xs
xsm
sm
md
lg

ศิษย์สมเด็จตอนที่ 41 อภินิหารพระมาโจ๊ว (1)

เผยแพร่:   โดย: เรืองวิทยาคม

สำหรับพระมาโจ๊วซึ่งก๋งฝ่ายพ่อนำมาจากเมืองจีนนั้น ในที่สุดหลังจากได้เห็นปาฏิหาริย์ในคืนนั้นแล้ว เกือบ 40 ปีต่อมาพระมาโจ๊วนี้ก็ได้มาอยู่กับผมที่กรุงเทพฯ นับเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์และจัดเป็นบุรพกรรมแต่หนหลังอีกเรื่องหนึ่ง

หลังจากผมมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ แล้ว ทุกครั้งที่ผมเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านก็จะถือโอกาสไปกราบไหว้พระมาโจ๊วที่บ้านก๋งฝ่ายพ่อเกือบทุกครั้งไป เหมือนกับว่ากลับไปกราบไหว้เยี่ยมเยือนบรรพบุรุษผู้มีพระคุณฉะนั้น

กลับไปกราบไหว้คราใดก็น้อมใจรำลึกบอกกล่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชีวิตผม เช่นเดียวกับที่บอกกล่าวเล่าขานเรื่องราวให้ญาติผู้ใหญ่ทางบ้านได้รับฟังทุกประการ

ต่อมาอาเจ็กหรือน้องของพ่อได้ย้ายถิ่นฐานจากหมู่บ้านเดิมเข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ในตัวอำเภอใกล้กับบ้านผม ได้ย้ายพระและชื่อบรรพบุรุษมาไว้ที่บ้านใหม่ตามประเพณี

อาเจ็กของผมมีลูกหลานหลายคน กิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของพระมาโจ๊วตั้งแต่รุ่นก๋งเป็นที่เล่าขานสืบมาจนกระทั่งถึงชั้นลูกหลาน ดังนั้นลูกหลานของอาเจ็กต่างก็มีความปรารถนาที่จะได้ครองพระมาโจ๊วในลักษณะที่สืบทอดให้กับวงศ์ตระกูลกันทุกคน

อาเจ็กเคยปรารภให้ฟังว่าเมื่อเวลามีอายุมากขึ้นก็มีความวิตกว่าสืบไปภายหน้าจะมอบพระที่รับสืบทอดมาแต่รุ่นก๋งไว้กับผู้ใดจึงจะดูแลรักษากราบไหว้พระได้ตลอดรอดฝั่ง

ดังนั้นแทบทุกตรุษสารทอาเจ็กก็จะเขียนชื่อลูกหลานใส่กระดาษแล้วทอดเบี้ยเสี่ยงทายว่าสืบไปภายหน้าพระมาโจ๊วจะไปอยู่กับผู้ใด และเป็นเรื่องแปลกที่การทอดเบี้ยเสี่ยงทายทุกครั้งผลจะออกมาตรงกันว่าพระมาโจ๊วจะมาอยู่กับผม

ผมฟังคำอาเจ็กเล่าก็ไม่ได้คิดฝันอะไรเพราะรู้ดีว่าอาเจ็กมีลูกหลานหลายคน และต่างคนก็มีการศึกษาค่อนข้างดี มีอาชีพการงานเป็นหลักฐาน มีฐานะและโอกาสสมควรที่จะได้ครอบครองดูแลพระมาโจ๊วประจำตระกูลองค์นี้มากกว่าผม

ต่อมาราวปี 2539 ผมขึ้นบ้านใหม่ ได้ส่งข่าวไปทางบ้านเพื่อบอกกล่าวให้พ่อและญาติพี่น้องทราบ ทั้งขอเชิญให้ขึ้นมากรุงเทพฯ ร่วมทำบุญบ้านพร้อมกัน

