"ชาตรี โสภณพนิช"ระบุดีลชินคอร์ปไม่ผิดกฎหมาย แต่ขัดจริยธรรม แนะทางออกให้เทมาเส็ก ยอมขาดทุน โดยกระจายหุ้นชินคอร์ปในซีด้าร์โฮลดิ้งให้ประชาชนทั่วไปผ่านตลาดหลักทรัพย์ ช่วยสางปัญหานอมินีผิด พ.ร.บ.ต่างด้าว ด้าน "จิรายุ"แจงสายสัมพันธ์ใบโพธิ์-เทมาเส็ก แค่หุ้นส่วนที่ดี ไม่มีอิทธิพลเหนือคนไทย ขณะที่หุ้น SHIN ร่วง 2.27% หลัง ม.ร.ว.ทองน้อย ปฏิเสธนั่งที่ปรึกษาเทมาเส็ก
นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวปฏิเสธที่จะเข้าลงทุนหรือซื้อหุ้นชินคอร์ปจากกองทุนเทมาเส็ก โดยให้เหตุผลว่าธนาคารกรุงเทพไม่มีนโยบายและยืนยันว่ายังไม่มีใครติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด
นายชาตรีมองว่า ในประเทศไทยการซื้อหุ้นมูลค่านับหมื่นล้าน ในอนาคตจะต้องลงทุนเพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายในกิจการโทรคมนาคม และยังมีปัญหาทางการเมืองเป็นประเด็นร้อน เป็นเรื่องยากมาก เพราะการให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจงหรือให้เพียง 1-2 ราย ไม่เพียงแต่มีน้อยรายเท่านั้น แต่จะถูกสังคมจับตามอง ทางออกที่เหมาะสมในขณะนี้ คือการขายให้ประชาชนทั่วไปโดยการกระจายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ในรูปแบบไอพีโอ ทั้งนี้ เทมาเส็กต้องยอมรับผลขาดทุน เนื่องจากต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด อย่างไรก็ตามวิธีดังกล่าวช่วยให้แก้ปัญหานอมินีได้
"เทมาเส็กควรนำหุ้นในซีด้าโฮลดิ้งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต่างด้าวออกไป โดยให้บริษัทหลักทรัพย์เป็นอันเดอไรท์ร์ขายหุ้นให้นักลงทุนรายย่อยที่เป็นคนไทย"
ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ กล่าวและว่า ในตอนแรกเทมาเส็กคงไม่ได้เจตนาซื้อหุ้นชินคอร์ปทั้งจำนวน เขาต้องการซื้อหุ้นที่เป็นของตระกูลชินวัตร แต่เมื่อทำคำเสนอซื้อ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) ตามกฎตลาดหลักทรัพย์ปรากฏว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ได้ขายหุ้นออกมาจำนวนมากจนสัดส่วนเกิน 50% มากกว่ากฎหมายกำหนด เป็นที่มาของซีดาร์ โฮลดิ้งที่ส่งผลให้กุหลาบแก้วถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีหรือขัด พ.ร.บ.ผู้ประกอบการธุรกิจต่างด้าว พ.ศ. 2542
"หากเทียบกับกรณีอื่นๆ ดีลนี้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรมเพราะเป็นการซื้อขายระหว่างครอบครัวผู้นำรัฐบาลไทยกับกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์" นายชาตรี กล่าว
***จิรายุแจงสายสัมพันธ์เทมาเส็ก
นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในฐานะประธานธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้แจงกรณีเทมาเส็กสิงคโปร์ระบุว่า ม.ร.ว.ทองน้อย ทองใหญ่ รองราชเลขาธิการ และที่ปรึกษาส่วนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปฏิเสธการรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานประจำกรุงเทพฯของบริษัทโฮลดิ้งว่า ข้อเท็จจริง ม.ร.ว.ทองน้อยไม่มีบทบาทอะไรเลย คงมีการติดต่อและพิจารณาทำให้มีข้อยุติ
