xs
xsm
sm
md
lg

บุกยึดอาวุธสงครามเตรียมป่วนปัตตานี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯรับพระเหยื่อระเบิดใต้ เป็นพระสงฆ์อาพาธในพระบรมราชานุเคราะห์ ตำรวจบุกตรวจค้น หมู่บ้าน ต้องสงสัยในปัตตานีพบเอ็ม 16 ถึง 7 กระบอกซุกในลำคลอง คาดคนร้ายเตรียมก่อเหตุ ขณะเดียวกันกลุ่มก่อความไม่สงบในนราธิวาส ยิงชาวบ้านตายอีก 2 พร้อมเผายางรถยนต์ลวงกดบึ้มถล่มซ้ำ ตร.ระแงะ เจ็บ 4 มท.1 ยันโครงสร้างใหม่ ศอ.บต.สามารถแก้ปัญหาใต้ได้เร็ว-เด็ดขาดมากขึ้นแน่ ส่วนรมว.กลาโหม พร้อมประสานทุกฝ่ายเร่งรัดให้ ศอ.บต.เริ่มงานได้ พ.ย.นี้

ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วานนี้ (26 ต.ค.) พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บและถวายเงินในโครงการพระราชดำริแก่พระภิกษุวัดพรหมนิวาส 5 รูป และมอบเงินช่วยเหลือทหารอีก 2 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดขณะออกบิณฑบาต ที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พล.อ.ณพล เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับพระทั้ง 5 รูปเป็นพระสงฆ์อาพาธในพระบรมราชานุเคราะห์ ส่วนอาการบาดเจ็บของพลทหาร วชิราวุธ ที่ยังไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถหายใจได้เอง โดยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา อาการยังน่าเป็นห่วงมาก

ด้าน พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีลอบวางระเบิดกลางเมืองนราธิวาส ว่า ได้กำชับให้ทีมสืบสวนสอบสวนเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากโทรทัศน์วงจรปิดที่มีอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ส่วนการที่ระยะหลังคนร้ายใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดมากขึ้น เป็นเพราะสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่นไปซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ได้ ซึ่งได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้มีความเข้มงวดในเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หากมองในด้านการเกิดเหตุ ยังถือว่าน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาครึ่งต่อครึ่ง

ด้านความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้วานนี้เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงค์วรชาติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยกำลังทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ยะหริ่ง และเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปตรวจค้นแหล่งต้องสงสัยภายในพื้นที่หมู่ 3 บ้านตาโละอาโห ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ได้ทำการซุกซ่อนวัตถุต้องสงสัย

จากการเข้าตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 7 กระบอก พร้อมกระสุน 46 นัด ซุกซ่อนไว้ภายในบริเวณลำคลองสาธารณะในหมู่บ้านโดยคนร้ายพันผ้าไว้ทั้ง 7 กระบอก โดยจุดที่ค้นเจออาวุธปืนดังกล่าวเคยเป็นจุดที่คนร้ายดักซุ่มยิงตำรวจชุดลาดตะเวนของ สภ.อ.ยะหริ่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นเหตุให้มีตำรวจเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดและทำการตรวจสอบที่มาของอาวุธปืน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาวุธปืนทั้งหมดเป็นอาวุธปืนที่คนร้ายได้ซุกซ่อนไว้เพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก เป็นอาวุธปืนของกรมการปกครอง ส่วนอีก 5 กระบอกอยู่ระหว่างการตรวจสอบ คาดว่าอาจจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในพื้นที่มาก่อนหน้านี้ด้วย

ขณะที่เช้าตรู่วันเดียวกันเวลา 05.00 น.คนร้ายได้ประกบยิงชาวบ้านเสียชีวิต 2 รายในพื้นที่ จ.นราธิวาส เหตุแรกเกิดขึ้นในพื้นที่ ม.8 บ้านบือระ ต.ตุโบ๊ะตาโยะ อ.สุไหงปาดี โดยนายเปาซี มะและ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเสียชีวิต ขณะขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อไปหาญาติในต่างพื้นที่

ในเวลาไล่เลี่ยกันนายลาเต๊ะ อาแว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.4 ต.เจาะไอร้อง อ.เจาะไอร้อง ถูกคนร้ายประกบยิงเข้าที่บริเวณลำตัวจำนวนหลายนัดเสียชีวิตบนถนนในพื้นที่ ม.4 ต.จวบ ซึ่งเหตุทั้ง 2 รายเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ

จากนั้นเวลา 12.20 น.ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พร้อมชุดเก็บกู้ระเบิด นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุบนถนนสายระแงะ-กูจิงลือปะ บริเวณบ้านตราแด๊ะ ม.5 ต.บาโงสะโต ตามที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเผายางรถยนต์วางทิ้งเกลื่อนถนนและมีกล่องวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ใกล้ ๆ กัน ระหว่างเจ้าหน้าที่เคลียร์เส้นทางและตรวจสอบกล่องต้องสงสัย 2 กล่อง เป็นกล่องกระดาษเปล่า 1 กล่อง และกล่องขนาดใหญ่ข้างในมีโทรทัศน์บรรจุอยู่ 1 เครื่อง

ปรากฏว่า ได้เกิดระเบิดขึ้นที่บริเวณสะพานคลองไอ้แดง บนถนนที่เกิดเหตุ ห่างออกไปประมาณ 7 เมตร แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านบูเก๊ะซามี ที่ได้รับแจ้งไปร่วมตรวจสอบได้รับบาดเจ็บ 4 นาย คือ 1.จ.ส.ต.ภูมิกิติ ตรงคำนึง 2.ส.ต.ต.สุริยะ มะเดื่อ 3.ส.ต.ต.สมคิด ด้วงชู และ 4.ส.ต.ต.วินัย ทะตาเรนะ ถูกนำส่งรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลระแงะ

จากการตรวจสอบ พบว่าคนร้ายลอบนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กก.บรรจุในกล่องเหล็ก วางซุกไว้ในพงหญ้ารกบริเวณหัวสะพานแล้วจุดชนวนระเบิดด้วยสัญญาณโทรศัพท์มือถือ คาดว่าคนร้ายวางแผนก่อเหตุเผายางรถยนต์และนำกล่องต้องสงสัยมาวาง เพื่อลวงเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้วจุดชนวนระเบิดหวังสังหารหมู่

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงโครงสร้างศูนย์อำนวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ให้อำนาจกระทรวงมหาดไทยดูแลด้านการพัฒนา และให้ทหารดูแลกองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ 43 (พตท.43) ว่า เป็นเรื่องของสถานการณ์ ซึ่งต้องเข้าใจว่าเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์เป็นอีกอย่าง ปัจจุบันก็เป็นอีกอย่าง ต้องดูว่าเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป จะจัดโครงสร้างให้สอดคล้องอย่างไรกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะฝ่ายที่ก่อการพยายามก่อเหตุทุกรูปแบบ ดังนั้น ต้องดูแลด้วยความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

นายอารีย์ กล่าวว่า ในโครงสร้างของ ศอ.บต.ใหม่ ทหารจะดูเรื่องเกี่ยวกับกองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ส่วน ศอ.บต.จะประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการ ทั้งกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ รวมทั้งฝ่ายยุติธรรมที่อำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นโครงสร้างจะเป็นเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในความดูแลของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) คาดว่าโครงสร้างจะเสร็จออกมาเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ รมว.มหาดไทย ให้ความมั่นใจด้วยว่า โครงสร้างใหม่ ศอ.บต.จะช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบได้ดีขึ้นแน่ เพราะทำให้สายการบังคับบัญชาสั้นลง จะจบลงในพื้นที่เลย ไม่ต้องมาถึง กทม. ซึ่งจะทำให้การดูแล การลงพื้นที่ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่มีมากขึ้น รวมทั้งการอบรมข้าราชการที่จะลงไปในพื้นที่ให้มีความเข้าใจในแบบแผนระเบียบประเพณี แนวคิด ศาสนาของคนในพื้นที่ รวมทั้งการดูแลไม่ให้มีใครไปทำอะไรนอกรูปแบบ

พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการรื้อฟื้น ศอ.บต.ว่าเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย ส่วนเรื่อง พตท.43 เป็นหน้าที่ของกองทัพบก โดยในเรื่องดังกล่าว พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม ประสานงานกันเพื่อเร่งรัดให้ ศอ.บต.เริ่มงานได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้

ส่วนที่มีข่าวว่านายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี จะมาเป็นผู้อำนวยการ ศอ.บต.นั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยที่จะพิจารณา ซึ่งยังไม่มีการหารือกันในเรื่องนี้ ส่วนเมื่อมี ศอ.บต. และ พตท.43 แล้ว ยังมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารจากกองทัพภาคอื่นอีกหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องพิจารณาอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการจัดตั้งทหารพราน 30 กองร้อย

“หากกำลังดังกล่าวสามารถทำงานได้เมื่อใดก็จะสามารถสนับสนุนการทำงานของกองพลพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากรได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็หมดความจำเป็นที่จะต้องใช้กำลังจากกองทัพภาคอื่น ๆ และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้ว่าจะเป็นเมื่อใด แต่หากจัดตั้งองค์กรใหม่เรียบร้อยแล้วเรื่องการใช้กำลังก็จะตามมา”

ส่วนเรื่องงบประมาณดำเนินการของทหารพราน 30 กองร้อยนั้น พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า สำนักงบประมาณพยายามที่จะเร่งรัด ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น