คณะรัฐบาลที่มีโอกาสขึ้นมาปกครองเป็นรัฐบาลในประเทศไทยมักจะอยู่ไม่ครบวาระ ส่วนมากทุกคณะรัฐบาลต้องออกไปด้วยความจำเป็นคือ (1) ตายตามปกติหรือม้ามแตกตายก็เคยมี (2) พรรคพวกที่มีพวกมากกว่าอิจฉาตาร้อนไล่ให้ออกเพื่อจะได้เป็นใหญ่เป็นโตแทน (3) อยากหนีไปต่างประเทศและตายในต่างประเทศ (4) ที่กำลังดิ้นรนหาที่ตายอย่างเร่าร้อนตอนนี้ก็ดูเหมือนจะมีอยู่รายหนึ่งในอังกฤษเฉพาะในลอนดอน ฯลฯ แต่ก็ยังเอาแน่ไม่ได้ว่าจะต้องตายเมื่อไร
หรืออาจจะขึ้นกับความประสงค์ของเจ้าตัวและเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละคนว่าจะให้ไปตายที่ไหนหรืออยู่อย่างไร เจ้าตัวทุกรายอาจจะไม่รู้ก็ได้ตามเวลาที่บุญกรรมยังไม่ได้ทำงานตามหน้าที่หรือทำน้อยแต่กรรมไม่หนักก็ยังร่าเริงรื่นรมย์อยู่
แต่อาจจะไม่ต้องตายแบบนั้นก็ได้ เพราะรัฐบาลที่หอบหิ้วกันมาอาจจะยังไม่หมดบุญ การโกหกอันยิ่งใหญ่ยังมีอิทธิฤทธิ์อยู่ โอกาสที่จะอยู่เพื่อก่อกรรมทำชั่วกับบ้านเมืองนั้นยังมีอยู่มาก หรือบางคนยังจะต้องรอผ่าริดสีดวงทวารที่ไหนสักแห่งก็ได้ แล้วแต่บุญกรรมอีกเหมือนกันหรือแล้วแต่ความประสงค์ยังไม่ถูกแย่งอำนาจจากพวกที่มีความแข็งกร้าว และคอยจ้องหาทางแย่งชิงอำนาจอยู่ด้วยใจจะขาดรอนๆ ว่างั้นเถอะ
ว่ากันว่ามีเสียงพูดพร่ำเพรื่ออยู่ทุกเช้าทุกเย็นว่ารัฐบาลปัจจุบันที่รวมตัวกันขึ้นมาในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ จะอยู่ต่อไปเพียงปีเดียวหรือเพียง 1 ปี 5 เดือนก็จะหมดวาระหรือเลิกเป็นทันที โดยมองเห็นว่าหมดความจำเป็นแล้ว
คือคิดคล้ายๆ กับว่าการเป็นนักการเมืองการปกครองประเทศ หรือการรับใช้บ้านเมืองนั้นมันคือของเล่น มองกันไปว่าการเมืองไทยนั้นเป็นเพียงส้วมสาธารณะ ใครจะเข้าก็เข้า ใครอยากจะออกก็ออก ใครกินอิ่มมากเขมือบมากก็พากันเข้าไปผ่องถ่าย หรือเมื่อหิวขึ้นมาก็หาทางหาพวกเขมือบกันต่อไปใหม่อะไรทำนองนั้น
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร?
หรือก็ไม่มีใครรู้อีกเหมือนกันว่าพูดทำไม?
