xs
xsm
sm
md
lg

คุกยังไม่พอสำหรับการกลับมาของรัฐบุรุษ

เผยแพร่:   โดย: ยอดธง ทับทิวไม้

จนกระทั่งถึงวันนี้ ภารกิจด้านความรู้สึกนึกคิดและจิตใจของคนไทยทั่วประเทศยังไม่อาจจะคลี่คลายลงไปได้มากนัก ไม่ว่าจะสาปแช่งประการใด ทั้งๆ ที่มีคนหนีออกไปนอกประเทศในฐานะที่ได้กระทำการต่างๆ ในการขายชาติ และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพซึ่งควรจะได้มีการจบชีวิต และบทบาทลงไปโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง แต่ก็ยังจบไม่ได้เพราะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 60 ล้านคนอย่างประเทศไทยนี้ เราหมดคนที่รู้จักผิดรู้จักถูกและมีอำนาจไปแล้ว

นั่นคือการจัดการกับรัฐบุรุษของเราซึ่งเป็นนักขายชาติด้วยความตลบตะแลงทุกลมหายใจที่คนไทยธรรมดาส่วนใหญ่นึกไม่ถึงมาเป็นเวลานานปี นั่นคือ อดีตนายกรัฐมนตรีของเราซึ่งเดินทางออกไปนอกประเทศ เพราะมีผู้คนจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการคดโกง และการขายชาติอย่างไม่ยอมคำนึงถึงศีลธรรมและคุณความดีใดๆ

มีคนไม่น้อยที่สงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองในอนาคตของเรา คงเป็นเรื่องยากที่จะตอบได้ แต่คณะปฏิวัติและคณะรัฐบาลที่ถือว่ามีอำนาจในการปกครองประเทศชาติอยู่ในกำมือก็ไม่สามารถจะคาดหมายได้ แม้แต่ตัวผมเองที่ต้องเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการเมืองมาตลอดชีวิตก็ไม่กล้าหาญพอที่จะคาดหมายที่ใกล้เคียงได้ ผมรู้แต่เพียงว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่เราไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็นกันในไม่ช้านี้

แต่ก็จำเป็นจะต้องเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านกันก่อน

แต่ผมคงไม่เขียนตามความเห็นของผมเองทั้งหมดเสียทีเดียว ในฐานะที่เป็นนักโหราศาสตร์ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาโหราศาสตร์มาบ้าง และเมื่ออ่านตำราโหราศาสตร์ของยุคสมัยแล้วก็มองเห็นว่าความจริงมันน่าจะพอใช้ได้จริงๆ หรืออาจจะมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตที่เหมาะที่ควรได้ ในตำราบอกว่าโหราศาสตร์สามารถจะนำไปใช้ทำนายทายทักอะไรที่มันมีเวลาเกิดของมันเช่นเดียวกับดวงชะตาอื่นๆ ดวงชะตาของกรุงเทพฯ มันก็มีวันเวลาเกิดของมันที่นำมาผูกดวงชะตาได้ ในสมัยนั้นสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และสมเด็จพุฒาจารย์โต และสมณะชีพราหมณ์ในยุคนั้นทุกรูปก็ลงมติเห็นชอบไว้ และก็ทำนายสถานการณ์ที่เห็นได้จากดวงเมืองไว้อย่างถูกต้อง ผมก็น่าจะนำมาใช้อีกสักครั้ง เพราะจากประสบการณ์ของผมเอง หลักเกณฑ์ที่ผมนำมาใช้และกำลังศึกษาในเรื่องเหล่านี้อยู่โดยเอาดวงชะตากรุงเทพฯ เป็นหลัก และดวงดาวสำคัญที่จะเอามาตัดสินใจว่าดวงดาวที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นนั้นควบคุมและทำหน้าที่อยู่อย่างเช่น ฝนตกน้ำท่วมขนาดใหญ่ในปีนี้ทั่วทั้งประเทศมากบ้างน้อยบ้างก็เป็นความผิดปกติส่วนหนึ่งของดวงชะตาเมืองที่มีการบันทึกไว้ก็คือในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2328 หลังจากสร้างกรุงเทพฯ ได้ 5 ปีน้ำท่วมครั้งแรกในจังหวัดพระนคร-ธนบุรี วัดระดับน้ำได้เฉพาะที่ท้องสนามหลวงน้ำลึกได้ 8 ศอก 10 นิ้ว สนามหลวงในตอนนั้นเชื่อว่าทุ่งพระเมรุยังต่ำกว่าปัจจุบันนี้มาก ส่วนในพระบรมมหาราชวังน้ำท่วมในท้องพระโรงจักรพรรดิพิมานวัดได้ 4 ศอก 8 นิ้วถึงกับเสด็จออกขุนนางไม่ได้ ต้องย้ายที่ออกขุนนางไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 5 ศอกเศษ บรรดาขุนนางที่จะต้องเข้าเฝ้าปรึกษาราชการต้องลอยเรือกันเข้าไปเฝ้า

