xs
xsm
sm
md
lg

วุฒิสมาชิก หมี หมู หมา กับประชาธิปไตยไทย

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ


ท่านผู้อ่านมีอารมณ์ขัน โทร.มากระเซ้าหาว่าผมอำ เอาเรื่องสาวอพยพชาวม้งได้เป็นวุฒิสมาชิกของรัฐมินเนโซต้ามาเล่า ใครจะไปเชื่อ ชาติหน้าบ่ายๆ

ความจริง ผมไม่อยากสนองอารมณ์ของผู้อ่านทุกเรื่อง ซ้ำผมกำลังอยู่ในอารมณ์อยากเขียนเรื่องรัฐธรรมนูญกับการปฏิรูปการเมือง และการสร้างระบอบประชาธิปไตยมากกว่า

ผมเห็นว่าบ้านเมืองของเราหลงทางมาเกือบ 75 ปีแล้ว ถ้าคราวนี้ยังเตลิดเข้าป่าอีก น่ากลัวจะกู่ไม่กลับ จนกระทั่งจะไม่เหลือทั้งระบอบประชาธิปไตยและสถาบันกษัตริย์

มีผู้หวังดีอีกเหมือนกัน คอยปลอบว่า ใช่ว่าผมพูดแล้วจะได้อะไรขึ้นมาเมื่อไร แก่จนปานนี้แล้ว เลี้ยงหลานดีกว่า

ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ก็เพราะห่วงหลานนี่แหละ ผมจึงเขียน ผมอยากให้ชีวิตเขาเติบโตมีความสุขอยู่ใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นระบอบที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย

มีคนลือ แต่ผมไม่เชื่อดอกว่า อดีตนายกฯทักษิณเป็นเด็กชาวเขาเผ่าม้ง ที่คุณเลิศ ชินวัตร นำมาเลี้ยงไว้ เขาจึงมีชื่อเล่นว่าแม้ว

ตอนต้นกึ่งพุทธกาล ผมเคยไปกินนอนอยู่บนภูเขากับชนเผ่าแม้ว นานๆ จึงจะมีเพื่อนจากที่เจริญขึ้นไปเยี่ยมสักที ที่จำได้มีอาจารย์สุเทพ สุนทรเภสัช จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปอยู่ด้วยเกือบเดือน ได้ฉลองปีใหม่แม้วด้วยกัน ผมเกิดความเชื่อฝังใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า แม้วหรือชาวเขาเผ่าม้งมีวัฒนธรรมและความเจริญทางจิตใจไม่แพ้ชุมชนมนุษย์อื่นๆ ซ้ำจะดีกว่าตรงที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือมีความรักสามัคคีในหมู่คณะและเชื้อชาติของตนเป็นที่สุด

นี่น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งหรือไม่ ที่ หมี หมู หมา เด็กหญิงเผ่าม้ง จากค่ายอพยพบ้านวินัย ประเทศไทย สามารถฝ่าอุปสรรคอันเหลือเชื่อ ทะยานขึ้นไปเป็นวุฒิสมาชิกแห่งสภามลรัฐมินเนโซต้า รัฐที่ก้าวหน้าทางสังคมและการเมืองที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

ผมเขียนเรื่องของเธอ ด้วยความเคารพและหวังจะให้เป็นบทเรียนแห่งความจรรโลงใจสำหรับประชาคมไทยในอเมริกา และคนไทยในชนบทที่ยากจนต่ำต้อยน้อยหน้าทั้งหลาย

บทเรียนนั้นก็คือ ที่ใดมีประชาธิปไตย ที่นั้นย่อมจะมีโอกาสเท่าเทียมให้กับทุกคน

ผมขออธิบายเป็นภาษาอังกฤษว่า level playing field หมายถึงโอกาสหรือสนามเล่นที่ทุกคนเท่ากัน เด็กม้งอพยพคนหนึ่ง ถ้าใจสู้ซะอย่าง ก็อาจจะเอาชนะเพื่อนที่เป็นลูกเศรษฐีอเมริกันได้ เพราะโอกาสในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเปิดให้ ในขณะที่เด็กไทยที่บ้านวินัยหรือทั้งจังหวัดเลยจะไม่มีโอกาสเช่นนั้นเลย

