เอส.ซี.เอส.ฟุตแวร์หวนกลับมารุกทำตลาดรองเท้าโซดาโต้อีกระลอก หลังเงียบไปนาน เตรียมนำเข้าคอลเลกชันใหม่ปีหน้าที่เน้นกลุ่มพรีเมียม หนีตลาดรองเท้ากลุ่มล่างและกลาง เตรียมขยายชอปเพิ่ม 2แห่ง ภายใต้งบ 20ล้านบาท พร้อมอัดงบตลาด 10ล้านบาทเน้นจัดกิจกรรม ล่าสุดส่งรองเท้า"ท็อกซิก ทู บี ยู"เจาะวัยโจ๋
นายสมฤกษ์ วงศ์วีระนนท์ชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอส.ซี.เอส. ฟุตแวร์ จำกัด ผู้นำเข้ารองเท้าโซดาโต้ (Soldato) จากอิตาลี เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ เตรียมนำเข้ารองเท้าโซดาโต้คอลเลกชันใหม่ 1รุ่น โดยจะเน้นทำตลาดไปยังกลุ่มคนอายุ 20ปีขึ้นไปหรือกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมโซดาโต้จะเน้นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก โดยสินค้าใหม่นี้จะขยับขึ้นไปสู่ความเป็นพรีเมียมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องการแข่งขันกับตลาดระดับกลางและล่าง รวมถึงสินค้าที่นำเข้าจากจีน ฯลฯ โดยปัจจุบันราคาของรองเท้าโซดาโต้อยู่ที่1,500-2,500บาท จากเดิมราคาประมาณ 1,000กว่าบาท
ประกอบกับปีหน้าบริษัทฯ เตรียมงบประมาณ 20ล้านบาทในการขยายชอปโซดาโต้ในรูปแบบสแตนด์อโลนเพิ่ม 2แห่ง โดยเล็งเปิดร้านที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า และอีกแห่งในย่านใจกลางเมือง โดยปัจจุบันโซดาโต้มี 4แห่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้า ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 2,ฟิวเจอร์รังสิต ,เซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซ่า และ ที่ ศรีราชา
นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังเตรียมงบการตลาด10ล้านบาทในการทำตลาดปีหน้า โดยจะมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเป็นสปอนเซอร์ในคอนเสิร์ตและกีฬาเอ็กซ์ตรีมต่างๆ เป็นต้น จากเดิมจะเน้นการทำสื่อโฆษณาผ่านนิตยสารแฟชั่น ทั้งนี้ในส่วนยอดรายได้ปีหน้าของโซดาโต้บริษัทฯคาดหวังยอดเพิ่ม 10%
ส่วนภาพรวมรองเท้าโซดาโต้ในปีนี้ พบว่าตลาดทรงตัวหรือยอดขายไม่โต เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มวัยรุ่นซึ่งกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาทางการเมืองที่ไม่นิ่งก็ส่งผลต่อยอดขายบริษัทฯ ดังนั้นจึงต้องมีการทำการตลาดในช่วงปลายปีนี้ ล่าสุดได้เปิดตัวรองเท้าโซดาโต้คอลเลกชันใหม่"ท็อกซิก ทู บี ยู"(Toxic To Be You) ราคาประมาณ1,800-1,900 บาท โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มวัยรุ่น
สำหรับยอดขายของโซดาโต้ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน20% ของยอดรายได้บริษัทฯ ที่มีประมาณ400-500 ล้านบาท ในปีหน้าคาดว่าสัดส่วนจะปรับขึ้นเป็น 25%ของยอดรวม และจะเพิ่มขึ้นอีก 5%ในปีถัดไป นอกนั้นยอดรายได้ที่เหลือมาจากรองเท้าเอส.ซี.เอส 70% และแบรนด์อื่นๆเช่น รองเท้าผ้าใบเบร็กเกอร์และรองเท้านักเรียนหญิงป็อปทีน
ปัจจุบันตลาดรวมรองเท้าแฟชั่นวัยรุ่นในกลุ่มบนมีมูลค่ากว่า 1,000ล้านบาท ในปีนี้ตลาดรวมไม่เติบโต เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่าง โดยโซดาโต้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ไม่ถึง10% ขณะที่ผู้นำตลาด คือ คอนเวิร์สมีส่วนแบ่งตลาด 30-40%
สำหรับกรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้นบริษัทฯ ได้รับผลกระทบบ้างในด้านการส่งออกสินค้ากีฬาหรือการรับจ้างผลิตให้ลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าหลัก ได้แก่ มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ โดยสัดส่วนยอดส่งออกยังมีไม่มากหรือประมาณ 20-30ล้านบาท
