ผมรู้สึกว่าเมืองไทยเรานั้น บางเรื่องที่คนไทยอยากฟังอยากรู้มักจะไม่ได้รู้เพราะเคยมีอำนาจหน้าที่และต้องรับผิดชอบพยายามทิ้งเรื่องให้นานเกินไป แต่บางเรื่องที่คนไทยไม่ต้องการรู้มันก็รู้กันเร็วจนเกินไปเพราะแพ้ความอยากรู้อยากเห็นของประชาชน มีคนบอกผมอย่างท้อแท้ว่าเมืองไทยเรานี้จะมีอะไรบ้างที่มันถูกต้องหรือเป็นธรรมเป็นเหมือนบ้านคนอื่นเขา หรือมีความรู้ความสามารถไม่มากไปกว่าเด็กอมมือ เรื่องที่ประชาชนควรจะรู้ให้เร็วที่สุดกลับปิดบังไม่ยอมให้รู้
อย่างเรื่องไม่ต้องการให้คนกินเหล้าก็ไปนั่งคิดนั่งฝันเอาเองว่า การห้ามคนกินหล้าและห้ามโฆษณาเหล้าในประเทศไทย ยกเว้นแต่นักฟุตบอลของต่างชาติที่จะมาแข่งขันกีฬาในเมืองไทยให้โฆษณาได้ เป็นความโง่ที่เรานิยมทำกันอย่างนี้มาตลอด
แต่เรื่องที่คนอยากรู้ เช่น เรื่องไอทีวีหรือเรื่องการซื้อที่ดินของคุณหญิงที่ไม่ต้องเสียภาษีเพราะสามีเขาใช้อำนาจกดหัวเจ้าหน้าที่และนักกฎหมายในกรมสรรพากรใช้วิชากะล่อนและโกหกผู้คนละเมิดปิดบังกฎหมายเอาไว้ ก็ทำให้ไทยต้องเสียภาษีเป็นพันๆ หมื่นๆ ล้านแล้วก็ได้รับการประคบประหงมเป็นการใหญ่เพื่อโกงบ้านโกงเมืองต่อไป รัฐบาลทั้งชุดของเราจะไม่ยอมชี้แจงบอกกล่าวว่าอะไรเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนที่สุดทั้งหมดเป็นเรื่องที่เราจะต้องรู้
วิธีคิดวิธีทำแบบนี้ ว่ากันว่าตั้งแต่ก่อนร่อนชะไร เด็กอมมือก็ไม่เคยทำ แต่เมืองไทยเรามีรัฐมนตรีโง่ๆ ขึ้นมาทำหน้าที่ปกครองบ้านเมืองในส่วนนี้เพื่อให้หมดเปลือง เพื่อแสดงให้เห็นความโง่เขลาที่ชัดเจน ความไม่มีหัวคิดและความไม่มีสติปัญญาเพราะใครมันก็รู้ว่าการที่คนจะกินเหล้าหรือไม่กินเหล่านั้น เท่าที่ทราบกันก็คือคนไทยในสมัยปู่เจ้าลาวจกหรือตอนที่อยู่ภาคใต้ของจีนหรือในแคว้น 12 จุไทยที่ผ่านมาแล้วเป็นพันๆ ปีหรือในสมัยอยุธยานั้น คนไทยกินกันมาทุกบ้านทุกครอบครัวโดยไม่มีโฆษณา ไม่มีวิทยุ โทรทัศน์ ไม่มีสิ่งพิมพ์ และไม่มีโรงพิมพ์ เมืองไทยก็อยู่รอดอย่างมีศีลธรรม มีวัฒนธรรมอันดีงามมาตลอด และกู้ชาติกันขึ้นมาได้จนทุกวันนี้ และก็กินเหล้าขายเหล้ากันมาทุกวันนี้ ไม่ว่าจะมีโฆษณาหรือไม่มีโฆษณา
เช่นเดียวกับเหล้าหรือสาโทที่ทำด้วยข้าวเหนียวหลังจากเก็บเกี่ยวก็เตรียมเอาไว้ในทุกภาคของเมืองไทยเป็นเหล้าเหมือนกัน รสชาติจะเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือหรือภาคใต้ ส่วนมากที่คนไทยจะกินกันก็ในยามที่จะต้องแสดงความรัก เคารพนับถือกัน เลี้ยงดูตอบแทนหรือการแสดงน้ำใจต่อกันไม่ได้เสียหายอะไร