เพราะประเทศไทยนั้นไม่ใช่ประเทศขนาดเล็ก แต่เป็นประเทศที่มีประชาชนมากเกือบจะ 70 ล้านคนเข้าไปแล้ว ภาระและความรับผิดของที่ใครจะเข้ามารับผิดชอบต่อแผ่นดิน และผู้คนขนาดเท่านี้นั้น ไม่ได้ถูกสร้างสำหรับมาทำการปัสสาวะเพียงอึดใจแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อยเอาง่ายๆ แต่ประเทศที่จะต้องเข้ามาปกครองกันด้วยน้ำอดน้ำทน ด้วยความรับผิดชอบและความเฉลียวฉลาดไม่ใช่อ้ายงั่งที่ไหนจะทำอะไรก็ได้ เฉพาะอย่างยิ่งวันเวลาที่จะต้องเอาไปใช้ในการแก้ปัญหานั้น มันมีมากและต้องใช้มากมายมหาศาล
รัฐบาลทั่วโลกนั้น อย่างน้อยก็ต้องอยู่ถึง 4 ปี แต่นี่มันเกิดมักน้อยขึ้นมา โดยไม่มีใครกีดขวางหรือยุแยงตะแคงรั่ว หรือไม่มีความผิดอะไรที่จะต้องออก แต่ก็จะอยู่ไม่เกิน 1 ปี 5 เดือนขึ้นมาดื้อๆ เหมือนกับว่าชาติไทยของเราเป็นเพียงส้วมสาธารณะเข้ามาใช้เพื่อแก้ขัดไปเป็นครั้งเป็นคราว
ดูสนุกสนานมันเขี้ยวเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ความจริงมีอยู่ว่าวันเวลาที่เข้ามารับผิดชอบนี้เป็นเวลาที่รู้ดีว่ามาเป็นใหญ่เป็นโตและมาทำงานใหญ่งานโต ไม่เพียงแต่มาปัสสาวะอุจจาระที่ใช้เวลาประเดี๋ยวประด๋าว หรือแม้แต่ประกาศกันออกมาแต่ตอนแรกว่าจะใช้เวลา 1 ปี 5 เดือนก็เถอะไม่ควรจะพูดออกมา เพราะเข้ามาแก้ปัญหา เข้ามาเปลี่ยนแปลงสิ่งสกปรกโสโครกในแผ่นดินและผู้คนไม่ได้ก็ต้องยอมลงทุนต้องใช้เวลา
ทำไมจะต้องไปนั่งแคร์ ฯพณฯ มีชัย ฤชุพันธุ์ กันอยู่?
ศีลธรรม จริยธรรมหรือความถูกต้องอะไรนั้นอย่าไปหวังหรืออย่าไปรอ เพราะไม่มีทางที่จะเดินมาหาเราแน่นอน ถ้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องซื้อขายกันแล้วก็ทำกันไป
เมืองไทยกำลังต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างรีบเร่ง มีหลายอย่างที่เราจะต้องกวาดล้างปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่างๆ ที่เราทำให้แก่ประเทศไทย เราต้องการความรู้, ต้องการวันเวลา, ความกล้าหาญ, ความจริงใจ และการกล้าตัดสินใจอีกมากมายหลายอย่างมาก
จริงอยู่ เรามีผู้คนในประเทศจำนวนไม่น้อยกว่า 26 ล้านคน แต่เพราะการศึกษาในประเทศของเราเป็นการศึกษาที่เพียงให้รู้จักผสมตัวอักษรเพื่อให้อ่านออกเขียนได้เท่านั้น แต่เราไม่เคยรู้ความมุ่งหมายของหนังสือที่เราอ่านออกเขียนได้นั้นว่าเราจะนำมาใช้อย่างไร เพราะฉะนั้น คนของเราส่วนมากพร้อมที่จะทำความชั่วทุกประการเพื่อความสนุกเพลิดเพลิน ในชีวิต เด็กสาวของเราจะเพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่จะโห่เหมือนคนป่าเถื่อน แล้วกระโดดโลดเต้นเหมือนสุนัขที่ถูกน้ำร้อนลวก เราจะหลงใหลเพ้อฝันกับหนุ่มวัยรุ่นที่ไม่ยอมหวีผมให้เป็นระเบียบและไว้หนวดไว้เคราเต็มหน้า ดาราที่ร้องเพลงฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างจะเป็นเทพเจ้าสำหรับคนหนุ่มคนสาวที่พากันหอบชีวิตอันไร้ค่าของตนออกมาหลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งเหล่านั้น โดยที่ไม่มีสติปัญญาจะคิดจะทำอะไรอื่นได้ในชีวิต
