xs
xsm
sm
md
lg

ศิษย์สมเด็จตอนที่ 40 อภินิหารพระกวนกง (ตอน 1)

เผยแพร่:   โดย: เรืองวิทยาคม

เพราะเหตุที่พื้นบ้านผมนั้นเป็นถิ่นของคนเชื้อสายจีนมาแต่โบราณ ดังนั้นจึงมีพระจีนที่บรรพบุรุษนำมาจากเมืองจีนประจำบ้านอยู่หลายครอบครัว

นอกจากพระจีนที่โรงพระซึ่งผมมักจะไปกราบไหว้เป็นประจำแล้ว จะเป็นเพราะวาสนาแต่ปางก่อนประการใดก็ไม่อาจรู้ได้ ผมยังรักที่จะไปกราบไหว้พระจีนอีกสองที่ตลอดมา

ที่หนึ่ง คือบ้านของคนจีนฮกเกี้ยนที่อยู่ใกล้ๆ กัน เป็นพระกวนกง ทำจากไม้ มีลักษณะที่สวยงามมาก

อีกที่หนึ่ง คือบ้านเดิมของพ่อที่ต่างหมู่บ้านออกไปอีก เป็นพระจีนที่ก๋งฝ่ายพ่อนำมาจากเมืองจีนเหมือนกัน เป็นพระมาโจ๊ว ซึ่งเป็นพระที่คนจีนฮกเกี้ยนนับถือบูชามากว่ามีอิทธิปาฏิหาริย์ในการปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายจากลมฟ้าอากาศ และบังเกิดความเป็นสิริมงคล จะเจริญก้าวหน้าในอาชีพ การงาน และครอบครัวทุกประการ

เหตุที่ผมคุ้นเคยกับพระจีนสององค์นี้ก็เพราะว่าตั้งแต่น้อยนั้นได้มีเหตุเป็นไปให้ได้ไปกราบไหว้บูชา และหลังจากนั้นมาก็ติดอกติดใจเหมือนกับว่ามีอะไรผูกพันกันมาแต่ก่อน ไปไหว้พระทีไรก็มีความสุขกายสุขใจ เพราะมองเห็นประหนึ่งว่าพระยิ้มหัวให้ความเมตตาผมเป็นอันมาก เป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้จริงๆ

ยิ่งไปกราบไหว้บ่อยครั้งเข้า ก็รู้สึกราวกับว่าพระจีนทั้งสององค์นี้เหมือนกับญาติผู้ใหญ่ ที่มีทุกข์ร้อนสิ่งใดก็บอกกล่าวให้รู้และขอความช่วยเหลือได้ บางครั้งจะไปจับปลากัดต่างหมู่บ้านออกไป ก็เคยไปบอกพระขอให้อวยชัยให้พรให้จับปลากัดตัวดีได้ดังประสงค์ ก็มักจะจับได้ดังปรารถนา

สำหรับพระมาโจ๊วที่ก๋งฝ่ายพ่อนำเข้ามาจากเมืองจีนนั้น พอก๋งสิ้นบุญแล้วน้องคนสุดท้องของพ่อเป็นผู้ดูแลรักษาตลอดมา

ปีหนึ่งในช่วงพระจันทร์ใกล้วันเพ็ญ เป็นฤดูน้ำหลาก ผมอายุสิบปีเศษๆ ได้ไปค้างที่บ้านก๋งฝ่ายพ่อ อาเจ็กซึ่งเป็นน้องของพ่อจัดที่นอนให้ที่หน้าพระ โดยมีลูกของลุงอีกสองคนนอนเป็นเพื่อน

คืนนั้นผมนอนไม่ค่อยหลับ มีอาการกระสับกระส่ายอย่างไรบอกไม่ถูก จนเที่ยงคืนแล้วแสงของพระจันทร์ทอสาดผ่านกระจกหลังคาลงมาตรงหน้าพระ ในทันใดนั้นก็ปรากฏเหตุการณ์ที่ไม่เคยคาดฝัน

นั่นคือมีผู้หญิงอายุราว 40 ปีเศษๆ ผิวขาว ผมยาว รูปโฉมสะคราญงดงามเหลือจะพรรณนานัก ในชุดแต่งกายสีขาวทั้งชุด รู้สึกว่าเป็นชุดแพรไหมที่พลิ้วแผ่วเบาบางไปตามสายลม มีลูกประคำแขวนที่คอ และในมือก็ยังถือลูกประคำอีกชุดหนึ่ง ปรากฏขึ้นที่หน้าพระ

ผมรู้สึกตกใจแต่ก็ไม่รู้สึกหวาดกลัว แต่กลับกระดิกตัวและพูดจาใดๆ ไม่ได้เลย เหมือนกับถูกสะกดให้นิ่งอยู่กับที่ ผมรู้สึกตัวดีว่าไม่ได้หลับ สายตายังจับจ้องไปที่สตรีนั้น ซึ่งมีความรู้สึกในขณะนั้นว่าเป็นพระมาโจ๊วนั่นเอง

พระมาโจ๊วในความรู้สึกของผม มองมาที่ผมด้วยใบหน้าและสายตาที่เมตตากรุณาอย่างยิ่ง ผมพยายามจะเอื้อมมือไปปลุกลูกของลุงแต่ขยับมือไม่ได้ จึงได้แต่มองพระอยู่เช่นนั้น พักหนึ่งก็หายไป

