xs
xsm
sm
md
lg

32 ศพกรือเซะฝีมือจนท.รัฐ-เปิดร.ร.4 ธ.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลปัตตานีแถลง ผลชันสูตร 32 ศพเหตุการณ์กรือเซะ ชี้ชัด เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ญาติผู้เสียชีวิตมีสิทธิฟ้องอาญา เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ได้ ขณะที่ผลประชุมการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยครู หลังปิดโรงเรียน 3 จว.ชายแดนใต้ ตามมติสมาพันธุครูฯ แม่ทัพภาค4 สรุป เพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยครูทั้งไปและกลับ ขณะที่การปิดโรงเรียนที่ไหนมั่นใจจะเปิดก็พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลตั้งแต่วันนี้ ด้านสมาพันธ์ครู3 จว.ใต้ ระบุ โรงเรียนส่วนใหญ่เปิด 4 ธ.ค. ขณะที่โรงเรียนปอเนาะที่นราฯไม่ปิด และโรงเรียนในเขตเทศบาลปัตตานีเปิดวันนี้

วานนี้ (28 พ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 1 ศาลจังหวัด ปัตตานีได้นัดฟังคำสั่งศาลในคดีหมายเลขดำที่ ช. 4/47 กรณีคดีชันสูตรพลิกศพ 32 รายในเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2547 ที่พนักงานอัยการ จังหวัดปัตตานีและญาติผู้เสียชีวิต ยื่นคำร้องขอไต่สวนการตาย อันเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตมารอรับฟังคำสั่งศาลกว่า 20 คน

ศาลจังหวัดปัตตานี มีคำสั่งโดยสรุปว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 32 คน ถูกเจ้าหน้าที่กระทำให้เสียชีวิตและผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่รัฐโดย ใช้อาวุธเป็นมีดและปืน ในจำนวนนี้ มี 3 คน ทีเสียชีวิตเมื่อเวลา 05.00 น. โดย เสียชีวิตที่บริเวณป้อมยาม 1 คน และเสียชีวิตบริเวณหน้ามัสยิดกรือเซะอีก 2 คน ส่วนอีก 29 คน เสียชีวิตเมื่อเวลา 14.00 น. ในมัสยิดกรือเซะ ซึ่งเป็นการเสียชีวิตภายใต้คำสั่งการของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษา ความปลอดภัยภายใน (กอ.รมน.) และ พ.อ.มนัส คงแป้น ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ ปัตตานี พ.ต.ธนภัทร นาคชัยยะ นายทหารยุทธการกรมรบพิเศษที่ 3 (ยศในขณะนั้น) ทั้งนี้ ศาลปัตตานีจะได้ส่งคำสั่งศาลให้อัยการจังหวัดปัตตานีดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมปกติต่อไป

นายอนุกูล อาแวปูเตะ คณะทำงานสภาทนายความ กล่าวถึงคดีนี้ว่า ญาติของผู้เสียชีวิตมีสิทธิที่จะฟ้องคดีอาญาเอาความผิดกับเจ้าหน้าที่ ส่วนจะฟ้องร้องหรือ ไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งในส่วนของทนายความจะได้มีการหารือกับศูนย์นิติธรรมในวันที่ 7 ธ.ค.นี้

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการปิดโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น เย็นวานนี้(28พ.ย.)ได้มีการประชุมร่วมกัน ระหว่างสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวแทนจากเขตพื้นที่การศึกษา ทั้ง 7 เขตใน 3 จังหวัดและจาก 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา

กับฝ่ายความมั่นคง อาทิ นายพระนายสุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต. พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และจังหวัดสตูล ผอ.กอ.รมน.(ทหาร) ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจ( ผบ.ฉก.)ทุกหน่วย และผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ โรงแรม เซาท์เทิร์นวิว อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยห้ามสื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์

หลังการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เปิดแถลงผลการประชุมว่าโรงเรียน ที่เปิดอยู่แล้วไม่มีปัญหา ส่วนโรงเรียนที่ปิดอยู่ หากต้องการมาตรการรักษาความ ปลอดภัยเพียงใดให้ไปคุยรายละเอียดกับ ผบ.ฉก.ที่มีตัวเลข 2 ตัว ซึ่งทำหน้าที่ รักษาความปลอดภัยของแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ ฝ่ายทหารต้องการให้ครูทุกคนเข้าไปคุย เพื่อแลกเปลี่ยนกับเจ้าหน้าที่ ฉก.ที่ดูแลพื้นที่ว่าพอใจหรือไม่พอใจมาตรการ ที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้ไว้หรือไม่อย่างไร ต้องการให้เพิ่มเติมในจุดใด ส่วนกรณีที่ครูต้องการให้รักษาความปลอดภัยขณะเดินทางออกไปทำธุระก่อนเลิกเรียน ก็ขอให้ครูบอกมาว่าจะให้ทางเจ้าหน้าที่จัดชุด รปภ.ครูในเรื่องนี้ก่อนแล้วจะมีอีกชุด ตามมา รปภ.หลังเลิกเรียน

