xs
xsm
sm
md
lg

ตอนที่ 35 การไปมาหาสู่ทำให้กลายเป็นญาติ (1)

เผยแพร่:   โดย: เรืองวิทยาคม

พวกเราคบหากันนานวันเข้า สามตัวประหลาดก็ยิ่งให้ความสนิทสนม ให้ความอบอุ่น ความรักและความไว้วางใจต่อผมราวกับว่าเป็นญาติสนิท และผมก็รู้สึกจริงๆ เหมือนกับว่าทั้งสามคนนี้คือญาติสนิท ซึ่งเป็นไปดังพระพุทธพจน์ที่ว่า “วิสาสาปรมาญาติ” ซึ่งแปลว่าการคบหาไปมาหาสู่กัน ทำให้เป็นเหมือนญาติสนิท

นั่นคือแม้ไม่ใช่ญาติแต่ไปมาหาสู่คบหากันอย่างสนิทสนมก็กลายเป็นญาติ ในทางตรงกันข้าม แม้จะเป็นญาติ แต่ถ้าไม่ไปมาหาสู่สนิทสนมกันแล้ว ความเป็นญาตินั้นก็จะเสื่อมคลายหายไปในที่สุด

พวกเราไปมาหาสู่ เล่นหมากฮอส เที่ยวเตร่ด้วยกัน จนชีวิตผมช่วงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าหมกมุ่นอยู่กับหมากฮอส และเพราะเหตุนี้ฝีมือหมากฮอสของผมจึงรุดหน้าเข้าสู่ระดับที่เขาเรียกว่าเป็นเซียนหมากฮอส

ตัวประหลาดทั้งสามคนนั้นแม้จะมีความรู้ในเชิงชั้นหมากฮอสสูงส่งแต่ไม่รักในการขีดเขียน ผมไต่ถามหาการบันทึกแต้มคูหมากฮอสเพื่อจะขอมาคัดลอกเป็นตำรับตำราก็ปรากฏว่าทั้งสามคนนั้นไม่มีใครทำบันทึกเอาไว้เลย

แต่ตัวผมนั้นรักการขีดเขียน ได้เรียนรู้อะไรมาก็จะจดบันทึกไว้พอเป็นเครื่องเตือนใจ เพราะแม้จะจำภาษิตโบราณที่ว่า “จำขึ้นใจในวิชาดีกว่าจด” ได้ก็ตาม แต่เมื่อเรื่องราวมากหลายย่อมยากจะจำได้หมด หรือจำได้วันนี้ แต่ในวันหนึ่งข้างหน้าก็อาจจะลืมเลือนไปได้ ดังนั้นผมจึงบันทึกแต้มคูและหมากกลต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี

ซึ่งก็เป็นดังภาษิตโบราณบทดังกล่าวนั่นเอง คือ “จำขึ้นใจในวิชาดีกว่าจด จำไม่หมดจดไว้เป็นครูสอน จดและจำทำวิชาให้ถาวร เป็นอาภรณ์เทิดตนพ้นลำเค็ญ”

ความหมกมุ่นในหมากฮอสได้ทำให้วันเสาร์อาทิตย์ในช่วงเวลาพักหนึ่งผมต้องห่างเหินจากเพื่อนนักเรียน เนื่องจากในวันเสาร์และวันอาทิตย์นั้นสามตัวประหลาดมักชักชวนผมไปต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ก็เป็นจังหวัดใกล้ๆ ในภาคกลาง เช่น อยุธยา ปทุมธานี นครปฐม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี เป็นต้น

ที่ไปต่างจังหวัดนั้นไปเที่ยวเป็นรอง ของจริงคือการไปเล่นหมากฮอสพนัน แรกๆ นายเป๋หรือนายเณรจะเป็นคนเล่น ส่วนผมและนายกำธรเป็นคนดู หนักๆ เข้าหรือพอคู่ต่อสู้เริ่มจับได้ว่านายเป๋และนายเณรเป็นเซียนหมากฮอสก็จะเบื่อหน่ายไม่อยากเล่นด้วย ตานั้นก็จะเป็นคราของผม เพราะนายเป๋จะขอให้ผมลงเล่น แต่ผมไม่ได้พนันอะไรกับเขาด้วย หากแต่ทำหน้าที่เล่นหมากฮอสอย่างเดียว การพนันเป็นเรื่องของนายเป๋

