xs
xsm
sm
md
lg

คุณธรรม ไม่อาจวัดได้ด้วยตัวเลขหรือสถิติ

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ผมดีใจมากที่รัฐบาลโดยม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ถอนร่าง พ.ร.บ.เรื่องหวยบนดินของรัฐบาลออกจากสภานิติบัญญัติ

ถึงอย่างไร ก็ต้องชมสมาชิกสภาฯ ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยกับร่าง และฝ่ายที่ค้านหัวชนฝา ว่าทั้ง 2 ฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ได้เหมาะสม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอง ก็สมควรที่จะได้รับความเห็นใจและชมเชย

ผมไม่เห็นด้วยที่สื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้จัดการวิเคราะห์ว่า ถ้าหากรัฐบาลไม่ถอน ร่างพ.ร.บ.ก็จะคว่ำกลางสภา และรัฐบาลจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

ผมเชื่อว่า สมาชิกที่มิได้ร่วมคัดค้านส่วนใหญ่ ทั้งๆ ที่อาจจะเห็นคล้อยตามกับผู้ค้าน ครั้นถึงเวลาลงคะแนนก็จะโหวตให้ผ่าน เพราะเห็นแก่รัฐบาล ตามวัฒนธรรมการเมืองไทย

เพราะฉะนั้น ผมเห็นว่า ผู้ที่สมควรจะได้รับความชื่นชมอย่างแท้จริง ทั้งๆ ที่รู้ว่า พ.ร.บ.จะผ่าน แต่ก็ขอถอน ก็คือ นายกรัฐมนตรีนั่นเอง มิใช่ใคร

ผมเชื่อว่าข้อพิจารณาของนายกรัฐมนตรีมิใช่อยู่ที่ตัวเลขว่า พ.ร.บ.จะผ่านหรือไม่ผ่าน และก็มิใช่อยู่ที่สถิติว่ามีคนเล่นตั้ง 30 ล้าน คนที่รัฐบาลจะต้องดูแล หรือสถิติที่ว่ามีเด็กนักเรียนพากันเล่นหวยจำนวนมากขึ้นจนน่าตกใจ หรือว่ารัฐบาลกำลังจะถังแตก ต้องอาศัยเงินหวยงวดละหลายๆ ร้อยล้าน ผมว่าไม่ใช่

ผมเคยพูดทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ว่าจุดแข็งของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็คือ ความเป็นผู้บารมีทางศีลธรรม

ว่าไปแล้ว ขณะนี้พลเอกสุรยุทธ์ต้องแบกน้ำหนักอึ้ง ทั้ง คมช.ก็ดี รัฐบาลก็ดี ได้อาศัยบารมีของนายกรัฐมนตรีคุ้มอยู่ไม่น้อยทีเดียว

มองในแง่หนึ่ง ก็น่าเบาใจ แต่มองให้ลึกซึ้งแล้ว ผมว่าน่าหนักใจมากกว่า

เรื่องหวยบนดินนี้ ผมเดาว่า พลเอกสุรยุทธ์วางน้ำหนักการตัดสินใจไว้ที่ ศีลธรรมและคุณธรรม

มิใช่คุณธรรมและศีลธรรมเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

แต่เป็นศีลธรรมและคุณธรรมที่ประชาชนไทยและสังคมไทยจะพึงมี

ผมว่านายกรัฐมนตรีตัดสินใจได้เด็ดเดี่ยวและถูกต้อง ที่ห่วงอยู่ก็คือ จะยืนหยัดอยู่ได้นานเท่าไร

ผมได้อ่านจากสื่ออีกนะแหละว่า นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า ในอนาคตอาจจะต้องเลิกหวยทั้งหมดก็ได้

ผมยังไม่มีโอกาสถามนายกรัฐมนตรีว่าท่านพูดหรือหมายความอย่างที่พูดหรือไม่

แต่ผมพอจะเข้าใจธรรมชาติและสไตล์ของสื่อไทยที่มักจะชอบเล่นคำ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เข้าใจความลึกซึ้งของภาษา และบ่อยครั้งก็มักจะตั้งตัวเป็นผู้ตีความ ทั้งๆ ที่ตนเองอ่านไม่แตก ซ้ำไม่เข้าใจความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การเสนอคำพูดเรื่องต้มยำกุ้งของนายกรัฐมนตรีผิดพลาดจนกลายเป็นข่าวที่คลาดเคลื่อน เป็นต้น