ที่เดือดร้อนคือเพราะพ่อแม่อดอยาก เพราะไม่มีอะไรจะกินเข้าไปต่างหาก
ทำไมนักการเมืองโง่ๆ ของเราไม่คิดถึงเรื่องนี้และไม่เอาความจริงนี้มาพูดให้ประชาชนรู้ ทั้งที่ประชาชนพลเมืองต้องการรู้เพื่อจะได้หาทางแก้ไขกันอย่างไรต่อไป
การรบกับพม่าและยึดกรุงศรีอยุธยาคืนกลับมานั้น มีคนที่นั่นพูดกันว่ามีการต้มเหล้าเหมือนกัน เหล้าไม่เคยทำให้คนไทยเกิดความเสียหายแต่ประการใด
ไม่มีใครที่จะต้องบังอาจไปบอกเขาว่าใครจะกินเหล้าหรือไม่กินเหล้า เมื่อถึงเวลาหน้าฝนที่จะต้องลงมือทำไร่ไถนา พร้อมที่จะตื่นนอนกันตั้งแต่ไม่น้อยกว่าตีห้าพร้อมกับต้อนควายออกไปจนกระทั่งมืดค่ำจึงจะกลับ ทุกอย่างจะรู้ว่าจะต้องทำอะไรและมีการกินเหล้ากัน
มีความจริงอยู่อย่างหนึ่งในโลกนี้ คือจะมีคนสองประเภท ประเภทที่หนึ่งได้แก่ คนที่ใช้ความโง่มากจนติดนิสัยในด้านที่โง่จะพูด จะคิดอะไรก็เอาความโง่มาพูดมาคิด อีกประเภทหนึ่งคือ คนที่มีความคิด ที่มีความเชื่อมั่นว่าอะไรที่มันถูกต้อง ก็ทำตามความคิดนั้น
เช่นเดียวกับการกินเหล้าหรือการกระทำความชั่วในโลกนี้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่มนุษย์หน้าโง่รายไหนหรือพวกไหนจะโง่โดยประกาศลงโทษว่าเป็นความผิดจะต้องหยุดเกี่ยวข้องเหมือนการออกกฎหมายห้ามกินเหล้าและการโฆษณาเหล้า เพราะว่าห้ามยังไงก็ห้ามไม่ได้เพราะมันเป็นนิสัยของมนุษย์ การจะกินเหล้าไม่กินเหล้า โฆษณาหรือไม่โฆษณามันก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนอบรมมาจากครอบครัวหรือนิสัยสันดานของเขาเอง จะงดไว้หรือพูดกันอย่างกว้างๆ ก็คือการอบรมบ่มนิสัยหรือจะดีจะชั่วจากสิ่งแวดล้อมที่เขาอยู่ เพราะสังคมของเขาหรือครอบครัวของเขา
เช่นเดียวกับการเล่นการพนัน ถ้าหากใครมีนิสัยที่เกิดมาเกลียดการพนัน และไม่ต้องการเล่นพนันโดยนิสัย มันก็ไม่เล่นไม่แตะต้อง หรือเพราะการศึกษาเล่าเรียนและสิ่งแวดล้อมที่เขาได้รับมาว่า มันไม่ควรจะแตะต้องเขาก็จะไม่แตะต้อง
ไม่ใช่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่มีอำนาจทำได้ไปกดหัวเขาเอาง่ายๆ ด้วยการออกคำสั่ง