เช่นเดียวกับนักการเมืองที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ก็จะเป็นพวกมนุษย์ที่โง่พอๆ กันอีกเหมือนกัน
นักการเมืองที่พอจะใช้ประโยชน์เป็นมรรคเป็นผล มาถึงวันนี้หาตัวไม่ได้แล้ว
ตามธรรมเนียมที่เข้ามาเป็นนักปฏิวัติหรือเป็นนักการเมืองก็จะต้องรู้ว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาเพื่อรักษาประเทศชาติประชาชน เพื่อปกป้องประเทศไทยเอาไว้
แต่ก็ไม่มีใครบังคับใครให้มาทำ แต่ทุกคนอาจจะวิ่งกระหืดกระหอบมาแย่งกันรับผิดชอบ หรือเพราะว่าได้มาง่ายๆ ภายในไม่กี่นาทีก็รับเอาไว้ และพร้อมที่จะบอกเลิกไปเท่านั้นก็ได้
อาจจะเกรงใจนายทักษิณ ชินวัตรหรือเงินที่เขาจ่ายให้เป็นค่าจ้างทำงานมันน้อยไปก็ได้ ก็เลยแกล้งพูดให้มันเผ็ดมันให้มากเข้าไว้ก่อน เผื่อว่าจะเพิ่มรายได้ที่ว่าจ้างกันมาทุกระยะนั้นมันจะต้องเพิ่มขึ้นอะไรแบบนั้น
จะอย่างไรก็ตาม การปฏิวัติ การจัดตั้งรัฐบาลปฏิวัติก็เริ่มมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วท่ามกลางการรอคอยของประชาชนที่อยากเห็นบ้านเมืองเข้ารูปเข้ารอยบ้าง อำนาจราชศักดิ์ทุกประการ คณะปฏิวัติจะเอาอะไรจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า แม้แต่การประกาศกฎอัยการศึกต่อไปอีกหรือใช้กฎอัยการศึกเล่นงานพวกบ่อนทำลายรัฐบาลดูสักรายสองรายก็ได้หรือจะใช้ภาษาจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ที่กระชากศัตรูเข้ามาใกล้แล้วว่าอ้ายหน้าไหนที่หวือหวาเข้ามาประท้วงหรือแอบซ่อนทำใบปลิวเถื่อนใส่ความอย่างที่พวกเหนือพวกอีสานทำกันอยู่ ไปลากคอมันมาถามว่า “มึงจะเอากะกูหรือ” อย่างที่ท่านจอมพลคนนั้นเล่นกับหนังสือพิมพ์ก็ยังได้
เท่านั้น มันก็สั่นเทิ้มไปทั้งโคตร!
แต่ปรากฏว่าคณะปฏิวัติชุดนี้ไม่ยอมทำอะไรโดยใช้กฎอัยการศึกที่มีประกาศออกมาใช้ ทั้งที่ถูกแทรกแซงและชำแหละอกอยู่ทุกเวลานาที กลับทำท่าจะยกเลิกเอาง่ายๆ เสียด้วย
พร้อมกับประกาศออกมาอย่างไม่รับผิดชอบว่า รัฐบาลจะอยู่ต่อไปอีกเพียง 1 ปี 5 เดือนเท่านั้น จะเข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่อเอาสถิติวันเดือนปีหรือจะมาทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง
มันอะไรกัน รัฐบาลไทย
ผมรู้สึกเหมือนกับทุกวันนี้ คนไทยเรากำลังมานั่งอบรมมารยาททางการเมืองกัน
แม้แต่คณะปฏิวัติจะอ้างเหตุผลแก่คนทั่วโลกว่า เมืองไทยจะต้องปฏิวัติหรือขับไล่รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตรออกไป เพราะการทำลายประเทศชาติด้วยความผิด 4 ประการก็ตาม
จนกระทั่งมาถึงวันนี้ รัฐบาลคณะปฏิวัติยังเคยประกาศออกมาว่า 4 ประการที่ว่านั้น มีเหตุผลและหลักฐานสมควรเชื่อได้อย่างไรบ้าง?
ผู้คนทั่วประเทศไม่เคยมีใครได้ยินได้ฟังการบอกเล่าแม้แต่ประโยคเดียว
นับว่าเป็นการปฏิวัติที่มีการทะนุถนอมความชั่วอย่างงดงามที่สุด
ในขณะที่ศัตรูที่อีสาน เฉพาะที่ขอนแก่นกำลังขะมักเขม้นที่จะทำลายและใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลด้วยการปฏิวัติ
เป็นการปฏิวัติเพื่อความเสียหายของตัวเอง
ในรัฐบาลชุดก่อน ความเสียหายของชาติทุกด้านตั้งมาจากการใช้นักการเมืองเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำมาหากินและประโยชน์อื่นๆ สภาผู้แทนฯ ทั้งสภาสูงสภาต่ำจำนวนเป็นพันๆ คนถูกเงินของแผ่นดินยัดปากเป็นการซื้อความสะดวกของรัฐบาลในการปล้นชาติบ้านเมือง การเลือกตั้งทุกตำแหน่งที่ต้องการให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองแม้แต่การเลือกผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนเมษายน จนกระทั่งต้องประกาศให้เป็นโมฆะไปนั้น ก็เหมือนกัน ทุกอย่างที่เสียหายและล้มเหลวและเสียเงินในการเลือกตั้งไป 2,000 ล้านกว่าบาทนั้น ก็เกิดมาจากการซื้อคนโดยเอาเงินยัดปากนักการเมืองมีผีดิบพวกหนึ่งเป็นต้นเหตุสร้างความอัปยศเสียหายแก่บ้านเมืองถึงทุกวันนี้
คราวนี้ก็อีก การจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ เพื่อจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของคณะปฏิวัตินี้ก็เดินรอยเดียวกันคือ การมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นคนของรัฐบาลเป็นคนมีอำนาจในการคัดเลือกหรือจะต้องเอาคนของทางราชการมาเป็นเจ้าหน้าที่ในการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อวางแผนร่วมกันที่จะสนับสนุนในการกินบ้านกินเมืองเหมือนรัฐบาลชุดเก่าอีกครั้งหนึ่ง
ว่ากันว่าใครจะเป็นคนต้นคิด และออกความคิดในการวางกฎเกณฑ์การเลือกตั้งครั้งนี้เจ้าหน้าที่หรือสมาชิกสภาฯ ว่ากันว่าถ้าทำได้ตามคำสั่งของเจ้านายตามที่เคยทำ ก็จะทำให้คนทำงานทางการเมืองทุกคนที่ร่วมกันดำเนินงานตามนี้จะมีความสุขความเจริญกันมาก
หรืออาจจะขึ้นกับความประสงค์ของเจ้าตัวและเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละคนว่าจะให้ไปตายที่ไหนหรืออยู่อย่างไร เจ้าตัวทุกรายอาจจะไม่รู้ก็ได้ตามเวลาที่บุญกรรมยังไม่ได้ทำงานตามหน้าที่หรือทำน้อยแต่กรรมไม่หนักก็ยังร่าเริงรื่นรมย์อยู่
แต่อาจจะไม่ต้องตายแบบนั้นก็ได้ เพราะรัฐบาลที่หอบหิ้วกันมาอาจจะยังไม่หมดบุญ การโกหกอันยิ่งใหญ่ยังมีอิทธิฤทธิ์อยู่ โอกาสที่จะอยู่เพื่อก่อกรรมทำชั่วกับบ้านเมืองนั้นยังมีอยู่มาก หรือบางคนยังจะต้องรอผ่าริดสีดวงทวารที่ไหนสักแห่งก็ได้ แล้วแต่บุญกรรมอีกเหมือนกันหรือแล้วแต่ความประสงค์ยังไม่ถูกแย่งอำนาจจากพวกที่มีความแข็งกร้าว และคอยจ้องหาทางแย่งชิงอำนาจอยู่ด้วยใจจะขาดรอนๆ ว่างั้นเถอะ
ว่ากันว่ามีเสียงพูดพร่ำเพรื่ออยู่ทุกเช้าทุกเย็นว่ารัฐบาลปัจจุบันที่รวมตัวกันขึ้นมาในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ จะอยู่ต่อไปเพียงปีเดียวหรือเพียง 1 ปี 5 เดือนก็จะหมดวาระหรือเลิกเป็นทันที โดยมองเห็นว่าหมดความจำเป็นแล้ว
คือคิดคล้ายๆ กับว่าการเป็นนักการเมืองการปกครองประเทศ หรือการรับใช้บ้านเมืองนั้นมันคือของเล่น มองกันไปว่าการเมืองไทยนั้นเป็นเพียงส้วมสาธารณะ ใครจะเข้าก็เข้า ใครอยากจะออกก็ออก ใครกินอิ่มมากเขมือบมากก็พากันเข้าไปผ่องถ่าย หรือเมื่อหิวขึ้นมาก็หาทางหาพวกเขมือบกันต่อไปใหม่อะไรทำนองนั้น
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร?
