"หลวงพ่อคูณ"อาพาธ ลูกศิษย์นำตัวส่ง รพ.มหาราชนครราชสีมากลางดึก แพทย์เผยผลการตรวจพบภาวะการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่จะมาจากทางกระเพาะปัสสาวะหรือปอดต้องรอผลการตรวจจากห้องแล็ปอีกครั้ง ระบุภาวะการติดเชื้อเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญของผู้สูงอายุ เผยช่วงนี้ยังไม่อนุญาตให้ญาติโยมเข้าเยี่ยมเกรงจะทำให้หลวงพ่อคูณติดเชื้อโรคเพิ่ม
วานนี้ (17 ม.ค.)เมื่อเวลา 03.00 น.พระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ)เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้เกิดอาพาธ ด้วยอาการเป็นไข้สูง หนาวสั่น อ่อนเพลีย ศิษยานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดจึงได้ติดต่อแพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทดให้เข้าตรวจอาการเบื้องต้น พบมีไข้สูงถึง 38.8 องศาเซลเซียส น้ำตาลในเลือดต่ำ จึงได้ให้น้ำเกลือและกลูโคส ก่อนนำตัวส่งต่อมายังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจอาการ และนำหลวงพ่อคูณไปตรวจเอ็กซเรย์ร่างกายอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการอาพาธครั้งนี้ โดยเบื้องต้นอาการดีขึ้น มีไข้ลดลงเหลือ 36.8 องศาเซลเซียส น้ำตาลอยู่ในระดับปกติคือ 144 แต่พบภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด ซึ่งแพทย์ได้เก็บตัวอย่างปัสสาวะและเลือดไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จึงจะทราบผล
จากนั้นแพทย์ได้ให้หลวงพ่อคูณเข้านอนพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นห้องเดิมทุกครั้งที่หลวงพ่อคูณอาพาธ ต้องนอนพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช โดยให้น้ำเกลือและออกซิเจนตลอดเวลา
เวลา 09.45 น.หลวงพ่อคูณ ได้ตื่นขึ้นมาฉันภัตตาหารเช้า โดยอาหารที่ศิษยานุศิษย์ได้จัดถวาย ซึ่งหลวงพ่อคูณสามารถฉันได้จำนวนมาก และได้พูดหยอกล้อกับลูกศิษย์ระหว่างฉันภัตตาหารว่า "กูไม่เป็นไร แค่ป่วยเล่น ๆ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงพ่อคูณ ยังอยู่ในอาการอ่อนเพลีย ใบหน้าและร่างกายอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจากการสอบถามลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดบอกว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.หลวงพ่อคูณเดินทางไปให้กำลังใจและมอบสิ่งของให้ผู้สูงอายุ ที่ที่ว่าการอำเภอด่านขุนทด ก่อนจะกลับวัดบ้านไร่ และยังมีญาติโยมเดินทางเข้ามากราบนมัสการตลอดทั้งวัน ทำให้หลวงพ่อมีอาการเหนื่อย จนเวลา 01.00 น.หลวงพ่อเริ่มมีอาการไข้สูง หนาวสั่น จึงได้แจ้งให้แพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทดทราบ ก่อนจะนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาดังกล่าว
นพ.พินิศจัย เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบอาการหลวงพ่อคูณว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณครั้งนี้ ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะมาพบแพทย์ด้วยอาการไข้สูง หนาวสั่น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อ่อนเพลีย ซึ่งคนอายุมากขนาดนี้ 84 ปีแล้วมีอาการเช่นนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง และคาดว่าอาการที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเป็นภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด แต่จุดที่เกิดการติดเชื้อนั้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ามาจากส่วนปอด หรือกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งภาวะอาการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดนั้น หากได้รับการรักษาช้า อาจจะทำให้คนไข้ ช็อกจนหมดสติ และเสียชีวิตได้ ซึ่งภาวะอาการติดเชื้อดังกล่าวเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญของผู้สูงอายุ
วานนี้ (17 ม.ค.)เมื่อเวลา 03.00 น.พระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ)เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้เกิดอาพาธ ด้วยอาการเป็นไข้สูง หนาวสั่น อ่อนเพลีย ศิษยานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดจึงได้ติดต่อแพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทดให้เข้าตรวจอาการเบื้องต้น พบมีไข้สูงถึง 38.8 องศาเซลเซียส น้ำตาลในเลือดต่ำ จึงได้ให้น้ำเกลือและกลูโคส ก่อนนำตัวส่งต่อมายังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจอาการ และนำหลวงพ่อคูณไปตรวจเอ็กซเรย์ร่างกายอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการอาพาธครั้งนี้ โดยเบื้องต้นอาการดีขึ้น มีไข้ลดลงเหลือ 36.8 องศาเซลเซียส น้ำตาลอยู่ในระดับปกติคือ 144 แต่พบภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด ซึ่งแพทย์ได้เก็บตัวอย่างปัสสาวะและเลือดไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จึงจะทราบผล
จากนั้นแพทย์ได้ให้หลวงพ่อคูณเข้านอนพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นห้องเดิมทุกครั้งที่หลวงพ่อคูณอาพาธ ต้องนอนพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช โดยให้น้ำเกลือและออกซิเจนตลอดเวลา
เวลา 09.45 น.หลวงพ่อคูณ ได้ตื่นขึ้นมาฉันภัตตาหารเช้า โดยอาหารที่ศิษยานุศิษย์ได้จัดถวาย ซึ่งหลวงพ่อคูณสามารถฉันได้จำนวนมาก และได้พูดหยอกล้อกับลูกศิษย์ระหว่างฉันภัตตาหารว่า "กูไม่เป็นไร แค่ป่วยเล่น ๆ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงพ่อคูณ ยังอยู่ในอาการอ่อนเพลีย ใบหน้าและร่างกายอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจากการสอบถามลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดบอกว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.หลวงพ่อคูณเดินทางไปให้กำลังใจและมอบสิ่งของให้ผู้สูงอายุ ที่ที่ว่าการอำเภอด่านขุนทด ก่อนจะกลับวัดบ้านไร่ และยังมีญาติโยมเดินทางเข้ามากราบนมัสการตลอดทั้งวัน ทำให้หลวงพ่อมีอาการเหนื่อย จนเวลา 01.00 น.หลวงพ่อเริ่มมีอาการไข้สูง หนาวสั่น จึงได้แจ้งให้แพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทดทราบ ก่อนจะนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาดังกล่าว
นพ.พินิศจัย เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบอาการหลวงพ่อคูณว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณครั้งนี้ ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะมาพบแพทย์ด้วยอาการไข้สูง หนาวสั่น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อ่อนเพลีย ซึ่งคนอายุมากขนาดนี้ 84 ปีแล้วมีอาการเช่นนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง และคาดว่าอาการที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเป็นภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด แต่จุดที่เกิดการติดเชื้อนั้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ามาจากส่วนปอด หรือกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งภาวะอาการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดนั้น หากได้รับการรักษาช้า อาจจะทำให้คนไข้ ช็อกจนหมดสติ และเสียชีวิตได้ ซึ่งภาวะอาการติดเชื้อดังกล่าวเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญของผู้สูงอายุ