และที่สำคัญที่สุดก็คือ บ้านเมืองทุกวันนี้มีเรื่องที่จะต้องจัดการแก้ไขปราบปรามอีกมากมาย กรุงเทพฯ เมืองเดียวเท่านั้น อาชญากรรมก็มากมายทุกซอกทุกมุมถนน การคอร์รัปชันของข้าราชการไม่ว่าจะเป็นกรมสรรพากรที่กำลังรอติดคุกอยู่หลายท่าน เพราะการคอร์รัปชันเพื่อเจ้านายที่ไม่เสียภาษีอย่างที่ชาวบ้านกำลังสาปแช่งอยู่ในขณะนี้ นั่นก็เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าการไม่ให้คนกินเหล้าหรือไม่มีการโฆษณาเหล้าที่ทั้งโลกเขาไม่ได้ถือว่าเป็นอาชญากรรมที่จะต้องลงไม้ลงมือเอาเป็นเอาตายกันอย่างที่กระทำกันอยู่ในขณะนี้
หรือบอกกล่าวประชาชนให้รู้กันเสียว่าเวลานี้เต็มไปด้วยโจรขโมยปล้นกินและทำอุบาทว์เสียหายแก่ประเทศชาติอย่างมหันต์ที่จะต้องช่วยกันดูแลป้องกันไม่ให้เป็นเรื่องเป็นราวแต่ไม่ยอมแตะกลับไปประกาศห้ามกินเหล้าโฆษณาเหล้า
และที่สำคัญที่สุดก็คือการลงทุนลากรถถังทหารเป็นร้อยเป็นพันคันออกมาปฏิวัติเพื่อฆ่าคนไทยด้วยกันเอง ถ้ามีความจำเป็น
ซึ่งโดยความเป็นจริงนั้น เด็กอมมือของไทยทุกบรรพบุรุษก็จะไม่ทำอย่างนี้เมื่อเป็นเช่นนี้ถ้าหากไม่เป็นการกระทำของเด็กอมมือแล้ว เราจะเรียกมันว่าอะไร?
เมืองไทยเรานั้นเกือบจะเชื่อได้ว่าแม้แต่เม็ดทรายทุกเม็ดที่ติดรองเท้าคนขึ้นมาเป็นกรมเป็นกองนั้น ก็ล้วนแต่ความสกปรกชั่วร้ายอยู่ทั้งสิ้น
นับเป็นพันๆ เรื่องที่สกปรกเลอะเทอะผิดกฎหมายอย่างรุนแรงในบ้านเมืองขณะนี้
เฉพาะเรื่องที่จำเป็นจะต้องพูดให้ชัดเจนกว้างขวาง และได้รับการเผยแพร่กันทั่วประเทศและทั่วโลกก็คือ เหตุผลที่แท้จริง 4 ข้อที่รัฐบาลปฏิวัติได้อ้างออกมาเมื่อวันทำการปฏิวัตินั้น พูดออกมาชนิดที่เรียกว่า พูดพล่อยๆ พูดออกมาเพื่ออะไร
ในการแถลงเหตุผล 4 ประการสำหรับการเข้ามาปฏิวัตินั้น เด็กอมมือพวกนี้ของเรายืนยันออกมาให้แก่คนไทยและคนทั้งโลกยอมรับว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องและเหมาะสม
เพื่อสงวนตัวเองให้คนยอมรับกันต่อไปว่าไม่ได้พูดออกมาด้วยความกะล่อน และไม่รับผิดชอบในกิจกรรมที่รัฐบาลอุบาทว์ชุดที่ผ่านมากระทำกันคือ ความแตกแยกในหมู่ประชาชน การคอร์รัปชัน การประพฤติปฏิบัติ และการแสดงออกที่หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพซึ่งก็ได้ทำติดต่อกันมาไม่เคยหยุด นับจนกระทั่งทุกวันนี้หนึ่งเดือนเศษจากวันปฏิวัติไม่มีข้อหนึ่งข้อใดใน 4 ข้อที่รัฐบาลปฏิวัติไม่ยอมให้เหตุผล และหลักฐานใดๆ ออกมาให้ประชาชนทราบแม้แต่ประโยคเดียว ในขณะที่ประชาชนทั่วโลกนั่งรอฟังอยู่ว่าที่รัฐบาลแถลงออกมานั้น เรื่องมันเป็นอย่างไร และมีความจริงแค่ไหน ไม่ได้ยินเสียงแม้แต่แอะเดียว
