ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช แฉเหตุที่ไม่มีการถ่ายทอดสดช่วงพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรจากท้องสนามหลวง เพราะทีวีพูลอ้างไม่มีคนดู จึงถ่ายทอดสดเฉพาะช่วงเสด็จพระราชดำเนินยังพระบรมมหาราชวัง ขณะที่รองประธานจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ซัด ทีวีพูลไร้วิชั่น ขอให้เป็นบทเรียนที่จะไปแก้ไขในคราวหน้า
นายจรินท์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช พล.ท.ยุทธนา หาระบุตร เลขาธิการมูลนิธิฯ นายไพศาล พิสุทธิ์วัชระกุล รองประธานคณะกรรมการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “5 ธันวามหาราช” ปี 2549 ร่วมกันแถลงข่าว วานนี้ (15 ธ.ค.) ถึงกรณีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ไม่ถ่ายทอดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพร ในวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 18.00-20.00 น.
นายจรินท์ กล่าวว่า การจัดงาน 5 ธันวามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 30 ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชนเป็นอย่างดี โดยกระบวนการขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ดำเนินการเหมือน 29 ปีที่ผ่านมา และปีนี้เตรียมการจัดยิ่งใหญ่เพราะเป็นปีที่ประชาชนชาวไทย แสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างล้นพ้น ประชาชนรอเฝ้ารับเสด็จฯ ล้นจากสนามหลวงมาตามถนนราชดำเนิน
โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและการจุดเทียนชัยถวายพระพร ถือเป็นไฮไลท์สำคัญ เป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนไทยทั้งประเทศ จุดเทียนชัยถวายพระพรพร้อมทั่วประเทศ แต่ ทรท.ไม่ได้ทำการถ่ายทอด ทำให้ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนเป็นจำนวนมากสงสัยข้องใจ ตนจึงจัดแถลงเป็นการยืนยันว่า พิธีการทุกอย่าง รวมทั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี แต่ไม่มีการถ่ายทอดสด ซึ่งคณะกรรมการฯ ทราบเรื่องนี้ ภายหลังพิธีการต่าง ๆ ผ่านไปแล้ว
“เลขานุการ ทรท.แจ้งว่า จะทำการถ่ายทอดสดเฉพาะขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ทั้งขาไปและขากลับเท่านั้น ถือเป็นการให้ความสำคัญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การถ่ายทอดสดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรต่อจาก การเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว เกรงว่าประชาชนจะไม่ดูการถ่ายทอด ทางคณะกรรมการฯ ได้ท้วงติงเรื่องนี้ อีกทั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแจ้งกลับมาว่า นายกรัฐมนตรีจะมาเป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะฯ ในเวลา 19.19 น.แทน เวลา 16.19 น.เพื่อความเหมาะสมบางประการ ซึ่งทางคณะกรรมการฯได้ทำหนังสือลงวันที่ 3 ธันวาคม ไปถึง ทรท.เพื่อปรับแผนงาน มีหนังสือชัดเจนครบตามขั้นตอน” นายจรินท์ กล่าว
ด้านนายไพศาล กล่าวว่า ปัญหาน่าจะมาจากวิชั่นของผู้รับผิดชอบ การถ่ายทอดสด วิธีการตีความว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่ต้องการถ่ายทอด อยากให้นำบทเรียนครั้งนี้มาแก้ไขในปีหน้า ซึ่งเป็นปีมหามงคลพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งในภาคเอกชนการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนและรู้ข้อมูลล่วงหน้าแค่ 1วัน ก็สามารถปรับตัวได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีข้อเสนอแนะให้ทางคณะกรรมการฯ นำเทปพิธีถวายราชสักการะจุดเทียนชัยถวายพระพรให้ทาง ทรท.นำมาเผยแพร่ใหม่ ขณะที่นายจรินท์ ยืนยันว่าไม่ทราบข้อมูลที่มีการระบุว่า ติดขัดปัญหาค่าถ่ายทอดสด 3 ล้านบาท จึงไม่มีการถ่ายทอดจุดเทียนชัยถวายพระพร
ทั้งนี้ การไม่ถ่ายทอดสดในช่วงพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรของพสกนิกรพร้อมกันทั่วประเทศในปีนี้ โดยไม่ปฏิบัติเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา อีกทั้งในปีนี้เป็นปีมหามงคล ทำให้ได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งมีการเรียกร้องให้ พล.ท.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ประธานทีวีพูล แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ พล.ท.วุฒิชัย อ้างถึงสาเหตุที่ไม่มีการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรฯ ว่าเป็นเพราะในที่ประชุมร่วมระหว่างทีวีพูล กับคณะกรรมการจัดงานฯ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.นั้น ตกลงว่าจะถ่ายทอดสดเฉพาะระหว่างสองข้างทาง ถนนราชดำเนินช่วงขบวนเสด็จกลับถึงพระตำหนักจิตรลดารโหฐานเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าจะมีการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรแต่อย่างใด และหลังจากนั้นก็ไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไรออกมา
นายจรินท์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช พล.ท.ยุทธนา หาระบุตร เลขาธิการมูลนิธิฯ นายไพศาล พิสุทธิ์วัชระกุล รองประธานคณะกรรมการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “5 ธันวามหาราช” ปี 2549 ร่วมกันแถลงข่าว วานนี้ (15 ธ.ค.) ถึงกรณีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ไม่ถ่ายทอดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพร ในวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 18.00-20.00 น.
