xs
xsm
sm
md
lg

คำแก้ต่างที่งี่เง่า

เผยแพร่:   โดย: วรศักดิ์ มหัทธโนบล

ไม่รู้เป็นบุญหรือกรรมกันแน่ ที่หลังรัฐประหาร 19 กันยาฯ เป็นต้นมา ผมมักจะพบกับญาติสนิทมิตรสหายที่ชื่นชอบระบอบทักษิณอยู่เสมอ และทำให้ได้รู้ถึงความคิดความเชื่อของผู้คนที่รักในระบอบนี้อย่างที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังที่ไหนมาก่อนและอยากจะเล่าสู่กันฟังในที่นี้

แต่ถ้าใครเคยได้ยินได้ฟังมาก่อนก็ถือเสียว่าเป็นความเชยของผมก็แล้วกัน แต่ถ้าจะฟัง (อ่าน) ผมเล่าอีกรอบก็ไม่น่าจะเสียหายตรงไหน

เรื่องที่ผมจะเล่านี้ไม่ได้จัดลำดับว่าผมฟังเรื่องไหนมาก่อน และเรื่องที่จะเล่าไปทีละเรื่องตามลำดับนี้ก็ไม่ได้ว่าตามลำดับความสำคัญ ผมเล่าไปเท่าที่นึกออก

เรื่องแรกเกี่ยวกับผู้ที่ออกมาชุมนุมประท้วงระบอบทักษิณ คนที่รักในระบอบนี้บอกว่า มีอยู่ส่วนหนึ่งที่เคยเป็นผู้ค้าหวยเถื่อนหรือหวยใต้ดิน บางคนว่าไปไกลถึงขั้นที่ว่ามีผู้ที่เคยค้ายาเสพติดรวมอยู่ด้วย แถมที่เข้าร่วมนั้นไม่เข้าร่วมเปล่า บางคนยังมีแก่ใจบริจาคเงินให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ อีกด้วย

เรื่องนี้เรียกได้ว่า ระบอบทักษิณต้องการจะแก้ต่างว่า กลุ่มคนที่ออกมาประท้วงตนนั้นส่วนหนึ่งก็คือกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์นั่นเอง อันที่จริงเรื่องทำนองนี้คนในระบอบทักษิณก็เคยเอามาเป็นประเด็นตอบโต้กลุ่มพันธมิตรฯ อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้บอกออกมาตรงๆ ว่ากลุ่มที่เสียผลประโยชน์คือกลุ่มไหน

แต่ใครละครับที่จะไปจับมือคนเหล่านี้ดมเพื่อพิสูจน์ว่าคือผู้ค้าหวยใต้ดินหรือค้ายาเสพติด จะให้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล หรือแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ดมหรือครับ? ผมว่างี่เง่าสิ้นดีที่ยกเรื่องเหล่านี้มาแก้ต่าง เพราะพูดไปทั้งๆ ที่รู้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีกลไกที่จะทำเช่นนั้นได้

ผิดกับระบอบทักษิณที่มีกลไกอำนาจรัฐอยู่เต็มมือ แต่กลับไม่สามารถดำเนินการกับกรณีฆ่าตัดตอนในการแก้ปัญหายาเสพติด การอุ้มหายพี่น้องมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (รวมทั้งกรณี คุณสมชาย ลีนะไพจิตร) ฯลฯ ทั้งที่กรณีต่างๆ เหล่านี้สามารถใช้กลไกที่ตัวมีอยู่จับมือใครดมได้ไม่ยากนัก

เรื่องต่อมาคล้ายกับเรื่องแรก นั่นคือ กลุ่มคนที่ทำงานในแวดวงสาธารณสุขที่ออกมาประท้วงระบอบทักษิณ ต่อคนกลุ่มนี้ผู้ที่รักระบอบทักษิณบอกว่าเป็นกลุ่มที่เสียผลประโยชน์จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค พวกเขาจึงไม่แปลกที่คนกลุ่มนี้จะออกมาประท้วง

เรื่องนี้งี่เง่ายิ่งกว่าเรื่องแรกเสียอีก

เพราะเป็นเรื่องที่คนเขารู้กันทั่วทั้งวงการว่า จริงๆ แล้วกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ต่อต้านนโยบายดังกล่าวอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ต่อต้านการใช้วิธีทางการตลาดด้วยความตอหลดตอแหล กับวิธีการบริหารจัดการของนักการเมืองที่รับผิดชอบต่างหาก คือเป็นวิธีที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงระหว่างงบประมาณที่ใช้ในนโยบายนี้ กับจำนวนผู้ป่วยและโรคของผู้ป่วย (ที่ป่วยหนักเบาไม่เหมือนกัน)

