xs
xsm
sm
md
lg

"อุ๋ย"มึ่นหั่นทิ้งแล้ว 3.7 หมื่นล. ยังหลงงบหาเสียงยุคทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หม่อมอุ๋ย” รับทำงบประมาณปี 50 พลาด ไม่ตัดงบประชาสัมพันธ์กระทรวง ที่รัฐบาลยุคทักษิณ ตั้งไว้เพื่อหาเสียง ทั้งที่ตัดงบในสิ่งที่ไม่ควรทิ้งแล้วถึง 3.7 หมื่นล้านบาท เหตุมีเวลาจำกัด พร้อมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาเพื่อตัดทิ้ง พร้อมแจงที่มาการตั้งงบขาดดุล เพราะต้องใช้หนี้จากโครงการประชานิยมขอรัฐบาลในอดีต เผยจะใช้เวลา 20 วันพิจารณางบ คาดทูลเกล้าฯหลังปีใหม่

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (7 ธ.ค.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2550 โดย พล.อ.ปรีชา โรจนเสน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่ประธานชั่วคราวเพื่อเลือกประธานกรรมาธิการฯ

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ได้เสนอ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธานกรรมาธิการฯ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ และเสนอชื่อ รองประธานกรรมาธิการ 7 คน คือ นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง เป็นรองประธานคนที่ 1 นายวิษณุ เครืองาม เป็นรองประธานคนที่ 2 นายอรัญ ธรรมมะโน เป็นรองประธานคนที่ 3 พล.อ.ปรีชา โรจนเสน เป็นรองประธานคนที่ 4 นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ เป็นรองประธานคนที่5 นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ เป็นรองประธานคนที่ 6 และนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานคนที่ 7

พร้อมกันนี้ที่ประชุมเลือกนายบัณฑูร สุภัควณิช เป็นเลขนุการคณะกรรมธิการฯ นางดวงสมร วรฤทธิ์ และนายสุระ หวังต่อลาภเป็นผู้ช่วยเลขานุการ

ส่วนโฆษกกรรมธิการฯ 7 คน คือ นายปรีชา วัชราภัย ,นายเชน วิพัฒน์บวรวงศ์ , นางมานี ไชยธีรานุวัฒศิริ ,นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ,นายประพันธ์ คูณมี ,นายอรรคพล ศรสุชาติ และนายไพศาล พืชมงคล

จากนั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ทำหน้าที่ประธาน โดยชี้แจงกับกรรมาธิการฯ ว่า รัฐบาลมีเวลาทำงบประมาณสั้นมากประมาณ 1 เดือน คือระหว่างวันที่ 22 ต.ค.- 22 พ.ย. 2549 การทำงบประมาณที่ได้ดำเนินการไปแล้วคือการตัดงบประมาณ ในสิ่งที่ไม่ควรมีคืองบผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ(งบผู้ว่าซีอีโอ) 40,000 ล้านบาท, งบปรับกลยุทธเพื่อการพัฒนาประเทศ 27,000 ล้านบาท, งบกองทุนหมู่บ้าน (งบเอสเอ็มแอล) 19,000 ล้านบาท ที่ตัดออก 10,000 ล้านบาท เหลือไว้ใช้เพียง 9,000 ล้าน บาท นอกจากนี้ได้มีการทบทวนลดภาระกิจของทุกกระทรวงที่ไม่เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลจำนวน 37,000 ล้านบาท

“เราพยายามลดงบประมาณไปแสนกว่าล้าน คิดว่าพอแล้ว แต่ในที่สุด ก็เจอสิ่งที่ไม่ควรจะเจอคือภาระเดิมจากนโยบายในอดีตของรัฐบาลที่ผ่านมา 110,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ต้องตั้งงบใช้ทันที 85,000 ล้านบาท อาทิ การติดหนี้วิทยฐานครูที่มีหนี้เดิม 8,000 ล้านบาท ต้องตั้งงบประมาณปีใหม่อีก 10,000 ล้านบาท หนี้โครงการประกันสุขภาพเดิม 7,000 ล้านบาท ปีใหม่ตั้งเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท ,หนี้สาธารณสุข ,การติดหนี้ธกส.,ติดหนี้ค่าแทรกแซงราคาพืชผล รวมถึงการตั้งงบประมาณเพื่อชดเชยสิ่งที่คาดว่าจะเกิดความสูญเสีย ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่ ก็ต้องตั้งงบประมาณต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลทั้งหมดทำให้ต้องตั้งงบบประมาณขาดดุล 140,000 ล้านบาท”

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำ แต่ได้รับทราบจาก เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. จากการอภิปรายของ สนช. คืองบประมาณในการประชาสัมพันธ์ของทุกกระทรวง ที่มีสามาชิก สนช.อภิปรายว่าเป็นงบหาเสียงของรัฐบาลที่ผ่านมา เนื่องจากเวลา ในการทำงบประมาณมีจำกัดจึงไม่ได้ทำจึงขอเชิญชวนให้หน่วยราชการทุกแห่ง หากมีงบประมาณในส่วนนี้ขอให้ช่วยพิจารณาด้วย

จากนั้นที่ประชุมได้กำหนดกรอบเวลาการทำงานของกรรมาธิการฯว่า กรรมาธิการฯจะเริ่มพิจารณางบประมาณตั้งแต่วันนี้ (7 ธ.ค.) จนถึงวันที่ 19 ธ.ค. โดยกรรมาธิการจะประชุมทุกวันไม่เว้นหยุดราชการ คาดว่าในวันที่ 20 ธ.ค.จะสามารถ เสนอคำแปรญัตติต่อกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อพิจารณาแปรญัติและจัดทำข้อสังเกต จากนั้นวันที่ 24 ธ.ค. สำนักกรรมาธิการจะจัดพิมพ์รายงานโดยจะตรวจรายงานได้ในวันที่ 25 ธ.ค. และจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 27-28 ธ.ค.และสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธยหลังวันที่ 1 ม.ค. 2550 โดยจะถือเป็นร่างกฎหมายฉบับแรกของปี 2550
กำลังโหลดความคิดเห็น