คณะรัฐมนตรีเด้ง “ดุษฎี สินเจิมศิริ” พ้นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมโยก“ปราโมช รัฐวินิจ” ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน พร้อมมีมติตั้ง “จุฑาธวัช อินทรสุขศรี” นั่งเก้าอี้ปลัดแรงงานฯ ขณะเดียวกันก็ส่ง “ปิยะพันธ์ จัมปาสุต” อธิบดีกรมการขนส่งทางบกเข้ากรุรองปลัดฯ ส่วนโผกระทรวงทรัพย์ รัฐมนตรียันดีที่สุดในรอบ 4 ปี เช่นเดียวกับที่กระทรวงยุติธรรมที่เจ้ากระทรวงรับประกันย้ายทุกตำแหน่งเป็นธรรม
นางเนตรปรียา ชุมไชโย รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วานนี้(7 พ.ย.) คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอแต่งตั้งนายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี อธิบดีกรมการจัดหางาน ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง และแต่งตั้งนายนพดล เฮงเจริญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่วนกระทรวงวัฒนธรรม แต่งตั้งนางฉวีงาม มาเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์ ภาษาเอกสารและหนังสือ ตำแหน่ง 9 ชช. ให้ขึ้นเป็นระดับ 10 ชช. ในตำแหน่งเดิม พร้อมทั้งแต่งตั้งศ.อมรา พงศาพิชญ์ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงสาธารณสุข แต่งตั้งนายชัยพร โรจนวัฒน์ศิริเวช ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ ตำแหน่ง 9 ดำรงตำแหน่ง ซี 10 วช. แต่งตั้งนายสุเจตน์ เลิศเอนกวัฒนา แพทย์ 9 วช. ด้านเวชกรรม ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช.
กระทรวงคมนาคม แต่งตั้งนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เป็นรองปลัดกระทรวง แต่งตั้งนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นรองปลัดกระทรวง แต่งตั้งนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก แต่งตั้งนายทรงชัย แพเจริญ วิศวกรใหญ่ ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา ซี 10 วช. เป็นอธิบดีกรมทางหลวงแต่งตั้งนายระพินทร์ จารุดุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเป็นอธิบดีกรมทางหลวงชนบท
สำนักงบประมาณ แต่งตั้งนายอุณหิศ กาญจนกุญชร ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ ตำแหน่ง 10 ชช. ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ตำแหน่ง 10 เท่าเดิม แต่งตั้งนางจุฑามาศ บาระมีชัยให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายบุญรอด สิงห์วัฒนาศิริ ที่ปรึกษาระบบราชการ ซี 10 ชช. เป็นรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ด้านกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา แต่งตั้งนายอัครพล พฤกษะวัน ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน นักบริหาร 9 เป็นรองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระดับ 10
กระทรวงพลังงาน แต่งตั้งนายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และแต่งตั้ง นายพานิช พงศ์ภิโรดม อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเป็นอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
นอกจากนี้ ยังได้ย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษาด้านการประสานกิจการความมั่นคง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
กระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งนางชูจิรา กองแก้ว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นายไพศาล วิเชียรเกื้อ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายสิรวัติ จันทรรัฐ อธิบดีกรมบังคับคดีเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
ส่วนสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ายนายดุษฎี สินเจิมศิริ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนายปราโมช รัฐวินิจ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์แทน
ด้านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ย้ายนายชาตรี ช่วยประสิทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง นางมณทิพย์ ศรีรัตนา ทาบูกานอน จากรองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ ย้ายจากอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เป็นอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี นางนิศากร โฆษิตรัตน์ จากเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายวิชัย แหลมวิไล จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ และนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ จากรองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ
นอกจากนี้ มีการต่อวาระผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ คือนายขันธ์ ประจวบเหมาะ นอกจากนั้น มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขององค์การเภสัชกรรม และการแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ อาทิ คณะกรรมการบริหารกิจการขนส่งมวลชนกรุงเทพ คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย คณะกรรมการการทางพิเศษ
