xs
xsm
sm
md
lg

Forget me not

เผยแพร่:   โดย: การุณ ใสงาม

การที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพยายามที่จะเดินสายไปยังประเทศต่างๆ เพื่อให้ประชาชนคนไทยยังไม่ลืมผ่านทางสื่อต่างๆ

ทักษิณยังสามารถเดินทางไปไหนมาไหนอย่างสะดวกสบายเป็นเพราะได้รับหนังสือเดินทางเล่มสีแดงที่ให้เอกสิทธิ์ด้านการเดินทางทางด้านการทูตในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย

ภาพที่ปรากฏออกมาตามสื่อมวลชน เป็นภาพทักษิณแบบเดิมที่มีความมั่นใจในตนเอง ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง นับตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายที่กลายเป็นผู้นำพลัดถิ่น

จากประเทศสหรัฐอเมริกาวันที่โดนยึดอำนาจไปยังประเทศอังกฤษเพื่อลี้ภัย

เก็บตัวสักพักเพื่อทำใจหรือเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ มิอาจรู้ได้

หลังจากนั้น ทักษิณเริ่มที่จะปรากฏตัว

ช่วงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เดินทางไปจีนก็มีข่าวว่า ทักษิณอยู่ที่จีนเช่นเดียวกัน

ต่อด้วยภาพของทักษิณที่เดินชอปปิ้งปรากฏอยู่บนหนังสือพิมพ์ดิโอเรียลทัล เดลี่ ของฮ่องกง

มีกระแสข่าวตามมาว่า ทักษิณจะเดินทางไปเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อฉลองวันเกิดภรรยา

แม้กระทั่งมีข่าวลือตลอดเวลาว่า ทักษิณเข้ามาในประเทศไทยแล้วผ่านทางเชียงใหม่บ้าง หรือมาทางประเทศเพื่อนบ้านบ้าง

หรือกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ออกมาเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการวิจารณ์การแต่งตั้งทหารเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ และเรียกร้องเปิดทางให้ ทักษิณกลับประเทศ

ท่าทีดังกล่าว ทำให้ พล.อ. สุรยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ที่ชัดเจนเป็นครั้งแรกว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการให้ทักษิณสามารถเดินทางกลับเมืองไทยได้คือ 1 ปี หรือหลังจากการเลือกตั้งและได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว

การเคลื่อนไหวเหล่านี้ ทำให้ประเทศไทยยังคงกฎอัยการศึกอยู่ การที่ยังไม่มีการยกเลิกกฎอัยการศึก เป็นเพราะความไม่แน่ใจในสถานการณ์การเมืองขณะนี้

หรือเรื่องคลื่นใต้น้ำที่หลายต่อหลายคนพูดถึงขยายตัวออกไป

ประกอบกับการที่คนใกล้ชิดของทักษิณ ยังคงพยายามที่จะห้ามเลือดที่ไหลจากพรรคไทยรักไทย โดยมีการจ่ายเงินเดือนให้แก่ ส.ส. ที่ยังสังกัดพรรคอยู่คนละ 100,000 บาท เป็นการส่งสัญญาณว่า I Shall return

จนทำให้มีเสียงจากอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย 2 คน ได้แก่ นายอานันท์ ปัณยารชุน และนายชวนหลีกภัย ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คมช. โดยต้องการให้มีการชี้แจงกับประชาชนให้ชัดเจนถึงเหตุผล 4 ข้อที่ยึดอำนาจ วิธีที่ดีที่สุดคือการทำให้คนที่ไม่รู้ได้รู้ความจริงถึงเหตุผลในการทำรัฐประหาร เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา ในระบอบทักษิณ มีการพูดข้างเดียว ทำให้คนหลงเชื่อในสิ่งที่ผิดๆหลายอย่าง

ทาง คมช.เอง มิได้นิ่งนอนใจ เตรียมที่จะนำสมุดปกขาว ที่ชี้แจงเกี่ยวกับการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ออกมาแจกจ่ายประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน นี้

เราอาจมองได้ว่า การที่ทักษิณตลอดจนคนใกล้ชิด พยายามที่จะออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อที่จะกดดัน ใช้หลักจิตวิทยาให้คนระลึกถึงตนเองอยู่ตลอดเวลา เล่นเกมทางการเมืองกับรัฐฐาลและ คมช. อย่างต่อเนื่อง เป็นการต่อสู้โดยใช้สงครามจิตวิทยา

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มิใช่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการจงใจ เป็นการสร้างภาพ มีการวางแผนไว้อย่างดี แม้กระทั่งการเตรียมปาปารัสซี่ไว้ถ่ายภาพของตนเพื่อแจกจ่ายไปตามสื่อต่างๆ

นับได้ว่ามิเสียแรงที่เป็นถึงเจ้าของธุรกิจเกือบแสนล้าน ใช้หลักกลยุทธ์การตลาดได้อย่างแยบคาย

มีวาระซ่อนเร้นแฝงอยู่ทุกย่างก้าว แม้กระทั่งการที่ทักษิณไปรับประทานอาหารกับนายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียยังเลือกร้าน “คูเดต้า” ที่แปลว่า รัฐประหาร เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับกระแสการปฏิวัติซ้อน ที่มีข่าวเล็ดลอดมาว่าอดีตนายกฯ ทุ่มเงินประมาณ 1 พันล้านบาทเพื่อโค่นล้ม คมช.

รวมทั้งการที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ออกมาเปิดเผยว่ามีกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 2 และ 3 ข่มขู่รีดไถเงิน อดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย

ถึงแม้ว่า พล.อ.สนธิ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่าไม่มีมูลความจริง แต่การที่มีกระแสข่าวออกมาแบบนี้ ย่อมไม่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีต่อคมช. และส่งผลสะท้อนไปถึงรัฐบาลด้วย

ทั้งหมดทำไปเพื่อที่จะบอกกับลูกน้อง ชาวบ้าน เครือข่ายในระบอบทักษิณว่า forget me not อย่าลืมฉัน และฉันจะกลับมาเร็วๆ นี้ coming soon
กำลังโหลดความคิดเห็น