เพราะความเน่าเฟะในการทำหน้าที่ต้นกระแสธารแห่งความยุติธรรมของตำรวจเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนและเห็นพ้องต้องกันว่ายากที่จะแก้ไขให้ลุล่วงได้ในเร็ววัน จำเป็นที่จะต้องจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาใหม่เพื่อทำหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ
จึงเป็นเหตุให้มีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษขึ้นในกระทรวงยุติธรรม โดยแยกออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
เป็นที่ชื่นชมโสมนัสยินดีของอาณาประชาราษฎร์ทั้งมวล โดยได้ตั้งความหวังไว้ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษจะสามารถอำนวยความยุติธรรมในขั้นต้นโดยเฉพาะในคดีสำคัญ ๆ ให้กับประเทศชาติและประชาชนได้
แต่ระบอบทักษิณได้ทำลายความปรารถนาของปวงประชาจนหมดสิ้นและยับเยิน เรียกว่าแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี
โดยการทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษกลายเป็นเครื่องมือพิเศษในการย่ำยีข่มเหงกลั่นแกล้งผู้ที่ถูกมองว่าเป็นปรปักษ์หรืออยู่ฝ่ายตรงกันข้าม และการดำเนินการที่ผ่านมาของกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้พิสูจน์ให้ประชาชนเชื่อได้แล้วว่าน่ากังขาในลักษณะที่ว่านี้จริง
เพื่อที่จะทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษกลายเป็นมือไม้แขนขาของระบอบทักษิณ จึงมีการแปรสภาพกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นรัฐตำรวจที่สอง ซ้ำรอยเดิมกับที่เป็นอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มขึ้นมาอีกหน่วยหนึ่ง
มีการโอนย้ายข้าราชการตำรวจจำนวนมากจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าไปบรรจุในสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ และทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษมีบุคลากรเกือบทั้งหมดเป็นตำรวจ
เรียกว่าเกือบทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษคือมือไม้ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากระบอบทักษิณ
และเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกับข้าราชการอื่น ๆ ทั้งในกระทรวงยุติธรรม และในกรมสอบสวนคดีพิเศษเอง
บรรดาข้าราชการตงฉินในหน่วยงานนี้ถูกเบียดเบียนข่มเหงกลั่นแกล้งด้วยสารพัดวิธีแบบตำรวจ จนไม่อาจทำหน้าที่ราชการตามปกติสุขได้ หลายคนต้องถูกสอบสวนตามที่มีการใส่ร้ายป้ายผิดอย่างน่าอเนจอนาถยิ่ง
นายจรัญ บูรณพันธุ์ศรี อดีตข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เมื่อไปทำหน้าที่ กกต. และไม่ยอมสยบหัวให้กับอำนาจอธรรมก็ถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายผิดจนมีการตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อเอาผิดให้ได้ จนเป็นเหตุให้นายจรัล บูรณพันธุ์ศรี ต้องเกิดความเครียดและถึงแก่ความตายในที่สุด
การเบียดเบียนข้าราชการตงฉินทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ล่าสุดก็เบียดเบียนไปถึงแพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ และรองปลัดกระทรวงยุติธรรมอีกท่านหนึ่ง ซึ่งถ้าหากไม่มีการยึดอำนาจก็คงต้องถูกปลดออกจากราชการอย่างแน่นอน
ดังนั้นเมื่อมีการยึดอำนาจแล้ว เราจึงขอเรียกร้องให้คืนความยุติธรรมแก่ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นการใหญ่สักครั้งหนึ่ง
ซึ่งเราเชื่อมั่นว่านายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ขุนนางตงฉินผู้จงรักภักดีจะได้ชำระสะสางปัญหาค้างคาดังกล่าวให้เสร็จสิ้นไปโดยไว
เพื่อนำคนดีมีฝีมือคืนสู่อำนาจ กำจัดลิ่วล้อทรราชออกไปจากอำนาจ