แต่ไปสั่งห้ามคนกินเหล้าและห้ามโฆษณาเหล้า ซึ่งไม่ว่าผมหรืออ้ายแก้วอ้ายทองของหนังตลุงคณะไหน พร้อมที่จะท้าทายและยืนยันว่ากี่ร้อยปีกี่ร้อยชาติจะไม่มีวันทำสำเร็จ นอกจากเป็นการร่วมมือกันสร้างอนุสรณ์สถานเอาไว้สำหรับให้คนถุยน้ำลายแก้รำคาญเท่านั้น
เป็นการแสดงความรู้ความสามารถที่น่าอนาถที่สุดของรัฐบาลไทย ที่ได้ทำลายความ ศรัทธาและความยกย่องจากประชาชนว่าความน่าทุเรศที่ทุกคนกำลังนั่งปลงสังเวชอยู่ในขณะนี้
ในการปกครองบ้านเมืองนั้น สิ่งที่ผู้มีอำนาจทั้งโลกทุกยุคทุกสมัยมีหน้าที่สำคัญประการหนึ่ง คือการกระทำของรัฐบาลที่ว่านั้นคืออะไร มีเหตุผลอย่างไร ไม่มีประชาชนพลเมืองของประเทศไหนที่จะนั่งกัดลิ้นตัวเองอยู่อย่างที่คนไทยกำลังรอคอยข้อเท็จจริงกันมาเป็นแรมเดือน หรืออาจจะเป็นแรมปีเมื่อบรรดา ฯพณฯ ทั้งหลายกำลังหมดวาสนาอยู่
ผมเห็นว่าการแสดงความคิดความอ่านทุกอย่างออกมา มันแย่กว่าความคิดความอ่านของรัฐบาลชุดนี้ ผมขอยืนยันว่าทุกเรื่องจะไม่มีเรื่องใดที่ประสบความสำเร็จ นอกจากจะเป็นตัวสร้างปัญหาให้เกิดความเข้าใจผิด สร้างความแตกแยกระหว่างคนในชาติยิ่งขึ้น ความสงบสุขในบ้านเมืองจะหาไม่ได้
เราไม่มีลูกผู้ชายแท้ๆ ที่พอพึ่งพอหวังได้แม้แต่คนเดียวในรัฐบาลปัจจุบัน
นอกจากขบวนการเด็กอมมือที่รวมกันเข้ามาเพื่อขุดหลุมฝังศพของตัวเองเท่านั้น
เชื่อเถอะครับ รัฐบาลที่หน้าไหว้หลังหลอก ไม่มีสัจจะ และกล้าหาญไม่พอ หรือมัวแต่จะกัดกันอย่างที่เป็นข่าวในขณะนี้ จะไม่มีอะไรดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นคณะรัฐบาลหรือประเทศไทยเองก็จะพากันเสียหายเพียงอย่างเดียว
เด็กอมมือทุกวันนี้ไม่มีใครเอากันแล้ว!!
อย่างเรื่องไม่ต้องการให้คนกินเหล้าก็ไปนั่งคิดนั่งฝันเอาเองว่า การห้ามคนกินหล้าและห้ามโฆษณาเหล้าในประเทศไทย ยกเว้นแต่นักฟุตบอลของต่างชาติที่จะมาแข่งขันกีฬาในเมืองไทยให้โฆษณาได้ เป็นความโง่ที่เรานิยมทำกันอย่างนี้มาตลอด
แต่เรื่องที่คนอยากรู้ เช่น เรื่องไอทีวีหรือเรื่องการซื้อที่ดินของคุณหญิงที่ไม่ต้องเสียภาษีเพราะสามีเขาใช้อำนาจกดหัวเจ้าหน้าที่และนักกฎหมายในกรมสรรพากรใช้วิชากะล่อนและโกหกผู้คนละเมิดปิดบังกฎหมายเอาไว้ ก็ทำให้ไทยต้องเสียภาษีเป็นพันๆ หมื่นๆ ล้านแล้วก็ได้รับการประคบประหงมเป็นการใหญ่เพื่อโกงบ้านโกงเมืองต่อไป รัฐบาลทั้งชุดของเราจะไม่ยอมชี้แจงบอกกล่าวว่าอะไรเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนที่สุดทั้งหมดเป็นเรื่องที่เราจะต้องรู้
