การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบทรราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ผมพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่ามีคนหลายคนทีเดียวที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และยินดีปรีดาที่ทราบว่ารัฐบาลทักษิณถูกคว่ำลงไปแล้ว ก่อนที่ประเทศจะล่มจมไปกว่านี้ ระหว่างที่มีการจัดตั้งรัฐบาลและมองหน้าผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เกิดความหวังกันว่า เราจะได้คนดีและมีความรู้ตรงข้ามกับพวกทรราชรุ่นเก่าเข้ามารับผิดชอบบริหารประเทศชาติ ซึ่งขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่ในประเทศนี้ ทุกอย่างที่มันแวดล้อมเราอยู่นั้น มีแต่ความเลวร้ายมากเกินที่จะอยู่อย่างมีความสุขได้
เรามีตั้งแต่พระภิกษุอายุ 70 ปี ชวนคุณยายรุ่นเดียวกันเข้าห้องสมสู่กันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งชาวบ้านจับได้ รวมไปจนกระทั่งหลวงพี่ที่นั่งใบ้หวยเถื่อนที่หลอกประชาชน จนกระทั่งนักกฎหมายที่คอยรับจ้างเขียนกฎหมายโกงชาติโกงแผ่นดินให้แก่นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลไทยฉบับละ 15 ล้านบาท เพื่อจะขายแผ่นดินไว้ให้ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของเมืองไทย และร้ายที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่มีการตั้งชาติไทยขึ้นมาก็คือ การพยายามทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อพาลูกพาเมียขึ้นไปเสวยอำนาจแทนอย่างที่เป็นข่าวใน "ผู้จัดการรายวัน" และเป็นที่รู้กันทั่วไปในหมู่ประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรามาเป็นพันๆ ปี (อ่านรายละเอียดใน “หมายเหตุผู้จัดการ” ผู้จัดการรายวัน 17 ตุลาคม 2549)
และเราทำได้ทุกอย่างขอให้เป็นความชั่วช้านานาชนิดเท่านั้นเป็นพอ
คนที่มีความคิดความอ่อนแอไม่มีปัญญาจะไปทำอะไรได้หรือแก้ไขอะไรได้ พูดกันว่าสภาพของเมืองไทยที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายทุกอย่างที่น่าสะอิดสะเอียนนั้น จะไปโทษอะไรไม่ได้
ทุกอย่างที่มันเลวและเต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างน่าอนาถทุกรูปแบบ ไม่ว่ามากหรือน้อยนั้นมันเกิดที่คนไทยของเราส่วนมากไม่มีคุณภาพ
คนส่วนมากในสังคมหรือในชาติเรา มีคนชั่วร้ายหรือพูดกันตรงๆ ว่าคนของเราไม่มีคุณธรรมกันเอาเลย ซึ่งน่าจะถูกต้องที่สุด
การปฏิวัติของคณะรัฐบาลชุดนี้มีคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีกมากมายที่มั่นใจ และเชื่อว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเพราะเราอาจจะมีคนดีอยู่ในคณะรัฐบาลชุดใหม่นี้อย่างเพียงพอ หรือพอเป็นที่พึ่งได้ แต่พอไม่กี่วันผ่านไปหลังจากจัดตั้งรัฐสภา มีรัฐธรรมนูญ มีอะไรต่ออะไรครบหมดแล้ว แต่ทุกคนที่เคยเชื่อว่าจะหายใจโล่งอกกันนั้นก็ถึงกับมืออ่อน และผิดหวังกันมากขึ้นกว่าเก่า และเชื่อว่าความยุ่งยากในบ้านเมืองจะมีแต่มากยิ่งขึ้น