ผมเองเป็นคนบ้านนอก พอจะรู้วิถีชีวิตและจิตวิทยาของคนบ้านนอกดี รวมทั้งความหวังพึ่งหวยและเจ้าพ่อหวยอีกด้วย ผมจึงอยากจะเสนอความคิดเห็นที่ทุกฝ่ายรวมทั้งรัฐบาลอาจจะเอาไปช่วยกันพิจารณาดังต่อไปนี้

1. การสะดุดหยุดลงของหวยบนดินครั้งนี้ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั้งผู้ซื้อและผู้ขายก็จริงอยู่ ความเดือดร้อนของผู้ซื้อนั้นเป็นเรื่องของกิเลสและความหวังลมๆ แล้งๆ ซึ่งเป็นมายา แต่ความเดือดร้อนของผู้ขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายย่อยๆ ที่ลำบากยากแค้น ต้องอาศัยรายได้จากการขายมาช่วยปากท้องในครอบครัว เป็นความเดือดร้อนที่แท้จริง รัฐบาลสมควรรับฟังหรือหาทางช่วยเหลือทางใดทางหนึ่ง กองสลากจะมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ให้กับรัฐบาลหรือไม่ ว่ามีเอเย่นต์รายย่อยที่เดือดร้อนหรือขอความช่วยเหลือมากน้อยเท่าใด เรื่องแค่นี้ไม่ต้องมายุแหย่หรือเดินขบวนกันให้ลำบากหรอก

2. เรื่องความกลัวที่ว่าหวยใต้ดินจะกลับมานั้นน่าจะเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นี่น่าจะเป็นโอกาสมากกว่าเป็นวิกฤต ก็รัฐบาลกำลังต้องการปฏิรูปตำรวจอยู่พอดี ในอดีตเราจะยอมรับกันหรือไม่ว่าหวยใต้ดินแพร่หลายใหญ่โตจนกระทั่งกลายเป็นระบบเศรษฐกิจและการเมืองพิเศษนั้นก็เพราะมีเจ้าพ่อหวยและตำรวจร่วมมือกัน พูดตรงๆ นอกจากจะกินเงินเดือนหลวงแล้ว ตำรวจยังกินเงินเดือนเจ้าพ่อด้วย ขณะนี้ใช่ว่าเราจะไม่รู้ว่าจังหวัดไหนใครเป็นเจ้าพ่อ และใช่ว่าเราจะไม่รู้ว่าถ้าหากตำรวจและผู้ว่าราชการเอาจริงแล้ว ทั้งหวยทั้งเจ้าพ่อก็จะลดจำนวนและอิทธิพลลงจนถึงระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติและสังคม รัฐบาลทักษิณสามารถใช้อำนาจมืดผ่านผู้ว่าและตำรวจสังหารผู้บริสุทธิ์โดยอ้างเหตุยาเสพติดได้ ถ้าเอาจริงเสียอย่าง รัฐบาลสุรยุทธ์ก็น่าจะใช้อิทธิพลสว่างและเหตุผลทางคุณธรรมปลดพล.ต.อ.โกวิทและลิ่วล้อตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดได้ ถ้าจังหวัดใดปล่อยให้หวยระบาดจนเกินเหตุ

3. ทางที่จะบรรเทาปัญหาในข้อ 1 และ 2 ได้เกือบจะทันที โดยไม่จำเป็นต้องคอยกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ใช้มาตรการทางการบริหารจัดการที่โปร่งใสมีประสิทธิภาพก็จะเริ่มได้ภายในสิ้นปีนี้หรือเดือนมกราคมเป็นอย่างช้า ก็คือ การออกสลากกินแบ่งราคาถูก 5,10,15,20 บาทเคียงคู่ไปกับสลากปรกติในทุกๆ งวด สลากนี้มี 6 ตัวเลขและเหมือนกับสลากกินแบ่งธรรมดาทุกประการ ยกเว้น 2 อย่าง คือราคากับรางวัล สำหรับรางวัลก็เหมือนสลากธรรมดาทุกอย่าง นอกจากจะมีรางวัลแถมถ้าหากสลากใบใดตรงกับ 2 ตัวและ 3 ตัวท้ายรางวัลที่หนึ่ง

