xs
xsm
sm
md
lg

ศิษย์สมเด็จตอนที่ 39 ศาลเจ้าอันฮกเก็ง (ตอนที่ 2-จบ)

เผยแพร่:   โดย: เรืองวิทยาคม

พระอาจารย์กล่าวความแล้วก็ทอดสายตาไปเบื้องหน้าเห็นทิวท้องทุ่งสุดลูกหูลูกตาแล้วกวาดสายตาไปทางซ้ายมือซึ่งจะไปยังทะเล หลังจากนั้นจึงชวนผมลงเรือไปบิณฑบาต

ผมได้ใช้เวลาช่วงปิดเทอมไปเยี่ยมเยียนญาติสนิทมิตรสหาย พระอาจารย์ และไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผมเคารพบูชาอีกหลายแห่ง แห่งหนึ่งซึ่งผมค่อนข้างมีความฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆ คือโรงพระ หรือศาลเจ้าอันเป็นที่สถิตของพระจีน ซึ่งถือกันว่าเป็นพระประจำเมืองของคนบ้านผมมาแต่โบราณ

ในตำบลบ้านผมนั้นชาวบ้านเชื่อถือกันมาแต่โบราณว่าเป็นแดนปลอดไฟ คือไฟไม่ไหม้ แม้จะหวุดหวิดจวนจะเกิดเหตุร้ายเพลิงไหม้หลายครั้ง แต่ในที่สุดก็ไม่ไหม้ ความเชื่อเช่นนี้มีที่มาจากเจ้าประจำโรงพระซึ่งเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะตั้งแต่มีการตั้งโรงพระก็มีการตั้งสัจจะอธิษฐานให้คุ้มครองป้องกันตำบลบ้านนี้อย่าได้มีเพลิงไหม้เป็นพิเศษ

แต่ครั้งโบราณมาพวกคนจีนอพยพจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาประเทศไทย หลั่งไหลเข้ามาเป็นทาง ขึ้นบกที่ไหนก็ตั้งรกรากถิ่นฐานที่นั่น เหตุนี้จึงมีคนจีนเข้ามาพำนักอาศัยในประเทศไทยตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตำบลบ้านผมอยู่ชายทะเล จึงมีคนจีนอพยพเข้ามาอยู่มาก และเกือบทั้งหมดเป็นจีนฮกเกี้ยนที่อพยพมาจากมณฑลฮกเกี้ยนหรือมณฑลฟูโจวในปัจจุบัน

คนจีนฮกเกี้ยนเมื่อจะไปไหนก็จะมีพระจีนติดไปด้วย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของเรือก็จะมีพระจีนประจำเรือ พระจีนที่พวกคนจีนนำเข้ามาโดยทั่วไปได้แก่พระกวนกงหรือกวนอูองค์หนึ่ง พระปุนเถ้าก๋ง พระปุนเถ้าม้า และที่สำคัญคือพระมาโจ๊ว ซึ่งคนจีนฮกเกี้ยนนับถือโดยทั่วไป ผมเคยไปเมืองฮกเกี้ยนก็ได้กิตติศัพท์เป็นอย่างเดียวกัน

ดังนั้นศาลเจ้าในเมืองไทยหรือโรงพระไหนๆ จึงมักจะมีเจ้าเหล่านี้สถิตอยู่ เช่นเดียวกับโรงพระบ้านผมก็มีเจ้าทั้งสี่องค์ แต่องค์ที่ชาวบ้านนับถือมากก็คือพระมาโจ๊วซึ่งอาจจะมีรากฐานมาจากความเชื่อถือของคนจีนฮกเกี้ยนในสมัยก่อนก็เป็นได้

เมื่อคนจีนเข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐานแล้วก็เอาพระจีนขึ้นบกด้วย แรกเริ่มเดิมทีคงจะ
เก็บรักษาไว้ที่บ้าน แต่นานวันเข้าก็คิดอ่านตั้งศูนย์กลางพบปะหารือและศูนย์ความร่วมมือร่วมใจกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่คนจีนถนัดจนเป็นอัชฌาสัยประจำตัวของคนจีนทั่วไป ดังจะเห็นได้จากทุกหนแห่งที่มีชุมชนคนจีนก็จะมีการตั้งศาลเจ้าเป็นศูนย์รวมจิตใจ มีการตั้งสมาคมต่างๆ เพื่อเป็นศูนย์กลางความร่วมมือในทางธุรกิจการค้า ดังนั้นใครอย่าได้แปลกใจเลยที่วรรณคดีและหนังจีนหรือวรรณคดีจีนจะต้องมีพวกพรรคต่างๆ หรือสมาคมต่างๆ มากมายนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งยาจกขอทานก็ยังมีพรรคของตนเองคือพรรคกระยาจก และมีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ราชวงศ์ซ้องครองอำนาจในเมืองจีน

