เอกชนเสนอภาครัฐใช้ประเทศไทยเป็นเมดิคอล ฮับ ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ เผยไทยพร้อมด้านบุคลากรแนะรัฐตั้งสถาบันเทรนนิ่ง หวังโกยเงินลูกค้ากลุ่มรักสุขภาพเข้าไทย
นายแพทย์อุกฤษ จิรภัทรสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบญจบริรักษ์เวช จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ เบญจบริรักษ์เวช คลินิก เปิดเผยว่า อยากเสนอให้ภาครัฐผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเมดิคอล ฮับ เพื่อเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ สำหรับให้ชาวต่างชาติมาใช้บริการทางการแพทย์ให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันมีชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่เดินทางเข้ามาใช้บริการด้านการแพทย์ในประเทศไทยอยู่แล้ว จึงควรใช้โอกาสนี้ผลักดันให้ไทยเป็นเมดิคอล ฮับ เพื่อจะได้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นำรายได้เข้าประเทศ
สำหรับเหตุผลที่อยากให้ไทยเป็นเมดิคอล ฮับ เพราะบุคลากรทางการแพทย์ของไทย ทั้งแพทย์ พยาบาล นักกายภาพ เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และมีความเชี่ยวชาญเรื่องภาษาอังกฤษที่สื่อสารกับผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญในการเดินทางมาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงด้วย
“ถ้าอนาคตประเทศไทยจะเป็นเมดิคอล ฮับ จะดีมาก และมั่นใจว่าไทยสามารถทำได้ โดยอยากเสนอให้ภาครัฐจัดตั้งสถาบันของรัฐ แล้วก็จัดให้มีการเทรนนิ่งในลักษณะแพทย์ผสมผสานในลักษณะให้แพทย์แผนปัจจุบันเข้าใจแพทย์ทางเลือกมากขึ้น มีความสามารถในการดูแลคนไข้ให้เพิ่มมากขึ้น เรื่องของการปรับความไม่สมดุล ให้กลับมาแข็งแรงได้ด้วยไม่ใช่แค่การรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว อย่างเช่น การเล่นโยคะ หรือการฝังเข็ม ดนตรีบำบัด ศิลปบำบัด ใช้เสียง ใช้ภาพ ในการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการรักษาตนเอง ซึ่งการกระตุ้นให้ร่างกายปรับสมดุลและหลั่งฮอร์โมนที่ดีกำจัดฮอร์โมนที่ไม่ดีออกไป”
อย่างไรก็ตามนายแพทย์อุกฤษ กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าภาครัฐมองอย่างไรในเรื่องเมดิคอล ฮับ เพราะนโยบายยังไม่ทราบว่าชัดเจนแค่ไหน แต่ในวงการที่ไม่พูดถึงเรื่องดังกล่าวที่ไทยจะเป็นเมดิคอล ฮับ นั้นมีความเป็นไปได้สูงมาก
นายแพทย์อุกฤษ จิรภัทรสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบญจบริรักษ์เวช จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ เบญจบริรักษ์เวช คลินิก เปิดเผยว่า อยากเสนอให้ภาครัฐผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเมดิคอล ฮับ เพื่อเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ สำหรับให้ชาวต่างชาติมาใช้บริการทางการแพทย์ให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันมีชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่เดินทางเข้ามาใช้บริการด้านการแพทย์ในประเทศไทยอยู่แล้ว จึงควรใช้โอกาสนี้ผลักดันให้ไทยเป็นเมดิคอล ฮับ เพื่อจะได้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นำรายได้เข้าประเทศ
สำหรับเหตุผลที่อยากให้ไทยเป็นเมดิคอล ฮับ เพราะบุคลากรทางการแพทย์ของไทย ทั้งแพทย์ พยาบาล นักกายภาพ เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และมีความเชี่ยวชาญเรื่องภาษาอังกฤษที่สื่อสารกับผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญในการเดินทางมาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงด้วย
“ถ้าอนาคตประเทศไทยจะเป็นเมดิคอล ฮับ จะดีมาก และมั่นใจว่าไทยสามารถทำได้ โดยอยากเสนอให้ภาครัฐจัดตั้งสถาบันของรัฐ แล้วก็จัดให้มีการเทรนนิ่งในลักษณะแพทย์ผสมผสานในลักษณะให้แพทย์แผนปัจจุบันเข้าใจแพทย์ทางเลือกมากขึ้น มีความสามารถในการดูแลคนไข้ให้เพิ่มมากขึ้น เรื่องของการปรับความไม่สมดุล ให้กลับมาแข็งแรงได้ด้วยไม่ใช่แค่การรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว อย่างเช่น การเล่นโยคะ หรือการฝังเข็ม ดนตรีบำบัด ศิลปบำบัด ใช้เสียง ใช้ภาพ ในการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการรักษาตนเอง ซึ่งการกระตุ้นให้ร่างกายปรับสมดุลและหลั่งฮอร์โมนที่ดีกำจัดฮอร์โมนที่ไม่ดีออกไป”
อย่างไรก็ตามนายแพทย์อุกฤษ กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าภาครัฐมองอย่างไรในเรื่องเมดิคอล ฮับ เพราะนโยบายยังไม่ทราบว่าชัดเจนแค่ไหน แต่ในวงการที่ไม่พูดถึงเรื่องดังกล่าวที่ไทยจะเป็นเมดิคอล ฮับ นั้นมีความเป็นไปได้สูงมาก