หรือก็ไม่มีใครรู้อีกเหมือนกันว่าพูดทำไม?
เพราะประเทศไทยนั้นไม่ใช่ประเทศขนาดเล็ก แต่เป็นประเทศที่มีประชาชนมากเกือบจะ 70 ล้านคนเข้าไปแล้ว ภาระและความรับผิดของที่ใครจะเข้ามารับผิดชอบต่อแผ่นดิน และผู้คนขนาดเท่านี้นั้น ไม่ได้ถูกสร้างสำหรับมาทำการปัสสาวะเพียงอึดใจแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อยเอาง่ายๆ แต่ประเทศที่จะต้องเข้ามาปกครองกันด้วยน้ำอดน้ำทน ด้วยความรับผิดชอบและความเฉลียวฉลาดไม่ใช่อ้ายงั่งที่ไหนจะทำอะไรก็ได้ เฉพาะอย่างยิ่งวันเวลาที่จะต้องเอาไปใช้ในการแก้ปัญหานั้น มันมีมากและต้องใช้มากมายมหาศาล
รัฐบาลทั่วโลกนั้น อย่างน้อยก็ต้องอยู่ถึง 4 ปี แต่นี่มันเกิดมักน้อยขึ้นมา โดยไม่มีใครกีดขวางหรือยุแยงตะแคงรั่ว หรือไม่มีความผิดอะไรที่จะต้องออก แต่ก็จะอยู่ไม่เกิน 1 ปี 5 เดือนขึ้นมาดื้อๆ เหมือนกับว่าชาติไทยของเราเป็นเพียงส้วมสาธารณะเข้ามาใช้เพื่อแก้ขัดไปเป็นครั้งเป็นคราว
ดูสนุกสนานมันเขี้ยวเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ความจริงมีอยู่ว่าวันเวลาที่เข้ามารับผิดชอบนี้เป็นเวลาที่รู้ดีว่ามาเป็นใหญ่เป็นโตและมาทำงานใหญ่งานโต ไม่เพียงแต่มาปัสสาวะอุจจาระที่ใช้เวลาประเดี๋ยวประด๋าว หรือแม้แต่ประกาศกันออกมาแต่ตอนแรกว่าจะใช้เวลา 1 ปี 5 เดือนก็เถอะไม่ควรจะพูดออกมา เพราะเข้ามาแก้ปัญหา เข้ามาเปลี่ยนแปลงสิ่งสกปรกโสโครกในแผ่นดินและผู้คนไม่ได้ก็ต้องยอมลงทุนต้องใช้เวลา
ทำไมจะต้องไปนั่งแคร์ ฯพณฯ มีชัย ฤชุพันธุ์ กันอยู่?