แต่ถึงกระนั้นผมก็ควรกล่าวด้วยว่า เอาเข้าจริงแล้วกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ออกมาต่อต้านระบอบทักษิณเพียงเพราะนโยบาย 30 บาทฯ นะครับ แต่เขาต่อต้านเรื่องจริยธรรมของ คุณทักษิณ ชินวัตร ต่างหาก

ที่ผมต้องย้ำเรื่องนี้ก็เพราะต้องการจะบอกว่า การที่สาวกของระบอบทักษิณยกเอาเรื่อง 30 บาทฯ มาอ้างถึงนั้นก็เพราะเป็นเรื่องเดียวที่จะแก้ต่างให้กับตัวเองได้เท่านั้นเอง

เรื่องถัดมา เรื่องนี้เกี่ยวกับการออกมาต่อต้านระบอบทักษิณของ คุณจำลอง ศรีเมือง โดยตรง โดยสาวกระบอบทักษิณบอกว่าที่ คุณจำลอง ออกมาต่อต้านนั้นก็เพราะก่อนหน้านี้ที่ คุณจำลอง ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับ คุณทักษิณ อยู่นั้น คุณจำลอง เคยเสนอให้ คุณทักษิณ ช่วยฟื้นฟูสำนักสันติอโศกให้กลับคืนมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง

แต่ คุณทักษิณ ไม่เห็นด้วย คุณจำลอง ก็ถือโกรธ แล้วเอาเรื่องนี้มาเป็นเหตุให้ออกมาต่อต้านระบอบทักษิณในที่สุด

เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร มีแต่ คุณจำลอง เท่านั้นที่รู้และตอบได้ และถึงแม้ผมไม่รู้จัก คุณจำลอง เป็นการส่วนตัว และมีบางเรื่องที่ผมไม่เห็นด้วยกับ คุณจำลอง (ตั้งแต่สมัยพฤษภาทมิฬจนถึงเมื่ออยู่กลุ่มพันธมิตรฯ) ก็ตาม แต่กับเรื่องนี้แล้วต่อให้เป็นเรื่องจริงก็เถิด ผมก็ไม่เชื่อว่า คุณจำลอง จะออกมาต่อต้านระบอบทักษิณด้วยสาเหตุจากเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว

เรื่องนี้ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากให้ คุณจำลอง ออกมาชี้แจงให้หมดเรื่องหมดราวไป เพราะเรื่องที่ผมเล่ามานี้ส่วนหนึ่งคือการเคลื่อนไหวในเชิงลึกของระบอบทักษิณที่เป็นอยู่ในขณะนี้

เป็นการเคลื่อนไหวที่ฝ่ายซ้ายเรียกว่า “ซุ่มซ่อนยาวนาน” เพื่อ “รอคอยโอกาส” ที่จะกลับมาอีก นั่นคือ ใช้วิธีดิสเครดิตกลุ่มคนที่ต่อต้านตนด้วยการยกเอาเรื่องที่ฟังดูแล้วมีน้ำหนักน่าเชื่อถือมาเป่าหูคนที่ชื่นชอบระบอบของตน

และที่ผมว่ามานี้ยังไม่นับการเคลื่อนไหวในเชิงความคิดนะครับ คือเป็นการเคลื่อนไหวที่ดูไปแล้วเป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการ และเป็นวิชาการแบบซ้ายๆ มีการแยกแยะวิเคราะห์วิจารณ์ในเชิงชนชั้นออกมาให้เห็นเป็นฝ่ายก้าวหน้าฝ่ายล้าหลังอย่างมีเหตุมีผลน่าเชื่อถือเช่นกัน