ทำไมคดีนายสมชาย นีละไพจิตร ไม่มีความคืบหน้า เราตั้งข้อกังขาในเรื่องนี้มานานแล้ว ในที่สุดเราก็พบว่าบรรดาหัว ๆ ในกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้นหาใช่คนอื่นไกล หากเคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของนักฆ่าเหล่านั้น
อย่างนี้แล้วอย่าหวังว่าคดีนายสมชาย นีละไพจิตร จะคืบหน้าไปได้เลย และจะเกิดรอยบาดหมางในจิตใจของพี่น้องไทยมุสลิมไม่มีสร่างสิ้น เช่นเดียวกับการสร้างรอยด่างและปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศซาอุดิอาระเบียในกรณีเพชรซาอุมาแล้ว
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องได้รับการชำระสะสาง เพื่อลบรอยแค้นในหัวอกของพี่น้องไทยมุสลิมให้เสร็จสิ้นไปโดยไว ซึ่งย่อมเป็นผลดีต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกทางหนึ่งด้วย
ในการกระชับอำนาจรัฐตำรวจที่สองให้เข้มแข็ง ระบอบทักษิณถึงกับวางตัวน้องเขยผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในคดีซุกหุ้นและในการบริหารอำนาจรัฐเข้าไปคุมกระทรวงยุติธรรมเป็นเวลานานปี ต่ออายุแล้วต่ออายุเล่า จนกระทั่งลาออกไปเพราะการยึดอำนาจ
และที่สำคัญที่สุดก็คือการส่งตำรวจซึ่งเป็นที่ไว้วางใจว่าจะรับใช้อย่างสุดจิตสุดใจเข้าไปครองอำนาจและทำงานต่าง ๆ ในกรมสอบสวนคดีพิเศษเต็มไปหมด
กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงกลายเป็นรัฐตำรวจที่สองไปด้วยประการฉะนี้ นั่นคือระบบงาน การบริหารจัดการ และบุคลากร ตลอดจนวัฒนธรรมการทำงานล้วนเป็นแบบอย่างเดียวกันกับที่เป็นอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อเป็นเช่นนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้แสดงบทบาทที่ชัดเจนในสองลักษณะ คือ
ลักษณะแรก บรรดาคดีที่ผู้คนทั้งปวงซึ่งได้รับความเดือดร้อนเสียหายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วกล่าวหาผู้คนในรัฐบาลทักษิณ รวมทั้งเครือข่ายลิ่วล้อบริวารจึงถูกดองเค็มไปหมด แทบทุกคดีไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ แม้กระทั่งคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่คณะปฏิรูปฯ ได้ยกขึ้นเป็นเหตุผลในการยึดอำนาจ ก็ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ และไม่มีความคืบหน้าไปไหนเลย
บรรดาคดีทุจริตคอร์รัปชั่นต่าง ๆ เงียบหายไปกับสายลม หากออกผลมาบ้างก็เป็นไปในทางที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ถูกกล่าวหา
ลักษณะที่สอง บรรดาคดีที่ผู้คนทั้งปวงถูกรัฐบาลทักษิณหรือลิ่วล้อบริวารกล่าวหาร้องทุกข์ จะถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงยิ่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงไม่มีประโยชน์ใด ๆ ต่อประเทศชาติและประชาชน และไม่อาจปล่อยให้ดำรงภาวะเช่นนี้อีกต่อไปได้ จึงเป็นความรับผิดชอบอันสูงยิ่งของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายจรัล ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่จะต้องชำระสะสางปฏิรูปหน่วยงานนี้
เบื้องต้นก็ต้องชำระสะสางบุคลากรตัวหลัก ๆ เสียก่อนเพราะหากคนเหล่านั้นยังนั่งทับเก้าอี้อยู่ ก็ไม่มีทางที่จะแก้ไขจัดการปัญหาใด ๆ ในกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เลย
และอย่าลืมชำเลืองมองไปที่กรมราชทัณฑ์เสียด้วย เพราะเราได้ยินมาว่ามีการจัดวางเชื่อมโยงให้เป็นเครือข่ายอำนาจรัฐตำรวจ หากใครที่ถูกตราหน้าหาว่าเป็นปรปักษ์พลัดหลงเข้าไปก็อาจถึงตายในเรือนจำได้โดยง่าย
5-6 ปีของน้องเขยนายทักษิณในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม อะไร ๆ มันก็ลงรากลึกไปเป็นอันมาก! แต่คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงของผู้ดำรงธรรม ผู้ที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยเป็นแน่นอน.