“โรงเรียนใดที่มีข้อสรุปกับทางฝ่ายเจ้าหน้าที่แล้ว คิดว่ามีความพร้อมจะเปิด เมื่อไหร่ก็ได้ จะเปิดพรุ่งนี้เลยก็ยังได้ แต่หากยังไม่มั่นใจจะขอปิดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีข้อสรุปแล้วเกิดความมั่นใจ แต่ทางฝ่ายความมั่นคงก็ขอบอกว่า จะให้เจ้า หน้าที่นำกองกำลังไปประชุมทุกจุดทุกโรงเรียนคงทำไม่ได้เพราะกำลังมีจำกัด และบาง พื้นที่ก็ไม่มีความจำเป็น แต่ทางเจ้าหน้าที่จะทำในลักษณะของงานจรยุทธ์มากกว่า” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

พล.ท.วิโรจน์กล่าวอีกว่าขณะนี้ กองทัพได้ส่งกองกำลังเข้าไปประจำในพื้นที่ ต่างๆ แทบทุกจุดแล้วเพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะครูเกิดความอุ่นใจ แต่จุดอันตราย คือการเดินทางเพื่อไปทำธุระส่วนตัว เพราะฉะนั้นครูก็ต้องดูแลตนเองกันให้มากกว่า นี้และต้องไม่เกิดความประมาท เพราะเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับครูคือการเดินทาง ไปทำธุระส่วนตัว ขณะนี้ฝ่ายคนร้ายได้รู้ความเคลื่อนไหวของครู และจะสะกดรอยตาม เมื่อมีโอกาส เพราะฉะนั้นจึงต้องการให้ ชรบ.อรบ.หรือทาง อส.ช่วยกันสอดส่องดูแล ให้มาก

ส่วนในกรณีที่ไม่มีชุดเหล่านี้ ให้ผู้ปกครองหรือประชาชนที่อยู่ใกล้ โรงเรียนช่วยกันเข้ามาดูแลและปกป้องครู ตอนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่บางส่วนลงไปคุยและทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ถึงผลกระทบที่จะตามมาหากครูถูกลอบทำร้าย

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวเพิ่มเติม กรณีกระแสข่าวเรื่องการส่งทหารลงมาทำ หน้าที่แทนครูว่า การส่งทหารลงมาทำหน้าที่ครูขอให้เป็นทางออกสุดท้าย หากครูทุกคนในพื้นที่ทำหน้าที่ต่อไปไม่ได้จึงจะดำเนินการต่อไป

นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดกล่าวว่าพอใจกับข้อตกลงที่ได้ พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง โดยผู้บริหารสถานศึกษาแต่ละโรงเรียนจะกลับไปดำเนินการ คุยกับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจประจำพื้นที่เพื่อหาจุดร่วมที่น่าพอใจ และตนขอ ยืนยันว่ากรณีที่สมาพันธ์ครูฯประกาศปิดเรียนอย่างไม่มีกำหนดนั้น ไม่ได้ต้องการกดดันฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงแต่อย่างใด แต่ต้องการรักษาชีวิตของครูทุก คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดได้พูดคุยกันเป็นการภายในและตกลง ให้โรงเรียนส่วนใหญ่ที่มีความพร้อม เปิดเรียนพร้อมกันในวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม นี้ ส่วนภายในจังหวัดปัตตานีมีรายงานโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมือง ปัตตานีจะเปิดพร้อมกันในวันพรุ่งนี้

**ปอเนาะในนราฯไม่สนมติสมาพันธ์ครู

ส่วนความเคลื่อนไหวขององค์กรครู ต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังสมาพันธ์ครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีมติประกาศให้โรงเรียนใน 3 จว.ชายแดนใต้ปิดโรงเรียนไม่มีกำหนด ปรากฏว่า วานนี้(28 พ.ย.) โรงเรียนหลายแห่งเปิดการเรียนการสอนตามปกติ เนื่องจากผู้บริหารพิจารณาเห็นว่า ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย และที่ผ่านมาการปิดโรงเรียนบ่อยครั้ง ได้ส่งผลกระทบต่อผลการเรียนของนักเรียนแล้ว ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่