นายสมฤกษ์ วงศ์วีระนนท์ชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอส.ซี.เอส. ฟุตแวร์ จำกัด ผู้นำเข้ารองเท้าโซดาโต้ (Soldato) จากอิตาลี เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ เตรียมนำเข้ารองเท้าโซดาโต้คอลเลกชันใหม่ 1รุ่น โดยจะเน้นทำตลาดไปยังกลุ่มคนอายุ 20ปีขึ้นไปหรือกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมโซดาโต้จะเน้นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก โดยสินค้าใหม่นี้จะขยับขึ้นไปสู่ความเป็นพรีเมียมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องการแข่งขันกับตลาดระดับกลางและล่าง รวมถึงสินค้าที่นำเข้าจากจีน ฯลฯ โดยปัจจุบันราคาของรองเท้าโซดาโต้อยู่ที่1,500-2,500บาท จากเดิมราคาประมาณ 1,000กว่าบาท
ประกอบกับปีหน้าบริษัทฯ เตรียมงบประมาณ 20ล้านบาทในการขยายชอปโซดาโต้ในรูปแบบสแตนด์อโลนเพิ่ม 2แห่ง โดยเล็งเปิดร้านที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า และอีกแห่งในย่านใจกลางเมือง โดยปัจจุบันโซดาโต้มี 4แห่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้า ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 2,ฟิวเจอร์รังสิต ,เซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซ่า และ ที่ ศรีราชา
นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังเตรียมงบการตลาด10ล้านบาทในการทำตลาดปีหน้า โดยจะมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเป็นสปอนเซอร์ในคอนเสิร์ตและกีฬาเอ็กซ์ตรีมต่างๆ เป็นต้น จากเดิมจะเน้นการทำสื่อโฆษณาผ่านนิตยสารแฟชั่น ทั้งนี้ในส่วนยอดรายได้ปีหน้าของโซดาโต้บริษัทฯคาดหวังยอดเพิ่ม 10%
ส่วนภาพรวมรองเท้าโซดาโต้ในปีนี้ พบว่าตลาดทรงตัวหรือยอดขายไม่โต เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มวัยรุ่นซึ่งกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาทางการเมืองที่ไม่นิ่งก็ส่งผลต่อยอดขายบริษัทฯ ดังนั้นจึงต้องมีการทำการตลาดในช่วงปลายปีนี้ ล่าสุดได้เปิดตัวรองเท้าโซดาโต้คอลเลกชันใหม่"ท็อกซิก ทู บี ยู"(Toxic To Be You) ราคาประมาณ1,800-1,900 บาท โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มวัยรุ่น
สำหรับยอดขายของโซดาโต้ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน20% ของยอดรายได้บริษัทฯ ที่มีประมาณ400-500 ล้านบาท ในปีหน้าคาดว่าสัดส่วนจะปรับขึ้นเป็น 25%ของยอดรวม และจะเพิ่มขึ้นอีก 5%ในปีถัดไป นอกนั้นยอดรายได้ที่เหลือมาจากรองเท้าเอส.ซี.เอส 70% และแบรนด์อื่นๆเช่น รองเท้าผ้าใบเบร็กเกอร์และรองเท้านักเรียนหญิงป็อปทีน
ปัจจุบันตลาดรวมรองเท้าแฟชั่นวัยรุ่นในกลุ่มบนมีมูลค่ากว่า 1,000ล้านบาท ในปีนี้ตลาดรวมไม่เติบโต เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่าง โดยโซดาโต้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ไม่ถึง10% ขณะที่ผู้นำตลาด คือ คอนเวิร์สมีส่วนแบ่งตลาด 30-40%
สำหรับกรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้นบริษัทฯ ได้รับผลกระทบบ้างในด้านการส่งออกสินค้ากีฬาหรือการรับจ้างผลิตให้ลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าหลัก ได้แก่ มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ โดยสัดส่วนยอดส่งออกยังมีไม่มากหรือประมาณ 20-30ล้านบาท