หลังจากนั้นไม่กี่วัน พ่อก็มีหนังสือมาบอกว่าการขึ้นบ้านใหม่คราวนี้อาเจ็กจะเชิญพระมาโจ๊วมามอบให้ผมด้วย ขอให้เตรียมที่ทางให้เป็นการสมควร เพราะถือว่าเป็นพระประจำตระกูล จะได้กราบไหว้บูชารักษาไว้ประจำวงศ์ตระกูลสืบไป พ่อบอกมาด้วยว่าอาเจ็กจะเชิญพระขึ้นมากรุงเทพฯ ด้วยตนเอง

ผมได้ทราบข่าวดังนั้นก็ดีใจและแปลกใจระคนกัน เพราะไม่นึกฝันว่าการขึ้นบ้านใหม่ครั้งนั้นจะได้รับพระประจำตระกูลมาไว้ประจำบ้าน และอีกสถานหนึ่งอาเจ็กของผมเป็นคนเชื้อสายจีนโบราณ ไม่เคยไปไหนไกลจากบ้านเลย

อาเจ็กไม่เคยนั่งรถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบินเลย เคยนั่งก็แต่เรือ การแต่งเนื้อแต่งตัวก็เป็นแบบคนเชื้อสายจีนในยุคนั้น คือนุ่งกางเกขาสั้น และถึงขนาดนุ่งกางเกงขายาวไม่เป็นด้วย อีกอุปสรรคสำคัญคืออาเจ็กมีอัธยาศัยไม่ชอบไปไหนไกลบ้าน เนื่องจากหากไปค้างที่อื่นแล้วก็จะถ่ายไม่ได้

จะเป็นเพราะผมนึกสังหรณ์ใจไว้ล่วงหน้าก็เป็นไปได้ เพราะในการขึ้นบ้านใหม่ครั้งนี้ผมได้จัดทำห้องพระสำหรับพระจีนไว้เป็นการเฉพาะต่างหากจากห้องพระพุทธรูปบูชา ทำเป็นห้องเป็นหับและมีฐานชุกชีสำหรับพระจีนไว้เป็นการเฉพาะ พอจะตั้งพระได้ถึงสามองค์ และได้เชิญพระกวนกงที่ได้มาจากอาซิ้มมาประดิษฐานไว้ตรงกลางฐานชุกชีที่วางพระอยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อได้ข่าวว่าอาเจ็กจะขึ้นมากรุงเทพฯ และเชิญพระมาโจ๊วมามอบให้จึงไม่เป็นเรื่องยากลำบากเพิ่มเติมแต่ประการใด

ครั้นถึงวันกำหนดพ่อและอาเจ็กก็ขึ้นมาจากทางบ้านเดิม ในวันนั้นมีเหตุมหัศจรรย์เกิดขึ้น คือมีฝูงนกนางแอ่นฝูงใหญ่นับพันๆ ตัวซึ่งไม่เคยปรากฏมาแต่ก่อน บินว่อนมาวนเวียนอยู่แถวบ้าน พักหนึ่งพ่อและอาเจ็กก็เดินทางมาถึงพร้อมกับพระ

พ่อ อาเจ็ก ตลอดจนญาติพี่น้องที่มาร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ ครั้นได้เห็นเหตุการณ์นกนางแอ่นฝูงใหญ่บินมาวนเวียนอยู่รอบบ้านเป็นที่อัศจรรย์ก็พากันแปลกประหลาดใจ

พ่อบอกว่าคงเป็นอภินิหารของพระ เพราะเมื่อครั้งที่ก๋งเชิญพระมาจากเมืองฮกเกี้ยนนั้นมาโดยทางเรือสำเภา หลังจากมาตั้งหลักแหล่งที่เมืองไทยแล้วก็มีฝูงนกนางแอ่นบินมาวนเวียนอยู่เสมอ แต่คิดไม่ถึงว่าการเชิญพระมากรุงเทพฯ ครั้งนี้จะมีฝูงนกนางแอ่นจำนวนมากมาบินวนเวียนให้เห็นอีก

