พรรณี เช็งสุทธา
สำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ กรุงปารีส
ยุโรปเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแต่ละปีมีการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ถึง 21 ล้านคัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้ ยุโรปยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก คิดเป็นหนึ่งในสามของการผลิตทั่วโลก ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์จึงถือเป็นตัวจักรสำคัญทางเศรษฐกิจของยุโรป
สำหรับฝรั่งเศส เป็นประเทศชั้นนำด้านอุตสาหกรรมประเทศหนึ่งในยุโรป อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลยังสนับสนุนให้เกิดการลงทุนเพื่อเสริมสร้างให้ฝรั่งเศสเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมของโลก และยังทุ่มเงินด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างให้ฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกด้วย
ประเทศฝรั่งเศสมีโรงงานประกอบรถยนต์ 21 โรง มีผู้ผลิตชิ้นส่วน First Tier เกือบ 600 โรงงาน และมีผู้วิจัยชิ้นส่วนยานยนต์ชนิดใหม่ๆ ถึง 10,000 คน โดยแต่ละปีฝรั่งเศสทุ่มงบประมาณเพื่อการวิจัยและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ถึงประมาณ 5 พันล้านยูโร (235,000 ล้านบาท)
ในทวีปยุโรป ฝรั่งเศสผลิตรถยนต์มากเป็นที่สองรองจากเยอรมนี ตามมาด้วยสเปน และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ ในขณะที่อิตาลีก็เริ่มลดการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ลง เนื่องจากปัญหาการแข่งขันด้านราคาจากประเทศคู่แข่ง ทำให้ต้องย้ายฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไปยังประเทศอื่นๆ
อุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของยอดรายได้ในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดของฝรั่งเศส มีการส่งออกร้อยละ 70 ปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 13 บริษัทที่ตั้งโรงงานอยู่ในฝรั่งเศส โดยมีโรงงานประกอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 21โรง เป็นการประกอบรถโดยสารประจำทางและรถบรรทุกหนัก 7 โรง ตั้งกระจายอยู่ในเมืองสำคัญต่างๆ ของฝรั่งเศส รวมทั้งในกรุงปารีสด้วย
ค่ายยักษ์ใหญ่สองค่ายของฝรั่งเศส คือ เปอร์โยต์-ซีตรอง และเรโนลต์ ซึ่งครองตลาดถึงเกือบสองในสามของตลาดภายในประเทศฝรั่งเศส คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 31 และ 28.2 ตามลำดับ
สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วน (First Tier) ของฝรั่งเศสตั้งกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วฝรั่งเศสถึง 590 โรงงาน มียอดรายได้ 25 พันล้านยูโร (1,175 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของยอดรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของฝรั่งเศสเติบโต นอกจากเพราะเป็นแหล่งที่ตั้งของบริษัทชั้นนำของโลกแล้ว ฝรั่งเศสยังให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ระบบความปลอดภัย เครื่องยนต์ประหยัดพลังงาน เป็นต้น
สถาบันวิจัยและโครงการวิจัยที่สำคัญๆ ของฝรั่งเศส ได้แก่ Research and Technological Innovation Networks (RNIT), National Centers for Technological Research (CNRT), National Land Transport Research and Innovation Program (PREDIT) เป็นต้น บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ของโลกและของฝรั่งเศสหลายบริษัท เช่น Michelin, Valeo, Faurecia, Delphi, Visteon, Robert Bosch, Johnson Controls, และอื่นๆ ล้วนตั้งสถาบันวิจัยและศูนย์เทคโนโลยีในฝรั่งเศสทั้งสิ้น
เปอโยต์-ซีตรองจดสิทธิบัตรกว่า 300 ใบในแต่ละปี และมีโครงการวิจัย 70 โครงการในเรื่องที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมประเภทนี้ คิดเป็นมูลค่า 1.39 พันล้านยูโร (65.3 พันล้านบาท) ในขณะที่เรโนลต์ทุ่มงบประมาณถึง 2 พันล้านยูโร (94 พันล้านบาท) หรือคิดเป็น 5.1 ของยอดรายได้ในการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
