xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจเอาท์ซอร์สรุ่งรับปีหมู ผู้ประกอบการเจอวิกฤติหาลู่ทางลดต้นทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปิดกลยุทธ์ เอาท์ซอร์ส ฉายแววรุ่งโรจน์ รับปีหมูดุเดือด หลังจากผู้ประกอบการต้องเผชิญภาวะวิกฤต ต้องเร่งหาทางลดต้นทุนโดยการทำเอาท์ซอร์สให้บริษัทอื่นรับช่วงทำต่อ ชี้ยุคนี้ไม่ว่าองค์กรใหญ่หรือเล็กล้วนให้ความสำคัญจ้างเอาท์ซอร์สทั้งสิ้น

ในปี 2550 แม้ว่าหลายฝ่ายในวงการธุรกิจจะประเมินว่า สภาพเศรษฐกิจจะเริ่มมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้นกว่าช่วงปี 2549 เนื่องจากว่า การเมืองที่มีทิศทางที่ชัดเจนแล้ว ราคาน้ำมันที่เริ่มอยู่ตัว อีกทั้งปัจจัยลบต่างๆนั้นก็คงจะไม่รุนแรงเท่ากับปี 2549 จากการประเมินค่าจีดีพีในปี 2550 ที่คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 4-5% ก็ตาม

แต่ด้วยปัญหาเรื่องต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอันเป็นผลต่อเนื่องมาจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และการแข่งขันที่รุนแรงในสภาพธุรกิจของแต่ละเซ็กเม้นท์ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการเงิน ธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจคอนซูเมอร์ ธุรกิจบันเทิง หรือ ธุรกิจฟู้ดแอนด์เบฟเวอเรจ ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหลายนั้นคงต้องให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนให้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดว่าในช่วงรอยต่อของปีจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงจากกรณีการระเบิดในหลายจุดในกรุงเทพฯเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะข้ามสู่ปีใหม่ 2550 เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งตรงนี้เป็นเสมือนแรงกระแทกให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจให้เลวร้ายลงไปอีก ผู้ประกอบการต่างจำเป็นต้องประหยัดงบลงทุน ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อประคองธุรกิจให้ได้ การบริหารธุรกิจด้วยกลยุทธ์ เอาท์ซอร์ส (Outsource) คือ การว่าจ้างให้บริษัทภายนอกดำเนินการให้ จึงเป็นแนวทางและธุรกิจที่จะมีความสำคัญและมีบทบาทเพิ่มขึ้นในปี 2550 ไม่ว่าจะเป็นการเอาท์ซอร์สด้านกำลังคน การเอาท์ซอร์สด้านการวางระบบ หรือด้านการจัดการต่างๆ

นายสุระชาติ ตั้งตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย เลิฟเวอร์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจมีเดียรายใหม่ ให้ความเห็นกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า แนวทางการทำเอาท์ซอร์สของผู้ประกอบการธุรกิจจะมีความชัดเจนและเพิ่มมากขึ้นในปี 2550 แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ก็ตาม แต่ก็เป็นแนวทางที่จะมีมากขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก

ขณะที่ธุรกิจของมีเดียเลิฟเวอร์เองที่เพิ่งตั้งไม่นาน ก็ใช้กลยุทธ์เอาท์ซอร์สด้วยเช่นกัน เนื่องจากยังเป็นองค์กรขนาดเล็ก และปริมาณงานยังไม่มากเพียงพอที่จะลงทุนสร้างสตูดิโอ จึงเอาท์ซอร์สให้ทางโปรดักชั่นรายอื่นดำเนินการ

“ผมว่ายุคนี้ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่มีใครลงทุนอะไรมากมาย ถ้าอะไรที่สามารถทำเอาท์ซอร์สได้ก็คงจะทำกันมากขึ้น” นายสุระชาติ กล่าว