จึงเป็นเหตุให้มีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษขึ้นในกระทรวงยุติธรรม โดยแยกออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
เป็นที่ชื่นชมโสมนัสยินดีของอาณาประชาราษฎร์ทั้งมวล โดยได้ตั้งความหวังไว้ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษจะสามารถอำนวยความยุติธรรมในขั้นต้นโดยเฉพาะในคดีสำคัญ ๆ ให้กับประเทศชาติและประชาชนได้
แต่ระบอบทักษิณได้ทำลายความปรารถนาของปวงประชาจนหมดสิ้นและยับเยิน เรียกว่าแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี
โดยการทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษกลายเป็นเครื่องมือพิเศษในการย่ำยีข่มเหงกลั่นแกล้งผู้ที่ถูกมองว่าเป็นปรปักษ์หรืออยู่ฝ่ายตรงกันข้าม และการดำเนินการที่ผ่านมาของกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้พิสูจน์ให้ประชาชนเชื่อได้แล้วว่าน่ากังขาในลักษณะที่ว่านี้จริง
เพื่อที่จะทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษกลายเป็นมือไม้แขนขาของระบอบทักษิณ จึงมีการแปรสภาพกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นรัฐตำรวจที่สอง ซ้ำรอยเดิมกับที่เป็นอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มขึ้นมาอีกหน่วยหนึ่ง
มีการโอนย้ายข้าราชการตำรวจจำนวนมากจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าไปบรรจุในสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ และทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษมีบุคลากรเกือบทั้งหมดเป็นตำรวจ
เรียกว่าเกือบทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษคือมือไม้ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากระบอบทักษิณ
และเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกับข้าราชการอื่น ๆ ทั้งในกระทรวงยุติธรรม และในกรมสอบสวนคดีพิเศษเอง
บรรดาข้าราชการตงฉินในหน่วยงานนี้ถูกเบียดเบียนข่มเหงกลั่นแกล้งด้วยสารพัดวิธีแบบตำรวจ จนไม่อาจทำหน้าที่ราชการตามปกติสุขได้ หลายคนต้องถูกสอบสวนตามที่มีการใส่ร้ายป้ายผิดอย่างน่าอเนจอนาถยิ่ง
นายจรัญ บูรณพันธุ์ศรี อดีตข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เมื่อไปทำหน้าที่ กกต. และไม่ยอมสยบหัวให้กับอำนาจอธรรมก็ถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายผิดจนมีการตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อเอาผิดให้ได้ จนเป็นเหตุให้นายจรัล บูรณพันธุ์ศรี ต้องเกิดความเครียดและถึงแก่ความตายในที่สุด
การเบียดเบียนข้าราชการตงฉินทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ล่าสุดก็เบียดเบียนไปถึงแพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ และรองปลัดกระทรวงยุติธรรมอีกท่านหนึ่ง ซึ่งถ้าหากไม่มีการยึดอำนาจก็คงต้องถูกปลดออกจากราชการอย่างแน่นอน
ดังนั้นเมื่อมีการยึดอำนาจแล้ว เราจึงขอเรียกร้องให้คืนความยุติธรรมแก่ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นการใหญ่สักครั้งหนึ่ง
ซึ่งเราเชื่อมั่นว่านายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ขุนนางตงฉินผู้จงรักภักดีจะได้ชำระสะสางปัญหาค้างคาดังกล่าวให้เสร็จสิ้นไปโดยไว
เพื่อนำคนดีมีฝีมือคืนสู่อำนาจ กำจัดลิ่วล้อทรราชออกไปจากอำนาจ
ทำไมคดีนายสมชาย นีละไพจิตร ไม่มีความคืบหน้า เราตั้งข้อกังขาในเรื่องนี้มานานแล้ว ในที่สุดเราก็พบว่าบรรดาหัว ๆ ในกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้นหาใช่คนอื่นไกล หากเคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของนักฆ่าเหล่านั้น
