xs
xsm
sm
md
lg

8 จว.ล้านนาเร่งปรับตัวรับเศรษฐกิจพอเพียง ตัดงบฯซีอีโอเหี้ยนทำแผนยุทธศาสตร์สะดุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - 8 จังหวัดล้านนา เร่งหาแนวทางในการเดินหน้าเศรษฐกิจ รับนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง นำระบบตลาดทุนนิยม ยอมรับหลายแผนงาน-โครงการได้รับผลกระทบแน่ หลังงบฯซีอีโอ-งบฯยุทธศาสตร์ ถูกตัดเหี้ยน ต้องปรับตัวกันยกใหญ่ ใช้ศักยภาพของตัวเองมากขึ้น แนะทุนท้องถิ่นดิ้นรน-หาแหล่งเงินกู้มากขึ้น ทดแทนเงินอัดฉีดจากภาครัฐในอนาคตที่ลดลงแน่นอน

ผู้สื่อข่าว รายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า ในการประชุมผู้ว่าฯ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ประเด็นยุทธศาสตร์ด้านการค้าชายแดน ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ณ โรงแรมอินคำ จ.เชียงราย โดยมีนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางวิภาดา ตรีสัตย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย ร่วมกับนายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้า จ.เชียงราย พาณิชย์จังหวัด สมาชิกหอการค้า นักวิชาการ ใน 8 จังหวัดล้านนา คือ เชียงใหม่ พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน และเชียงราย เข้าร่วมราว 100 คน

ในที่ประชุม ได้มีการหารือกันในประเด็นผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะกรณีที่งบประมาณปี 50 ได้ตัดงบฯซีอีโอ-งบฯยุทธศาสตร์ ทั้งหมดกว่า 40,000 ล้านบาท ที่แม้ว่าจะมีงบประมาณผ่านกระทรวงต่าง ๆ เข้ามาทดแทนก็ตาม แต่ก็เลี่ยงไม่พ้นที่หลายโครงการที่แต่ละจังหวัดเคยวางแผน-ผลักดันกันไว้ จะต้องได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่พ้นแน่นอน

นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ระบุว่า เบื้องต้นที่เห็นชัดเจนกรณีที่รัฐบาลตัดงบประมาณผู้ว่าฯซีอีโอ และงบยุทธศาสตร์ทั้งหมด ได้ทำให้แผนงาน "เบิกฟ้าล้านนา ลอจิสติกส์" ของหอการค้าเชียงราย ที่เสนอใช้งบฯยุทธศาสตร์จังหวัด 11 ล้านบาทถูกตัดไปด้วย ส่วนงบฯ ซีอีโอเชียงราย ซึ่งเคยได้รับในปี 2548-49 ราว 300 ล้านบาทก็ถูกตัดหมด โดยต่อไปจะมีการสนับสนุนผ่านกระทรวงต่างๆแทน

ทั้งนี้ คงต้องขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า อนาคตหากมีการจัดประชุมสัมมนาโดยการร่วมมือกันของท้องถิ่น ก็ควรมีเจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วนเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมมากขึ้น

ส่วนวิธีการทำงานของหอการค้า และภาคเอกชนในแต่ละพื้นที่ ก็ต้องอาศัยศักยภาพของผู้บริหารในแต่ละพื้นที่มากขึ้นด้วย ซึ่งตนมองว่าคงจะปรับตัวไปได้ อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้การสนับสนุนในสิ่งที่มีประโยชน์ เพื่อจะได้ทำให้การสานต่องานหลายด้านยังเดินได้

นายณพศิษฎ์ จักรพิทักษ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยศิลปะและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ในที่ประชุมยังได้หารือกันถึงเรื่องที่รัฐบาลชุดนี้ มีแนวทางใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของประเทศไทย ไปในทิศทางเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริฯ คือ ให้มีการปรับตัวในกระแสโลกาภิวัตน์ อย่างชาญฉลาด และไม่ประมาท

สำหรับตนในฐานะผู้ดำเนินการโครงการศูนย์ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 2549 จากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งมองว่าในปัจจุบันทิศทางในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของรัฐบาลเดิม 5 เรื่อง ถูกเปลี่ยนจากเศรษฐกิจแข่งขันเป็นเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจังหวัดภาคเหนือก็ต้องเร่งทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 10 เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาล

ส่วนงบประมาณบูรณาการของจังหวัด (CEO) ถูกตัดไปทั้งหมด 40,000 ล้านบาทเศษ ทั่วประเทศในปี 2550 แต่ในปี 2551 อยู่ที่รัฐบาลใหม่จะมีการพิจารณาให้หรือไม่ ก็ต้องปรับตัวกัน

"ระบบเศรษฐกิจกิจจะต้องสมดุล ประสานงานให้ยั่งยืน ปรับให้ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมให้มีโอกาส คือ
ไม่ให้เศรษฐกิจเติบโตแบบสุดโต่งแบบในอดีต ก็ต้องมีการปรับตัวจากที่ทำมาก่อนหน้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นธรรมดาของหลายประเทศที่ต้องปรับทิศทางไปมา"

นายณพศิษฎ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของการค้าชายแดนในแม่น้ำโขง ยังคงเดินหน้าและมีความมั่นใจ เช่น จะมีนักลงทุนมาต่อเรือคอนเทนเนอร์แช่เย็นลำที่สอง แล่นจากเชียแสน จ.เชียงราย ไปประเทศจีน รวมทั้งมีเงินจากนักลงทุนยังไหลเข้ามาไทยมาก เพราะต่างประเทศบางกลุ่มอาจจะชอบการเมืองที่นิ่งๆ และปัญหาคอร์รัปชันลดลง อาจจะมีการลงทุนเพิ่ม ทำให้ค่าเงินบาทแข็ง - การเก็บภาษีได้เกินเป้าในช่วงนี้

ทั้งนี้ สิ่งที่อยากเสนอรัฐบาลก็คือ ให้จัดตลาดนัดระบบชุมชนเพื่อส่งเสริมรากแก้ว หรือชาวบ้าน และส่งเสริมวัฒนธรรมตามแนวชายแดน อนาคตน่าจะมีตลาดการค้าชุมชนวัฒนธรรม มากกว่าจะให้ห้างสรรพสินค้าต่างชาติขายสินค้าอย่างเดียว ผู้ประกอบการท้องถิ่นคงต้องดิ้นรนมากขึ้นในการทำตลาด และการหาแหล่งเงินกู้เพราะเงินอัดฉีดจากภาครัฐอาจจะลดลง

นางวิภาดา ตรีสัตย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในอนาคตการค้า การท่องเที่ยวในเขตจังหวัดล้านนา คงต้องมีการปรับตัวกันบ้าง เพราะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 จะเน้นพัฒนาด้านบุคลากรและสังคมมากขึ้น ซึ่งคงต้องมีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เข้มแข้งเพื่อนำไปสู่การแข่งขัน เช่น สถาบันการศึกษาต่างๆอาจจะต้องร่วมมือ ในการฝึกอบรมและจัดระบบการศึกษาเพื่อส่งเสริมการค้าการท่องเที่ยวเพื่อรองรับกับอนาคต
ส่วนการค้าชายแดนจังหวัดเชียงราย ที่ปี 2549 ตั้งเป้าหมาย ว่ามีมูลค่ารวม ราว 10,000 ล้านบาท น่าจะเข้าเป้า และในปีต่อไปยังกำหนดให้มีการขยายตัวอีก 15% หรือ รวมแล้วน่าจะมีมูลค่าราว 11,500 ล้านบาท ในปี 2550 ด้วย

สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างจังหวัดเชียงราย กับเพื่อนบ้าน คือ พม่า-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)-สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วง 9 เดือน ตั้งแต่ มกราคม-กันยายน 2549 มีมูลค่าการค้ารวม 7,925.59 ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าการส่งออก 6,485.08 ล้านบาท และนำเข้า 1,440.51 ล้านบาท หรือเชียงราย ได้ดุลการค้า 5,044.58 ล้านบาท

เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น 6.97% หรือเพิ่มขึ้น 516.54 ล้านบาท มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 5.42% หรือเพิ่มขึ้น 332.22 ล้านบาท มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 14.58% หรือเพิ่มขึ้น 183.32 ล้านบาท และดุลการค้าเพิ่มขึ้น 3.06% หรือ เกินดุลเพิ่มขึ้น 149.91 ล้านบาทถือว่าเติบโตทุกด้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น