แต่ในขณะนี้ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศสกำลังประสบปัญหาการแข่งขันด้านราคาอย่างมากจากประเทศคู่แข่งในทวีปเอเชีย ทำให้หลายบริษัทชั้นนำต้องไปตั้งบริษัทหาชิ้นส่วนราคาถูกกว่าในตลาดเอเชีย เช่น เปอร์โยต์-ซีตรอง ตั้งบริษัทหาผู้รับช่วงการผลิตในจีน และกำลังเริ่มให้ความสนใจกับประเทศในเอเชียมากขึ้น โดยไทยเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ในอาเซียน เนื่องจากความพร้อมในอุตสาหกรรมสนับสนุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์
บริษัทผู้รับช่วงการผลิตของไทยจึงไม่น่าพลาดโอกาสที่ดีในครั้งนี้ เพื่อเสนอสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่แข่งขันได้ เมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เปอร์โยต์-ซีตรองให้ความสนใจและเดินทางมาพบผู้รับช่วงการผลิตของไทยหลายครั้งแล้ว และกำลังติดต่อกับบริษัทรายใหญ่ของไทยบางรายเพื่อทดสอบคุณภาพและความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์เพื่อการตัดสินใจสั่งซื้อต่อไป
ดังนั้น การเข้าร่วมงานไมเดส 2006 (MIDEST 2006) ซึ่งเป็นงานรับช่วงการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสและในยุโรป ระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2549 ณ กรุงปารีส จะเป็นโอกาสที่ผู้ผลิตไทยจะได้เข้าสู่ตลาดฝรั่งเศสในอนาคต
ไมเดส 2006 (MIDEST 2006) จะเป็นแหล่งรวมสุดยอดผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำในด้านเครื่องจักรกล พลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ ที่บริษัทไทยสามารถจะเข้าร่วมรับการคัดเลือกจากกว่า 75,000 บริษัท ที่จะเข้ามาคัดสรรบริษัทผู้รับช่วงการผลิตจากประเทศต่างๆ ในงานนี้
หากท่านเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตในชิ้นส่วนเหล่านี้ ท่านไม่ควรพลาด
ผู้สนใจเข้าร่วมงานไมเดส 2006 (MIDEST 2006) โปรดติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยเชื่อมโยงอุตสาหกรรมสนับสนุน (หน่วย BUILD) ได้ที่โทร 0-2537 -8111 ต่อ 3004
รับจำนวนจำกัด
ติดต่อขอข้อมูล ติชม และเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่กองการตลาดเพื่อการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 0-2537-8163 หรือที่ marketing@boi.go.th
สำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ กรุงปารีส
ยุโรปเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแต่ละปีมีการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ถึง 21 ล้านคัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้ ยุโรปยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก คิดเป็นหนึ่งในสามของการผลิตทั่วโลก ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์จึงถือเป็นตัวจักรสำคัญทางเศรษฐกิจของยุโรป
สำหรับฝรั่งเศส เป็นประเทศชั้นนำด้านอุตสาหกรรมประเทศหนึ่งในยุโรป อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลยังสนับสนุนให้เกิดการลงทุนเพื่อเสริมสร้างให้ฝรั่งเศสเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมของโลก และยังทุ่มเงินด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างให้ฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกด้วย
ประเทศฝรั่งเศสมีโรงงานประกอบรถยนต์ 21 โรง มีผู้ผลิตชิ้นส่วน First Tier เกือบ 600 โรงงาน และมีผู้วิจัยชิ้นส่วนยานยนต์ชนิดใหม่ๆ ถึง 10,000 คน โดยแต่ละปีฝรั่งเศสทุ่มงบประมาณเพื่อการวิจัยและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ถึงประมาณ 5 พันล้านยูโร (235,000 ล้านบาท)
ในทวีปยุโรป ฝรั่งเศสผลิตรถยนต์มากเป็นที่สองรองจากเยอรมนี ตามมาด้วยสเปน และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ ในขณะที่อิตาลีก็เริ่มลดการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ลง เนื่องจากปัญหาการแข่งขันด้านราคาจากประเทศคู่แข่ง ทำให้ต้องย้ายฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไปยังประเทศอื่นๆ
อุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของยอดรายได้ในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดของฝรั่งเศส มีการส่งออกร้อยละ 70 ปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 13 บริษัทที่ตั้งโรงงานอยู่ในฝรั่งเศส โดยมีโรงงานประกอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 21โรง เป็นการประกอบรถโดยสารประจำทางและรถบรรทุกหนัก 7 โรง ตั้งกระจายอยู่ในเมืองสำคัญต่างๆ ของฝรั่งเศส รวมทั้งในกรุงปารีสด้วย