**รมว.ทส.ยันดีที่สุดในรอบ 4 ปี
นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ในยุคนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีของ ทส. ที่คัดเลือกคนดีที่สุดไปดำรงตำแหน่งต่าง ๆ เนื่องจากได้พิจารณาจากความโปร่งใส ความเหมาะสม ความสามารถในการบริหารงาน ส่วนความอาวุโสเป็นประเด็นสุดท้ายที่นำมาใช้พิจารณา
สำหรับที่วิจารณ์กันว่าบางตำแหน่งจะไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น นางนิศากรที่ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) หรือนายอภิชัยที่ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เชื่อว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะทุกคนเป็นนักบริหารก็ควรจะปรับและอยู่กับกรมที่ได้รับการแต่งตั้งได้
**ชาญชัยยันทุกตำแหน่งเป็นธรรม
นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ในตำแหน่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่า นางสุวณาเป็นคนของกระทรวงยุติธรรม มานานแล้ว ถือเป็นลูกหม้อคนหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม การโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปตามความเหมาะสม เพราะผ่านงานด้านการคลังและผู้ตรวจราชการมาหลายปี เงินเดือนก็สูงกว่านายชาญเชาวน์ซึ่งถูกย้ายเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการ
“ต่อไปจะเป็นการโยกย้ายเสนอชื่อ ครม. อีก 2 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้ตัวนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ และตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี ซึ่งยอมรับว่า น.ส.กัญญานุช สอทิพย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นบุคคลที่กรมบังคับคดีเรียกร้องให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมบังคับคดี” นายชาญชัย กล่าว
**สธ.เด้งรองเลขา อย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ออกคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 1005/2549 เรื่องมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีคำสั่งให้นายมานิตย์ อรุณากูร ย้ายจากรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ทั้งนี้ นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การโยกย้ายเป็นไปตามระเบียบวาระลำดับขั้น ไม่ได้เป็นการลดขั้นหรือเลื่อนตำแหน่ง ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร โดยจะถือโอกาสนี้เชื่อมโยงงานระหว่างอย.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 2 กรมจะต้องทำงานประสานกันในหลายๆ เรื่องอยู่แล้ว
ด้านนายมานิตย์กล่าวว่า ไม่ติดใจการโยกย้ายในครั้งนี้ และพร้อมจะทำงานใน หน้าที่ใหม่
**ยันไม่ได้ลดชั้นหมอเพ็ญ
น.พ.มงคลด้วยว่า วานนี้(7 พ.ย.)ได้รับหนังสือร้องเรียนจาก พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนมองว่าการได้โยกย้ายครั้งนี้เป็นการเลื่อนขั้นที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน โดยมีการชี้แจงไปแล้วตั้งแต่มีการออกคำสั่งแล้ว
“หากไม่เลื่อนตำแหน่งจากซี 9 เป็นบริหารขึ้นเป็น ซี 10 วิชาการ จะรอเป็นซี 9 ไปตลอดแล้วจะไปไหนต่อ ก็ต้องเลื่อนไปเป็นซี 10 ก่อน ซึ่งเมื่อทุกอย่างดำเนินไปในตามครรลองที่ถูกต้อง น่าจะยอมรับได้”
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำ 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต้านคอรัปชั่น ให้ความเห็นว่า การโยกย้าย พญ.เพ็ญนภา จุดน่าสนใจอยู่ที่เมื่อย้ายไปแล้วจะมีผู้ที่ให้ความสนใจการแพทย์แผนไทย หรือสมุนไพรอย่างจริงจังมากน้อยเพียงใดหรือไม่ เพราะเป็นการโยกย้ายที่ดูเหมือนว่าหลุดวงโคจรแพทย์แผนไทยไป ซึ่งไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงของผู้บริหาร
อย่างไรก็ตาม แม้ พ.ญ.อาจถูกมองว่า ทำงานร่วมกับบุคคลคนอื่นยาก ก็เป็นเรื่องที่จะต้องปรับปรุงตัวเอง เพราะทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
นางเนตรปรียา ชุมไชโย รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วานนี้(7 พ.ย.) คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอแต่งตั้งนายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี อธิบดีกรมการจัดหางาน ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง และแต่งตั้งนายนพดล เฮงเจริญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่วนกระทรวงวัฒนธรรม แต่งตั้งนางฉวีงาม มาเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์ ภาษาเอกสารและหนังสือ ตำแหน่ง 9 ชช. ให้ขึ้นเป็นระดับ 10 ชช. ในตำแหน่งเดิม พร้อมทั้งแต่งตั้งศ.อมรา พงศาพิชญ์ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงสาธารณสุข แต่งตั้งนายชัยพร โรจนวัฒน์ศิริเวช ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ ตำแหน่ง 9 ดำรงตำแหน่ง ซี 10 วช. แต่งตั้งนายสุเจตน์ เลิศเอนกวัฒนา แพทย์ 9 วช. ด้านเวชกรรม ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช.
