โนวาร์ตีส เผยผลประกอบการ ด้านเวชภัณฑ์ยามะเร็ง ของโนวาร์ตีส ทั่วโลกมีอัตราการเติบโตมากกว่า 20% ต่อปี เป็นอันดับ 3 ของตลาดบริษัทยามะเร็งทั่วโลก
นายจอห์น บี เคทชัม หัวหน้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท โนวาร์ตีส แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็ง กล่าวว่า ผลประกอบการช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็ง ของโนวาร์ตีส ทั่วโลกเติบโตจาก 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 20% ต่อปี นับว่าเป็นการเติบโตอยู่ในอันดับ 3 ของตลาดบริษัท ยามะเร็งทั่วโลก ในส่วนของโนวาร์ตีส เอเชียแปซิฟิก แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็ง เติบโตจากตัวเลขต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนในปัจจุบันมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ อัตราการเติบโตของ เอเชียแปซิฟิก แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็งอยู่ที่ 30% ต่อปี โนวาร์ตีส ครองอันดับ 2 ในตลาดยามะเร็งของเอเชียแปซิฟิก เวชภัณฑ์ยาหนึ่งที่เพิ่งออกสู่ตลาดคือ ดีเฟอราซีรอกซ์ เป็นยาชนิดรับประทานสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเหล็กเกิน สามารถควบคุมการขับเหล็กได้ตลอด 24 ชม. , ส่วนยาอิมมาทินิบ เป็นยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง และมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดจีสต์ , โซเลนโดรเนท เป็นยาฉีดรักษาภาวะมะเร็งเข้ากระดูก และ เลทโทรโซล เป็นยาต้านฮอร์โมนสำหรับมะเร็งเต้านม
นายปีเตอร์ แจกเกอร์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจเวชภัณฑ์ บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานฉลองครบรอบ 5ปี ของยาอิมมาทินิบ และครบรอบ 3 ปีของโครงการจีแพปในประเทศไทยว่า จากที่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับแพทย์ และผู้ป่วยหลาย ๆ ท่าน ทำให้ทราบว่า วิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็ง คือสามารถคิดค้นยายับยั้งเซลล์ต้นกำเนิดที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้ โดยมีข้อมูลผู้ป่วยมากกว่า 200,000 รายทั่วโลกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ
“ในการนี้ชี้ให้เห็นว่า ยาใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง และโรคมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดจีสต์มีประสิทธิภาพสูง จากสถิติจำนวนผู้ป่วย 90 คนใน 100 คน หรือ 90% ไม่มีการลุกลามของโรคไปสู่ระยะที่รุนแรงขึ้น นับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในวงการการแพทย์เมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการใช้ยาดังกล่าว” นายแจกเกอร์ กล่าว
ในประเทศไทย ผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสในการเข้ารับการรักษา โนวาร์ตีส ก็มีโครงการ
จีแพปแจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วย ซึ่งปัจจุบันได้ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยไปแล้วกว่า 700 ราย ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท และไม่เพียงแต่สนับสนุนการบริจาคยาในโครงการจีแพปเท่านั้น ยังมีการพัฒนาทางด้านวิจัยยาใหม่ๆ ที่จะให้ผลการรักษาที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม การดำเนินโครงการดังกล่าว นับเป็นแรงผลักดันให้มีการพัฒนายาเพื่อการรักษามะเร็งชนิดอื่น ๆ ต่อไป ณ ตอนนี้โนวาร์ตีสมีโครงการวิจัยยาใหม่ ๆ 16 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่ง 11 โครงการอยู่ในขั้นพัฒนายาในหลอดทดลอง และสัตว์ทดลอง
นายจอห์น บี เคทชัม หัวหน้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท โนวาร์ตีส แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็ง กล่าวว่า ผลประกอบการช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็ง ของโนวาร์ตีส ทั่วโลกเติบโตจาก 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 20% ต่อปี นับว่าเป็นการเติบโตอยู่ในอันดับ 3 ของตลาดบริษัท ยามะเร็งทั่วโลก ในส่วนของโนวาร์ตีส เอเชียแปซิฟิก แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็ง เติบโตจากตัวเลขต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนในปัจจุบันมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ อัตราการเติบโตของ เอเชียแปซิฟิก แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็งอยู่ที่ 30% ต่อปี โนวาร์ตีส ครองอันดับ 2 ในตลาดยามะเร็งของเอเชียแปซิฟิก เวชภัณฑ์ยาหนึ่งที่เพิ่งออกสู่ตลาดคือ ดีเฟอราซีรอกซ์ เป็นยาชนิดรับประทานสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเหล็กเกิน สามารถควบคุมการขับเหล็กได้ตลอด 24 ชม. , ส่วนยาอิมมาทินิบ เป็นยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง และมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดจีสต์ , โซเลนโดรเนท เป็นยาฉีดรักษาภาวะมะเร็งเข้ากระดูก และ เลทโทรโซล เป็นยาต้านฮอร์โมนสำหรับมะเร็งเต้านม
นายปีเตอร์ แจกเกอร์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจเวชภัณฑ์ บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานฉลองครบรอบ 5ปี ของยาอิมมาทินิบ และครบรอบ 3 ปีของโครงการจีแพปในประเทศไทยว่า จากที่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับแพทย์ และผู้ป่วยหลาย ๆ ท่าน ทำให้ทราบว่า วิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็ง คือสามารถคิดค้นยายับยั้งเซลล์ต้นกำเนิดที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้ โดยมีข้อมูลผู้ป่วยมากกว่า 200,000 รายทั่วโลกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ
“ในการนี้ชี้ให้เห็นว่า ยาใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง และโรคมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดจีสต์มีประสิทธิภาพสูง จากสถิติจำนวนผู้ป่วย 90 คนใน 100 คน หรือ 90% ไม่มีการลุกลามของโรคไปสู่ระยะที่รุนแรงขึ้น นับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในวงการการแพทย์เมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการใช้ยาดังกล่าว” นายแจกเกอร์ กล่าว
ในประเทศไทย ผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสในการเข้ารับการรักษา โนวาร์ตีส ก็มีโครงการ
จีแพปแจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วย ซึ่งปัจจุบันได้ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยไปแล้วกว่า 700 ราย ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท และไม่เพียงแต่สนับสนุนการบริจาคยาในโครงการจีแพปเท่านั้น ยังมีการพัฒนาทางด้านวิจัยยาใหม่ๆ ที่จะให้ผลการรักษาที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม การดำเนินโครงการดังกล่าว นับเป็นแรงผลักดันให้มีการพัฒนายาเพื่อการรักษามะเร็งชนิดอื่น ๆ ต่อไป ณ ตอนนี้โนวาร์ตีสมีโครงการวิจัยยาใหม่ ๆ 16 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่ง 11 โครงการอยู่ในขั้นพัฒนายาในหลอดทดลอง และสัตว์ทดลอง