4. ถ้าเกรงว่าสลากจะแพร่หลายหรือกลายเป็นเครื่องมอมเมาเยาวชน รัฐบาลก็ต้องคิดให้ตกว่า รัฐบาลเองนะแหละก็คือความชั่วร้ายที่จำเป็นเช่นเดียวกับสลากที่เป็นอบายมุข ( Government is necessary evil) เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพลิกเอาด้านที่ 2 ของเหรียญออกมาใช้ คือทำให้การซื้อนั้นสะดวกแต่ต้องเป็นการส่งเสริมวินัยและการออมไปในตัว กล่าวคือ (1) ผู้ซื้อต้องแสดงบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อยืนยันอายุ และ (2) เมื่อซื้อแล้ว เฉพาะใบที่ไม่ถูกให้เก็บต้นขั้วไว้มารับเงินสะสมคืนได้ร้อยละเท่าใดตามแต่เมื่อครบกำหนด

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ผมไม่ต้องการปิดบังข้อเท็จจริงว่า ผมได้เสนอให้รัฐบาลทักษิณยกเลิกการออกสลากกินแบ่ง และผมอาจจะเป็นหนึ่งในหลายๆ คน ที่มีส่วนผลักดันให้อดีตนายกฯ ทักษิณนำหวยใต้ดินขึ้นมาบนดิน แต่ผมไม่มีส่วนได้เสียมากกว่า การนำเสนอข้อคิดเห็นทางจดหมาย ซึ่งได้นำมาพิมพ์เผยแพร่ในสื่อในภายหลัง

จดหมายทั้งหมดมี 3 ฉบับ ดังต่อไปนี้

1. บทความ หวยล็อก : ล็อกคนไทยทั้งชาติ นสพ.ผู้จัดการรายวัน วันที่ 6 ธ.ค. 44

2. บทความ มหาดไทยตาบอด? นสพ.ผู้จัดการรายวัน วันที่ 13 ธ.ค. 44

3. บทความเรื่อง จดหมายเปิดผนึกถึงทักษิณ สมคิด ปุระชัย และอานันท์ เรื่อง ขอให้เลิกสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 ก.พ. 45 15:14 น.

แต่ผมจำเป็นจะต้องมีหมายเหตุไว้ว่าทั้งในจดหมาย ทั้งโดยการแนะนำชี้แจงให้ผู้อำนวยการสลากกินแบ่งขณะนั้นเข้าใจ ผมได้จาระไนวิธีใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อความโปร่งใสและป้องกันโกง วิธีใช้เงินให้รับผิดชอบและเกิดประโยชน์ สิ่งที่ควรกระทำและไม่ควรกระทำ ปรากฏว่า กองสลากมิได้นำสิ่งที่ดีไปปฏิบัติเลย สิ่งที่นำไปปฏิบัตินั้นล้วนแต่เป็นการเปิดหนทางให้มีการคดโกงและใช้อำนาจมิชอบทั้งสิ้น

เหตุผลของผมที่เสนอให้เลิกสลากกินแบ่งโดยสิ้นเชิงมิใช่เหตุผลทางศีลธรรม แต่เป็นเหตุผลตื้นๆ ว่า ตราบใดที่ยังมีการออกสลากกินแบ่งและอื่นๆ แบบเดียวกัน ตราบนั้นหวยใต้ดินซึ่งอาศัยเลขท้ายของสลากดังกล่าวก็จะมีอยู่ หากจะบังคับให้หวยใต้ดินนั้นขึ้นมาบนดินก็ย่อมเป็นสิ่งที่กระทำได้ แต่ต้องอาศัยคุณธรรมของบุคคลที่เป็นผู้นำและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เทคโนโลยีดังกล่าวมีอยู่พร้อม และราคาไม่แพง ถ้าไม่โกง

และในที่สุด เมื่อมีการคืนเงินให้กับผู้ซื้อและชุมชนมากขึ้น อัตราการซื้อหวยก็จะเริ่มลดน้อยลง ยกเว้นความบ้าซึ่งเกิดเป็นพักๆ นานๆ ครั้ง เพราะตามปกติคนซื้อจะน้อยลงๆ จนกระทั่งไม่มีคนถูกแจ็กพอตหลายๆ งวดติดๆ กัน

ผมอยู่ในอเมริกาและอังกฤษพักหลังนี้ ครั้งละกว่า 5 ปี เป็นยุคที่ทั้งนิวยอร์กและลอนดอนมีหวยล็อตโตแล้ว ผมเข้าใจวิธีการที่จะบรรเทาความมอมเมา และเพิ่มประโยชน์ให้สังคมได้