อย่างนี้แล้วอย่าหวังว่าคดีนายสมชาย นีละไพจิตร จะคืบหน้าไปได้เลย และจะเกิดรอยบาดหมางในจิตใจของพี่น้องไทยมุสลิมไม่มีสร่างสิ้น เช่นเดียวกับการสร้างรอยด่างและปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศซาอุดิอาระเบียในกรณีเพชรซาอุมาแล้ว
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องได้รับการชำระสะสาง เพื่อลบรอยแค้นในหัวอกของพี่น้องไทยมุสลิมให้เสร็จสิ้นไปโดยไว ซึ่งย่อมเป็นผลดีต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกทางหนึ่งด้วย
ในการกระชับอำนาจรัฐตำรวจที่สองให้เข้มแข็ง ระบอบทักษิณถึงกับวางตัวน้องเขยผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในคดีซุกหุ้นและในการบริหารอำนาจรัฐเข้าไปคุมกระทรวงยุติธรรมเป็นเวลานานปี ต่ออายุแล้วต่ออายุเล่า จนกระทั่งลาออกไปเพราะการยึดอำนาจ
และที่สำคัญที่สุดก็คือการส่งตำรวจซึ่งเป็นที่ไว้วางใจว่าจะรับใช้อย่างสุดจิตสุดใจเข้าไปครองอำนาจและทำงานต่าง ๆ ในกรมสอบสวนคดีพิเศษเต็มไปหมด
กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงกลายเป็นรัฐตำรวจที่สองไปด้วยประการฉะนี้ นั่นคือระบบงาน การบริหารจัดการ และบุคลากร ตลอดจนวัฒนธรรมการทำงานล้วนเป็นแบบอย่างเดียวกันกับที่เป็นอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อเป็นเช่นนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้แสดงบทบาทที่ชัดเจนในสองลักษณะ คือ
ลักษณะแรก บรรดาคดีที่ผู้คนทั้งปวงซึ่งได้รับความเดือดร้อนเสียหายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วกล่าวหาผู้คนในรัฐบาลทักษิณ รวมทั้งเครือข่ายลิ่วล้อบริวารจึงถูกดองเค็มไปหมด แทบทุกคดีไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ แม้กระทั่งคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่คณะปฏิรูปฯ ได้ยกขึ้นเป็นเหตุผลในการยึดอำนาจ ก็ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ และไม่มีความคืบหน้าไปไหนเลย
บรรดาคดีทุจริตคอร์รัปชั่นต่าง ๆ เงียบหายไปกับสายลม หากออกผลมาบ้างก็เป็นไปในทางที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ถูกกล่าวหา
ลักษณะที่สอง บรรดาคดีที่ผู้คนทั้งปวงถูกรัฐบาลทักษิณหรือลิ่วล้อบริวารกล่าวหาร้องทุกข์ จะถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงยิ่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงไม่มีประโยชน์ใด ๆ ต่อประเทศชาติและประชาชน และไม่อาจปล่อยให้ดำรงภาวะเช่นนี้อีกต่อไปได้ จึงเป็นความรับผิดชอบอันสูงยิ่งของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายจรัล ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่จะต้องชำระสะสางปฏิรูปหน่วยงานนี้
เบื้องต้นก็ต้องชำระสะสางบุคลากรตัวหลัก ๆ เสียก่อนเพราะหากคนเหล่านั้นยังนั่งทับเก้าอี้อยู่ ก็ไม่มีทางที่จะแก้ไขจัดการปัญหาใด ๆ ในกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เลย
และอย่าลืมชำเลืองมองไปที่กรมราชทัณฑ์เสียด้วย เพราะเราได้ยินมาว่ามีการจัดวางเชื่อมโยงให้เป็นเครือข่ายอำนาจรัฐตำรวจ หากใครที่ถูกตราหน้าหาว่าเป็นปรปักษ์พลัดหลงเข้าไปก็อาจถึงตายในเรือนจำได้โดยง่าย
5-6 ปีของน้องเขยนายทักษิณในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม อะไร ๆ มันก็ลงรากลึกไปเป็นอันมาก! แต่คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงของผู้ดำรงธรรม ผู้ที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยเป็นแน่นอน.