"เสนาะ"ปัดข่าวพรรคแตก หลัง"ประชัย"ยื่นใบลาออกจากเลขาธิการพรรค เพื่อกลับไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ยันไม่มีปัญหาขัดแย้งใดๆ ยอมรับไก้คุยกับ"สมศักดิ์-พินิจ"แต่จพอยู่พรรคประชาราชเป็นพรรคสุดท้ายในชีวิตนี้ ด้าน"ประมวล"ย้ำหากไม่จำเป็นจริง ๆ จะอยู่กับพรรคประชาราชต่อไป ระบุไม่ได้มีปัญหากับ ”สมศักดิ์ เทพสุทิน” แต่หากจะร่วมงานกันต้องตกลงกันก่อนว่ามีนโยบายตรงกันหรือไม่
หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า นายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช และนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เลขาธิการพรรคประชาราช จะลาออกจากพรรค เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช จะจับมือกับ นายพินิจ จารุสมบัติ หัวหน้ากลุ่มวังพญานาค และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม นำพรรคประชาราช ไปเป็นนอมินีให้กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)บางคนนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.)นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยมีสมาชิกพรรคร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารชี้แจงการลาออกของนายประชัย มาแจกจ่ายกับผู้สื่อข่าว
ต่อมา นายเสนาะ พร้อมด้วยนายประมวล นายบุญถึง ผลพานิชย์ รองหัวหน้าพรรค และนายประชัย ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายเสนาะ ปฏิเสธถึงความแตกแยกภายในพรรคประชาราช ซึ่งการลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเนื่องจากนายประชัย มีภารกิจมากมาย และได้มาทวงสัญญาว่าขณะนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรองสถานภาพพรรคเรียบร้อยแล้ว และเพื่อให้พรรคประชาราชเดินต่อไปได้ ขอให้ตนได้สรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแม่บ้านพรรคแทน
"แม้ว่าคุณประชัยจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค ก็ถือว่าคุณประชัย ต้องอยู่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคต่อไป เสมือนอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค หรืออาจจะยิ่งกว่าด้วยซ้ำไปในการที่จะต้องรับผิดชอบในการที่เราได้จับมือกันรับใช้ประเทศชาติในนามพรรคประชาราช"นายเสนาะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวการหารือกับนายสมศักดิ์ และนายพินิจ เพื่อตั้งพรรคเป็นนอมินี นายเสนาะ กล่าวว่า บุคคลที่กล่าวถึง ก็เหมือนกับลูกหลาน ก็เพียงแต่จับเข่าคุยกัน และก็คุยกันในทางสร้างสรรค์ ยืนยันว่าพรรคประชาราช หรือนายเสนาะ เทียนทอง ไม่มีทางไปเป็นพรรคนอมินีให้กับอำนาจเก่า แม้กระทั่งจะคิดก็ไม่มี หากเป็นอย่างนั้น ตนก็ควรที่จะตายเร็วกว่านี้ ไม่ควรมีชีวิตต่อไป
เมื่อถามถึงการเป็นนอมินีให้กับ คมช.นายเสนาะ กล่าวว่า ถ้า คมช.จะสืบทอดอำนาจ โดยเข้ามาอยู่ในกรอบกติกา ก็เป็นสิทธิที่จะเข้ามาเล่นการเมืองได้ ต้องอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาสืบทอดอำนาจ เมื่อถามว่าได้คุยกันบ้างหรือยัง นายเสนาะ กล่าวว่า ยังไม่มีเวลาที่จะคุยกันเลยในเรื่องนี้ เพียงแต่น้องนุ่ง ลูกหลานมาคุยกัน นายพินิจก็มา พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ก็มา เมื่อถามถึงนายพินิจ นายเสนาะ กล่าวว่า สื่ออย่าเพิ่งจับไอ้นั่นมาชนไอ้นี่ ตอนนี้นายพินิจหรือใครๆ ก็ยังไม่รู้สถานะของตนเองว่าจะเป็นอย่างไร พรรคจะถูกยุบหรือไม่
เมื่อถามถึงการจับมือกันตั้งพรรคใหม่ นายเสนาะ กล่าวว่า ตนคงไม่ไปตั้งพรรคใหม่แล้ว พรรคประชาราชเป็นพรรคสุดท้ายสำหรับนายเสนาะ เทียนทอง ทั้งนี้ การทำงานการเมืองมันไม่สำคัญว่าจะอยู่พรรคอะไร สำคัญอยู่ที่จิตใจในการที่จะมารวมตัวกันเพื่ออะไร หาจะรวมตัวกันเพื่อมีอำนาจ และไปหาผลประโยชน์อย่างที่แล้วๆ มา ก็อย่าคิดจะมาอยู่ร่วมกันเลย เมื่อถามถึงที่ทำการพรรค นายเสนาะ กล่าวว่า ที่ทำการพรรคยังคงอยู่ที่เดิม แต่ที่เราจะไปตั้งที่ใหม่ใกล้กับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ย่านดินแดง เพราะมีคนจัดการให้และอยู่ในที่เหมาะสม และเราจะได้ไปทำเป็นศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการจับมือร่วมกับ นายสมศักดิ์ นายเสนาะ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย เพียงแต่ไปรับประทานข้าวด้วยกัน นายสมศักดิ์ไปคุยกับตน 2 ครั้ง เมื่อถามถึงอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย จะกลับมาอยู่กับพรรคประชาราช นายเสนาะ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ขอเปิดเผย ไม่คุยโม้หรอกว่าจะมีอะไร อย่างไร แต่ยืนยันว่าพรรคประชาราช ไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอยๆ เมื่อถามถึงรักษาการณ์เลขาธิการพรรค นายเสนาะ กล่าวว่า กำลังหารือกัน ส่วนตำแหน่งอื่นที่บอกว่าจะให้กับนายประชัยนั้น นายเสนาะ กล่าวว่า มีหลายตำแหน่ง
ด้านนายประชัย กล่าวว่า การลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ก็เพื่อกลับไปทำธุรกิจส่วนตัว ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคได้ขอร้องให้ตนเข้ามาทำงานเพื่อล้มล้างทรราช และนำพรรคไปสู่การเป็นรัฐบาลด้วยพลังบริสุทธิ์ ดังนั้น เมื่อภารกิจแรก คือ การล้มล้างทรราช นำไปสู่การมีรัฐบาลชุดใหม่ที่บริสุทธิ์พอสมควรได้ทำสำเร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณหัวหน้าพรรค ที่ให้ความไว้วางใจ ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือ ต้องช่วยกันรณรงค์ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
"สิ่งใดที่รัฐบาลทรราชได้ทำการปล้นเยี่ยงโจรไป สิ่งนั้นต้องได้รับการแก้ไข และช่วยเหลือด้วยเช่นเดียวกัน และหลังจากมีการร่างรัฐธรรมนูญ และเป็นประชาธิปไตย คือ ไม่มีการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ก็อาจจะกลับมาใหม่ และขอฝากนายเสนาะ ให้เลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่ โดยหวังว่าพรรคประชาราช จะเป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล และขอยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวความแตกแยกภายในพรรค เพราะผมยังเป็นสมาชิกพรรคเช่นเดิม"นายประชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ลาออกจากเลขาธิการพรรค เพราะไม่สมหวังในการขอซื้อหุ้นทีพีไอ คืนจากรัฐบาล ใช่หรือไม่ นายประชัย กล่าวว่า ไม่ใช่ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องการค้า และรัฐบาลชุดนี้ได้ล้มทรราช จึงเชื่อว่าจะให้ความยุติธรรมกับประชาชน อย่างไรก็ตาม เรื่องการขอซื้อหุ้นทีพีไอคืน ตนได้ทำหนังสือถึงพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับความชัดเจนจากรัฐบาล
นายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงข่าวจะลาออกจากสมาชิกพรรคว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพวกตนได้ร่วมกันก่อตั้งพรรคประชาราชมา ดังนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะอยู่พรรคนี้ต่อไป และกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนไม่ลงรอยกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีแนวโน้มจับมือกับนายเสนาะนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีปัญหา เพราะตนมีปัญหากับบุคคลเดียวคือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนการร่วมงานกับกลุ่มดังกล่าว ต้องตกลงกันก่อนว่ามีนโยบายตรงกันหรือไม่
หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า นายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช และนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เลขาธิการพรรคประชาราช จะลาออกจากพรรค เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช จะจับมือกับ นายพินิจ จารุสมบัติ หัวหน้ากลุ่มวังพญานาค และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม นำพรรคประชาราช ไปเป็นนอมินีให้กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)บางคนนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.)นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยมีสมาชิกพรรคร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารชี้แจงการลาออกของนายประชัย มาแจกจ่ายกับผู้สื่อข่าว
ต่อมา นายเสนาะ พร้อมด้วยนายประมวล นายบุญถึง ผลพานิชย์ รองหัวหน้าพรรค และนายประชัย ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายเสนาะ ปฏิเสธถึงความแตกแยกภายในพรรคประชาราช ซึ่งการลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเนื่องจากนายประชัย มีภารกิจมากมาย และได้มาทวงสัญญาว่าขณะนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรองสถานภาพพรรคเรียบร้อยแล้ว และเพื่อให้พรรคประชาราชเดินต่อไปได้ ขอให้ตนได้สรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแม่บ้านพรรคแทน
"แม้ว่าคุณประชัยจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค ก็ถือว่าคุณประชัย ต้องอยู่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคต่อไป เสมือนอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค หรืออาจจะยิ่งกว่าด้วยซ้ำไปในการที่จะต้องรับผิดชอบในการที่เราได้จับมือกันรับใช้ประเทศชาติในนามพรรคประชาราช"นายเสนาะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวการหารือกับนายสมศักดิ์ และนายพินิจ เพื่อตั้งพรรคเป็นนอมินี นายเสนาะ กล่าวว่า บุคคลที่กล่าวถึง ก็เหมือนกับลูกหลาน ก็เพียงแต่จับเข่าคุยกัน และก็คุยกันในทางสร้างสรรค์ ยืนยันว่าพรรคประชาราช หรือนายเสนาะ เทียนทอง ไม่มีทางไปเป็นพรรคนอมินีให้กับอำนาจเก่า แม้กระทั่งจะคิดก็ไม่มี หากเป็นอย่างนั้น ตนก็ควรที่จะตายเร็วกว่านี้ ไม่ควรมีชีวิตต่อไป
เมื่อถามถึงการเป็นนอมินีให้กับ คมช.นายเสนาะ กล่าวว่า ถ้า คมช.จะสืบทอดอำนาจ โดยเข้ามาอยู่ในกรอบกติกา ก็เป็นสิทธิที่จะเข้ามาเล่นการเมืองได้ ต้องอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาสืบทอดอำนาจ เมื่อถามว่าได้คุยกันบ้างหรือยัง นายเสนาะ กล่าวว่า ยังไม่มีเวลาที่จะคุยกันเลยในเรื่องนี้ เพียงแต่น้องนุ่ง ลูกหลานมาคุยกัน นายพินิจก็มา พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ก็มา เมื่อถามถึงนายพินิจ นายเสนาะ กล่าวว่า สื่ออย่าเพิ่งจับไอ้นั่นมาชนไอ้นี่ ตอนนี้นายพินิจหรือใครๆ ก็ยังไม่รู้สถานะของตนเองว่าจะเป็นอย่างไร พรรคจะถูกยุบหรือไม่