วิธีคิดวิธีทำแบบนี้ ว่ากันว่าตั้งแต่ก่อนร่อนชะไร เด็กอมมือก็ไม่เคยทำ แต่เมืองไทยเรามีรัฐมนตรีโง่ๆ ขึ้นมาทำหน้าที่ปกครองบ้านเมืองในส่วนนี้เพื่อให้หมดเปลือง เพื่อแสดงให้เห็นความโง่เขลาที่ชัดเจน ความไม่มีหัวคิดและความไม่มีสติปัญญาเพราะใครมันก็รู้ว่าการที่คนจะกินเหล้าหรือไม่กินเหล่านั้น เท่าที่ทราบกันก็คือคนไทยในสมัยปู่เจ้าลาวจกหรือตอนที่อยู่ภาคใต้ของจีนหรือในแคว้น 12 จุไทยที่ผ่านมาแล้วเป็นพันๆ ปีหรือในสมัยอยุธยานั้น คนไทยกินกันมาทุกบ้านทุกครอบครัวโดยไม่มีโฆษณา ไม่มีวิทยุ โทรทัศน์ ไม่มีสิ่งพิมพ์ และไม่มีโรงพิมพ์ เมืองไทยก็อยู่รอดอย่างมีศีลธรรม มีวัฒนธรรมอันดีงามมาตลอด และกู้ชาติกันขึ้นมาได้จนทุกวันนี้ และก็กินเหล้าขายเหล้ากันมาทุกวันนี้ ไม่ว่าจะมีโฆษณาหรือไม่มีโฆษณา
เช่นเดียวกับเหล้าหรือสาโทที่ทำด้วยข้าวเหนียวหลังจากเก็บเกี่ยวก็เตรียมเอาไว้ในทุกภาคของเมืองไทยเป็นเหล้าเหมือนกัน รสชาติจะเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือหรือภาคใต้ ส่วนมากที่คนไทยจะกินกันก็ในยามที่จะต้องแสดงความรัก เคารพนับถือกัน เลี้ยงดูตอบแทนหรือการแสดงน้ำใจต่อกันไม่ได้เสียหายอะไร
ที่เดือดร้อนคือเพราะพ่อแม่อดอยาก เพราะไม่มีอะไรจะกินเข้าไปต่างหาก
ทำไมนักการเมืองโง่ๆ ของเราไม่คิดถึงเรื่องนี้และไม่เอาความจริงนี้มาพูดให้ประชาชนรู้ ทั้งที่ประชาชนพลเมืองต้องการรู้เพื่อจะได้หาทางแก้ไขกันอย่างไรต่อไป
การรบกับพม่าและยึดกรุงศรีอยุธยาคืนกลับมานั้น มีคนที่นั่นพูดกันว่ามีการต้มเหล้าเหมือนกัน เหล้าไม่เคยทำให้คนไทยเกิดความเสียหายแต่ประการใด
ไม่มีใครที่จะต้องบังอาจไปบอกเขาว่าใครจะกินเหล้าหรือไม่กินเหล้า เมื่อถึงเวลาหน้าฝนที่จะต้องลงมือทำไร่ไถนา พร้อมที่จะตื่นนอนกันตั้งแต่ไม่น้อยกว่าตีห้าพร้อมกับต้อนควายออกไปจนกระทั่งมืดค่ำจึงจะกลับ ทุกอย่างจะรู้ว่าจะต้องทำอะไรและมีการกินเหล้ากัน
มีความจริงอยู่อย่างหนึ่งในโลกนี้ คือจะมีคนสองประเภท ประเภทที่หนึ่งได้แก่ คนที่ใช้ความโง่มากจนติดนิสัยในด้านที่โง่จะพูด จะคิดอะไรก็เอาความโง่มาพูดมาคิด อีกประเภทหนึ่งคือ คนที่มีความคิด ที่มีความเชื่อมั่นว่าอะไรที่มันถูกต้อง ก็ทำตามความคิดนั้น