กลุ่มนี้มีรายละเอียดที่ต้องถกเถียงกันยาว เอาไว้มีโอกาสเหมาะค่อยว่าเป็นการต่างหากออกไป ในที่นี้เพียงแต่เสนอเพื่อเตือนเอาไว้ว่า ตั้งแต่ผมสัมผัสกับการเมืองมา ผมยังไม่เคยพบเห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองอย่างระบอบทักษิณนี้มาก่อน เรียกได้ว่า พคท.ชิดซ้ายไปเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม เรื่องแก้ต่างของสาวกระบอบทักษิณที่ผมเล่ามานั้นยังไม่หมดนะครับ ยังมีเรื่องเล็กเรื่องน้อยอยู่อีกหลายเรื่อง แต่ละเรื่องต่างก็ฟังดูดีมีเหตุมีผล บางเรื่องฟังไปก็รู้สึกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับระบอบทักษิณมากนัก แต่กลับรู้สึกสนุกกับการเมืองด้วยซ้ำ เช่นเรื่องของ คุณอภิรักษ์ เกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.นั่น ที่สาวกของระบอบทักษิณเล่าว่าเป็นนักการเมืองที่ คุณทักษิณ ให้ความสนใจและระวังมาก เพราะเป็นคนหนุ่มที่มีการศึกษาดีและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล

สาวกระบอบทักษิณบอกว่า คุณอภิรักษ์ นี่แหละที่ระบอบทักษิณกลัวจะมาแย่งความนิยมไป พร้อมกับกล่าวตบท้ายตามแบบฉบับผู้มีจริตประชาธิปไตยอันเปี่ยมล้นว่า ถึงจะมีคุณสมบัติเช่นนั้น แต่คนในระบอบทักษิณก็ยินดีที่จะสู้ พูดจบก็ถอนหายใจเบาๆ ด้วยความหนักใจ

ผมฟังแล้วก็ขำ...คือขำในลีลาที่ดู (เหมือนจะ) เนียน แต่กลับงี่เง่าอีกเช่นกัน เพราะเห็นๆ อยู่ว่า หากใครไปเชื่อข้อวิตกต่อบทบาทของ คุณอภิรักษ์ ของระบอบทักษิณแล้วเต้นตามแล้ว ผมว่าพังแน่ๆ ครับ ผมถึงได้บอกไงว่า การเคลื่อนไหวของระบอบทักษิณนั้นแน่มากๆ

เท่าที่เล่ามานี้คงเห็นได้ว่า โดยสรุปแล้วแต่ละเรื่องล้วนฟังดูดีมีน้ำหนักจนน่าเชื่อถือ แต่ละเรื่องล้วนมีเหตุผลและที่มาที่ไป ไม่ใช่เรื่องที่สักแต่ยกขึ้นมากล่าวหากันอย่างลอยๆ แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ส่งผลกับคนที่รู้ทันระบอบทักษิณมากนัก ที่น่าเป็นห่วงก็คือชาวบ้านรากหญ้า และชนชั้นกลางที่เป็นนักธุรกิจที่ชื่อชอบในระบอบทักษิณ

แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า แต่ละเรื่องที่แก้ต่างกันมานั้นล้วนฟังดูงี่เง่าทั้งสิ้น เป็นเรื่องงี่เง่าที่สาวกระบอบทักษิณเอาไว้ใช้เป่าหูคนที่ชื่นชอบระบอบทักษิณอย่างค่อนข้างได้ผล และคนที่ชื่นชอบเหล่านี้แหละที่เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังอีกต่อหนึ่ง

แต่โชคยังดีที่แม้คนเหล่านี้จะเชื่อและยังคงชื่นชอบ คุณทักษิณ อย่างไร แต่คนเหล่านี้กลับตำหนิ คุณทักษิณ อยู่เรื่องเดียว นั่นคือ การคอร์รัปชัน อันเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การถูกรัฐประหาร

แต่สำหรับผมในฐานะคนฟังแล้ว ผมกลับพบว่า คำแก้ต่างที่สุดแสนจะงี่เง่าเหล่านี้ ไม่ได้งี่เง่าเพราะผมรู้ทันระบอบทักษิณแต่อย่างไร แต่งี่เง่าเพราะตั้งแต่ที่ คุณทักษิณ และระบอบของเขาถูกต่อต้านอย่างขนานใหญ่ตั้งแต่ต้นปีนี้เรื่อยมาจนถูกโค่นล้มนั้น ทั้ง คุณทักษิณ และสาวกของเขากลับแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วฟางเส้นสุดท้ายที่นำไปสู่การต่อต้านดังกล่าวมีอยู่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นคือ เรื่องจริยธรรม และเป็นเพียงเรื่องเดียวที่ไม่ปรากฏอยู่คำแก้ต่างของพวกเขาแม้แต่คำเดียว

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมบอกว่างี่เง่าได้อย่างไรละครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น