นายไพศาล ตอยิบ นายกสมาคมโรงเรียนเอกชน สอนศาสนาอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้บริหาร ผู้อำนวยการโรงเรียน และตัวแทนครูเอกชนสอนศาสนาอิสลามใน จ.นราธิวาส กว่า 100 คนจาก 41 โรงเรียน หลังได้รับการประสานจากสมาพันธ์ครู 3 จว.ใต้ เพื่อขอความร่วมมือให้ปิดโรงเรียน และการเรียนการสอนตามมติของสมาพันธ์ครู ฯ หลังครูถูกยิงเสียชีวิตหลายศพ จากเหตุสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

หลังประชุมร่วมกันนานกว่า 3 ชั่วโมง สรุปว่า 1.เห็นควรให้โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติต่อไป เนื่องจากคำนึงถึงคุณภาพการศึกษาของนักเรียน 2.สมาคมเห็นควรให้แต่ละโรงเรียนวินิจฉัยสั่งการเองโดยอิสระ ในการสั่งหยุดหรือเปิดเรียนตามปกติ

3.กรณีที่เปิดทำการสอนตามปกติ ให้โรงเรียนคำนึงถึงความปลอดภัยของบุคลากรในโรงเรียนด้วย ถ้าหากบุคลากรมีความประสงค์จะขอหยุดทำการสอน เพราะเกรงกลัวอันตราย ก็ให้พิจารณาเป็นรายๆ ไป และ 4.ขอให้หน่วยงานของรัฐ พยายามตรวจตราดูแลความปลอดภัยแก่โรงเรียนทุกแห่งอย่างต่อเนื่องต่อไป

**โรงเรียนเทศบาลปัตตานี 5 แห่งเปิดวันนี้

ด้านจ.ปัตตานี นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี ยืนยันว่า โรงเรียน 5 แห่งในความดูแลของเทศบาลฯ เปิดสอนวันนี้(29 พ.ย.) สำหรับกรณีที่ครูหยุดสอนปิดเรียนโดยไม่มีกำหนด จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาของ เด็กนักเรียนในพื้นที่ เพราะคุณภาพทางการศึกษาเดิมด้อยอยู่แล้ว เมื่อปิดเรียนโดยไม่มีกำหนดก็จะมีปัญหาเพิ่มขึ้น และส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่ประกาศปิดโรงเรียนทั้งหมด แต่เห็นว่า ควรปิดเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เลี่ยงภัย หรือครูกลัวจะได้รับอันตรายเท่านั้น ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในเมืองหรือเขตเทศบาลน่าจะเปิดการเรียนการสอนได้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีโรงเรียนภาคเอกชนบางแห่ง ซึ่งอยู่ในเขตเมืองก็จะเปิดเรียนในวันนี้เช่นกัน

**ร.ร.ทั่วนราฯ-ยะลาสร้างเอกภาพปิด 3วัน

ส่วนที่จ.นราธิวาส นายสงวน อินทร์รักษ์ รองประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า คณะกรรมการสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาสเห็นว่า โรงเรียนในจ.นราธิวาสทั้งหมด ควรหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อเป็นการแสดงความเป็นเอกภาพของกลุ่มครู และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้จัดวางมาตรการการดูแลความปลอดภัยให้แก่ครูเข้มงวดมากขึ้น โดยโรงเรียนทั้ง 360 แห่ง จะหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 วันนับตั้งแต่วันนี้(29 พ.ย.)

นายสัญญา สุวรรณโพธิ์ ประธานสมาพันธ์ครูยะลา กล่าวว่า ที่ประชุมสมาพันธ์ครูยะลา ได้มีมติให้หยุดการเรียนการสอนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เป็นดุลพินิจของผู้บริหาร ว่าจะหยุดการเรียนการสอนได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สำหรับโรงเรียนในพื้นที่จ.ยะลา โรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 ซึ่งเกิดเหตุร้ายล่าสุดด้วยการลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านบาเจาะ ได้หยุดการเรียนมาแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และวันจันทร์ ที่ 27 พ.ย.2549 โดยโรงเรียนจำนวน 90 โรง จากโรงเรียนที่มีอยู่ในสังกัดจำนวน 108 โรงเรียนจะหยุดการเรียนการสอน

ส่วนโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ยะลา เขต 1 ซึ่งมีการก่อเหตุต่อครูน้อยกว่า ได้หยุดการเรียนเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ อ.กรงปินัง จำนวน 9 โรง เนื่องจากมีเขตติดต่อกับพื้นที่อ.บันนังสตา และผู้บริหารในหลายโรงถูกโทรศัพท์ ข่มขู่หมายชีวิต จึงขอเวลาในการทำความเข้าใจ และชี้แจงถึงเหตุผลของการหยุดเรียนให้แก่นักเรียนได้รับทราบ เพื่อนำไปชี้แจงกับผู้ปกครองต่อไป