ค่ายยักษ์ใหญ่สองค่ายของฝรั่งเศส คือ เปอร์โยต์-ซีตรอง และเรโนลต์ ซึ่งครองตลาดถึงเกือบสองในสามของตลาดภายในประเทศฝรั่งเศส คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 31 และ 28.2 ตามลำดับ
สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วน (First Tier) ของฝรั่งเศสตั้งกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วฝรั่งเศสถึง 590 โรงงาน มียอดรายได้ 25 พันล้านยูโร (1,175 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของยอดรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของฝรั่งเศสเติบโต นอกจากเพราะเป็นแหล่งที่ตั้งของบริษัทชั้นนำของโลกแล้ว ฝรั่งเศสยังให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ระบบความปลอดภัย เครื่องยนต์ประหยัดพลังงาน เป็นต้น
สถาบันวิจัยและโครงการวิจัยที่สำคัญๆ ของฝรั่งเศส ได้แก่ Research and Technological Innovation Networks (RNIT), National Centers for Technological Research (CNRT), National Land Transport Research and Innovation Program (PREDIT) เป็นต้น บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ของโลกและของฝรั่งเศสหลายบริษัท เช่น Michelin, Valeo, Faurecia, Delphi, Visteon, Robert Bosch, Johnson Controls, และอื่นๆ ล้วนตั้งสถาบันวิจัยและศูนย์เทคโนโลยีในฝรั่งเศสทั้งสิ้น
เปอโยต์-ซีตรองจดสิทธิบัตรกว่า 300 ใบในแต่ละปี และมีโครงการวิจัย 70 โครงการในเรื่องที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมประเภทนี้ คิดเป็นมูลค่า 1.39 พันล้านยูโร (65.3 พันล้านบาท) ในขณะที่เรโนลต์ทุ่มงบประมาณถึง 2 พันล้านยูโร (94 พันล้านบาท) หรือคิดเป็น 5.1 ของยอดรายได้ในการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
แต่ในขณะนี้ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศสกำลังประสบปัญหาการแข่งขันด้านราคาอย่างมากจากประเทศคู่แข่งในทวีปเอเชีย ทำให้หลายบริษัทชั้นนำต้องไปตั้งบริษัทหาชิ้นส่วนราคาถูกกว่าในตลาดเอเชีย เช่น เปอร์โยต์-ซีตรอง ตั้งบริษัทหาผู้รับช่วงการผลิตในจีน และกำลังเริ่มให้ความสนใจกับประเทศในเอเชียมากขึ้น โดยไทยเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ในอาเซียน เนื่องจากความพร้อมในอุตสาหกรรมสนับสนุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์
บริษัทผู้รับช่วงการผลิตของไทยจึงไม่น่าพลาดโอกาสที่ดีในครั้งนี้ เพื่อเสนอสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่แข่งขันได้ เมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เปอร์โยต์-ซีตรองให้ความสนใจและเดินทางมาพบผู้รับช่วงการผลิตของไทยหลายครั้งแล้ว และกำลังติดต่อกับบริษัทรายใหญ่ของไทยบางรายเพื่อทดสอบคุณภาพและความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์เพื่อการตัดสินใจสั่งซื้อต่อไป
ดังนั้น การเข้าร่วมงานไมเดส 2006 (MIDEST 2006) ซึ่งเป็นงานรับช่วงการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสและในยุโรป ระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2549 ณ กรุงปารีส จะเป็นโอกาสที่ผู้ผลิตไทยจะได้เข้าสู่ตลาดฝรั่งเศสในอนาคต
ไมเดส 2006 (MIDEST 2006) จะเป็นแหล่งรวมสุดยอดผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำในด้านเครื่องจักรกล พลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ ที่บริษัทไทยสามารถจะเข้าร่วมรับการคัดเลือกจากกว่า 75,000 บริษัท ที่จะเข้ามาคัดสรรบริษัทผู้รับช่วงการผลิตจากประเทศต่างๆ ในงานนี้
หากท่านเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตในชิ้นส่วนเหล่านี้ ท่านไม่ควรพลาด
ผู้สนใจเข้าร่วมงานไมเดส 2006 (MIDEST 2006) โปรดติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยเชื่อมโยงอุตสาหกรรมสนับสนุน (หน่วย BUILD) ได้ที่โทร 0-2537 -8111 ต่อ 3004
รับจำนวนจำกัด
ติดต่อขอข้อมูล ติชม และเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่กองการตลาดเพื่อการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 0-2537-8163 หรือที่ marketing@boi.go.th