เช่นเดียวกับการกินเหล้าหรือการกระทำความชั่วในโลกนี้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่มนุษย์หน้าโง่รายไหนหรือพวกไหนจะโง่โดยประกาศลงโทษว่าเป็นความผิดจะต้องหยุดเกี่ยวข้องเหมือนการออกกฎหมายห้ามกินเหล้าและการโฆษณาเหล้า เพราะว่าห้ามยังไงก็ห้ามไม่ได้เพราะมันเป็นนิสัยของมนุษย์ การจะกินเหล้าไม่กินเหล้า โฆษณาหรือไม่โฆษณามันก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนอบรมมาจากครอบครัวหรือนิสัยสันดานของเขาเอง จะงดไว้หรือพูดกันอย่างกว้างๆ ก็คือการอบรมบ่มนิสัยหรือจะดีจะชั่วจากสิ่งแวดล้อมที่เขาอยู่ เพราะสังคมของเขาหรือครอบครัวของเขา
เช่นเดียวกับการเล่นการพนัน ถ้าหากใครมีนิสัยที่เกิดมาเกลียดการพนัน และไม่ต้องการเล่นพนันโดยนิสัย มันก็ไม่เล่นไม่แตะต้อง หรือเพราะการศึกษาเล่าเรียนและสิ่งแวดล้อมที่เขาได้รับมาว่า มันไม่ควรจะแตะต้องเขาก็จะไม่แตะต้อง
ไม่ใช่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่มีอำนาจทำได้ไปกดหัวเขาเอาง่ายๆ ด้วยการออกคำสั่ง
และที่สำคัญที่สุดก็คือ บ้านเมืองทุกวันนี้มีเรื่องที่จะต้องจัดการแก้ไขปราบปรามอีกมากมาย กรุงเทพฯ เมืองเดียวเท่านั้น อาชญากรรมก็มากมายทุกซอกทุกมุมถนน การคอร์รัปชันของข้าราชการไม่ว่าจะเป็นกรมสรรพากรที่กำลังรอติดคุกอยู่หลายท่าน เพราะการคอร์รัปชันเพื่อเจ้านายที่ไม่เสียภาษีอย่างที่ชาวบ้านกำลังสาปแช่งอยู่ในขณะนี้ นั่นก็เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าการไม่ให้คนกินเหล้าหรือไม่มีการโฆษณาเหล้าที่ทั้งโลกเขาไม่ได้ถือว่าเป็นอาชญากรรมที่จะต้องลงไม้ลงมือเอาเป็นเอาตายกันอย่างที่กระทำกันอยู่ในขณะนี้
หรือบอกกล่าวประชาชนให้รู้กันเสียว่าเวลานี้เต็มไปด้วยโจรขโมยปล้นกินและทำอุบาทว์เสียหายแก่ประเทศชาติอย่างมหันต์ที่จะต้องช่วยกันดูแลป้องกันไม่ให้เป็นเรื่องเป็นราวแต่ไม่ยอมแตะกลับไปประกาศห้ามกินเหล้าโฆษณาเหล้า
และที่สำคัญที่สุดก็คือการลงทุนลากรถถังทหารเป็นร้อยเป็นพันคันออกมาปฏิวัติเพื่อฆ่าคนไทยด้วยกันเอง ถ้ามีความจำเป็น
ซึ่งโดยความเป็นจริงนั้น เด็กอมมือของไทยทุกบรรพบุรุษก็จะไม่ทำอย่างนี้เมื่อเป็นเช่นนี้ถ้าหากไม่เป็นการกระทำของเด็กอมมือแล้ว เราจะเรียกมันว่าอะไร?