ผมต้องขออภัยที่เขียนชื่อเธอเพี้ยนไปเล็กน้อย ทั้งนี้มิได้มีเจตนาจะล้อเลียน แต่ต้องการช่วยมิให้ท่านผู้อ่านลืม จะได้พากันจดจำสาระต่างๆ ที่ควบมาด้วย

ต่อไปนี้ผมขอเรียกเธอสั้นๆ ว่า หมี

หมีเกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1969 หรือพ.ศ. 2512 ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลและกันดารในจังหวัดเชียงของ ประเทศลาว เธอเกิดที่นั่นเพราะพ่อของเธอ หลังจากจบการฝึกอบรมเป็นเสนารักษ์หรือผู้ช่วยแพทย์ทหาร ถูกจับส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปประจำหมู่บ้าน เพื่ออบรมฝึกฝนชาวเขาเผ่าแม้วให้เป็นผู้ช่วยต่อ มีหน้าที่เดินทางติดตามกองทหารอเมริกันหรืองกองทัพลาวไปตามหมู่บ้านที่เป็นป่าเขาและดงดอย เพื่อทำหน้าที่ช่วยนำทาง หาทหารอเมริกันที่หาย และรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

ท่านผู้อ่านหลายคนคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ถึงความเก่งกล้าสามารถของกองทหารม้ง ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลวังเปา เมื่ออเมริกันประสบความพ่ายแพ้ในอินโดจีน นายพลวังเปาได้รับความอุ้มชูเป็นพิเศษจากรัฐบาลอเมริกัน ถึงขนาดล่ำลือกันว่าสามารถสถาปนาตนเป็นเจ้ามีลูกเมียมากมายกระจายกันอยู่หลายรัฐ ซ้ำร้ายยังเคยเป็นข่าวว่าสมคบกันกับฝ่ายขวาซากเดนในประเทศไทย ใช้เงินสนับสนุนของอเมริกันเข้าไปรบกวนความสงบภายในของลาวอยู่บ่อยๆ

เขียนเรื่องนี้เสร็จแล้ว ผมตั้งใจจะเขียนถามหมีว่าเธอทราบหรือไม่ พร้อมกับถามว่าเธอจะเต็มใจรับเชิญกลับมาเยี่ยมเมืองไทยหรือไม่ ถ้ามาเธอจะไม่เห็นค่ายผู้อพยพบ้านวินัยที่แสนจะแออัดอีกแล้ว เพราะรัฐบาลไทยได้ปิดค่ายดังกล่าวลงในปี 2535 ปี ปีที่เธอจบการศึกษาปริญญาตรี จากบราวน์ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา อยู่ในเครือไอวีลีกเช่นเดียวกับฮาร์วาร์ดและเยล แต่เด็กผู้หญิงนิยมเข้าที่นี่มากกว่า เชลซี คลินตัน ลูกสาวประธานาธิบดีคลินตันก็จบที่นี่

“Go, Mee, go!” “Go, Mee, go!” อีก 10 ปีต่อมา ในปี 2002 เสียงตะโกนกึกก้อง “Go, Mee, go!” “Go, Mee, go!” ซึ่งอาจจะแปลได้ว่า “บุกหมีบุก” หรือ “ไปหมีไป” ก็ได้ยินกันไปทั่วเขตเลือกตั้งที่ 67 ของนครเซนต์ปอล รัฐมินเนโซตา เมื่อเด็กสาวที่อำลาจากค่ายบ้านวินัยเมื่อปี 1978 จะได้เปลี่ยนสภาพจากทนายสาวไปเป็นวุฒิสมาชิกผู้ทรงเกียรติแห่งสภาสูงมลรัฐมินเนโซตา เธอเฆี่ยนคู่แข่งอีก 3 คนด้วยคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่ง และกลายเป็นนักการเมืองดาวรุ่งของพรรค DFL หรือเดโมแครต ฟาร์เมอร์เลเบอร์ (หรือพรรคเดโมแครตแห่งมินเนโซตาที่เพิ่มสัญลักษณ์ชาวนาและแรงงานเข้าด้วย)