คนจีนที่บ้านผมก็อย่างเดียวกัน ได้คิดอ่านตั้งศาลเจ้าหรือที่เรียกว่าโรงพระขึ้น มีชื่อว่าศาลเจ้าอันฮกเก็ง มีพิธีกรรมตามความเชื่อถือกันมาแต่โบราณ แต่นานวันเข้าคนรุ่นเก่าล้มหายตายจากไป พิธีกรรมก็หดหายไปโดยลำดับ คงเหลือแต่พิธีการเซ่นไหว้ในเทศกาลวันตรุษ วันสารท และวัน 15 ค่ำหลังวันตรุษจีน

วัน 15 ค่ำหลังวันตรุษจีนนั้นเป็นวันเซ่นไหว้ใหญ่ เพราะถือว่าเป็นวันฉลองที่พระกลับจากสวรรค์ หลังจากที่ขึ้นไปเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ก่อนวันตรุษจีนเพื่อรายงานกิจการกันบนสวรรค์

ผู้คนก็จะไปร่วมงานกันอย่างคับคั่ง นอกจากการเซ่นไหว้แล้วยังมีการยืมเงินเจ้าไปเป็นสิริมงคลในการลงทุน ใครจะยืมเงินเท่าใด และจะได้ยืมหรือไม่ ก็ต้องไปทอดเบี้ยเสี่ยงทายว่าพระท่านจะให้ยืมหรือไม่ ถ้าพระให้ยืมก็ไปเบิกเงินจากกองกลาง และปีหน้าต้องชดใช้เงินต้นและค่าตอบแทนอีกเท่าตัว

ยุคหลังๆ ถือว่าเงินที่ยืมจากเจ้านี้เป็นเงินสิริมงคล เพื่อความงอกงามไพบูลย์ของการค้าขายและการลงทุน แต่ในยุคก่อนๆ น่าจะเป็นเรื่องการเอาเงินมาลงขันกันเป็นกองทุนศาลเจ้า ให้พวกคนจีนที่เดือดร้อนได้หยิบยืมไปลงทุนหรือใช้จ่ายก่อน และเพื่อป้องกันมิให้มีการเบี้ยวหนี้จึงต้องทำพิธียืมเงินเจ้า เพื่อให้เกิดความเชื่อว่าเมื่อยืมเงินไปจากเจ้าแล้วต้องเอาเงินมาคืนตามกำหนด มิฉะนั้นเจ้าก็จะลงโทษให้ประสบอันตรายต่างๆ

ต่อมาเมื่อการค้าขายพัฒนาไป และต้องอาศัยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น การยืมเงินเจ้าปีละครั้งเห็นจะไม่ทันท่วงทีกับพัฒนาการทางธุรกิจ จึงมีคนออกหัวคิดเล่นแชร์เข้ามาเป็นกิจกรรมเสริมเพิ่มเติม และเป็นที่นิยมกันตลอดมาจนถึงทุกวันนี้

เมื่อผมเด็กๆ ผมรักที่จะไปไหว้เจ้าที่โรงพระ ทั้งในช่วงเทศกาลตรุษสารทและวันฉลองพระ หรือถ้าไปไหนมาผ่านโรงพระก็จะแวะไหว้พระเป็นประจำ ดังนั้นเมื่อผมกลับบ้านตอนปิดเทอมผมจึงถือโอกาสไปไหว้พระจีนเหมือนอย่างเคย

ผมจุดเทียนจุดธูปไหว้พระแล้วสายตาก็จ้องมองพระที่สถิตเป็นสง่าอยู่บนศาล พลางเล่าความในใจที่ได้ไปประสบในกรุงเทพฯ ให้พระทราบ เหมือนกับว่ารายงานความเป็นไปให้ผู้ใหญ่ของผมได้รับทราบนั่นเอง

การกระทำเช่นนี้อาจเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนปัจจุบัน แต่คนรุ่นผมถือว่าเป็นเรื่องดีและเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อคิดจะบอกกล่าวรายงานเรื่องราวของตัวเองกับพระแล้วก็จะกำกับใจไม่กล้าทำความชั่ว เท่ากับมีสิ่งคอยกำกับใจให้ยับยั้งชั่งใจ หากว่าใจหลงใหลไปกับกระแสแห่งความชั่ว จึงเท่ากับว่าได้อาศัยคุณพระคุ้มกายคุ้มใจในยามห่างไกลจากพ่อแม่นั่นเอง.

โปรดติดตามตอนที่ 40 “อภินิหารพระกวนกง ตอน 1” ในวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2549
กำลังโหลดความคิดเห็น