อาเจ็กได้ฟังคำพ่อก็ยืนยันว่าเป็นนิมิตหรืออภินิหารของพระมาโจ๊วอย่างแน่นอน เพราะเมื่อครั้งอยู่ที่บ้าน หากมีเหตุการณ์สำคัญก็มักจะมีฝูงนกนางแอ่นมาบินวนเวียนให้เห็นเช่นนี้เหมือนกัน

อาเจ็กได้บอกว่าได้ตัดสินใจตามคำเสี่ยงทายมานานแล้วว่าจะเชิญพระมามอบให้กับผม มาครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ผมขึ้นบ้านใหม่ จึงเชิญพระมาด้วยตนเอง ซึ่งบรรดาลูกหลานก็ทักท้วง แต่ได้บอกกล่าวให้ได้ทราบทั่วกันว่าพระมาโจ๊วนี้เป็นของก๋งมาแต่เดิม อาเจ็กเป็นแต่เพียงผู้ดูแลรักษา ไม่มีสิทธิ์ที่จะยกให้กับใครได้ตามอำเภอใจ ถึงแม้จะเป็นลูกหรือหลานของตัวเองก็ตาม จะต้องถามพระถามก๋งก่อน

ที่ถามพระนั้นก็พอเข้าใจได้ว่าอาเจ็กถามโดยวิธีทอดเบี้ยเสี่ยงทาย แต่ที่ถามก๋งนั้นผมก็เข้าใจเอาเองว่าก๋งฝ่ายพ่อของผมสิ้นบุญไปตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเกิด ดังนั้นการถามความของเจ็กจึงน่าจะเป็นการถามโดยวิธีทอดเบี้ยเสี่ยงทายเช่นเดียวกัน

พระมาโจ๊วองค์นี้มีตู้พระประจำมาแต่ครั้งที่ก๋งเชิญมาจากเมืองจีน ตู้พระเป็นลักษณะศาลเจ้าเก่าแก่ ทำจากไม้สีดำ เก่าคร่ำคร่า และชำรุดไปบ้างตามกาลเวลาที่ผ่านพ้นมานับร้อยปี

เดิมทีผมซื้อตู้พระใหม่เตรียมเอาไว้แล้ว แต่อาเจ็กทักท้วงว่าตู้พระเดิมนั้นเป็นของเก่าคู่กับพระมาแต่รุ่นก๋ง ไม่สมควรที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นของใหม่ หากควรใช้ตู้พระเดิม ผมก็เห็นด้วย ดังนั้นจึงได้ใช้ตู้พระเดิมที่อาเจ็กนำมาด้วยเป็นที่ประดิษฐานพระมาโจ๊ว และเชิญพระขึ้นประดิษฐานบนที่ที่เตรียมไว้ โดยจัดที่ไว้ทางด้านขวาของพระกวนกงที่ได้มาก่อน

รุ่งขึ้นเป็นวันขึ้นบ้านใหม่ ผมทำบุญเลี้ยงพระตามประเพณี และทำพิธีไหว้พระจีนทั้งสององค์ จากนั้นก็ทำพิธีไหว้บรรพบุรุษตามธรรมเนียม

พอบ่ายลงฝูงนกนางแอ่นฝูงเดิมหลายพันตัวก็พากันมาบินวนเวียนรอบบ้านอีกครั้งหนึ่ง จนเวลาค่ำจึงหายไป ครั้นวันรุ่งขึ้นนกนางแอ่นฝูงนี้ก็ยังคงมาบินวนเวียนอยู่ตามเวลาเดิม เป็นที่อัศจรรย์นัก

รวมความว่าฝูงนกนางแอ่นฝูงนี้ได้บินมาวนเวียนอยู่ที่บ้านตั้งแต่วันที่พระมาโจ๊วเดินทางมาถึง และบินวนเวียนอยู่ถึง 3 วันจึงหายไป.

โปรดติดตามตอนที่ 41 “อภินิหารพระมาโจ๊ว ตอน 2” ในวันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2550
กำลังโหลดความคิดเห็น