xs
xsm
sm
md
lg

ไทย- เวียดนามหารือหนุนท่องเที่ยวทางบก เชื่อหลังสะพานโขง2เปิดปริมาณทัวร์เพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตัวสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ที่ทอดยาว 1,600 เมตร ซึ่งมองจากริมน้ำโขงฝั่งไทย โดยหลังเปิดใช้สะพานแห่งนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเชื่อว่า การค้า การท่องเที่ยวจะคึกคักมากขึ้น
อุดรธานี-ผู้แทนหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-เวียดนามร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว หวังกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้เส้นทางหมายเลข 8-9 เดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นหลังสะพานข้ามโขง 2 เปิดใช้ เผยที่ผ่านมามีทัวร์บกผ่านไทย-ลาว-เวียดนามกว่า 1.5 แสนคนแต่ยังน้อยไปหากเทียบจำนวนประชากรทั้ง 3 ชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ที่ห้องประชุมอุดรดุษฎี โรงแรมเจริญโฮเต็ลอุดรธานี ได้มีการจัดสัมมนาการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางบกระหว่าง ไทย-เวียดนาม-ลาว โดยมีนายหวู เถ บิ่ง หัวหน้ากรมส่งเสริมการท่องเที่ยว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นำคณะผู้แทนองค์กรการท่องเที่ยวจาก เมืองกวางนิงห์ , เหง่อานห์ , เว้ , ฮานอย , ผู้บริหารและผู้แทนองค์กรด้านการท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว( สปป.ลาว ) สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ททท.) เขต 3 เขต 4 และ 5 และตัวแทนบริษัทการท่องเที่ยว 26 บริษัทจาก 3 ประเทศ รวมกว่า 300 คน เข้าร่วมสัมมนา

นายหวู เถ บิ่ง หัวหน้ากรมส่งเสริมการท่องเที่ยว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวว่า รัฐบาลเวียดนามให้ความสนใจ กับการท่องเที่ยวทางบกมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชื่อมต่อระหว่าง 3 ประเทศคือไทย-ลาว-เวียดนาม , ลาว-เวียดนาม

ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางในเส้นทางผ่าน 3 ประเทศมาแล้วกว่า 150,000 คน โดยใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 8 และหมายเลข 9 แต่หากเปรียบเทียบกับประชากรของทั้ง 3 ชาติแล้ว ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยอยู่ รัฐบาลเวียดนามจึงอยากส่งเสริมการท่องเที่ยวทางบกให้เพิ่มมากขึ้น จึงให้กรมส่งเสริมเสริมการท่องเที่ยวดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์

ปัจจุบันการเดินทางโดยรถยนต์ไปเวียดนาม มีความสะดวกสบายมากขึ้น และหากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จ.มุกดาหารไปยังแขวงสะหวันนะเขตแล้วเสร็จ มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวทางบกเดินทางเพิ่มขึ้น

สำหรับการสัมมนาร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ซึ่งที่ผ่านมา อุดรธานี เมืองหลวงพระบาง และเมืองกวางนิงห์ ได้ร่วมมือประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแหล่งมรดกโลกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดสัมมนาในครั้งนี้ อีกนัยหนึ่งเป็นการจัดขึ้นเนื่องในโอกาสวาระครบรอบ 30 ปี การสถาปนาทางการทูตระหว่างเวียดนาม-ไทยอีกด้วย

ด้านนายจารึก ปริญญาพล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานีเป็นจังหวัดหนึ่งของภาคอีสานตอนบน มีประชากร 1.5 ล้านคนเศษ มีความเจริญทางเศรษฐกิจลำดับที่ 3 ของภาค ความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ของอุดรธานีกับเวียดนาม และ สปป.ลาว เป็นการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ การพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ที่มีเป้าหมายแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สถานที่ท่องเที่ยว และการเพิ่มจำนวนและรายได้ จากการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน

ความสัมพันธ์กับประเทศเวียดนามในเชิงรูปธรรม ที่ผ่านมา คือการนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ของอุดรธานีไปออกร้านและจัดนิทรรศการในเมืองต่างๆ ของเวียดนามหลายครั้ง โดยใช้การเดินทางทางบก ซึ่งปัจจุบันมีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้นกว่าอดีต และการเดินทางโดยเครื่องบิน ไปยังเมืองฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้ และในอนาคตมีการส่งเสริมให้มีการเดินทางตรงจากอุดรธานี ไปยังเมืองสำคัญๆของเวียดนามเพิ่มขึ้น ซึ่งท่าอากาศยานอุดรธานี มีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาเป็นสนามบินนานาชาติแล้ว

นายจารึก ระบุอีกว่า คนไทยกับคนเวียดนามในภูมิภาคนี้ มีความสัมพันธ์มาเป็นเวลานาน เนื่องจากในอีสานมีชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม อาศัยอยู่กว่า 100,000 -150,000 คน มีความเป็นอยู่เหมือนคนไทย สนิทสนมกลมเกลียว และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ทางสังคมร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

ในอนาคตเมื่อมีความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว จะเกิดการการพัฒนารูปแบบ และกิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว และจะเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น