คนต่างจังหวัดเห็นผมเป็นเด็กและหน้าตาก็เปิ่นๆ แบบคนบ้านนอก ก็มักจะเข้าใจว่าผมเป็นมือหมากฮอสธรรมดา จึงกล้าเล่นพนันหนักๆ กับนายเป๋ ผมเองไม่มีอัธยาศัยที่อยากจะต้มตุ๋นใคร เล่นกระดานไหนก็เล่นไปตามฝีมือที่มี ไม่แกล้งอ่อนข้อ ไม่ปกปิดฝีมือที่แท้จริงเพื่อหลอกลวงเขา จึงมักจะได้เล่นไม่เกินสามหรือห้ากระดาน เพราะผมมักจะชนะรวดทุกกระดาน พอคู่ต่อสู้แพ้รวดสามหรือห้ากระดานก็รู้ฝีมือว่าสู้ไม่ได้แล้วเลิกรากันไป

จะมีพวกหัวรั้นบ้างที่ไม่แน่แก่ใจว่าแพ้เด็กได้อย่างไรก็ยังคงยืนหยัดเล่นพนันต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้ผมก็ช่วยไม่ได้ ก็ต้องเอาชนะไปตามระเบียบ แต่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องเงินได้เสียในการพนัน ซึ่งเป็นเรื่องของนายเป๋โดยเฉพาะ

พฤติกรรมของผมในช่วงนั้นถ้าเป็นภาคใต้ก็ต้องเรียกว่าเป็นพฤติกรรมของวัวชน คือทำหน้าที่ชนอย่างเดียว ไม่รู้เรื่องอย่างอื่น ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรื่องการพนันกับเขาด้วย บางครั้งผมเคยคิดว่าที่สามตัวประหลาดฝึกสอนวิชาหมากฮอสให้กับผมก็เพื่อการนี้หรือกระมัง แต่คิดไปคิดมาก็ไม่ใช่ เพราะลำพังนายเป๋และนายเณรก็สามารถทำมาหากินได้ดีอยู่แล้ว ผมเป็นเพียงตัวขัดจังหวะ
หรือถ้าเป็นการสวดของพระก็คงเรียกได้ว่าเป็นการสวดขัดตำนานเท่านั้น

นานวันเข้าสามตัวประหลาดและผมก็เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไปไหนก็ไปกัน บทจะให้ผมลงเล่นก็ไม่ต้องพูดจาว่ากล่าวอะไรกันมาก เพียงแต่พยักหน้าก็เป็นอันรู้ที ผมก็จะเข้าไปนั่งเล่นแทน นายเป๋ก็จะทำหน้าที่ต่อรองอยู่วงนอก

พวกเราไปต่างจังหวัดทุกเที่ยวก็จะได้เงินทองติดตัวกลับมาทุกครั้งไป แต่ผมนั้นในใจไม่ค่อยสบายเพราะรู้สึกว่าเงินได้จากการพนันนั้นเป็นเงินที่ไม่สะอาด เป็นเงินร้อน และขืนหมกมุ่นมากไปก็จะบ่มเพาะอัชฌาสัยให้ฝักใฝ่ในการพนันในอนาคตต่อไปได้

วันหนึ่งผมได้ปรารภเรื่องนี้กับนายเณรซึ่งถือว่าเป็นซือแป๋ นายเณรก็ว่าเรานี่มีจิตใจดีงาม แต่อย่าไปคิดอะไรมากเลย การพนันมีอยู่คู่กับโลกมาช้านานแล้ว และการพนันก็เกิดขึ้นพร้อมๆ หรือหลังโสเภณีไม่นานเท่าใดนัก เพราะเมื่อมีมนุษย์ขึ้นมาแล้วก็ย่อมมีประเวณีเป็นของคู่กัน ในขณะเดียวกันก็มีการแข่งขันขันต่อกัน จึงทำให้เกิดการพนันขึ้น ดังนั้นจึงอาจพูดได้ว่าการพนันและการค้าประเวณีคือผลิตผลของมนุษย์ที่มีมาคู่กับมนุษย์แล้ว ไม่มีทางที่จะแก้ไขหรือยกเลิกได้หรอก

นายเณรบอกว่าคนจำนวนหนึ่งเห็นว่าการเล่นพนันนั้นดีกว่าการไปกินไปเที่ยว เพราะการไปกินไปเที่ยวมีแต่เสียหรือจ่ายอย่างเดียว ส่วนการเล่นพนันมีทั้งได้ทั้งเสีย ซึ่งนับว่าเป็นเหตุผลที่เข้าท่า แต่ผมกลับไม่เห็นด้วยในเหตุผลนี้เลย เพราะกินเที่ยวนั้นประโยชน์ย่อมได้กับตนและผู้อื่นตามมากตามควร ถึงอย่างไรก็ไม่ทำให้ฉิบหายล่มจม ส่วนการพนันนั้นถึงมีได้มีเสียก็เถิด แต่ส่วนใหญ่มักฉิบหายล่มจม

พระบรมศาสดาของชาวพุทธทรงเห็นความจริงนี้อย่างชัดเจน จึงทรงตรัสสอนชาวพุทธให้เว้นขาดจากการพนัน และทรงบัญญัติว่าเป็นอบายมุขอย่างหนึ่ง ที่นำความฉิบหายมาให้ผู้เล่นการพนันนั้น และความฉิบหายนั้นยังลุกลามส่งผลไปยังครอบครัวคนใกล้ตัวและสังคมต่อไปอีก

โบราณจึงว่าการพนันร้ายกว่าถูกโจรปล้นบ้าน หรือร้ายกว่าไฟไหม้บ้าน เพราะโจรปล้นบ้านยังเหลือบ้านอยู่ ไฟไหม้บ้านก็ยังเหลือที่ดินอยู่ แต่การพนันนั้นทั้งบ้านทั้งที่ดินเป็นอันหมดสิ้นโดยง่าย ซ้ำร้ายยังจะเสียลูกเมียหรือเสียเมืองอีกด้วย ดังตัวอย่างที่มีมาในนิทานโบราณของไทยที่เจ้าเมืองในนิทานนั้นเล่นสกาจนเสียบ้านเสียเมือง เป็นต้น

กระแสน้ำไม่คอยท่า วันเวลาไม่คอยใคร วันคืนได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนวันสอบกลางปีใกล้มาถึง ตัวผมเองสำนึกตัวเองว่าเสียเวล่ำเวลาไปกับการฝึกปรือหมากฮอสและการคบหาพรรคพวกเป็นอันมาก ดังนั้นแต่ละวันเวลาเมื่อสามารถจัดเวลาได้ก็จะเร่งรีบทำการบ้าน อ่านหนังสือ จนรุดหน้าแทบจะจบหมดทุกเล่ม

กล่าวได้ว่าผมเรียนหนังสือล่วงหน้าจากที่ครูสอนในชั้นเรียน ส่วนใหญ่เข้าใจได้ดี ส่วนไหนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจก็ค่อยๆ ทำความเข้าใจไปโดยลำดับ และส่วนไหนที่ไม่เข้าใจจริงๆ ก็ทิ้งไว้ คอยท่าเมื่อถึงวันเวลาที่ครูสอนในชั้นเรียนก็พยายามตั้งใจฟัง ด้วยเหตุนี้ผมจึงจัดอยู่ในจำพวกนักเรียนเรียนดีของชั้นเรียน.

โปรดติดตามตอนที่ 35 “การไปมาหาสู่ทำให้กลายเป็นญาติ ตอน 2 (จบ)” ในวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2549
กำลังโหลดความคิดเห็น