นับเป็นเหตุการณ์ที่ผมทรงจำไว้ไม่เคยลืมเลือนจนบัดนี้

ผมกลับบ้านครั้งนี้ก็ได้ถือโอกาสไปกราบไหว้พระจีนทั้งสององค์นี้ดังที่เคยกระทำมาแต่ก่อน พร้อมทั้งบอกเล่าความที่ได้ไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ตลอดจนความตั้งใจที่จะสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท พร้อมทั้งขอให้พระอำนวยพรให้ประสพในสิ่งที่หวังตั้งใจทุกประการ

ใครจะเชื่อเรื่องบุรพกรรมหรือไม่ก็ตามที แต่ตัวผมเองนั้นเชื่อเรื่องนี้เพราะได้พบเห็นเรื่องนี้ชนิดที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์เป็นอันมาก เกี่ยวกับพระจีนสององค์นี้ก็เหมือนกัน วันเวลาล่วงไปเกือบ 10 ปีครั้งหนึ่ง และเกือบ 40 ปีอีกครั้งหนึ่ง พระจีนทั้งสององค์นี้ก็ได้มาอยู่กับผมจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เช่นนี้แล้วจะไม่นับว่าเป็นความมหัศจรรย์หรือบุรพกรรมได้อย่างไร

หลังจากนั้นเกือบ 10 ปี ลูกผู้น้องที่มาเรียนหนังสือกับผมกลับไปบวชที่บ้าน ผมได้ไปร่วมงานบวชด้วย และได้ไปไหว้พระจีนทั้งที่โรงพระ ทั้งที่บ้านคนจีนใกล้บ้าน และทั้งที่บ้านของก๋งฝ่ายพ่อเหมือนอย่างเคย

วันนั้นผมไปไหว้พระกวนกงที่บ้านคนจีนข้างบ้าน เป็นเหตุการณ์ภายหลังที่อาแปะชราที่มาจากเมืองจีนเสียชีวิตแล้ว เหลือแต่อาซิ้มผู้เป็นภรรยา อายุราว 60 กว่าปีอยู่ที่บ้าน

เมื่อผมไปไหว้พระ อาซิ้มก็จัดแจงธูปเทียนให้ผมไหว้พระเหมือนดังแต่ก่อน วันนั้นผมสังเกตเห็นว่าพระกวนกงมีใบหน้าแดงปลั่งกว่าปกติที่เคยเห็น ทั้งมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมตตาเป็นพิเศษกว่าที่เคยเห็นมาในครั้งก่อนๆ ผมมีความรู้สึกในขณะนั้นว่าพระอยากจะมาอยู่กับผม เป็นความรู้สึกที่บังเกิดขึ้นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ผมได้พูดกับอาซิ้มแบบไม่ได้คิดหน้าคิดหลังในขณะนั้นว่า อาซิ้ม อาแปะก็เสียไปแล้ว ดูท่าพระอยากมาอยู่กับอั๊ว อั๊วอยากจะขอพระองค์นี้ไปกรุงเทพฯ

อาซิ้มได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ แล้วปฏิเสธว่าพระกวนกงเป็นพระประจำครอบครัวของอั๊ว อั๊วมีลูกหลานตั้งหลายคน อาแปะตายแล้วแต่อั๊วก็ยังอยู่ ต้องดูแลรักษาพระต่อไป ถ้าอั๊วตายลูกหลานอั๊วก็ต้องดูแลรักษาพระสืบต่อไป อั๊วจะให้ลื้อได้อย่างไร

ผมก็ยังคงดันทุรังพูดกับอาซิ้มต่อไปว่า ถ้าพระจะมาอยู่กับอั๊วล่ะ ลื้อจะว่าอย่างไร อาซิ้มคงรำคาญจึงพูดว่าถ้าพระอยากไปอยู่กับลื้อ อั๊วก็ขัดไม่ได้

วันนั้นเมื่อผมไหว้พระบอกกล่าวความตามที่เคยกระทำมาแล้ว ก็ตั้งใจพูดในใจกับพระว่า “กง (ซึ่งหมายถึงพระกวนกง) ผมรู้สึกว่ากงอยากจะมาอยู่กับผม แต่ผมเป็นคนภายนอกครอบครัวอาซิ้ม และอาซิ้มก็เปิดทางว่าถ้ากงจะมาอยู่กับผม อาซิ้มก็ไม่ขัด ดังนั้นกงมีความประสงค์ประการใดก็ขอให้บอกด้วย”

ผมรำลึกในใจเช่นนั้นแล้วก็หยิบเบี้ยซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับเสี่ยงทายและวางประกบคู่อยู่หน้าพระกวนกงมาพนมไว้ในมือ แล้วบอกอาซิ้มว่าอั๊วจะถามพระต่อหน้าลื้อว่าพระจะไปอยู่กับอั๊วหรือเปล่า อาซิ้มก็บอกว่าสุดแล้วแต่ลื้อเถิด.

โปรดติดตามตอนที่ 40 “อภินิหารพระกวนกง ตอน 2 ในวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2549
กำลังโหลดความคิดเห็น