ศีลธรรม จริยธรรมหรือความถูกต้องอะไรนั้นอย่าไปหวังหรืออย่าไปรอ เพราะไม่มีทางที่จะเดินมาหาเราแน่นอน ถ้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องซื้อขายกันแล้วก็ทำกันไป
เมืองไทยกำลังต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างรีบเร่ง มีหลายอย่างที่เราจะต้องกวาดล้างปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่างๆ ที่เราทำให้แก่ประเทศไทย เราต้องการความรู้, ต้องการวันเวลา, ความกล้าหาญ, ความจริงใจ และการกล้าตัดสินใจอีกมากมายหลายอย่างมาก
จริงอยู่ เรามีผู้คนในประเทศจำนวนไม่น้อยกว่า 26 ล้านคน แต่เพราะการศึกษาในประเทศของเราเป็นการศึกษาที่เพียงให้รู้จักผสมตัวอักษรเพื่อให้อ่านออกเขียนได้เท่านั้น แต่เราไม่เคยรู้ความมุ่งหมายของหนังสือที่เราอ่านออกเขียนได้นั้นว่าเราจะนำมาใช้อย่างไร เพราะฉะนั้น คนของเราส่วนมากพร้อมที่จะทำความชั่วทุกประการเพื่อความสนุกเพลิดเพลิน ในชีวิต เด็กสาวของเราจะเพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่จะโห่เหมือนคนป่าเถื่อน แล้วกระโดดโลดเต้นเหมือนสุนัขที่ถูกน้ำร้อนลวก เราจะหลงใหลเพ้อฝันกับหนุ่มวัยรุ่นที่ไม่ยอมหวีผมให้เป็นระเบียบและไว้หนวดไว้เคราเต็มหน้า ดาราที่ร้องเพลงฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างจะเป็นเทพเจ้าสำหรับคนหนุ่มคนสาวที่พากันหอบชีวิตอันไร้ค่าของตนออกมาหลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งเหล่านั้น โดยที่ไม่มีสติปัญญาจะคิดจะทำอะไรอื่นได้ในชีวิต
เช่นเดียวกับนักการเมืองที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ก็จะเป็นพวกมนุษย์ที่โง่พอๆ กันอีกเหมือนกัน
นักการเมืองที่พอจะใช้ประโยชน์เป็นมรรคเป็นผล มาถึงวันนี้หาตัวไม่ได้แล้ว
ตามธรรมเนียมที่เข้ามาเป็นนักปฏิวัติหรือเป็นนักการเมืองก็จะต้องรู้ว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาเพื่อรักษาประเทศชาติประชาชน เพื่อปกป้องประเทศไทยเอาไว้
แต่ก็ไม่มีใครบังคับใครให้มาทำ แต่ทุกคนอาจจะวิ่งกระหืดกระหอบมาแย่งกันรับผิดชอบ หรือเพราะว่าได้มาง่ายๆ ภายในไม่กี่นาทีก็รับเอาไว้ และพร้อมที่จะบอกเลิกไปเท่านั้นก็ได้
อาจจะเกรงใจนายทักษิณ ชินวัตรหรือเงินที่เขาจ่ายให้เป็นค่าจ้างทำงานมันน้อยไปก็ได้ ก็เลยแกล้งพูดให้มันเผ็ดมันให้มากเข้าไว้ก่อน เผื่อว่าจะเพิ่มรายได้ที่ว่าจ้างกันมาทุกระยะนั้นมันจะต้องเพิ่มขึ้นอะไรแบบนั้น
จะอย่างไรก็ตาม การปฏิวัติ การจัดตั้งรัฐบาลปฏิวัติก็เริ่มมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วท่ามกลางการรอคอยของประชาชนที่อยากเห็นบ้านเมืองเข้ารูปเข้ารอยบ้าง อำนาจราชศักดิ์ทุกประการ คณะปฏิวัติจะเอาอะไรจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า แม้แต่การประกาศกฎอัยการศึกต่อไปอีกหรือใช้กฎอัยการศึกเล่นงานพวกบ่อนทำลายรัฐบาลดูสักรายสองรายก็ได้หรือจะใช้ภาษาจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ที่กระชากศัตรูเข้ามาใกล้แล้วว่าอ้ายหน้าไหนที่หวือหวาเข้ามาประท้วงหรือแอบซ่อนทำใบปลิวเถื่อนใส่ความอย่างที่พวกเหนือพวกอีสานทำกันอยู่ ไปลากคอมันมาถามว่า “มึงจะเอากะกูหรือ” อย่างที่ท่านจอมพลคนนั้นเล่นกับหนังสือพิมพ์ก็ยังได้
เท่านั้น มันก็สั่นเทิ้มไปทั้งโคตร!