ด้านนางสาวนภาพร เรืองทวีป ผู้ประสานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 ประจำ อ.เบตง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ในส่วนของโรงเรียนใน อ.เบตง ซึ่งสังกัดเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 2 และสังกัดเทศบาลจำนวน 36 โรง จะปิดการเรียนการสอนทั้งหมดวันนี้ 1 วัน และเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนของนักเรียน โดยผู้บริหารโรงเรียนได้ประเมินสถานการณ์แล้ว และมีมติร่วมกันว่า จะเปิดทำการเรียนการสอนเป็นปกติได้ในวันพฤหัสบดี 30 พ.ย.

**สมาพันธ์วิชาชีพครู 5 จว.ใต้ถกผลกระทบ 2 ธ.ค.

ด้านนายไพรัช วิหะกะรัตน์ ประธานสมาพันธ์วิชาชีพครู 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) กล่าวว่า สมาพันธ์วิชาชีพครู 5 จว.ชายแนใต้ เตรียมประชุมและหารือกับทุกฝ่าย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยครอบคลุมทั้ง 5 จังหวัด ในวันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. ที่สหกรณ์ออมทรัพย์นครหาดใหญ่ โดยจะเชิญผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบทุกฝ่าย ทั้ง 5 จังหวัดทั้งตัวแทนครู ผู้ปกครองนักเรียน และประชาชนที่เดือดร้อนจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น มาหารือถึงความต้องการต่าง ๆ และมาตรการแก้ปัญหารวมทั้งการช่วยเหลือ ก่อนที่จะสรุปประเด็นรวบรวมนำเสนอนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพื่อให้การแก้ปัญหาและการให้ความช่วยเหลือตรงจุดและเป็นไปตามความต้องการของทุกกลุ่มองค์อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ จะมีการเสนอให้ตั้งเครือข่ายผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกคณะหนึ่ง เพื่อเป็นเจ้าภาพในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งจะหารือกับทุกฝ่ายอีกครั้งถึงความเป็นไปได้

**โจรใต้ยิงถล่มชุดรปภ.ครูก่อนระเบิดซ้ำ

ด้านสถานการณ์ความรุนแรงวานนี้ ที่จ.นราธิวาส คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงทหาร ร.อ. 1312 ฉก.34 ชุด รปภ.ครู ขณะกำลังลาดตระเวนถึงสะพานบ้านอาแน หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ ส่งผลให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่เสียหลักลงจอดข้างทาง จากนั้นคนร้ายได้กดชนวนระเบิดซ้ำหวังสังหารหมู่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้ จนเป็นเหตุปะทะประมาณ 5 นาที ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะล่าถอยหนีไป โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่อ.รามัน ยะลาคนร้ายใช้อาวุธสงคราม ดักซุ่มยิง นายอับดุลรอแม การีอูมา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลข ที่ 69 หมู่ที่ 2 ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา มีตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขณะกลับจากทำสวนยาง ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยนายอับดุลรอแม เป็นน้องชายของ นายดาโอ๊ะ การีอูมา ผู้ใหญ่ บ้านหมู่ที่ 2 ซึ่งถูกคนร้ายลอบยิงด้วยอาวุธสงครามเสียชีวิต เมื่อปี 2547

อีกรายคนร้ายลอบยิงชาวบ้านในอ.บันนังสตาได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพราะกลัวคนร้ายลอบโจมตี

**ผบ.ทร. กำชับกำลังพลในภาคใต้เพิ่มความระมัดระวัง

พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนใต้ ว่าจากการที่ได้ไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ จ.นราธิวาส เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า การปฏิบัติงานยังคงเน้นในเรื่องการดูแลความปลอดภัย ทุกข์สุขของประชาชนอย่างใกล้ชิด การสร้างความเป็นมิตรกับประชาชน รวมทั้งขวัญและกำลังใจของกำลังพลยังเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้เพิ่มความระมัดระวังในขณะออกปฏิบัติหน้าที่ และการดูแลหน่วยเพื่อความไม่ประมาท

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการตั้งค่าหัว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ผบ.ทร. กล่าวว่า เพิ่งได้ยินข่าวนี้จากสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก แต่คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเพียงข่าวลือ เพราะประธานคมช.มีความเป็นห่วงปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมาก

“พยายามทุ่มเททำความดีทุกอย่าง เพื่อแก้ไขปัญหา จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีคนเกลียดขนาดนั้น ทุกครั้งที่พบกัน พล.อ.สนธิ ก็จะพูดถึงปัญหาในภาคใต้” พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น