อีกหลายปีต่อมาเป็นระยะเวลาที่เรียกกันว่าข้าวยากหมากแพงที่สุด หลังจากตั้งกรุงเทพฯ ขึ้น ข้าวยากหมากแพงขึ้นมาถึงขนาดที่เรียกว่าข้าวเปลือกเกวียนละ 80 บาท ข้าวปลาอาหารแพงทั่วประเทศนานถึงพ.ศ. 2329 ทำให้นึกถึงประเทศไทยปีนี้ ซึ่งปรากฏว่าน้ำท่วมทั้งเหนือภาคใต้ แม้แต่ในภาคกลางโชคร้ายที่สุด ท่วมกระทั่งกรุงเทพฯ ถ้าป้องกันไว้ไม่ดีหรือไม่มีเขื่อนป่าสักฯ ช่วยกั้นไว้น้ำก็จะท่วมอย่างหนักเช่นเดียวกับปี 2485 ที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ

และนักโหราศาสตร์รุ่นเก่าของเรา ได้บันทึกไว้เป็นจำนวนมากทุกครั้งที่เกิดฝนผิดปกติในเมืองไทย สมเด็จพระมหาสมณะกรมพระยาปวเรศวิริยาลงกรณ์ ถือกันว่าเป็นเอตทัคคะคนหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ได้ทรงบันทึกไว้ว่าเหตุที่ฝนตกรุนแรง และน้ำท่วมเมืองปีนั้นก็เพราะ “(8) ปีมะโรงปีมะเส็ง สัปตศก มฤตยู (0) สอดไส้ราหูจึงเกิดฝนตกน้ำท่วมใหญ่ คิดโดยอนุมานน่าจะได้ไม่น้อยกว่า 13,000 เซน”

เช่นเดียวกับในปีนี้ มฤตยูซึ่งเตรียมตัวมานานรอที่จะทำให้ฝนตกน้ำท่วมที่คนทำมาหากินที่ต้องอาศัยดินน้ำตามธรรมชาติมาตั้งปีที่แล้ว และโคจรเข้ามาสู่ราศีกุมภ์ซึ่งมีมฤตยูนอนคอยอยู่เป็นเวลาแรมปีแล้วก็มากุมกันอยู่ในราศีนั้น บอกว่าฝนจะต้องตกอย่างหนักหรือน้ำจะท่วมโดยทั่วไป ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนที่นักโหราศาสตร์ไทยยังมีฐานะเป็นโหรหลวงอยู่ก็คงไม่ละเลยที่จะคาดการณ์ต่อไป ที่หลายคนอาจจะเห็นความถูกต้องของวิชาโหราศาสตร์ได้ ไม่มีอะไรยากเย็นเพราะเพียงแต่น้ำท่วมยังไม่พอ คนที่ใช้ดินใช้น้ำสำหรับทำมาหากินทั่วประเทศ จะต้องใช้เวลาอีกนานที่จะสามารถหาทางทำมาหากินได้ หรือสามารถจะตะเกียกตะกายเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะปัญหาที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่เพียงแต่เรื่องข้าวยากหมากแพงเท่านั้น แต่มันจะหมดเนื้อหมดตัวเอาง่ายๆ ได้

หลักฐานทางโหราศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้อย่างที่ได้นำตัวอย่างต่างๆ ทำนองนี้ ทำให้ผมคิดขึ้นมาว่าจะลองมาทำนายทายว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่เมืองไทยในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งผมจะลองเขียนมาให้อ่านกันดูดังต่อไปนี้

1. ต่อการกลับประเทศของอดีตนายกรัฐมนตรีขายชาติของเราที่กำลังเดินเป็นผีไม่มีญาติอยู่ในขณะนี้ มีคนกังวลว่าท่านจะกลับมาเมืองไทยหรือไม่ หรือถ้ากลับมาจะมาทำอะไร

2. เมืองไทยจะเป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือเลวลง

3. เมืองไทยจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่

4. รัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังร่างกันอยู่ขณะนี้จะใช้ได้นานอีกกี่ปี

5. ปัญหาภาคใต้จะเป็นอย่างไรต่อไป


หลักการที่จะนำมาทำนายก็เช่นเดียวกับที่ครูบาอาจารย์โบราณท่านใช้ หรือข้อความเข้าใจในการทำงานของดวงดาวต่างๆไว้เท่าที่จำเป็น

ก่อนอื่นผมก็ขอตอบคำถามหรือความเข้าใจกว้างๆ ในคำถามที่ผมเก็บมาจากพรรคพวกและการสนทนาปราศรัยกับผม ห่วงบ้านเมืองที่ผมคุยกันได้เสียก่อนโดยจะตอบเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้ดังนี้

ข้อที่ 1

ท่านอดีตนักขายชาติที่ถูกกล่าวร้ายนั้น ไม่ได้กลับเมืองไทยแน่นอน เพียงแต่รอดูว่า จากกรรมที่ท่านได้ทำไว้มากมายหลายประการ กรรมเวรเหล่านี้จะนำหรือบอกกล่าวท่านเองว่าท่านจะตายเพราะอะไร ในตำราโหราศาสตร์ยืนยันชัดเจนว่า ในดวงชะตาของท่าน ดาวต่างๆ ที่ให้คุณท่านมาถึงขนาดนี้เป็นดวงที่ส่งท่านขึ้นมาเพื่อให้ท่านกลับมาใช้กรรมเก่า เพราะวันเกิดของท่านเป็นวันที่ดาวอาทิตย์ในดวงชะตาของท่านที่ดับแสงเข้าไปทับดาวต่างๆ ในดวงชะตาซึ่งรวมกันอยู่ในราศีกรกฎในระยะห่างเท่ากันเกือบทุกดวงเป็นดาวดับที่เรียกว่า Combustion โชคและความสำเร็จของท่านทุกอย่างในชีวิต แม้แต่เงินที่ขายชาติมาได้ ลูกเมียสุดที่รักของท่านก็จะแตกฉานซ่านเซ็น ความเจริญวัฒนาใดๆ ในดวงชะตานี้ไม่มีเหลือไว้สำหรับความหวังที่มนุษย์จะพึงหวัง

ข้อที่ 2

เมืองไทยและคนไทยน่าจะแย่มากขึ้น คนไทยจะมีอยู่เพียง 2 ประเภทเท่านั้น คือพวกที่ยากจนอย่างในแอฟริกาใต้ ไม่มีที่ทำมาหากิน ไม่มีทุนที่จะทำกิน จะถูกทำลายหมดเพราะคนที่มีเงินมีทุนกว่า แข็งแรงกว่า ร่วมมือกันขายชาติได้มากกว่า

ข้อที่ 3

ไม่มี จะมีแต่รัฐธรรมนูญที่สำนักพิมพ์กฎหมายจะพิมพ์ไว้ดูเล่น และสำหรับที่ใครมีอำนาจใช้เพื่อเอามาอ้างว่าเป็นประเทศที่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ข้อที่ 4

ต้องไปถามโรงพิมพ์รับจ้างพิมพ์รัฐธรรมนูญ แต่สำหรับผมไม่เชื่อว่าจะเกินปีครึ่งปี หลังจากมีการคอร์รัปชันในบ้านเมืองกันเพียงพอแล้วหรือขายชาติกันเรียบร้อยแล้ว

ข้อที่ 5

เรายังไม่มีคนมีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะสู้กับปัญหาได้เท่าที่ควร ถ้าชาติไทยไม่มีพวกกะล่อนหน้าโง่จำนวนมาก ก็ยังพอหวังว่าชาตินี้น่าจะแก้ปัญหาได้