แต่ปรากฏว่าคณะปฏิวัติชุดนี้ไม่ยอมทำอะไรโดยใช้กฎอัยการศึกที่มีประกาศออกมาใช้ ทั้งที่ถูกแทรกแซงและชำแหละอกอยู่ทุกเวลานาที กลับทำท่าจะยกเลิกเอาง่ายๆ เสียด้วย
พร้อมกับประกาศออกมาอย่างไม่รับผิดชอบว่า รัฐบาลจะอยู่ต่อไปอีกเพียง 1 ปี 5 เดือนเท่านั้น จะเข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่อเอาสถิติวันเดือนปีหรือจะมาทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง
มันอะไรกัน รัฐบาลไทย
ผมรู้สึกเหมือนกับทุกวันนี้ คนไทยเรากำลังมานั่งอบรมมารยาททางการเมืองกัน
แม้แต่คณะปฏิวัติจะอ้างเหตุผลแก่คนทั่วโลกว่า เมืองไทยจะต้องปฏิวัติหรือขับไล่รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตรออกไป เพราะการทำลายประเทศชาติด้วยความผิด 4 ประการก็ตาม
จนกระทั่งมาถึงวันนี้ รัฐบาลคณะปฏิวัติยังเคยประกาศออกมาว่า 4 ประการที่ว่านั้น มีเหตุผลและหลักฐานสมควรเชื่อได้อย่างไรบ้าง?
ผู้คนทั่วประเทศไม่เคยมีใครได้ยินได้ฟังการบอกเล่าแม้แต่ประโยคเดียว
นับว่าเป็นการปฏิวัติที่มีการทะนุถนอมความชั่วอย่างงดงามที่สุด
ในขณะที่ศัตรูที่อีสาน เฉพาะที่ขอนแก่นกำลังขะมักเขม้นที่จะทำลายและใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลด้วยการปฏิวัติ
เป็นการปฏิวัติเพื่อความเสียหายของตัวเอง
ในรัฐบาลชุดก่อน ความเสียหายของชาติทุกด้านตั้งมาจากการใช้นักการเมืองเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำมาหากินและประโยชน์อื่นๆ สภาผู้แทนฯ ทั้งสภาสูงสภาต่ำจำนวนเป็นพันๆ คนถูกเงินของแผ่นดินยัดปากเป็นการซื้อความสะดวกของรัฐบาลในการปล้นชาติบ้านเมือง การเลือกตั้งทุกตำแหน่งที่ต้องการให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองแม้แต่การเลือกผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนเมษายน จนกระทั่งต้องประกาศให้เป็นโมฆะไปนั้น ก็เหมือนกัน ทุกอย่างที่เสียหายและล้มเหลวและเสียเงินในการเลือกตั้งไป 2,000 ล้านกว่าบาทนั้น ก็เกิดมาจากการซื้อคนโดยเอาเงินยัดปากนักการเมืองมีผีดิบพวกหนึ่งเป็นต้นเหตุสร้างความอัปยศเสียหายแก่บ้านเมืองถึงทุกวันนี้
คราวนี้ก็อีก การจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ เพื่อจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของคณะปฏิวัตินี้ก็เดินรอยเดียวกันคือ การมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นคนของรัฐบาลเป็นคนมีอำนาจในการคัดเลือกหรือจะต้องเอาคนของทางราชการมาเป็นเจ้าหน้าที่ในการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อวางแผนร่วมกันที่จะสนับสนุนในการกินบ้านกินเมืองเหมือนรัฐบาลชุดเก่าอีกครั้งหนึ่ง
ว่ากันว่าใครจะเป็นคนต้นคิด และออกความคิดในการวางกฎเกณฑ์การเลือกตั้งครั้งนี้เจ้าหน้าที่หรือสมาชิกสภาฯ ว่ากันว่าถ้าทำได้ตามคำสั่งของเจ้านายตามที่เคยทำ ก็จะทำให้คนทำงานทางการเมืองทุกคนที่ร่วมกันดำเนินงานตามนี้จะมีความสุขความเจริญกันมาก