ครม.หาช่องเลิกประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 7 กฤษฎีกา แนะ"สุรยุทธ์"เหน็บกฎอัยการศึกไว้ เผื่อฉุกเฉินจะดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติ เกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการประชุมทางการเมือง เสนอให้คณะรัฐมนตรีให้พิจารณาในวันนี้ (31ต.ค.) เพื่อแก้ไขประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฉบับที่ 7ลงวันที่ 20 ก.ย.49 ซึ่งห้ามมิให้มั่วสุม ประชุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยสำนักงานคณะกรรมการได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา 2 แบบ คือ 1.ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ลงวันที่ 20 ก.ย.49 พ.ศ.... ซึ่งถ้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาใช้ในแบบที่ 1 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไขบังคับกับกรณีอื่นๆ อีก เพราะรัฐสามารถนำกฎหมายในปัจจุบันมาใช้ในการควบคุมสถานการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศได้ คือ พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ซึ่งฝ่ายทหารมีอำนาจในการออกคำสั่งห้ามมั่วสุม ประชุมกันได้ หากฝ่าฝืน มีอำนาจกักตัวบุคคลไว้ไม่เกิน 7 วัน และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มาตรา 215 และ มาตรา 216
แบบที่ 2.ร่าง พระราชบัญญัติการห้ามชุมนุมทางการเมือง พ.ศ... เป็นการยกเลิกประกาศคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฉบับที่ 7 แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาจจะพิจารณาประกาศผ่อนผัน หรืออนุญาตให้มีการประชุม หรือดำเนินการใดทางการเมืองเป็นครั้งคราวได้ โดยไม่ถือเป็นการกระทำความผิด แต่ร่างพระราชบัญญัตินี้ อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พ.ศ.2549 มาตรา 3 และ มาตรา 38 เพราะเป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ในการชุมนุมโดยสงบ ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเบื้องต้น ว่าอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ แบบที่ 1 และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี แล้วนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติ เกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการประชุมทางการเมือง เสนอให้คณะรัฐมนตรีให้พิจารณาในวันนี้ (31ต.ค.) เพื่อแก้ไขประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฉบับที่ 7ลงวันที่ 20 ก.ย.49 ซึ่งห้ามมิให้มั่วสุม ประชุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยสำนักงานคณะกรรมการได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา 2 แบบ คือ 1.ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ลงวันที่ 20 ก.ย.49 พ.ศ.... ซึ่งถ้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาใช้ในแบบที่ 1 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไขบังคับกับกรณีอื่นๆ อีก เพราะรัฐสามารถนำกฎหมายในปัจจุบันมาใช้ในการควบคุมสถานการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศได้ คือ พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ซึ่งฝ่ายทหารมีอำนาจในการออกคำสั่งห้ามมั่วสุม ประชุมกันได้ หากฝ่าฝืน มีอำนาจกักตัวบุคคลไว้ไม่เกิน 7 วัน และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มาตรา 215 และ มาตรา 216
แบบที่ 2.ร่าง พระราชบัญญัติการห้ามชุมนุมทางการเมือง พ.ศ... เป็นการยกเลิกประกาศคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฉบับที่ 7 แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาจจะพิจารณาประกาศผ่อนผัน หรืออนุญาตให้มีการประชุม หรือดำเนินการใดทางการเมืองเป็นครั้งคราวได้ โดยไม่ถือเป็นการกระทำความผิด แต่ร่างพระราชบัญญัตินี้ อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พ.ศ.2549 มาตรา 3 และ มาตรา 38 เพราะเป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ในการชุมนุมโดยสงบ ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเบื้องต้น ว่าอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ แบบที่ 1 และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี แล้วนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