมื่อถูกยึดอำนาจใหม่ ๆ เคยบอกว่าจะยุติบทบาททางการเมือง จะไปทำงานด้านสาธารณะกุศลเพื่อคนไทยทั้งมวล น่าเชื่อ น่าชอบเสียนี่กระไร
บัดนี้จะสี่เดือนแล้ว ไม่เคยมีใครได้เห็นสิ่งที่เรียกว่าสาธารณะกุศลเพื่อคนไทยแม้แต่เรื่องเดียวหรือแม้แต่บาทเดียว คงมีแต่ข่าวการต่อท่อน้ำเลี้ยง แล้วหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์เผาโรงเรียน เหตุการณ์วางระเบิดเกิดขึ้นไม่ขาดสาย
เสียงก่นด่าก้องกระหึ่ม แต่คนคนนั้นไม่ได้ยินเพราะถูกกรอกด้วยเสียงของลิ่วล้อที่เพียรไปพะเน้าพะนอขอน้ำเลี้ยงประทังชีวิต และหลอกลวงคนคนนั้นว่าอาณาประชาราษฎร์ยังรักหวงห่วงใยหลงใหลไม่สร่างซา
แท้จริงก็เป็นเพียงการค้าคน เอาคนไทยที่ลำบากยากจนไปขายเพื่อหลอกเอาเงินมายาไส้ตนเอง คนแบบนี้และคนที่เชื่อคนแบบนี้จึงเป็นคนที่น่าสมเพชเวทนายิ่งนัก
นักการทูตของสิงคโปร์ซึ่งเขามีความรักชาติของเขา เขาก็อดทนต่อเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วได้เขียนบทวิพากษ์วิจารณ์ลงในหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ว่าคุณทักษิณไม่ให้ความเป็นธรรมและไม่มีความเมตตากับประเทศสิงคโปร์และประชาชนสิงคโปร์
และระบุเหตุผลของการวิพากษ์วิจารณ์นี้ว่าคุณทักษิณไปใช้ดินแดนของประเทศสิงคโปร์ ทำให้ชาวสิงคโปร์และประเทศสิงคโปร์ต้องถูกลากเข้ามาสู่วิกฤต
เขาพูดด้วยภาษาการทูตอย่างนุ่มนวล แต่เจ็บถึงกระดองหัวใจ และยังพูดอย่างนุ่มนวลต่อไปอีกว่าคุณทักษิณต้องให้ความเมตตา ต้องให้ความปรานีต่อประเทศสิงคโปร์ โดยการไม่กระทำเรื่องเหล่านี้ต่อไปอีก
นั่นเป็นท่าทีของคนสิงคโปร์ที่รักชาติบ้านเมืองและรู้ดีชั่ว ต่างกับคอลัมน์นิสต์หนังสือพิมพ์หัวดำบางคนที่รู้เช่นเห็นชาติว่าสิงคโปร์คบคิดทำร้ายทำลายชาติบ้านเมืองตัวเองถึงเพียงนี้แล้ว ยังไปเชิดชูชื่นชมและคัดค้านรัฐบาลของตัวเองที่ปกป้องศักดิ์ศรีของชาติว่าทำรุนแรงเกินไป
สิงคโปร์ได้ก่อกรรมทำเข็ญกับบ้านเมืองของเรามานานนักหนา และเมื่อยอมให้คนคนนั้นใช้ดินแดนสิงคโปร์ในการเคลื่อนไหวต่อต้านประเทศไทย รัฐบาลไทย และคนไทยแล้ว เราก็มีสิทธิ์ที่จะตอบโต้
เรายังเห็นว่าการตอบโต้ที่กระทำไปนั้นยังบางเบาเกินไป เรายังคงเรียกร้องให้ยึดกิจการดาวเทียมไทยคม โทรศัพท์มือถือเอไอเอส สายการบินแอร์เอเซีย และโทรทัศน์ไอทีวี กลับเป็นของแผ่นดินทันที
เพราะเมื่อกลุ่มชินเป็นต่างด้าวเพราะถือหุ้นข้างมากโดยเทมาเส็กแล้ว ก็หมดคุณสมบัติในการได้รับสัมปทานหรือได้รับอนุญาตดำเนินกิจการดังกล่าวนี้ต่อไป กระทรวงคมนาคม สำนักนายกรัฐมนตรี และ ทศท. จะต้องเพิกถอนสัญญาและสัมปทานประการเดียวเท่านั้น
เพราะขืนให้สิงคโปร์เป็นเจ้าของกิจการเหล่านี้ต่อไป อันตรายต่อความมั่นคงของชาติก็จะเพิ่มมากขึ้น ให้ดูเอาจากการให้สัมภาษณ์ของผู้คนใน คมช. เองที่ว่าถูกล้วงตับเอาความลับไปหมด จะพูดจะทำอะไรข้อมูลก็ถูกส่งไปที่สิงคโปร์
อย่างนี้แล้วจะให้สิงคโปร์เป็นเจ้าของกิจการที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติไว้ต่อไปอีกหรือ?
นอกจากนี้เรายังจะต้องเรียกเอาอธิปไตยของชาติที่เกิดจากการให้สิงคโปร์เข้ามาเช่าฐานทัพในสามจังหวัดกลับคืนมาด้วย
การเข้าเกียร์ว่างทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้คือการไม่ภักดีชาติ ยิ่งการสนับสนุนให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับเทมาเส็กที่ตั้งตัวแทนแอบมาถือหุ้นกลุ่มชินโดยผิดกฎหมาย ก็คือการขายชาติที่คนไทยจะต้องประณามตลอดไปทุกชั่วอายุคน!
ที่รัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีพูดจาว่าดูจากหลักฐานขั้นต้น กลุ่มชินถือหุ้นใหญ่โดยคนไทย ชักจะชอบกลยังไงก็ไม่รู้ เพราะเหตุไฉนจึงทำเป็นไม่รู้ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ทำการสอบสวนเรื่องการถือหุ้นแทนโดยนอมินี่เสร็จไปแล้ว และปรากฏผลว่าเป็นนอมินี่ของเทมาเส็กอันเป็นความผิดทางอาญาและส่งดำเนินคดีอาญาไปแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้หุ้นของกลุ่มชินทั้งหมดรวมทั้งที่ถือโดยนอมินี่จึงเป็นหุ้นข้างมาก ที่ถือโดยต่างด้าว แล้วจะมาโมเมว่ายังเป็นคนไทยถือหุ้นได้อย่างไร เราจึงตั้งข้อสงสัยไว้ตรงนี้เสียชั้นหนึ่งก่อน
เราเรียกร้องให้คนไทยทั้งประเทศตื่นขึ้นจากความนิ่งสงบ ตื่นขึ้นจากมนต์มายาสมานฉันท์แบบไร้หลักการ แล้วร่วมกันพิทักษ์รักษาชาติบ้านเมืองเพื่อลูกหลานของเราสืบไป
เกิดเป็นไทยต้องมีน้ำใจรักชาติ เกิดเป็นคนต้องรู้คุณแผ่นดิน แลบัดนี้ภาระหน้าที่ทางประวัติศาสตร์ของคนไทยในการทำให้แผ่นดินไทยของเรานี้กลับมามีความร่มเย็นเป็นสุขอย่างเดิมและเจริญก้าวหน้าสืบไปอยู่บนบ่าของพวกเราทุกคนแล้ว
สลัดตนให้พ้นจากมนต์มายาอสูรของคนคนเดียวนั้น ยึดมั่นอยู่กับผลประโยชน์แห่งชาติ พิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้สถิตสถาพรตลอดไป.