**ใช้บริการเอาท์ซอร์สคล่องตัวกว่า**
นายอรรฆรัตน์ นิติพน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มัชรูม จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและรับจ้างผลิตรายการทางทีวี เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ว่า การทำธุรกิจของบริษัทฯมีทั้งการผลิตเองและการว่าจ้างบริษัทอื่นผลิตให้หรือการทำเอาท์ซอร์สนั่นเอง เพราะจะมีความคล่องตัวมากว่าการที่บริษัทฯจะต้องไปลงทุนมากมายทำเองทุกอย่าง

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทฯมีการรับปริมาณงานเข้ามาเพิ่มขึ้นในการผลิตรายการป้อนให้กับทีวีแต่ละช่อง จาก 4 รายการ เป็น 8 รายการ ในปี 2550 ซึ่งก็ได้มีการเพิ่มทีมโปรดักชั่นขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะเอาท์ซอร์ส โดยรายการใหม่ที่ได้ผลิตในปี 2549 คือ 1.รายการ “ไม่ธรรมดา” ที่ร่วมกับบริษัทก๊กเฮง เทเลวิชั่น ผลิตร่วมกัน ออกอากาศทางช่อง 9 เวลา 13.00 น. ทุกวันเสาร์ 2.รายการ “รอบรั้วทั่วทิศ” ออกอากาศทางช่อง 5 เวลา 10.25 น. ทุกวันเสาร์ 3. รายการ “ร้อยเรื่องรอบรู้ ออกอากาศช่อง5 เวลา 17.58 น. ทุกวันจันทร์-พุธ และ 4. รายการ “ทุกพุธทุกแผง” ซึ่งเป็นรายการสดครั้งแรกออกอากาศเวลา 22.00 น. นาน 1 ชั่วโมง ทุกวันพุธ

คนในวงการตลาดให้ความเห็นว่า ข้อดีของการทำเอาท์ซอร์สนี้ ปัจจัยแรกคือ เรื่องของการควบคุมต้นทุน เนื่องจาก หากลงทุนทางด้านระบบงานไปแล้ว ไม่มีหลักประกันว่า ในอนาคตธุรกิจหรือภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กหรือปานกลางนั้น อาจจะเกิดความเสี่ยงหากจะต้องไปลงทุนด้วยงบประมาณจำนวนมาก ทั้งในเรื่องของการเพิ่มคนงาน การลงทุนทางด้านอุปกรณ์หรือฮาร์ดแวร์ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายองค์กรเหมือนกันที่ลงทุนไปจำนวนมาก แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจผันผวนก็ประสบปัญหาหลายราย

ก่อนหน้านี้องค์กรที่จะทำเอาท์ซอร์สนั้นส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มกิจการ ทุนยังไม่หนาเท่าไร แต่ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าธุรกิจจากองค์กรใหญ่หรือกลางหรือเล็ก ก็ล้วนแต่นิยมทำงานด้วยการเอาท์ซอร์สทั้งสิ้น

**บริษัทผู้ให้บริการเอาท์ซอร์ส มองมุมเดียวกัน**
นางสาวเสาวรส บุญบัญชาโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล เอาท์ซอร์สซิ่ง จำกัด (go) ผู้ให้บริการด้านเอาท์ซอร์สระบบจ่ายเงินเดือน กล่าวว่า ในปี 2550 บริษัทฯเตรียมที่จะขยายธุรกิจเอาท์ซอร์สทางด้านการบริหารบุคคลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดต่างจังหวัด ที่เป็นหัวเมืองใหญ่

ด้วยการพัฒนาโปรแกรม HR Web Application ที่เป็นระบบงานบุคคลออนไลน์มาใช้ ทำให้ลูกค้าสามารถจัดการงานบุคคลต่างๆผ่านเว็บได้ ซึ่งข้อดีของรูปแบบนื้คือ ลูกค้าผู้ใช้บริการ ไม่ต้องเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานธุรการบุคคลอีกต่อไป ยังตัดปัญหาและลดค่าใช้จ่ายในการดูแล แก้ไข ปรับปรุงโปรแกรมงานบุคคล โดยบริษัทฯจะทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆลงในฐานข้อมูล และดูแลแก้ไขให้โปรแกรมสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
กำลังโหลดความคิดเห็น