เพราะมันไม่มีอะไรใหม่ขึ้นมาเลย นอกจากตัวเสนาลิเกคณะเก่าเกือบทั้งสิ้น
ปรากฏว่ามีแต่สัตว์เลี้ยงรุ่นเก่าไม่รุ่นใดก็รุ่นหนึ่งหรือเกือบทั้งหมด เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีพิษของรัฐบาลเผด็จการชุดเดิมทั้งสิ้น
อาจจะมีบ้างสามสี่คนหรือไม่มากนักที่จะทำอะไรให้เป็นมรรคเป็นผลขึ้นมาได้หรือจะสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นมาพอได้สังเวชกัน เช่น ห้ามขายเหล้า ห้ามกินเหล้าหรือโฆษณาเหล้า และห้ามเล่นการพนัน เช่น แทงหวยบนดิน เป็นต้น
มีคนเคยพูดมาแล้วว่าแม้ตลอดเวลา 2549 ปีที่ประกาศศาสนาพุทธขึ้นมา โดยถือว่าเป็นความชั่ว 2 ประการในบรรดาศีลทั้ง 5 ข้อ
อย่าพยายามคิดประกาศศาสนาใหม่ให้มันรกหูชาวบ้านจะดีกว่า
เมืองไทยมีความชั่วร้ายที่จะต้องรีบร้อนจัดทำและแก้ไขมากมายเต็มบ้านเต็มเมืองเฉพาะความไม่เป็นธรรมร้อยแปดในสังคมที่เห็นได้จับต้องได้มากมายหลายชนิด แม้แต่การที่รัฐบาลและตำรวจชุดก่อนยกกองกำลังพลกระทืบคนแก่ที่ศูนย์การค้ามีชื่อแห่งหนึ่ง และที่น่าอนาถที่สุดก็คือ การที่ตำรวจนำนักโทษจากเรือนจำมารุมกระทืบผู้หญิงเรื่องเล็กๆ และขี้ผงที่สุดที่จะทำได้เพื่อยืนยันว่าบ้านเมืองยังมีขื่อมีแปมีคนเข้ามาแก้ความอยุติธรรม หรือจะช่วยเข้ามาแก้ไขช่วยเหลือกลับไม่สนใจ แต่กลับคิดว่าใครโฆษณาขายเหล้าหรือเล่นการพนันเป็นอนันตริยกรรมที่แก้อะไรไม่ได้ที่ว่านั้น
รัฐบาลที่คนไทยหวังพึ่งทำได้เพียงเท่านี้หรือ?
คนที่ได้รับการฝึกฝนอบรมมาเพื่อไม่ให้กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน มันก็ไม่กินไม่เล่นด้วยตัวของตัวเอง ได้รับการศึกษาอบรมมาเช่นนั้น ไม่ได้ทำเพราะมีกฎหมายโง่ๆ ที่ไหนบังคับ แม้แต่พระพุทธเจ้าเองท่านก็ไม่ได้สั่งห้าม การไม่ให้กินเหล้าและไม่เล่นการพนันเป็นแต่เพียงท่านบอกให้ทราบหรือเตือนไว้เท่านั้นว่ากินหรือเล่นแล้วมันบาป
มีข่าวหนึ่งซึ่งเป็นข่าวลวงมาจากที่ไหนไม่ทราบ นั่นคือข่าวที่อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังวางแผนล้มราชบัลลังก์ และตอนนี้กำลังหัวซุกหัวซุนอยู่บนกองเงินกองทองที่ขายชาติไปสถิตอยู่ในต่างประเทศได้ติดต่อมายังผู้นำรัฐบาลใหม่ของเราว่าจะกลับเมืองไทย
ก็มีการประชุมกันใน ครม.ปรึกษาหารือกันเป็นทางการในวันต่อมา
ซึ่งเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง และเหลวไหลของมนุษย์กะล่อนรายเดิม
เพราะความจริงแล้ว หมอนั่นไม่มีวันที่จะเข้ามาเมืองไทยได้อีก ความผิดที่ทำไว้แก่บ้านเมืองนั้นหนักหนาสาหัสทุกด้าน คดโกง ทรยศต่อแผ่นดิน บังอาจทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อเป็นพระมหากษัตริย์เสียเอง
ถ้ามันเสือกเข้ามาตามที่เป็นข่าวได้ อาจจะมาไม่ถึงกรุงเทพฯ ก็จะถูกกระทืบอย่างอึกทึกครึกโครมทั่วทั้งแผ่นดิน ถ้าใครพบเห็นไม่ว่าที่ไหน
เพราะนั่นเป็นความผิดที่ให้อภัยไม่ได้สำหรับเมืองไทยและคนไทย!
และความผิดที่ทำต่อบ้านเมืองโดยการขายชาติขายประเทศนั้น เข้ามาไม่ได้ คุกทุกแห่งกำลังเปิดรอเขาอยู่ทั้งนั้น
ที่เขาพูดว่าจะมาหรือติดต่อมานั้นเป็นเพียงการสำแดงอภินิหารว่ากูเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกประการอะไรแบบนั้นต่างหาก
และที่สำคัญก็คือเขามีความเชื่อมั่นว่า ถ้าเขามาจริงๆ แล้ว บรรดาสัตว์เลี้ยงต่างๆ ในพรรคของเขาที่นั่งรับประทานเงินเดือนเป็นแสนอยู่ในหน่วยงานทางการเมืองทุกแห่งก็จะช่วยกันวิ่งเต้นจัดนักขายชาติขายแผ่นดินร่วมกันมาสนับสนุนเขา เพื่อที่เขาจะอ้างได้ว่าเขายังมีเสียงสนับสนุน 19 ล้านเสียงที่เขาเที่ยวโฆษณาไว้
หรืออะไรทำนองนั้น
เพราะถ้าเขาเก่งจริงเขาจะไม่หนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ต่างประเทศแน่นอน เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ตอนที่เขาหนีไปนั้นเขาก็เตรียมปฏิวัติครองเมืองของเขาเหมือนกัน แต่เขาทำไม่สำเร็จเท่านั้น
เขาไม่รู้จักเมืองไทยและคนไทยเท่านั้น
เมืองไทยเวลานี้อยู่ในสถานการณ์ทางสองแพร่งคือ จะเป็นไปด้วยความราบรื่นเหมือนกับการปฏิวัติที่เต็มไปด้วยข้าวตอกดอกไม้ของประชาชนด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งก็คือจะถูกยุแยงตะแคงรั่วและมีเหตุการณ์แตกแยกเกิดขึ้นเสมอ ทั้งนี้ไม่มีอะไรอื่นนอกไปเสียจาก
(1) รัฐบาลปฏิวัติในปัจจุบันนี้ไม่สามารถสร้างความเชื่อถือ และความหวังแก่ประชาชนอย่างที่ทุกคนรอคอย ประชาชนทั้งหมดที่ให้การสนับสนุนคณะปฏิวัติด้วยความชื่นชมก็ยังจะคงให้การสนับสนุนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นจะตายก็ไม่มีวันถอยแน่ ถ้าพิจารณาจากสถานการณ์ที่เป็นมาแล้ว
(2) เป็นรัฐบาลที่พร้อมจะต้องแยกตัวออกจากประชาชน และทำลายความหวังที่ประชาชนหวังไม่ได้ เพราะกลับมาใช้พฤติกรรมอย่างรัฐบาลที่ผ่านมา แล้วหรือเกิดมีเหลี่ยมมีคมเพราะการหลงตัวเองอย่างรัฐบาลชุดที่แล้วจนต้องออกมาไล่กันครึ่งค่อนประเทศ
ปัญหามันมีเท่านี้เอง จะไม่มีปัญหาอื่นที่ไหนอีก!
การแสดงความชื่นชมต่อคณะปฏิวัติโดยประการต่างๆ ในระหว่างวันปฏิวัติ ถ้ายกเว้นพวกเดียรัจฉานจำนวนมากที่ได้รับการเลี้ยงดูอยู่จากทรราชชุดเก่าแล้ว จะไม่มีคนไทยคนไหนเลยที่จะไม่ชื่นชมยินดีต่อคณะปฏิวัติและรัฐบาลชุดใหม่ ประชาชนพร้อมที่จะไชโยโห่ฮิ้วให้แก่คณะปฏิวัติชุดนี้และรัฐบาลชุดนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
ผมเห็นการปฏิวัติของรัฐบาลไทยมาหลายยุคหลายสมัย แต่ปรากฏชัดเจนว่าการปฏิวัติของคณะรัฐบาลชุดนี้ชุดเดียวที่ทำให้ประชาชนพอใจมากที่สุด และหวังมากที่สุดว่าจะเป็นที่พึ่งแก่พวกเขาได้เพราะประเทศไทยเสียหายมามากแล้ว ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำย่อยยับอย่างรัฐบาลชุดนายทักษิณ ชินวัตร ทำมาแล้ว
เพราะฉะนั้น การเรียกศรัทธาและความเชื่อถือของประชาชนที่ถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลืออย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้จะต้องมีคุณธรรมอย่างน้อย 5 ประการคือ (1) มีความจริงใจในการแก้ปัญหาของประเทศทุกด้านทุกปัญหา (2) ปราบปรามอย่างเด็ดขาดรุนแรง และกวาดล้างการคอร์รัปชันและคนที่ทำการคอร์รัปชันทุกชนิดโดยเด็ดขาดและไม่ต้องไว้หน้า (3) รื้อฟื้นจริยธรรมและคุณธรรมของสังคมกลับคืนมาให้ได้ (4) ทรัพย์สินเงินทองที่ถูกปล้นถูกขโมยไป จะต้องเอาคืนมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะได้ (5) รื้อสถาบันตำรวจ จัดหาคุณธรรมและยางอายต่างๆ เข้าไปใช้ในกรมนี้ให้มากขึ้นสักหน่อย คนไทยที่มาเป็นตำรวจนั้น ยังต้องขัดเกลาอีกมาก
ทำได้แค่นี้ ผมยืนยันว่าเราสามารถจะไปนอนเป่าปี่เป่าขลุ่ยเล่นที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกันอีก เชื่อว่าลูกผู้ชายไทยทุกวันนี้จะยังพอมีติดแผ่นดินเหลืออยู่บ้าง
ถ้าหากทำไม่ได้ เพราะความบกพร่อง มีความสามารถไม่เพียงพอก็หนีไปนอนกระดิกเท้ากับเพื่อนที่อังกฤษเสียก็ได้
แล้วก็ไม่ต้องกลับมาเมืองไทยอีก!!
เรามีตั้งแต่พระภิกษุอายุ 70 ปี ชวนคุณยายรุ่นเดียวกันเข้าห้องสมสู่กันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งชาวบ้านจับได้ รวมไปจนกระทั่งหลวงพี่ที่นั่งใบ้หวยเถื่อนที่หลอกประชาชน จนกระทั่งนักกฎหมายที่คอยรับจ้างเขียนกฎหมายโกงชาติโกงแผ่นดินให้แก่นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลไทยฉบับละ 15 ล้านบาท เพื่อจะขายแผ่นดินไว้ให้ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของเมืองไทย และร้ายที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่มีการตั้งชาติไทยขึ้นมาก็คือ การพยายามทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อพาลูกพาเมียขึ้นไปเสวยอำนาจแทนอย่างที่เป็นข่าวใน "ผู้จัดการรายวัน" และเป็นที่รู้กันทั่วไปในหมู่ประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรามาเป็นพันๆ ปี (อ่านรายละเอียดใน “หมายเหตุผู้จัดการ” ผู้จัดการรายวัน 17 ตุลาคม 2549)
และเราทำได้ทุกอย่างขอให้เป็นความชั่วช้านานาชนิดเท่านั้นเป็นพอ
คนที่มีความคิดความอ่อนแอไม่มีปัญญาจะไปทำอะไรได้หรือแก้ไขอะไรได้ พูดกันว่าสภาพของเมืองไทยที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายทุกอย่างที่น่าสะอิดสะเอียนนั้น จะไปโทษอะไรไม่ได้
ทุกอย่างที่มันเลวและเต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างน่าอนาถทุกรูปแบบ ไม่ว่ามากหรือน้อยนั้นมันเกิดที่คนไทยของเราส่วนมากไม่มีคุณภาพ
คนส่วนมากในสังคมหรือในชาติเรา มีคนชั่วร้ายหรือพูดกันตรงๆ ว่าคนของเราไม่มีคุณธรรมกันเอาเลย ซึ่งน่าจะถูกต้องที่สุด
การปฏิวัติของคณะรัฐบาลชุดนี้มีคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีกมากมายที่มั่นใจ และเชื่อว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเพราะเราอาจจะมีคนดีอยู่ในคณะรัฐบาลชุดใหม่นี้อย่างเพียงพอ หรือพอเป็นที่พึ่งได้ แต่พอไม่กี่วันผ่านไปหลังจากจัดตั้งรัฐสภา มีรัฐธรรมนูญ มีอะไรต่ออะไรครบหมดแล้ว แต่ทุกคนที่เคยเชื่อว่าจะหายใจโล่งอกกันนั้นก็ถึงกับมืออ่อน และผิดหวังกันมากขึ้นกว่าเก่า และเชื่อว่าความยุ่งยากในบ้านเมืองจะมีแต่มากยิ่งขึ้น
เพราะมันไม่มีอะไรใหม่ขึ้นมาเลย นอกจากตัวเสนาลิเกคณะเก่าเกือบทั้งสิ้น
ปรากฏว่ามีแต่สัตว์เลี้ยงรุ่นเก่าไม่รุ่นใดก็รุ่นหนึ่งหรือเกือบทั้งหมด เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีพิษของรัฐบาลเผด็จการชุดเดิมทั้งสิ้น
อาจจะมีบ้างสามสี่คนหรือไม่มากนักที่จะทำอะไรให้เป็นมรรคเป็นผลขึ้นมาได้หรือจะสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นมาพอได้สังเวชกัน เช่น ห้ามขายเหล้า ห้ามกินเหล้าหรือโฆษณาเหล้า และห้ามเล่นการพนัน เช่น แทงหวยบนดิน เป็นต้น
มีคนเคยพูดมาแล้วว่าแม้ตลอดเวลา 2549 ปีที่ประกาศศาสนาพุทธขึ้นมา โดยถือว่าเป็นความชั่ว 2 ประการในบรรดาศีลทั้ง 5 ข้อ
อย่าพยายามคิดประกาศศาสนาใหม่ให้มันรกหูชาวบ้านจะดีกว่า
เมืองไทยมีความชั่วร้ายที่จะต้องรีบร้อนจัดทำและแก้ไขมากมายเต็มบ้านเต็มเมืองเฉพาะความไม่เป็นธรรมร้อยแปดในสังคมที่เห็นได้จับต้องได้มากมายหลายชนิด แม้แต่การที่รัฐบาลและตำรวจชุดก่อนยกกองกำลังพลกระทืบคนแก่ที่ศูนย์การค้ามีชื่อแห่งหนึ่ง และที่น่าอนาถที่สุดก็คือ การที่ตำรวจนำนักโทษจากเรือนจำมารุมกระทืบผู้หญิงเรื่องเล็กๆ และขี้ผงที่สุดที่จะทำได้เพื่อยืนยันว่าบ้านเมืองยังมีขื่อมีแปมีคนเข้ามาแก้ความอยุติธรรม หรือจะช่วยเข้ามาแก้ไขช่วยเหลือกลับไม่สนใจ แต่กลับคิดว่าใครโฆษณาขายเหล้าหรือเล่นการพนันเป็นอนันตริยกรรมที่แก้อะไรไม่ได้ที่ว่านั้น
รัฐบาลที่คนไทยหวังพึ่งทำได้เพียงเท่านี้หรือ?
คนที่ได้รับการฝึกฝนอบรมมาเพื่อไม่ให้กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน มันก็ไม่กินไม่เล่นด้วยตัวของตัวเอง ได้รับการศึกษาอบรมมาเช่นนั้น ไม่ได้ทำเพราะมีกฎหมายโง่ๆ ที่ไหนบังคับ แม้แต่พระพุทธเจ้าเองท่านก็ไม่ได้สั่งห้าม การไม่ให้กินเหล้าและไม่เล่นการพนันเป็นแต่เพียงท่านบอกให้ทราบหรือเตือนไว้เท่านั้นว่ากินหรือเล่นแล้วมันบาป
มีข่าวหนึ่งซึ่งเป็นข่าวลวงมาจากที่ไหนไม่ทราบ นั่นคือข่าวที่อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังวางแผนล้มราชบัลลังก์ และตอนนี้กำลังหัวซุกหัวซุนอยู่บนกองเงินกองทองที่ขายชาติไปสถิตอยู่ในต่างประเทศได้ติดต่อมายังผู้นำรัฐบาลใหม่ของเราว่าจะกลับเมืองไทย
ก็มีการประชุมกันใน ครม.ปรึกษาหารือกันเป็นทางการในวันต่อมา
ซึ่งเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง และเหลวไหลของมนุษย์กะล่อนรายเดิม
เพราะความจริงแล้ว หมอนั่นไม่มีวันที่จะเข้ามาเมืองไทยได้อีก ความผิดที่ทำไว้แก่บ้านเมืองนั้นหนักหนาสาหัสทุกด้าน คดโกง ทรยศต่อแผ่นดิน บังอาจทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อเป็นพระมหากษัตริย์เสียเอง
ถ้ามันเสือกเข้ามาตามที่เป็นข่าวได้ อาจจะมาไม่ถึงกรุงเทพฯ ก็จะถูกกระทืบอย่างอึกทึกครึกโครมทั่วทั้งแผ่นดิน ถ้าใครพบเห็นไม่ว่าที่ไหน
เพราะนั่นเป็นความผิดที่ให้อภัยไม่ได้สำหรับเมืองไทยและคนไทย!
และความผิดที่ทำต่อบ้านเมืองโดยการขายชาติขายประเทศนั้น เข้ามาไม่ได้ คุกทุกแห่งกำลังเปิดรอเขาอยู่ทั้งนั้น
ที่เขาพูดว่าจะมาหรือติดต่อมานั้นเป็นเพียงการสำแดงอภินิหารว่ากูเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกประการอะไรแบบนั้นต่างหาก
และที่สำคัญก็คือเขามีความเชื่อมั่นว่า ถ้าเขามาจริงๆ แล้ว บรรดาสัตว์เลี้ยงต่างๆ ในพรรคของเขาที่นั่งรับประทานเงินเดือนเป็นแสนอยู่ในหน่วยงานทางการเมืองทุกแห่งก็จะช่วยกันวิ่งเต้นจัดนักขายชาติขายแผ่นดินร่วมกันมาสนับสนุนเขา เพื่อที่เขาจะอ้างได้ว่าเขายังมีเสียงสนับสนุน 19 ล้านเสียงที่เขาเที่ยวโฆษณาไว้
หรืออะไรทำนองนั้น
เพราะถ้าเขาเก่งจริงเขาจะไม่หนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ต่างประเทศแน่นอน เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ตอนที่เขาหนีไปนั้นเขาก็เตรียมปฏิวัติครองเมืองของเขาเหมือนกัน แต่เขาทำไม่สำเร็จเท่านั้น
เขาไม่รู้จักเมืองไทยและคนไทยเท่านั้น
เมืองไทยเวลานี้อยู่ในสถานการณ์ทางสองแพร่งคือ จะเป็นไปด้วยความราบรื่นเหมือนกับการปฏิวัติที่เต็มไปด้วยข้าวตอกดอกไม้ของประชาชนด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งก็คือจะถูกยุแยงตะแคงรั่วและมีเหตุการณ์แตกแยกเกิดขึ้นเสมอ ทั้งนี้ไม่มีอะไรอื่นนอกไปเสียจาก
(1) รัฐบาลปฏิวัติในปัจจุบันนี้ไม่สามารถสร้างความเชื่อถือ และความหวังแก่ประชาชนอย่างที่ทุกคนรอคอย ประชาชนทั้งหมดที่ให้การสนับสนุนคณะปฏิวัติด้วยความชื่นชมก็ยังจะคงให้การสนับสนุนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นจะตายก็ไม่มีวันถอยแน่ ถ้าพิจารณาจากสถานการณ์ที่เป็นมาแล้ว
(2) เป็นรัฐบาลที่พร้อมจะต้องแยกตัวออกจากประชาชน และทำลายความหวังที่ประชาชนหวังไม่ได้ เพราะกลับมาใช้พฤติกรรมอย่างรัฐบาลที่ผ่านมา แล้วหรือเกิดมีเหลี่ยมมีคมเพราะการหลงตัวเองอย่างรัฐบาลชุดที่แล้วจนต้องออกมาไล่กันครึ่งค่อนประเทศ
ปัญหามันมีเท่านี้เอง จะไม่มีปัญหาอื่นที่ไหนอีก!
การแสดงความชื่นชมต่อคณะปฏิวัติโดยประการต่างๆ ในระหว่างวันปฏิวัติ ถ้ายกเว้นพวกเดียรัจฉานจำนวนมากที่ได้รับการเลี้ยงดูอยู่จากทรราชชุดเก่าแล้ว จะไม่มีคนไทยคนไหนเลยที่จะไม่ชื่นชมยินดีต่อคณะปฏิวัติและรัฐบาลชุดใหม่ ประชาชนพร้อมที่จะไชโยโห่ฮิ้วให้แก่คณะปฏิวัติชุดนี้และรัฐบาลชุดนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
ผมเห็นการปฏิวัติของรัฐบาลไทยมาหลายยุคหลายสมัย แต่ปรากฏชัดเจนว่าการปฏิวัติของคณะรัฐบาลชุดนี้ชุดเดียวที่ทำให้ประชาชนพอใจมากที่สุด และหวังมากที่สุดว่าจะเป็นที่พึ่งแก่พวกเขาได้เพราะประเทศไทยเสียหายมามากแล้ว ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำย่อยยับอย่างรัฐบาลชุดนายทักษิณ ชินวัตร ทำมาแล้ว
เพราะฉะนั้น การเรียกศรัทธาและความเชื่อถือของประชาชนที่ถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลืออย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้จะต้องมีคุณธรรมอย่างน้อย 5 ประการคือ (1) มีความจริงใจในการแก้ปัญหาของประเทศทุกด้านทุกปัญหา (2) ปราบปรามอย่างเด็ดขาดรุนแรง และกวาดล้างการคอร์รัปชันและคนที่ทำการคอร์รัปชันทุกชนิดโดยเด็ดขาดและไม่ต้องไว้หน้า (3) รื้อฟื้นจริยธรรมและคุณธรรมของสังคมกลับคืนมาให้ได้ (4) ทรัพย์สินเงินทองที่ถูกปล้นถูกขโมยไป จะต้องเอาคืนมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะได้ (5) รื้อสถาบันตำรวจ จัดหาคุณธรรมและยางอายต่างๆ เข้าไปใช้ในกรมนี้ให้มากขึ้นสักหน่อย คนไทยที่มาเป็นตำรวจนั้น ยังต้องขัดเกลาอีกมาก
ทำได้แค่นี้ ผมยืนยันว่าเราสามารถจะไปนอนเป่าปี่เป่าขลุ่ยเล่นที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกันอีก เชื่อว่าลูกผู้ชายไทยทุกวันนี้จะยังพอมีติดแผ่นดินเหลืออยู่บ้าง
ถ้าหากทำไม่ได้ เพราะความบกพร่อง มีความสามารถไม่เพียงพอก็หนีไปนอนกระดิกเท้ากับเพื่อนที่อังกฤษเสียก็ได้
แล้วก็ไม่ต้องกลับมาเมืองไทยอีก!!