"ข่าวคุณชายทองน้อยไม่รับเป็นที่ปรึกษา จริงๆ แล้วในแง่ของความรู้สึกอาจทำให้เกิดความสงสัย ซึ่งความเป็นมาก็คือหลายปีที่ผ่านมา เทมาเส็กมาถือหุ้นไทยพาณิชย์ด้วยการซื้อหุ้นจากแบงก์ซันวา ญี่ปุ่น สัดส่วนการถือหุ้นของเทมาเส็กแค่ 4% ขณะที่สำนักงานทรัพย์สินฯ กับระทรวงการคลังถือหุ้นรวมกันเกือบ 50% ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมีอิทธิพลเกินคนไทย "
สำหรับกรณีชินคอร์ปนายจิรายุกล่าวว่า กองทุนเทมาเส็กได้ติดต่อธนาคารไทยพาณิชย์ว่า อยากมีส่วนร่วมลงทุนและให้เงินกู้แก่เทมาเส็กในการเทกโอเวอร์หรือไม่ คณะกรรมการธนาคารฯ ก็พิจารณาเห็นว่า เทมาเส็กเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีกับธนาคารไทยพาณิชย์มานาน ที่สำคัญไทยพาณิชย์กำลังพัฒนาตลาดลูกค้ารายย่อย (รีเทลแบงกิ้ง) ดังนั้นจะมีข้อมูลที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจของชินคอร์ปด้วย จึงตอบรับและไม่ได้ร่วมทุนในสัดส่วนที่สูงแต่อย่างใด
** หุ้น SHIN ร่วง 2.27%
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า วานนี้ (27 ต.ค.) หุ้นชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ติดลบ 2.27% หลัง ม.ร.ว.ทองน้อย ทองใหญ่ ปฏิเสธไม่รับเป็นที่ปรึกษาของกลุ่มเทมาเส็กที่จะตั้งสำนักงานในไทย โดยปิดตลาดที่ราคา 32.25 บาท หรือลดลงอีก 0.75 บาท ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนไทยว่า เทมาเส็กและ ม.ร.ว.ทองน้อย เห็นพ้องต้องกันว่า ม.ร.ว.ทองน้อย จะไม่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของกลุ่มเทมาเส็ก ที่จะมาตั้งสำนักงานในประเทศไทยและก่อนหน้าก็มีกระแสข่าวว่า จะให้ ม.ร.ว.ทองน้อย จะเข้ามาเป็นประธานชินคอร์ปด้วย
นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวปฏิเสธที่จะเข้าลงทุนหรือซื้อหุ้นชินคอร์ปจากกองทุนเทมาเส็ก โดยให้เหตุผลว่าธนาคารกรุงเทพไม่มีนโยบายและยืนยันว่ายังไม่มีใครติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด
นายชาตรีมองว่า ในประเทศไทยการซื้อหุ้นมูลค่านับหมื่นล้าน ในอนาคตจะต้องลงทุนเพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายในกิจการโทรคมนาคม และยังมีปัญหาทางการเมืองเป็นประเด็นร้อน เป็นเรื่องยากมาก เพราะการให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจงหรือให้เพียง 1-2 ราย ไม่เพียงแต่มีน้อยรายเท่านั้น แต่จะถูกสังคมจับตามอง ทางออกที่เหมาะสมในขณะนี้ คือการขายให้ประชาชนทั่วไปโดยการกระจายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ในรูปแบบไอพีโอ ทั้งนี้ เทมาเส็กต้องยอมรับผลขาดทุน เนื่องจากต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด อย่างไรก็ตามวิธีดังกล่าวช่วยให้แก้ปัญหานอมินีได้
"เทมาเส็กควรนำหุ้นในซีด้าโฮลดิ้งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต่างด้าวออกไป โดยให้บริษัทหลักทรัพย์เป็นอันเดอไรท์ร์ขายหุ้นให้นักลงทุนรายย่อยที่เป็นคนไทย"
ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ กล่าวและว่า ในตอนแรกเทมาเส็กคงไม่ได้เจตนาซื้อหุ้นชินคอร์ปทั้งจำนวน เขาต้องการซื้อหุ้นที่เป็นของตระกูลชินวัตร แต่เมื่อทำคำเสนอซื้อ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) ตามกฎตลาดหลักทรัพย์ปรากฏว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ได้ขายหุ้นออกมาจำนวนมากจนสัดส่วนเกิน 50% มากกว่ากฎหมายกำหนด เป็นที่มาของซีดาร์ โฮลดิ้งที่ส่งผลให้กุหลาบแก้วถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีหรือขัด พ.ร.บ.ผู้ประกอบการธุรกิจต่างด้าว พ.ศ. 2542
"หากเทียบกับกรณีอื่นๆ ดีลนี้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรมเพราะเป็นการซื้อขายระหว่างครอบครัวผู้นำรัฐบาลไทยกับกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์" นายชาตรี กล่าว
***จิรายุแจงสายสัมพันธ์เทมาเส็ก
นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในฐานะประธานธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้แจงกรณีเทมาเส็กสิงคโปร์ระบุว่า ม.ร.ว.ทองน้อย ทองใหญ่ รองราชเลขาธิการ และที่ปรึกษาส่วนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปฏิเสธการรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานประจำกรุงเทพฯของบริษัทโฮลดิ้งว่า ข้อเท็จจริง ม.ร.ว.ทองน้อยไม่มีบทบาทอะไรเลย คงมีการติดต่อและพิจารณาทำให้มีข้อยุติ
"ข่าวคุณชายทองน้อยไม่รับเป็นที่ปรึกษา จริงๆ แล้วในแง่ของความรู้สึกอาจทำให้เกิดความสงสัย ซึ่งความเป็นมาก็คือหลายปีที่ผ่านมา เทมาเส็กมาถือหุ้นไทยพาณิชย์ด้วยการซื้อหุ้นจากแบงก์ซันวา ญี่ปุ่น สัดส่วนการถือหุ้นของเทมาเส็กแค่ 4% ขณะที่สำนักงานทรัพย์สินฯ กับระทรวงการคลังถือหุ้นรวมกันเกือบ 50% ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมีอิทธิพลเกินคนไทย "
สำหรับกรณีชินคอร์ปนายจิรายุกล่าวว่า กองทุนเทมาเส็กได้ติดต่อธนาคารไทยพาณิชย์ว่า อยากมีส่วนร่วมลงทุนและให้เงินกู้แก่เทมาเส็กในการเทกโอเวอร์หรือไม่ คณะกรรมการธนาคารฯ ก็พิจารณาเห็นว่า เทมาเส็กเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีกับธนาคารไทยพาณิชย์มานาน ที่สำคัญไทยพาณิชย์กำลังพัฒนาตลาดลูกค้ารายย่อย (รีเทลแบงกิ้ง) ดังนั้นจะมีข้อมูลที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจของชินคอร์ปด้วย จึงตอบรับและไม่ได้ร่วมทุนในสัดส่วนที่สูงแต่อย่างใด
** หุ้น SHIN ร่วง 2.27%
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า วานนี้ (27 ต.ค.) หุ้นชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ติดลบ 2.27% หลัง ม.ร.ว.ทองน้อย ทองใหญ่ ปฏิเสธไม่รับเป็นที่ปรึกษาของกลุ่มเทมาเส็กที่จะตั้งสำนักงานในไทย โดยปิดตลาดที่ราคา 32.25 บาท หรือลดลงอีก 0.75 บาท ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนไทยว่า เทมาเส็กและ ม.ร.ว.ทองน้อย เห็นพ้องต้องกันว่า ม.ร.ว.ทองน้อย จะไม่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของกลุ่มเทมาเส็ก ที่จะมาตั้งสำนักงานในประเทศไทยและก่อนหน้าก็มีกระแสข่าวว่า จะให้ ม.ร.ว.ทองน้อย จะเข้ามาเป็นประธานชินคอร์ปด้วย