ปัจจัยลบทั้งเศรษฐกิจและการเมืองพ่นพิษใส่ตลาดแฟชั่นยอดขายวูบอย่างเห็นได้ชัด “เอส จี เอฟ เทรดดิ้ง”ผู้นำเข้าเสื้อผ้าแบรนด์เนม เวอร์ซาเช่ เผยยอดขาย 8 เดือนแรกหด หวังการเมืองจะนิ่งเร็วส่งผลดีต่อตลาด ทั้งธุรกิจ การลงทุน และนักท่องเที่ยวจะกลับมาดีเหมือนเดิม เร่งทำไดเร็คเซลส์หวังกู้ยอดคืน ด้านแฟชั่นแฟคทอรี่ เอาท์เลทได้รับผลกระทบยอดขายลดลง 20-30% งัดแผนรองรับหวังเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าโดยการนำเซรามิกส์และของตกแต่งบ้านมาขายเพิ่มในเอาท์เล็ตที่เพชรบุรี รับตลาดชะอำและหัวหินที่มีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้นมาก
นางสุชัญญา ธนาลงกรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส จี เอฟ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ภายใต้แบรนด์ “เวอร์ซาเช่” เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทฯในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาพบว่า มีอัตราการเติบโตของยอดขายที่ลดลง อันเนื่องมาจากปัจจัยลบในด้านต่างๆ อาทิ เศรษฐกิจ และการเมือง ฯลฯ ในช่วงที่ผ่านมาที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ ทั้งนี้มองว่าหากปัญหาทางการเมืองคลี่คลายลงกว่านี้ โดยคณะปฏิรูปฯได้มีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่ทุกคนยอมรับขึ้นมาหรือหากสถานการณ์ทางการเมืองนิ่งแล้วก็เชื่อว่าทุกอย่างจะกลับมาดีขึ้น ทั้งธุรกิจการค้า รวมถึงความเชื่อมั่นจากต่างประเทศก็จะกลับมาอีกครั้ง จากนั้นนักท่องเที่ยวก็จะกลับมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยเหมือนเดิม และการค้าขายก็จะเข้าสู่บรรยากาศที่ดีมากขึ้นกว่านี้
สำหรับแผนการทำตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อกระตุ้นตลาดและดึงกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา ไม่ว่าจะเป็น การทำไดเร็คเซลล์หรือการนำสินค้าไปให้ลูกค้าดูถึงที่บ้าน เพื่อเป็นการบริการที่เข้าถึงตัวลูกค้า ส่วนการลดราคาสินค้าของเวอร์ซาเช่จะทำเพียง 2 ช่วงตามระยะเวลาเท่านั้นจะไม่มีการทำมากเหมือนแบรนด์อื่นๆ เพราะอาจจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ โดยระดับราคาจำหน่ายของเวอร์ซาเช่นั้นมีตั้งแต่ 1,000-100,000 บาทต่อรายการ
ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านของเวอร์ซาเช่เปิดบริการอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ที่ดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน 2 แห่ง ภายใต้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนลงทุนเปิดสาขาอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ด้านฐานสมาชิกของเวอร์ซาเช่ขณะนี้มีกว่า 1,000 ราย ขณะที่ลูกค้าที่มาซื้อเวอร์ซาเช่จะแบ่งเป็นคนไทย คิดเป็นสัดส่วน 50% และต่างชาติ 50%
สำหรับเป้าหมายยอดรายได้ในปี 2549 นี้เดิมทีบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตที่ 10-20% แต่หลังจากต้องประสบปัจจัยลบมากก็คาดว่ายอดรายได้อาจไปไม่ถึงเป้าที่วางไว้ แต่คาดว่าคงจะตกลงจากเดิมไม่มากนัก
แฟชั่นแฟคทอรี่ฯยอดขายลดวูบ
ด้านนายธีรธร พงศาพาส ผู้จัดการ บริษัท แฟชั่นแฟคทอรี่ เอาท์เลท จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นในส่วนของยอดขายพบว่า มีอัตราการเติบโตลดลง 20-30%
ดังนั้นแผนการทำตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทฯเตรียมทำการตลาดในคอนเซ็ปต์ใหม่ให้กับสินค้า เพื่อต้องการให้มีความหลากหลายมากขึ้นเป็นการสร้างอารมณ์และกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง เช่น เอาท์เลตที่เพชรบุรีจะมีการนำเซรามิกซ์และของตกแต่งบ้านมาวางจำหน่าย เพื่อรองรับกับตลาดบ้านและคอนโดที่เกิดขึ้นมากทั้งชะอำและหัวหิน