นายจรินท์ กล่าวว่า การจัดงาน 5 ธันวามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 30 ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชนเป็นอย่างดี โดยกระบวนการขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ดำเนินการเหมือน 29 ปีที่ผ่านมา และปีนี้เตรียมการจัดยิ่งใหญ่เพราะเป็นปีที่ประชาชนชาวไทย แสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างล้นพ้น ประชาชนรอเฝ้ารับเสด็จฯ ล้นจากสนามหลวงมาตามถนนราชดำเนิน
โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและการจุดเทียนชัยถวายพระพร ถือเป็นไฮไลท์สำคัญ เป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนไทยทั้งประเทศ จุดเทียนชัยถวายพระพรพร้อมทั่วประเทศ แต่ ทรท.ไม่ได้ทำการถ่ายทอด ทำให้ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนเป็นจำนวนมากสงสัยข้องใจ ตนจึงจัดแถลงเป็นการยืนยันว่า พิธีการทุกอย่าง รวมทั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี แต่ไม่มีการถ่ายทอดสด ซึ่งคณะกรรมการฯ ทราบเรื่องนี้ ภายหลังพิธีการต่าง ๆ ผ่านไปแล้ว
“เลขานุการ ทรท.แจ้งว่า จะทำการถ่ายทอดสดเฉพาะขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ทั้งขาไปและขากลับเท่านั้น ถือเป็นการให้ความสำคัญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การถ่ายทอดสดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรต่อจาก การเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว เกรงว่าประชาชนจะไม่ดูการถ่ายทอด ทางคณะกรรมการฯ ได้ท้วงติงเรื่องนี้ อีกทั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแจ้งกลับมาว่า นายกรัฐมนตรีจะมาเป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะฯ ในเวลา 19.19 น.แทน เวลา 16.19 น.เพื่อความเหมาะสมบางประการ ซึ่งทางคณะกรรมการฯได้ทำหนังสือลงวันที่ 3 ธันวาคม ไปถึง ทรท.เพื่อปรับแผนงาน มีหนังสือชัดเจนครบตามขั้นตอน” นายจรินท์ กล่าว
ด้านนายไพศาล กล่าวว่า ปัญหาน่าจะมาจากวิชั่นของผู้รับผิดชอบ การถ่ายทอดสด วิธีการตีความว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่ต้องการถ่ายทอด อยากให้นำบทเรียนครั้งนี้มาแก้ไขในปีหน้า ซึ่งเป็นปีมหามงคลพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งในภาคเอกชนการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนและรู้ข้อมูลล่วงหน้าแค่ 1วัน ก็สามารถปรับตัวได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีข้อเสนอแนะให้ทางคณะกรรมการฯ นำเทปพิธีถวายราชสักการะจุดเทียนชัยถวายพระพรให้ทาง ทรท.นำมาเผยแพร่ใหม่ ขณะที่นายจรินท์ ยืนยันว่าไม่ทราบข้อมูลที่มีการระบุว่า ติดขัดปัญหาค่าถ่ายทอดสด 3 ล้านบาท จึงไม่มีการถ่ายทอดจุดเทียนชัยถวายพระพร
ทั้งนี้ การไม่ถ่ายทอดสดในช่วงพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรของพสกนิกรพร้อมกันทั่วประเทศในปีนี้ โดยไม่ปฏิบัติเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา อีกทั้งในปีนี้เป็นปีมหามงคล ทำให้ได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งมีการเรียกร้องให้ พล.ท.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ประธานทีวีพูล แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ พล.ท.วุฒิชัย อ้างถึงสาเหตุที่ไม่มีการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรฯ ว่าเป็นเพราะในที่ประชุมร่วมระหว่างทีวีพูล กับคณะกรรมการจัดงานฯ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.นั้น ตกลงว่าจะถ่ายทอดสดเฉพาะระหว่างสองข้างทาง ถนนราชดำเนินช่วงขบวนเสด็จกลับถึงพระตำหนักจิตรลดารโหฐานเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าจะมีการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรแต่อย่างใด และหลังจากนั้นก็ไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไรออกมา