xs
xsm
sm
md
lg

วิพากษ์หน้ามึนตาใส

เผยแพร่:   โดย: การุณ ใสงาม

www.karoon-saingam.net

จากบทความหน้ามึนตาใส ทำให้มีข้อถกเถียงมากมายหลากหลายในส่วนของการแสดงความเห็น ทั้งที่เห็นด้วยไม่เห็นด้วย จากข้อความที่ว่า

ผมเพียงแต่อยากตั้งคำถามดังๆ ว่าการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ตลอดระยะเวลาปีกว่าๆ นั้น พันธมิตรเหล่านี้ได้ของขวัญหรือรางวัลตอบแทนอะไรแล้วบ้างหรือไม่

ผู้อ่านมีความเห็นดังนี้

น่าเสียดาย คุณการุณที่เคยรักและนับถือ หลงทางแล้วฝากเตือนคุณสนธิด้วยอย่าทวงบุญคุณจนน่าเกลียด ทักษิณนั่งหัวเราะแล้ว ไม่รู้เตือนได้หรือเปล่า ด้วยรักและห่วงใยเพื่อนพันธมิตรฯ จาก พันธมิตรฯ USA

รู้สึกแปลกใจ ปนคลางแคลงใจครับ ที่คุณการุณเขียนบทความเรื่องนี้รู้สึกไม่ดีครับ ถ้าคิดผิดรีบคิดใหม่ได้นะครับ ผมชื่นชมการต่อสู้กับระบบทักษิณของพันธมิตรฯ พออ่านบทความนี้แล้วต้องกลับมาย้อมถามว่า

พวกคุณต่อสู้เพื่ออะไรต้นไม้ก่อนที่มันจะเติบใหญ่ให้ร่มเงาแก่ผู้คนและสรรพสัตว์ ก็ต้องผ่านช่วงเวลาที่อ่อนแอ เปราะบาง พวกคุณจะไม่ช่วยประคับประคองให้มันเติบโตเลยหรือ

ช่วงเวลานี้ พันธมิตรฯ ควรจะช่วยกันเก็บกวาดเศษเดนขยะสังคมจากระบอบทักษิณที่คุณยอมแลกด้วยชีวิต เพื่อไม่ให้มันมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในประเทศไทย ขณะเดียวกันคุณก็ต้องช่วยดูแลประคับประคองและเยียวยา สังคมที่บอบช้ำจากระบอบเก่า เพื่อสร้างสังคมใหม่ที่ดีขึ้นให้เวลากับรัฐบาลใหม่สักนิดเถอะครับจาก ไม่มีใครดีสมบูรณ์ 100% หรอกครับ

หรือจากประโยคที่ว่า สิ่งที่ประชาชนเสียสละ ทั้งชีวิตร่างกายและจิตใจ เพียงพอหรือไม่กับสิ่งที่ได้รับ นักต่อสู้ได้รับแค่เสียงปรบมือ คำชื่นชม ใช่หรือไม่

ผู้อ่านมีความเห็นดังนี้

เหล่าพันธมิตรฯ สุดท้ายธาตุแท้ก็ปรากฏ ฉันว่าแล้ว อยากได้ใคร่ดี หว่านพืชหวังผล ตอนแรกก็นึกว่าบริสุทธิ์ใจ ไม่ไหวๆ รับไม่ได้ จาก น้ำทิพย์

แล้วถ้าพันธมิตรฯ ได้เป็นรัฐมนตรีสัก 2 หรือ 3 คน ประชาชนจะวิจารณ์อย่างไร พวกพันธมิตรฯกันเองจะพูดว่าอย่างไร นึกไม่ออกจริงๆ คิดว่าอย่างนี้ดีแล้ว ทำเพื่อไม่หวังลาภยศอะไร จาก ใจกว้างหน่อย

สิ่งที่พันธมิตรฯ ได้จากประชาชนก็คือจะเป็นวีรบุรุษในใจของประชาชนที่รักประชาธิปไตยทุกคน เพราะหากวันนั้นไม่มีพันธมิตรฯ ที่จุดเทียนให้ประชาชนเห็นความชั่ว ความเลวของระบอบทักษิน ประชาชนก็อาจจะยังไม่มีวันที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อให้ได้วันนี้มา

จำวันแรกที่คุณสนธิมาจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรได้รึเปล่า เหล่าประชาชนเข้ามาฟังแบบไม่แน่ใจ จริงไม่จริง เชื่อไม่เชื่อ แต่พอเริ่มฟังเรื่อยๆและมีเหตุผลขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนเริ่มมาฟังแบบมืดฟ้ามัวดินที่สนามหลวง

ติดตามมาด้วยการกำจัดระบอบทักษินจนสำเร็จ เพราะพันธมิตรฯ ที่จุดเทียนให้ประชาชนตาสว่างแท้ๆ พันธมิตรฯ ไม่ต้องอยากได้อะไรจากสังคมหรอก คุณได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ และทุกคนจะจดจำพวกคุณไว้ในใจเสมอ ถ้าไม่มีพวกคุณวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าวันต่อไปจะมีประเทศไทยรึเปล่า จาก ผู้ชุมนุมที่สนามหลวง

คุณการุณอย่าไปน้อยใจอะไรเลย และอย่าอยากได้อยากเป็นอะไรด้วย ไม่งั้นก็หมายความว่า คุณการุณ และคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกับสุจินดาและพวก การส่งข้อมูลผลการตรวจสอบของกรรมาธิการฯ ของทีมคุณ ให้ คตส. ท่านไปทำต่อ ก็ดีแล้ว

หน้าที่ของคุณคือ การตรวจสอบต่อทั้งทางรัฐบาลใหม่ ว่าทำอะไรไหม และพวกทรราชเก่า ว่ากำลังทำลายหลักฐานยักย้ายถ่ายเท ส่วนถ้ารัฐบาลคิดได้ว่าอ่อนเรื่องประชาสัมพันธ์มาก ให้ไว้ใจอาจารย์ธีรภัทร อาจารย์น่าจะคิดได้ ขอบคุณในสิ่งที่ ส.ว.เสียงข้างน้อย ได้ทำมา

รางวัลที่พันธมิตรฯ ได้รับคือความภูมิใจที่ช่วยยับยั้งระบอบทักษิณ เพื่อลูกหลานของเราการออกมาหน้าฉากอาจเป็นชนวนให้พวกหนุนระบอบทักษิณต่อต้านรัฐบาลชั่วคราวอย่าลืมว่าพวกทักษิณมีมากกว่าพันธมิตรฯ จาก PROK

เฮียการุณ ใจเย็นๆ เราต่อสู้ เพื่ออะไร? ไม่ใช่เพื่อไล่ทักษิณ ทำลายระบอบทักษิณ หรอกหรือ? แล้วผลที่ได้ตอนนี้ ก็เป็นไปตามนั้นแล้ว ไม่ใช่หรือ? เรายังต้องตามเก็บกวาด ถอนรากให้สิ้นจริงแต่นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องการ เราไม่ได้เรียกร้องต้องการ “อำนาจ” ในการปกครองประเทศ จาก ชิน ทัก เซี่ย

ประชาชาติไทย ได้ใช้วิธีการต่อสู้ทุกรูปแบบ ที่มีในตำราโลก เพื่อสถาปนาอำนาจของประชาชน อำนาจของประชาชนคืออะไร ผมเอาแค่ตามสิทธิและรธน. 2540ก็พอ แต่ไม่เคยสำเร็จ ทั้งนี้เพราะประชาชาติไทย ไม่เคยตั้งคำถาม เพื่อหาคำตอบ ว่า ถ้าเราชนะ หรือพอจะชนะในเหตุการณ์แล้ว ประชาชนจะทำอะไรต่อไป

ประวัติศาสตร์หลายครั้ง เรามอบให้ผู้อื่นทำแทนให้ ประชาชนจะถอยไปนั่ง นอน ยืน ดู แม้แต่กระบวนการเขียนกติกาใหม่ยังไปร่วมยากเลยและยิ่งพวกอีแอบมีเครื่องมือรัฐอยู่ในมือ ตีกัน โจมตีสกัดกั้น ด้วยแล้ว อย่าหวังจะมีตัวแทนประชาชนไปนั่งเขียนกติกาหรือทำอะไร

การไปนั่งยากอยู่แล้ว ประกอบกับค่านิยมของสังคม ที่ยังก้าวไปไม่ถึงหลักการจัดการหลังชนะเหตุการณ์ มัวแต่แสดงมารยาท นั่งรอเทียบเชิญ และผู้ก่อการไม่ควรมีอำนาจเอง เพระจะถูกมองว่าทำเพื่อตัวเอง ผมก็แปลกใจมาก ยอมถวายชีวิตก่อการ จิตใจเข้มแข็งขนาดไหน แต่เอาชนะค่านิยมแบบนี้ไม่ได้สักราย

หลักประกันการได้ผลผลิตแบบนี้ คือการที่ต้องมีภาคประชาชนอยู่ในกระบวนการผลิตทุกเรื่องให้ได้ โดยมีเสียงประชาชนกำกับอยู่เคียงข้าง ถ้ายังใช้หลักคนอื่นทำให้ ก็ล้มเหลวเหมือนเดิม นี่แหละคือหลักการที่ทำไมแก้วสรรจึงอยากไปอยู่ กกต. ในที่สุดไปอยู่ คตส.มันไม่ใช่การอยากมีอำนาจเพื่ออำนาจ แต่อยากมีอำนาจเพื่อใช้อำนาจเพื่อประชาชน

ขบวนการต่อสู้ของประชาชนเรียนรู้การสถาปนาอำนาจของประชาชนน้อยมาก เพราะทุกคนถูกทำให้แพ้ด้วยวาทกรรมข้างต้นที่ผมยกมา เหยื่อคนล่าสุดที่พยายามเข้าใจ และพยายามเสนอ แต่ก็ถูกยำเละล่าสุดคือ การุณ ใสงาม

ในที่สุดนายการุณก็ต้องยอมแพ้วาทกรรมนี้ อีกคน ถ้าเมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นอะไร.. ก็คงจะต้องลาออกทุกรายการเพียงให้ได้ชื่อว่าผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองครับ เอวังด้วยประการฉะนี้ จาก บุรี

จากประโยคที่ว่า ตาอินกับตานา หาปลากันแทบตาย สุดท้ายคนที่ได้ส่วนที่ดีที่สุดของปลาคือ “ตาอยู่” ในสังคมไทย มีตาอยู่ อยู่มากมาย แท้จริงเป็นพวกนักฉวยโอกาส ปล้นสะดมอำนาจโดยแท้

ผู้อ่านมีความเห็นดังนี้

บทความนี้อ่านดูแล้วรู้สึกไม่ดีกับคุณการุณ ใสงาม ที่คุณเขียนบทความนี้ มีนัยว่าคุณก็ต้องการตำแหน่ง หรืออำนาจ ที่อุตส่าห์ต่อสู้กับระบอบทักษิณมาเป็นปีแต่คนที่ไม่ได้ต่อสู้กลับได้ตำแหน่งหรืออำนาจคุณใช้คำว่าหน้ามึนตาใส ผมขอบอกตามตรงว่ารู้สึกไม่ดีกับคุณการุณ ขึ้นมาทันที

ผมก็ร่วมต่อสู้ขับไล่ระบอบทักษิณร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯ แต่ผมไม่มีโอกาสขึ้นบนเวทีผมเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่โพกผ้าสีเหลืองนอนกลางสนามหลวง หน้าทำเนียบ พารากอน ลานพระรูปฯ ผมไม่เคยหวังชื่อเสียง หวังตำแหน่ง

เมื่อ คปค. ทำการปฏิรูปไล่ระบอบทักษิณ ผมบอกได้เลยว่าคืนนั้น ผมมีความสุข ผมนอนยิ้มบอกตัวเองว่า เราชนะแล้ว แม้เราก็ไม่ได้ร่วมใน คปค. แต่ที่เราชนะเพราะอย่างน้อยก็ยังมีคนที่เห็นด้วยกับความคิดของเรา คือไม่ต้องการทักษิณ และระบอบทักษิณ

การที่คุณการุณ ใสงาม เขียนบทความนี้ ทำให้ผมเสียความรู้สึกดีๆ กับคุณการุณ บอกได้เลยว่าไม่รู้ว่าคุณการุณ คิดได้ไง การทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นกุศลที่สูงส่งหากคิดว่าจะได้สิ่งตอบแทนจากการทำดี ก็คงไม่ต่างอะไรจากทักษิณนั่นแหละ จาก รักดีหามความสุข รักชั่วหามความทุกข์

ผมขอขอบคุณครับที่ท่านแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยก ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่มีบทสรุปที่น่าชื่นใจตรงกันว่า ไม่อยากให้ระบอบทักษิณกลับมาอีก และทำอย่างไรเราถึงจะปกป้องประเทศต่อไปได้

สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวพราย

ชานหมาก
ที่วัสการพราหมณ์ เอาใส่ในกระบอกไม้ไผ่ให้บุตรของกษัตริย์ลิจฉวี แห่งแคว้นวัชชี ดู ต่างคนต่างก็มองเห็น ชานหมาก อย่างเดียวกันไปคนละทิศคนละทาง แล้วก็โต้เถียงกันจนเกิดแตกแยกแตกความสามัคคี

ประเด็นปัญหาสำคัญ การมองปัญหาบางทีก็อยู่ที่ว่าใครใส่แว่นอะไร แว่นผลประโยชน์ส่วนตัวหรือส่วนรวม อวิชชาหรือวิชชา อคติด้วย ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะชอบ โทสาคติ ลำเอียงเพราะชัง โมหาคติ ลำเอียงเพราะหลง, พลาดผิดเพราะเขลา ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว หรือมิจฉาทิฐิ ความเห็นผิด

ปัญหาเพื่อใครจึงเป็นปัญหาพื้นฐานที่สำคัญยิ่ง เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนหรือเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง

เราต้องสามารถอยู่ร่วมกับความขัดแย้ง ความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้อย่างมีความสุขและสามารถนำไปพัฒนาได้อย่างมีคุณค่า

ผมไม่รังเกียจ ไม่โกรธ ไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับความคิดเห็นที่แตกต่างเพราะผมไม่ใช่คนประเภททักษิณ


การทำหน้าที่เป็นยามรักษาแผ่นดิน มิได้หมายความแค่เพียงระแวดระวังภัยที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ยามที่ดีควรต้องมีการเตรียมการในการป้องกันด้วยมิใช่หรือ

ไม่ว่าความคิดเห็นของท่านจะเป็นบวกหรือลบ ผมจะคิดให้ดี ทำให้ดี จะคิดให้ถูกและทำให้ถูกครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น