ในตอนหนึ่งของจดหมายของผมถึงทักษิณ สมคิด ปุระชัย และอานันท์ มีข้อความว่า

"ผลได้ผลเสียของการออกสลากระบบใหม่ มีคร่าวๆ ดังต่อไปนี้

1. รายได้ทั้งหมด ทั้งจากล็อตโตและหวยเบอร์ หากเอาตัวเลขหวยใต้ดินและหวยบริวารประมาณโดย ดร.สังศิต และคณะ มารวมกับยอดขายสลากกินแบ่ง ก็จะได้ยอดเงินประมาณหนึ่งแสนสี่หมื่นล้านบาท หากยอดขายไม่เพิ่มหรือไม่ลด

2. สมมติว่าหักค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จ 20 % ก็จะเหลือเงินอีกประมาณหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นล้านบาท หากจะหักเข้านำส่งคลัง ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะย่ำแย่ ประมาณ 40 %

ก็จะเป็นเงินประมาณสี่หมื่นล้านบาทเศษ หรือเกือบสิบเท่าของรายได้นำส่งคลังของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลปีที่แล้ว!

3. จ่ายเป็นเงินรางวัลอีก X % ของเงินที่เหลือ สุดแท้แต่จะใช้อัตราเดียวกับลอนดอน แคลิฟอร์เนียหรือนิวยอร์กสมมติว่า 35 % ของเงินที่เหลือ คือประมาณเกือบสามหมื่นล้านบาท ก็จะยังคงเหลือเงินอยู่อีกเกือบสี่หมื่นล้านบาทเศษ

4. เงินที่เหลืออยู่ หากรัฐบาลจะผันคืนท้องถิ่นแหล่งที่ซื้อตามสัดส่วนของการซื้อ โดยกำหนดให้เป็นงบพัฒนาตามยุทธศาสตร์ส่วนหนึ่ง และเงินอุดหนุนที่องค์กรท้องถิ่นสามารถใช้ได้อย่างยืดหยุ่นแต่โปร่งใสและรับผิดชอบ อีกส่วนหนึ่ง ก็จะทำให้เกิดงานและการพัฒนาในอัตราเร่งขึ้นมาจากท้องถิ่น ทำให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจรวม เมื่อราษฎรมีการศึกษาดีขึ้น ฐานะเศรษฐกิจดีขึ้น ความหมกมุ่นหรือการซื้อก็จะน้อยลง ดร.สังศิตและคณะ ระบุว่าผู้ที่การศึกษาต่ำก็เสี่ยงโชคมาก

5. ผลพลอยได้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การยกระดับความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ระดับรากหญ้า เพราะรัฐบาลสามารถจัดให้องค์กรการปกครองท้องถิ่น ร้านค้าย่อย ร้านสหกรณ์ สหกรณ์ออมทรัพย์ เครดิตยูเนียน องค์กรเกษตร องค์กรสังคมสงเคราะห์ ผู้พิการคนตาบอด เท่านั้นเป็นเอเย่นต์ผู้จำหน่ายล็อตโตและหวยเบอร์

ทั้งหมดนี้เป็นแต่เพียงความคิดหลัก และตัวเลขสมมติอาจผิด แต่ปรับปรุงและสร้าง model ที่แม่นยำได้ ขอแต่ให้มีเจตจำนงทางการเมือง ( political will) เพียงพอ หากเราเชื่อเมตาฟิสิกส์ หรือแม้แต่เชื่อว่าลบบวกลบเท่ากับบวก (- + - = +) บางทีการพนัน ซึ่งเป็น necessary evil กับรัฐบาลที่เป็น necessary evil เช่นเดียวกัน อาจจะบังเอิญมาบรรจบกันให้เกิดคุณูปการต่อประเทศไทยในครั้งนี้ได้"

แต่คุณูปการใดๆ ก็มิบังเกิดขึ้น เพราะพ.ต.ท.ทักษิณคิดถึงแต่สถิติและตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋าของตนเอง และพวกพ้องมากกว่าประเทศชาติ

ผมเชื่อโดยปราศจากความสงสัยว่า พลเอกสุรยุทธ์นั้นคำนึงถึงคุณธรรมมากกว่าตัวเลขหรือสถิติ ผมจึงมองเห็นแสงสว่างอยู่รำไรสำหรับประเทศไทย

รัฐบาลสุรยุทธ์สมควรจะเป็นผู้พิจารณายุทธศาสตร์การพนันทั้งหมดของประเทศให้รอบด้านและรอบคอบเสียที
กำลังโหลดความคิดเห็น