สำหรับยอดขายของบริษัทฯปีนี้คาดว่าจะมีอัตราลดลง 10-15% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทั้งเศรษฐกิจและการเมือง อีกทั้งตลาดเอาท์เลทมีคู่แข่งเข้ามาทำตลาดมากจึงแย่งสัดส่วนยอดรายได้ของบริษัทฯไป ขณะที่ลูกค้าหลักของแฟชั่นแฟคทอรี่ เอาท์เลทยังเป็นคนไทย คิดเป็นสัดส่วน 80% และคนต่างชาติ 10-15%
นางสุชัญญา ธนาลงกรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส จี เอฟ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ภายใต้แบรนด์ “เวอร์ซาเช่” เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทฯในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาพบว่า มีอัตราการเติบโตของยอดขายที่ลดลง อันเนื่องมาจากปัจจัยลบในด้านต่างๆ อาทิ เศรษฐกิจ และการเมือง ฯลฯ ในช่วงที่ผ่านมาที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ ทั้งนี้มองว่าหากปัญหาทางการเมืองคลี่คลายลงกว่านี้ โดยคณะปฏิรูปฯได้มีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่ทุกคนยอมรับขึ้นมาหรือหากสถานการณ์ทางการเมืองนิ่งแล้วก็เชื่อว่าทุกอย่างจะกลับมาดีขึ้น ทั้งธุรกิจการค้า รวมถึงความเชื่อมั่นจากต่างประเทศก็จะกลับมาอีกครั้ง จากนั้นนักท่องเที่ยวก็จะกลับมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยเหมือนเดิม และการค้าขายก็จะเข้าสู่บรรยากาศที่ดีมากขึ้นกว่านี้
สำหรับแผนการทำตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อกระตุ้นตลาดและดึงกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา ไม่ว่าจะเป็น การทำไดเร็คเซลล์หรือการนำสินค้าไปให้ลูกค้าดูถึงที่บ้าน เพื่อเป็นการบริการที่เข้าถึงตัวลูกค้า ส่วนการลดราคาสินค้าของเวอร์ซาเช่จะทำเพียง 2 ช่วงตามระยะเวลาเท่านั้นจะไม่มีการทำมากเหมือนแบรนด์อื่นๆ เพราะอาจจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ โดยระดับราคาจำหน่ายของเวอร์ซาเช่นั้นมีตั้งแต่ 1,000-100,000 บาทต่อรายการ
ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านของเวอร์ซาเช่เปิดบริการอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ที่ดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน 2 แห่ง ภายใต้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนลงทุนเปิดสาขาอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ด้านฐานสมาชิกของเวอร์ซาเช่ขณะนี้มีกว่า 1,000 ราย ขณะที่ลูกค้าที่มาซื้อเวอร์ซาเช่จะแบ่งเป็นคนไทย คิดเป็นสัดส่วน 50% และต่างชาติ 50%
สำหรับเป้าหมายยอดรายได้ในปี 2549 นี้เดิมทีบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตที่ 10-20% แต่หลังจากต้องประสบปัจจัยลบมากก็คาดว่ายอดรายได้อาจไปไม่ถึงเป้าที่วางไว้ แต่คาดว่าคงจะตกลงจากเดิมไม่มากนัก
แฟชั่นแฟคทอรี่ฯยอดขายลดวูบ
ด้านนายธีรธร พงศาพาส ผู้จัดการ บริษัท แฟชั่นแฟคทอรี่ เอาท์เลท จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นในส่วนของยอดขายพบว่า มีอัตราการเติบโตลดลง 20-30%
ดังนั้นแผนการทำตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทฯเตรียมทำการตลาดในคอนเซ็ปต์ใหม่ให้กับสินค้า เพื่อต้องการให้มีความหลากหลายมากขึ้นเป็นการสร้างอารมณ์และกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง เช่น เอาท์เลตที่เพชรบุรีจะมีการนำเซรามิกซ์และของตกแต่งบ้านมาวางจำหน่าย เพื่อรองรับกับตลาดบ้านและคอนโดที่เกิดขึ้นมากทั้งชะอำและหัวหิน
สำหรับยอดขายของบริษัทฯปีนี้คาดว่าจะมีอัตราลดลง 10-15% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทั้งเศรษฐกิจและการเมือง อีกทั้งตลาดเอาท์เลทมีคู่แข่งเข้ามาทำตลาดมากจึงแย่งสัดส่วนยอดรายได้ของบริษัทฯไป ขณะที่ลูกค้าหลักของแฟชั่นแฟคทอรี่ เอาท์เลทยังเป็นคนไทย คิดเป็นสัดส่วน 80% และคนต่างชาติ 10-15%