เมืองไทยเรานั้นเกือบจะเชื่อได้ว่าแม้แต่เม็ดทรายทุกเม็ดที่ติดรองเท้าคนขึ้นมาเป็นกรมเป็นกองนั้น ก็ล้วนแต่ความสกปรกชั่วร้ายอยู่ทั้งสิ้น
นับเป็นพันๆ เรื่องที่สกปรกเลอะเทอะผิดกฎหมายอย่างรุนแรงในบ้านเมืองขณะนี้
เฉพาะเรื่องที่จำเป็นจะต้องพูดให้ชัดเจนกว้างขวาง และได้รับการเผยแพร่กันทั่วประเทศและทั่วโลกก็คือ เหตุผลที่แท้จริง 4 ข้อที่รัฐบาลปฏิวัติได้อ้างออกมาเมื่อวันทำการปฏิวัตินั้น พูดออกมาชนิดที่เรียกว่า พูดพล่อยๆ พูดออกมาเพื่ออะไร
ในการแถลงเหตุผล 4 ประการสำหรับการเข้ามาปฏิวัตินั้น เด็กอมมือพวกนี้ของเรายืนยันออกมาให้แก่คนไทยและคนทั้งโลกยอมรับว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องและเหมาะสม
เพื่อสงวนตัวเองให้คนยอมรับกันต่อไปว่าไม่ได้พูดออกมาด้วยความกะล่อน และไม่รับผิดชอบในกิจกรรมที่รัฐบาลอุบาทว์ชุดที่ผ่านมากระทำกันคือ ความแตกแยกในหมู่ประชาชน การคอร์รัปชัน การประพฤติปฏิบัติ และการแสดงออกที่หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพซึ่งก็ได้ทำติดต่อกันมาไม่เคยหยุด นับจนกระทั่งทุกวันนี้หนึ่งเดือนเศษจากวันปฏิวัติไม่มีข้อหนึ่งข้อใดใน 4 ข้อที่รัฐบาลปฏิวัติไม่ยอมให้เหตุผล และหลักฐานใดๆ ออกมาให้ประชาชนทราบแม้แต่ประโยคเดียว ในขณะที่ประชาชนทั่วโลกนั่งรอฟังอยู่ว่าที่รัฐบาลแถลงออกมานั้น เรื่องมันเป็นอย่างไร และมีความจริงแค่ไหน ไม่ได้ยินเสียงแม้แต่แอะเดียว
แต่ไปสั่งห้ามคนกินเหล้าและห้ามโฆษณาเหล้า ซึ่งไม่ว่าผมหรืออ้ายแก้วอ้ายทองของหนังตลุงคณะไหน พร้อมที่จะท้าทายและยืนยันว่ากี่ร้อยปีกี่ร้อยชาติจะไม่มีวันทำสำเร็จ นอกจากเป็นการร่วมมือกันสร้างอนุสรณ์สถานเอาไว้สำหรับให้คนถุยน้ำลายแก้รำคาญเท่านั้น
เป็นการแสดงความรู้ความสามารถที่น่าอนาถที่สุดของรัฐบาลไทย ที่ได้ทำลายความ ศรัทธาและความยกย่องจากประชาชนว่าความน่าทุเรศที่ทุกคนกำลังนั่งปลงสังเวชอยู่ในขณะนี้
ในการปกครองบ้านเมืองนั้น สิ่งที่ผู้มีอำนาจทั้งโลกทุกยุคทุกสมัยมีหน้าที่สำคัญประการหนึ่ง คือการกระทำของรัฐบาลที่ว่านั้นคืออะไร มีเหตุผลอย่างไร ไม่มีประชาชนพลเมืองของประเทศไหนที่จะนั่งกัดลิ้นตัวเองอยู่อย่างที่คนไทยกำลังรอคอยข้อเท็จจริงกันมาเป็นแรมเดือน หรืออาจจะเป็นแรมปีเมื่อบรรดา ฯพณฯ ทั้งหลายกำลังหมดวาสนาอยู่
ผมเห็นว่าการแสดงความคิดความอ่านทุกอย่างออกมา มันแย่กว่าความคิดความอ่านของรัฐบาลชุดนี้ ผมขอยืนยันว่าทุกเรื่องจะไม่มีเรื่องใดที่ประสบความสำเร็จ นอกจากจะเป็นตัวสร้างปัญหาให้เกิดความเข้าใจผิด สร้างความแตกแยกระหว่างคนในชาติยิ่งขึ้น ความสงบสุขในบ้านเมืองจะหาไม่ได้
เราไม่มีลูกผู้ชายแท้ๆ ที่พอพึ่งพอหวังได้แม้แต่คนเดียวในรัฐบาลปัจจุบัน
นอกจากขบวนการเด็กอมมือที่รวมกันเข้ามาเพื่อขุดหลุมฝังศพของตัวเองเท่านั้น
เชื่อเถอะครับ รัฐบาลที่หน้าไหว้หลังหลอก ไม่มีสัจจะ และกล้าหาญไม่พอ หรือมัวแต่จะกัดกันอย่างที่เป็นข่าวในขณะนี้ จะไม่มีอะไรดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นคณะรัฐบาลหรือประเทศไทยเองก็จะพากันเสียหายเพียงอย่างเดียว
เด็กอมมือทุกวันนี้ไม่มีใครเอากันแล้ว!!