“Go, Mee, go!” “Go, Mee, go!” คือเสียงตะโกนของผู้สนับสนุนทั้งฝรั่งผิวขาว ทั้งแอฟริกันอเมริกัน ทั้งเอเชียนอเมริกัน อเมริกันขาวคนหนึ่งบรรยายว่า “เธอไม่ใช่แมรี่ เธอไม่ใช่เคธี่ เธอคือ หมีหมูอา ชื่อดั้งเดิมของเผ่าม้งที่พ่อเธอตั้งให้เมื่อ 32 ปีที่แล้ว ฉันปลื้มมาก ฉันตื่นเต้นมาก ฉันดีใจอย่างสุดประมาณ ขอแสดงความยินดีกับหมีหมูอาด้วยหัวใจทั้งดวง”

หมีหนีตายมากับพ่อแม่และน้องอีก 2 คน เธอมาอยู่ในค่ายอพยพที่บ้านวินัย ซึ่งเธอบอกว่ายังจดจำนิทาน ความสนุกและความเหนื่อยหิวในบางครั้งที่ได้รับอาหารไม่พอ พ่อเธอเป็นผู้ช่วยแพทย์มีอาชีพเสริม ครอบครัวจึงมีความสุขสบายพอควร เธอจำอะไรเกี่ยวกับลาวไม่ได้เลย แต่จำบ้านวินัยได้ดี

ครอบครัวหมีอพยพไปอยู่ในรัฐวิสคอนซินเป็นแห่งแรก กว่าเธอจะพูดภาษาอังกฤษได้ก็ใช้เวลาหลายปี แต่เมื่อได้แล้ว ทุกอย่างก็พรั่งพรูมา เธอสามารถร้องเพลง เล่นเปียนโนและเป็นผู้นำกิจกรรมที่โบสถ์ เมื่อย้ายไปอยู่ที่เซนต์ปอลเธอก็เริ่มสนใจการเมืองและชีวิตอันหลากหลายและปัญหาของชาวเมืองนั้น เธอเรียนเก่งจึงได้ทุนไปเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา จบแล้วไปเรียนปริญญาโททางรัฐศาสตร์ต่อที่ วิทยาลัยที่ตั้งชื่อตามประธานาธิบดีจอนสัน ในมหาวิทยาลัยเท็กซัส จบแล้วกลับมาต่อกฎหมายที่มินเนโซตาเพราะทนคิดถึงบ้านไม่ไหว พอเริ่มงานเป็นทนายยังไม่ทันไร ก็กระโจนเข้าสู่สนามการเมือง

เธอได้รับเลือกอีกทุกสมัยด้วยคะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และได้รับเลือกเป็นผู้คุมเสียงข้างมากตั้งแต่ปี 2004 เรื่อยมา และได้นำหน้าที่ในกรรมาธิการสำคัญหลายคณะ ผู้ที่สนับสนุนเธอหาใช่มีแต่ม้งหากเป็นพันธมิตรที่กว้างขวางจากหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนผิวขาว

พวกเขาบอกว่าจะไม่แปลกใจเลย ถ้าหากในอนาคตเธอจะจัดกระเป๋าย้ายที่ทำงานไปกรุงวอชิงตัน เพราะเขาคาดล่วงหน้าอยู่แล้ว วันหนึ่งเธอจะกลายเป็นผู้นำระดับประเทศ!

เล่ามาทั้งหมดนี้ ท่านอาจจะถามว่า หมี หมู หมา มันเกี่ยวอะไรกับประชาธิปไตยไทย ประชาธิปไตยไทยมันเกี่ยวกับเสือสิงห์กระทิงแรดต่างหาก

จริงครับ จะไม่เกี่ยวก็ได้ ถ้าหากไทยยังเป็นสังคมปิด และคนไทยพากันปิดตาปิดใจ ทำเป็นเหมือนกับว่าเราเป็นสังคมพม่า หรือผู้นำของเราที่เป็นมิตรกับนายพลพม่ามีความคิดและจิตใจปิดเหมือนนายพลผู้ปกครองพม่าทั้งหลาย

แต่ถ้าเราจะลองเปิดตาเปิดใจสักนิด เราก็อาจจะเริ่มตั้งคำถามหรือหาคำตอบให้ตัวเองในเรื่องเหล่านี้