เหตุผลที่ผมทำนายออกมาเช่นนี้ ข้อแรกมาจากดวงชะตาของท่านอดีตนายกฯ นั่นเอง คือ วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 เวลาเกิดเท่าที่โหรประจำตัวของท่านมาวางลัคนาเกิดของท่านที่ราศีกันย์ซึ่งจะเป็นเวลาเกิดก่อนเที่ยงเล็กน้อย แต่ผมไม่เชื่อเพราะว่าถ้าเกิดเวลานั้นจริง ราหู (8) บาปเคราะห์จะเล็งหรือมีระยะเชิงมุม 180 องศา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ตำราเก่ากล่าวไว้ว่าใครก็ตาม ถ้าราหูเล็งลัคนาแบบนั้นแล้วจะมีกรรมที่เรียกว่า “โทษแท้ ประหารหิน” คนที่ราหูเล็งลัคนานี้มีดาวอื่นผสมโรงเข้ามาด้วยแล้ว ขนาดเป็นขอทานก็ยังไม่พอกินจะดิ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีและขายชาติได้เป็นแสนๆ ล้านไม่ได้ ต้องเที่ยวเร่ร่อนจรจัดเหมือนผีไม่มีญาติอยู่ได้ยังไง ผมทดสอบมาเรียบร้อยและเชื่อว่าลัคนาเกิดของดวงนี้จะอยู่ที่อื่น คือพ้นจากราศีกันย์มาเกิน 3 องศาในจิตราฤกษ์ซึ่งฉิบหายอยู่ในขณะนี้ก็เพราะราหูตัวนี้เป็นอริในราศีมีนอีก เมื่อ วันที่ 22 ปีนี้ อาทิตย์เข้าทับอาทิตย์และดาวที่สำคัญในดวงชะตาเข้าอีก เป็นอันว่าโอกาสของชีวิตที่ได้สร้างเวรสร้างกรรมมาทั่วประเทศ ทั้งการหลอกลวงสามหาวก็จะเก็บดวงไว้อีกไม่เกินปีครึ่งข้างหน้านี้ เมื่อดาวเสาร์โคจรจากราศีสิงห์และราศีกันย์แล้ว ผมว่าถ้ามาติดคุกนอนเล่นอยู่ในเมืองไทยยังดีกว่าเป็นไหนๆ

สำหรับเรื่องอื่นๆ ทุกข้อนั้น ผมขอยืนยันว่าดีร้ายเป็นเรื่องดวงเดิมของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะวิเศษขนาดไหน ทุกดวงต้องรอรับกรรมของตัวเอง เพราะมีดาวที่สำคัญหลายดวงกำลังทวงเอาทุกอย่างใครทำอะไรไว้ ไม่ว่าเทมาเส็กจะเก่งกาจอย่างไรหรือป่าช้าเก่าที่สุวรรณภูมินั่นจะเรียบร้อยไปแล้ว แต่ผีเก่าที่นั่นยังคงเฝ้าอยู่บ้าง ดาวบาปเคราะห์กลุ่มแรกได้แก่ ราหูในราศีกุมภ์ที่กอดกันเล็งกับดาวเสาร์ในราศีสิงห์อยู่สองปีครึ่ง ตรงนี้แหละจะเห็นผู้ฉิบหายหลายคน หรือไม่คุกก็จะแตกเอาง่ายๆ จากนั้นก็มาที่พลูโตกำลังไปทับดวงเมืองเดิม 2 ดวงคือพฤหัสกับเสาร์ในราศีธนูอีก 248 ปี เรื่องอะไรที่ใครทำไว้ที่ไหน คนไม่เห็นคุกตะรางก็จะได้เห็น จะมีการเปลี่ยนแปลงสังคม เศรษฐกิจ การเงินอย่างหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว

ใครทำบาปทำกรรมหรือทำชั่วอะไรไว้ก็ขอให้คอยรับกรรมไว้ เฉพาะคุกที่เรามีอยู่ในขณะนี้อาจจะยังกว้างไม่พอสำหรับโสณทุจริตทุกนายที่พากันอู้ฟู่อยู่มาก่อนหน้านี้!!
กำลังโหลดความคิดเห็น