เมื่อถามถึงการจับมือกันตั้งพรรคใหม่ นายเสนาะ กล่าวว่า ตนคงไม่ไปตั้งพรรคใหม่แล้ว พรรคประชาราชเป็นพรรคสุดท้ายสำหรับนายเสนาะ เทียนทอง ทั้งนี้ การทำงานการเมืองมันไม่สำคัญว่าจะอยู่พรรคอะไร สำคัญอยู่ที่จิตใจในการที่จะมารวมตัวกันเพื่ออะไร หาจะรวมตัวกันเพื่อมีอำนาจ และไปหาผลประโยชน์อย่างที่แล้วๆ มา ก็อย่าคิดจะมาอยู่ร่วมกันเลย เมื่อถามถึงที่ทำการพรรค นายเสนาะ กล่าวว่า ที่ทำการพรรคยังคงอยู่ที่เดิม แต่ที่เราจะไปตั้งที่ใหม่ใกล้กับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ย่านดินแดง เพราะมีคนจัดการให้และอยู่ในที่เหมาะสม และเราจะได้ไปทำเป็นศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการจับมือร่วมกับ นายสมศักดิ์ นายเสนาะ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย เพียงแต่ไปรับประทานข้าวด้วยกัน นายสมศักดิ์ไปคุยกับตน 2 ครั้ง เมื่อถามถึงอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย จะกลับมาอยู่กับพรรคประชาราช นายเสนาะ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ขอเปิดเผย ไม่คุยโม้หรอกว่าจะมีอะไร อย่างไร แต่ยืนยันว่าพรรคประชาราช ไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอยๆ เมื่อถามถึงรักษาการณ์เลขาธิการพรรค นายเสนาะ กล่าวว่า กำลังหารือกัน ส่วนตำแหน่งอื่นที่บอกว่าจะให้กับนายประชัยนั้น นายเสนาะ กล่าวว่า มีหลายตำแหน่ง
ด้านนายประชัย กล่าวว่า การลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ก็เพื่อกลับไปทำธุรกิจส่วนตัว ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคได้ขอร้องให้ตนเข้ามาทำงานเพื่อล้มล้างทรราช และนำพรรคไปสู่การเป็นรัฐบาลด้วยพลังบริสุทธิ์ ดังนั้น เมื่อภารกิจแรก คือ การล้มล้างทรราช นำไปสู่การมีรัฐบาลชุดใหม่ที่บริสุทธิ์พอสมควรได้ทำสำเร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณหัวหน้าพรรค ที่ให้ความไว้วางใจ ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือ ต้องช่วยกันรณรงค์ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
"สิ่งใดที่รัฐบาลทรราชได้ทำการปล้นเยี่ยงโจรไป สิ่งนั้นต้องได้รับการแก้ไข และช่วยเหลือด้วยเช่นเดียวกัน และหลังจากมีการร่างรัฐธรรมนูญ และเป็นประชาธิปไตย คือ ไม่มีการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ก็อาจจะกลับมาใหม่ และขอฝากนายเสนาะ ให้เลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่ โดยหวังว่าพรรคประชาราช จะเป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล และขอยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวความแตกแยกภายในพรรค เพราะผมยังเป็นสมาชิกพรรคเช่นเดิม"นายประชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ลาออกจากเลขาธิการพรรค เพราะไม่สมหวังในการขอซื้อหุ้นทีพีไอ คืนจากรัฐบาล ใช่หรือไม่ นายประชัย กล่าวว่า ไม่ใช่ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องการค้า และรัฐบาลชุดนี้ได้ล้มทรราช จึงเชื่อว่าจะให้ความยุติธรรมกับประชาชน อย่างไรก็ตาม เรื่องการขอซื้อหุ้นทีพีไอคืน ตนได้ทำหนังสือถึงพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับความชัดเจนจากรัฐบาล
นายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงข่าวจะลาออกจากสมาชิกพรรคว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพวกตนได้ร่วมกันก่อตั้งพรรคประชาราชมา ดังนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะอยู่พรรคนี้ต่อไป และกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนไม่ลงรอยกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีแนวโน้มจับมือกับนายเสนาะนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีปัญหา เพราะตนมีปัญหากับบุคคลเดียวคือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนการร่วมงานกับกลุ่มดังกล่าว ต้องตกลงกันก่อนว่ามีนโยบายตรงกันหรือไม่