1. ลองคิดดูว่าป่านนี้ถ้าหมียังอยู่ที่บ้านวินัย เธอจะเป็นอะไร หรือว่าเธอถูกส่งกลับลาวในปี 1992 เธอจะเป็นอย่างไร ผู้ที่ถูกส่งกลับในปี 1992 นั้นมีหรือไม่ที่มีความสามารถและอาจไปได้ไกลเท่าเธอ ถ้ามีโอกาสเท่ากันใน level playing field

2. โอกาสของเด็กไทยแท้ๆ ที่เป็นเจ้าบ้านที่ค่ายบ้านวินัยหรือจังหวัดเลยเมื่อเทียบกับหมี

3. โอกาสและชีวิตของชนกลุ่มน้อยในประเทศไทยทั้งๆ ที่เกิดในประเทศไทย เช่น บุตรชาวเวียดนามอพยพ พี่น้องชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ชาวเขาเผ่าต่างๆ รวมทั้งม้ง เขาเป็นพลเมืองชั้นสอง หรือมีสิทธิทางการเมืองเท่ากับคนไทยทั่วไป

4. ชุมชนไทยอพยพไปหากินในอเมริกาก่อนชาวม้งหรืออินโดจีนอื่นๆ ร่วมสิบปี เราจะเรียนรู้หรือได้บทเรียนอะไรจากชุมชนม้งบ้าง นอกจากจะคอยหัวเราะเยาะขบขันเขาเหมือนกับที่คนไทยส่วนหนึ่งชอบทำกับประเทศเพื่อนบ้าน ผมว่าเราควรเรียนเรื่องความสามัคคีและการจัดตั้งจากชนเผ่าม้ง หรืออาจจะอาศัยชนเผ่าม้งมี่มีมากมายในรัฐแคลิฟอร์เนียให้ยกพลังกลุ่มหรือศักยภาพทางการเมืองของชุมชนไทยให้สูงขึ้น ไม่แน่ว่าม้งอาจจะช่วยให้เรามีผู้แทนในสภาคองเกรสอเมริกันก็ได้

5. ผู้ที่ร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวและอนาคต น่าจะเก็บข้อมูลว่าสาวม้งอายุ 32 โอนชาติเมื่อใดไม่ทราบ แต่อยู่ในอเมริกาไม่นานปี ก็เป็นวุฒิสมาชิกได้ เราก้าวหน้าและรักชาติจริงหรือจึงกำหนดว่าคนไทยโดยกำเนิด อายุตั้ง 35 ปีจึงจะเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติได้

6. ผมอยากตั้งข้อสังเกตว่าการเรียนรู้เพื่อจะเป็นประชาธิปไตยและเป็นนักการเมืองของหมีนั้น ส่วนใหญ่มาจากชุมชนและในโรงเรียนเกือบทั้งสิ้น ระบบการศึกษาและการเรียนรู้ในชุมชนของเราให้อะไร จึงผลิตแต่ผู้นำที่สามหาวอวดดี เป็นอัศวินแห่งสถานภาพเดิม และเป็นผู้พิทักษ์รักษาวัฏจักรน้ำเน่าและวงจรอุบาทว์ให้แก่สังคมไทยยุคแล้วยุคเล่า

7. ถ้าผมเป็นรัฐบาล ผมจะเชิญหมีมาเมืองไทย มอบความเป็นพลเมืองกิตติศักดิ์ให้เธอ อาศัยบทเรียนและความจรรโลงใจจากเธอไปพัฒนาความสามัคคีและศักยภาพทางประชาธิปไตยของชนกลุ่มน้อยและชาวชนบท หรือเรื่องอื่นๆ ที่เธอมีประสบการณ์เป็นผู้นำ

8. ถ้าผมเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากผมจะต้องคิดว่าจะมีวุฒิสภาดีหรือไม่ ถ้ามีสมควรจะเลือกตั้งอย่างไร สังกัดพรรคหรือไม่ ผู้สมัครควรจะอายุอย่างต่ำเท่าไร สิ่งเหล่านี้น่าจะหาข้อมูลเปรียบเทียบจากกรณีของหมีได้ และที่สำคัญอาจจะศึกษาด้วยว่าทำอย่างไรจึงจะมีวุฒิสมาชิกดีเหมือนกับหมี หมู หมา แทนที่จะมีวุฒิสมาชิกหมาๆ อย่างเดียวเกือบเต็มสภา

“Go, Mee, go!” “Go, Mee,go!”

กำลังโหลดความคิดเห็น