กระทรวงคมนาคม แต่งตั้งนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เป็นรองปลัดกระทรวง แต่งตั้งนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นรองปลัดกระทรวง แต่งตั้งนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก แต่งตั้งนายทรงชัย แพเจริญ วิศวกรใหญ่ ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา ซี 10 วช. เป็นอธิบดีกรมทางหลวงแต่งตั้งนายระพินทร์ จารุดุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเป็นอธิบดีกรมทางหลวงชนบท
สำนักงบประมาณ แต่งตั้งนายอุณหิศ กาญจนกุญชร ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ ตำแหน่ง 10 ชช. ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ตำแหน่ง 10 เท่าเดิม แต่งตั้งนางจุฑามาศ บาระมีชัยให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายบุญรอด สิงห์วัฒนาศิริ ที่ปรึกษาระบบราชการ ซี 10 ชช. เป็นรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ด้านกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา แต่งตั้งนายอัครพล พฤกษะวัน ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน นักบริหาร 9 เป็นรองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระดับ 10
กระทรวงพลังงาน แต่งตั้งนายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และแต่งตั้ง นายพานิช พงศ์ภิโรดม อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเป็นอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
นอกจากนี้ ยังได้ย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษาด้านการประสานกิจการความมั่นคง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
กระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งนางชูจิรา กองแก้ว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นายไพศาล วิเชียรเกื้อ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายสิรวัติ จันทรรัฐ อธิบดีกรมบังคับคดีเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
ส่วนสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ายนายดุษฎี สินเจิมศิริ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนายปราโมช รัฐวินิจ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์แทน
ด้านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ย้ายนายชาตรี ช่วยประสิทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง นางมณทิพย์ ศรีรัตนา ทาบูกานอน จากรองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ ย้ายจากอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เป็นอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี นางนิศากร โฆษิตรัตน์ จากเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายวิชัย แหลมวิไล จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ และนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ จากรองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ
นอกจากนี้ มีการต่อวาระผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ คือนายขันธ์ ประจวบเหมาะ นอกจากนั้น มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขององค์การเภสัชกรรม และการแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ อาทิ คณะกรรมการบริหารกิจการขนส่งมวลชนกรุงเทพ คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย คณะกรรมการการทางพิเศษ
**รมว.ทส.ยันดีที่สุดในรอบ 4 ปี
นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ในยุคนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีของ ทส. ที่คัดเลือกคนดีที่สุดไปดำรงตำแหน่งต่าง ๆ เนื่องจากได้พิจารณาจากความโปร่งใส ความเหมาะสม ความสามารถในการบริหารงาน ส่วนความอาวุโสเป็นประเด็นสุดท้ายที่นำมาใช้พิจารณา
สำหรับที่วิจารณ์กันว่าบางตำแหน่งจะไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น นางนิศากรที่ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) หรือนายอภิชัยที่ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เชื่อว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะทุกคนเป็นนักบริหารก็ควรจะปรับและอยู่กับกรมที่ได้รับการแต่งตั้งได้
**ชาญชัยยันทุกตำแหน่งเป็นธรรม
นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ในตำแหน่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่า นางสุวณาเป็นคนของกระทรวงยุติธรรม มานานแล้ว ถือเป็นลูกหม้อคนหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม การโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปตามความเหมาะสม เพราะผ่านงานด้านการคลังและผู้ตรวจราชการมาหลายปี เงินเดือนก็สูงกว่านายชาญเชาวน์ซึ่งถูกย้ายเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการ
“ต่อไปจะเป็นการโยกย้ายเสนอชื่อ ครม. อีก 2 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้ตัวนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ และตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี ซึ่งยอมรับว่า น.ส.กัญญานุช สอทิพย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นบุคคลที่กรมบังคับคดีเรียกร้องให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมบังคับคดี” นายชาญชัย กล่าว
**สธ.เด้งรองเลขา อย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ออกคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 1005/2549 เรื่องมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีคำสั่งให้นายมานิตย์ อรุณากูร ย้ายจากรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ทั้งนี้ นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การโยกย้ายเป็นไปตามระเบียบวาระลำดับขั้น ไม่ได้เป็นการลดขั้นหรือเลื่อนตำแหน่ง ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร โดยจะถือโอกาสนี้เชื่อมโยงงานระหว่างอย.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 2 กรมจะต้องทำงานประสานกันในหลายๆ เรื่องอยู่แล้ว
ด้านนายมานิตย์กล่าวว่า ไม่ติดใจการโยกย้ายในครั้งนี้ และพร้อมจะทำงานใน หน้าที่ใหม่
**ยันไม่ได้ลดชั้นหมอเพ็ญ
น.พ.มงคลด้วยว่า วานนี้(7 พ.ย.)ได้รับหนังสือร้องเรียนจาก พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนมองว่าการได้โยกย้ายครั้งนี้เป็นการเลื่อนขั้นที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน โดยมีการชี้แจงไปแล้วตั้งแต่มีการออกคำสั่งแล้ว
“หากไม่เลื่อนตำแหน่งจากซี 9 เป็นบริหารขึ้นเป็น ซี 10 วิชาการ จะรอเป็นซี 9 ไปตลอดแล้วจะไปไหนต่อ ก็ต้องเลื่อนไปเป็นซี 10 ก่อน ซึ่งเมื่อทุกอย่างดำเนินไปในตามครรลองที่ถูกต้อง น่าจะยอมรับได้”
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำ 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต้านคอรัปชั่น ให้ความเห็นว่า การโยกย้าย พญ.เพ็ญนภา จุดน่าสนใจอยู่ที่เมื่อย้ายไปแล้วจะมีผู้ที่ให้ความสนใจการแพทย์แผนไทย หรือสมุนไพรอย่างจริงจังมากน้อยเพียงใดหรือไม่ เพราะเป็นการโยกย้ายที่ดูเหมือนว่าหลุดวงโคจรแพทย์แผนไทยไป ซึ่งไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงของผู้บริหาร
อย่างไรก็ตาม แม้ พ.ญ.อาจถูกมองว่า ทำงานร่วมกับบุคคลคนอื่นยาก ก็เป็นเรื่องที่จะต้องปรับปรุงตัวเอง เพราะทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย