สถานการณ์ไม่นิ่ง ใบปลิวเถื่อนโจมตี คมช.โผล่กลางมหาวิทยาลัยขอนแก่น อ้างเป็นกลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน มี “หมอเหวง” ร่วม ระบุยึดอำนาจ“ทักษิณ” เพื่อฟื้นระบอบอมาตาธิปไตย ใช้ “เปรมาธิปไตย”เป็นต้นแบบ ผบ.มณฑลทหารบกที่ 23 รับเนื้อหารุนแรงเตรียมรายงานแม่ทัพภาค 2 ทราบ พร้อมสั่งจับตากลุ่มป่วน ขณะที่เชียงราย มีใบปลิวอ้างชื่อนายตำรวจคู่เขยอดีต ส.ส.ทรท.ถล่ม คมช. ผู้การเชียงรายเต้นสั่งสอบด่วน คมช.ไม่ออกความเห็น “คุณหญิงพจมาน” กลับไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) วานนี้ (19 ต.ค.) ที่บริเวณโรงอาหาร ได้มีกลุ่มบุคคลราว 3-4 คนเดินแจกแถลงการณ์ให้กับนักศึกษา และประชาชนที่นั่งรับประทานอาหารตามโต๊ะต่างๆ โดยในแถลงการณ์ระบุว่า เป็นกลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน (กสส.) ในตอนท้ายแถลงการณ์มีการระบุชื่อผู้ลงนามตามแถลงการณ์ทั้งหมด 35 คน
สำหรับเนื้อความในแถลงการณ์มุ่งโจมตีคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ที่แปลงสภาพเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นำโดย พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผบ.ทบ. เข้ามายึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อต้องการรื้อฟื้น “ระบอบอมาตยาธิปไตย” โดยใช้เปรมาธิปไตย 2522-2530 เป็นตัวแบบไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยตั้งพรรคพวกตัวเองที่ชราภาพมาเป็นรัฐมนตรี แต่งตั้งนายทหาร ตำรวจพวกตัวเองเพื่อปูนบำเหน็จ วางแผนปล้นเงินการบีบซื้อ “เทมาเสก” เพื่อนำไปแบ่งปันกัน
แถลงการณ์ เรียกร้อง ให้ยกเลิกกฎอัยการ ให้หยุดการรื้อฟื้นระบอบอมาตยาธิปไตย/เปรมาธิปไตย ให้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 จัดการเลือกตั้งโดยทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบที่มาของแถลงการณ์ดังกล่าว พบว่า เป็นการเขียนขึ้นมาจากมติที่ประชุมของสมาชิกเครือข่าย กสส. ซึ่งจัดขึ้นที่อาคาร 5 คณะมนุษยศาสตร์ มข. โดยข่าวแจ้งว่า เป็นการจัดประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์สังคมการเมืองหลังครบรอบ 1 เดือนรัฐประหาร ซึ่งในงานมี นพ.เหวง โตติราการ และนายนายศิโรจน์ คล้ามไพบูลย์ เป็นวิทยากรในที่ประชุม
พล.ต.จิโรจน์ ศิริวัฒนา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น เปิดเผยหลังจากเห็นใบปลิวดังกล่าว ยอมรับว่าเป็นใบปลิวที่เขียน ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง และต่อต้านคปค. อย่างชัดเจน โดยจะรายงานกับแม่ทัพภาคที่ 2 ต่อไป
ทั้งนี้ ได้ประสานกับนายเจตน์ ธนวัฒน์ ผู้ว่าฯขอนแก่น เพื่อให้ตรวจสอบ ถึงที่มาของใบปลิวและวัตถุประสงค์ของการทำใบปลิวนี้ว่า ผู้ทำมุ่งหวังอะไร พร้อมกับทางทหารจะไปสังเกตพฤติกรรมกลุ่มบุคคลดังกล่าว หากข้อมูลจากการตรวจสอบทั้ง 2 ทางตรงกันจะได้เรียกผู้ที่มีชื่อทั้ง 35 คนมาพบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากที่จ.ขอนแก่นแล้ว ที่จ.เชียงราย ได้มีมือมืดนำใบปลิวโจมตี คปค. ที่แปรสภาพเป็น คมช. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรี และรัฐบุรุษ และพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมกับลงชื่อ พ.ต.ท.เชาวลิต ธนาคำ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.พาน จ.เชียงราย บางส่วนใช้วิธีส่งทางไปรษณีย์ ล่าสุด พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุกิจ เศรษฐยานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย สอบสวนข้อเท็จจริงแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สุกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการทำใบปลิวดังกล่าว และจากการสอบถาม พ.ต.ท.เชาวลิต ที่มีชื่อปรากฏในใบปลิวดังกล่าวแล้ว ทาง พ.ต.ท.เชาวลิต ได้ปฏิเสธว่า ไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับใบปลิวดังกล่าว รวมทั้งไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้ทำออกมาเผยแพร่
“โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่า หาก พ.ต.ท.เชาวลิต เป็นผู้ทำใบปลิวดังกล่าวขึ้นมาจริง ก็ไม่น่าจะใส่ชื่อของตนเองไว้อย่างนั้น”
สำหรับ พ.ต.ท.เชาวลิต ธนาคำ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.พาน ถือเป็น นายตำรวจคนสนิทของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.เขต 4 เชียงราย พรรคไทยรักไทย และมีศักดิ์เป็นคู่เขยกับนายวิสาร ด้วย ซึ่งในช่วงหาเสียงเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา พ.ต.ท.เชาวลิต ก็มีส่วนช่วยหาเสียงให้กับนายวิสาร มาโดยตลอดเช่นกัน
นายอรรคพล สรสุชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่าแม้ตนจะรู้ความเคลื่อนไหวของประชาชนระดับท้องถิ่น เป็นอย่างดี แต่ยังคิดว่าไม่จำเป็น ต้องใช้กฎอัยการศึกควบคุมทุกอย่าง สามารถใช้กฎหมายเฉพาะควบคุมการชุมนุมประท้วงได้ เชื่อว่าหลังจากนี้อีก 6 เดือน กระบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยจะรุนแรงและมีความเคลื่อนไหวจากทุกภาคส่วนเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการเดินทางกลับประเทศไทยของคุณหญิงพจมานนั้น แม้จะจำกัดสิทธิ์ไม่ได้ แต่ต้องจับตาดูว่ามีบทบาททางการเมืองหรือไม่ หากการกลับมาของคุณหญิงพจมาน ไม่ส่งสัญญาณการเมืองใดๆ จะเป็นผลดีต่อการกลับประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณในอนาคต
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด และในฐานะคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ปฎิเสธที่จะตอบคำถามกรณี คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจะมีผลประทบอะไรหรือไม่ โดยให้ไปถามผู้ที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) วานนี้ (19 ต.ค.) ที่บริเวณโรงอาหาร ได้มีกลุ่มบุคคลราว 3-4 คนเดินแจกแถลงการณ์ให้กับนักศึกษา และประชาชนที่นั่งรับประทานอาหารตามโต๊ะต่างๆ โดยในแถลงการณ์ระบุว่า เป็นกลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน (กสส.) ในตอนท้ายแถลงการณ์มีการระบุชื่อผู้ลงนามตามแถลงการณ์ทั้งหมด 35 คน
สำหรับเนื้อความในแถลงการณ์มุ่งโจมตีคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ที่แปลงสภาพเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นำโดย พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผบ.ทบ. เข้ามายึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อต้องการรื้อฟื้น “ระบอบอมาตยาธิปไตย” โดยใช้เปรมาธิปไตย 2522-2530 เป็นตัวแบบไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยตั้งพรรคพวกตัวเองที่ชราภาพมาเป็นรัฐมนตรี แต่งตั้งนายทหาร ตำรวจพวกตัวเองเพื่อปูนบำเหน็จ วางแผนปล้นเงินการบีบซื้อ “เทมาเสก” เพื่อนำไปแบ่งปันกัน
แถลงการณ์ เรียกร้อง ให้ยกเลิกกฎอัยการ ให้หยุดการรื้อฟื้นระบอบอมาตยาธิปไตย/เปรมาธิปไตย ให้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 จัดการเลือกตั้งโดยทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบที่มาของแถลงการณ์ดังกล่าว พบว่า เป็นการเขียนขึ้นมาจากมติที่ประชุมของสมาชิกเครือข่าย กสส. ซึ่งจัดขึ้นที่อาคาร 5 คณะมนุษยศาสตร์ มข. โดยข่าวแจ้งว่า เป็นการจัดประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์สังคมการเมืองหลังครบรอบ 1 เดือนรัฐประหาร ซึ่งในงานมี นพ.เหวง โตติราการ และนายนายศิโรจน์ คล้ามไพบูลย์ เป็นวิทยากรในที่ประชุม
พล.ต.จิโรจน์ ศิริวัฒนา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น เปิดเผยหลังจากเห็นใบปลิวดังกล่าว ยอมรับว่าเป็นใบปลิวที่เขียน ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง และต่อต้านคปค. อย่างชัดเจน โดยจะรายงานกับแม่ทัพภาคที่ 2 ต่อไป
ทั้งนี้ ได้ประสานกับนายเจตน์ ธนวัฒน์ ผู้ว่าฯขอนแก่น เพื่อให้ตรวจสอบ ถึงที่มาของใบปลิวและวัตถุประสงค์ของการทำใบปลิวนี้ว่า ผู้ทำมุ่งหวังอะไร พร้อมกับทางทหารจะไปสังเกตพฤติกรรมกลุ่มบุคคลดังกล่าว หากข้อมูลจากการตรวจสอบทั้ง 2 ทางตรงกันจะได้เรียกผู้ที่มีชื่อทั้ง 35 คนมาพบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากที่จ.ขอนแก่นแล้ว ที่จ.เชียงราย ได้มีมือมืดนำใบปลิวโจมตี คปค. ที่แปรสภาพเป็น คมช. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรี และรัฐบุรุษ และพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมกับลงชื่อ พ.ต.ท.เชาวลิต ธนาคำ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.พาน จ.เชียงราย บางส่วนใช้วิธีส่งทางไปรษณีย์ ล่าสุด พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุกิจ เศรษฐยานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย สอบสวนข้อเท็จจริงแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สุกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการทำใบปลิวดังกล่าว และจากการสอบถาม พ.ต.ท.เชาวลิต ที่มีชื่อปรากฏในใบปลิวดังกล่าวแล้ว ทาง พ.ต.ท.เชาวลิต ได้ปฏิเสธว่า ไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับใบปลิวดังกล่าว รวมทั้งไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้ทำออกมาเผยแพร่
“โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่า หาก พ.ต.ท.เชาวลิต เป็นผู้ทำใบปลิวดังกล่าวขึ้นมาจริง ก็ไม่น่าจะใส่ชื่อของตนเองไว้อย่างนั้น”
สำหรับ พ.ต.ท.เชาวลิต ธนาคำ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.พาน ถือเป็น นายตำรวจคนสนิทของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.เขต 4 เชียงราย พรรคไทยรักไทย และมีศักดิ์เป็นคู่เขยกับนายวิสาร ด้วย ซึ่งในช่วงหาเสียงเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา พ.ต.ท.เชาวลิต ก็มีส่วนช่วยหาเสียงให้กับนายวิสาร มาโดยตลอดเช่นกัน
นายอรรคพล สรสุชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่าแม้ตนจะรู้ความเคลื่อนไหวของประชาชนระดับท้องถิ่น เป็นอย่างดี แต่ยังคิดว่าไม่จำเป็น ต้องใช้กฎอัยการศึกควบคุมทุกอย่าง สามารถใช้กฎหมายเฉพาะควบคุมการชุมนุมประท้วงได้ เชื่อว่าหลังจากนี้อีก 6 เดือน กระบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยจะรุนแรงและมีความเคลื่อนไหวจากทุกภาคส่วนเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการเดินทางกลับประเทศไทยของคุณหญิงพจมานนั้น แม้จะจำกัดสิทธิ์ไม่ได้ แต่ต้องจับตาดูว่ามีบทบาททางการเมืองหรือไม่ หากการกลับมาของคุณหญิงพจมาน ไม่ส่งสัญญาณการเมืองใดๆ จะเป็นผลดีต่อการกลับประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณในอนาคต
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด และในฐานะคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ปฎิเสธที่จะตอบคำถามกรณี คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจะมีผลประทบอะไรหรือไม่ โดยให้ไปถามผู้ที่เกี่ยวข้อง