xs
xsm
sm
md
lg

ศิษย์สมเด็จตอนที่ 34 เกิดเป็นคนควรเป็นศิษย์มีครู (ตอน 2-จบ)

เผยแพร่:   โดย: เรืองวิทยาคม

เพราะไม่เพียงแต่จะเล่นหมากฮอสกับคนอื่นได้เป็นอย่างดีเท่านั้น ยังสามารถเล่นหมากฮอสคนเดียวก็ได้ เล่นพร้อมกันทีละหลายคนก็ได้ หรือเดินเล่นหมากฮอสด้วยปากเปล่าราวกับมีกระดานจริงๆ ก็ได้

ความเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมืออย่างรวดเร็วเช่นนี้ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยการนั่งนึกเอาเอง หรือเอาแต่รอโชคชะตา หากเกิดขึ้นได้เพราะการคบหาคนดีมีฝีมือและได้รับความเมตตาประสิทธิ์ประสาทวิทยาวิชาคุณให้

เพราะเหตุนี้การที่จะมีโอกาสเหนือกว่าคนอื่นได้นั้น ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งคือการได้ครูอาจารย์ที่ดีช่วยประสิทธิ์ประสาทความรู้วิทยาวิชาคุณให้ การจะได้รับโอกาสเช่นนี้ก็เพราะความสุภาพนุ่มนวล ความนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ และการรู้จักบูชาผู้ที่ควรบูชา ซึ่งพระบรมศาสดาทรงตรัสสอนไว้ในมงคล 38 ประการหนึ่งว่าให้รู้จักบูชาคนที่ควรบูชาก็จะเป็นมงคลสูงสุดแก่ชีวิต

เพราะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับสามตัวประหลาดมากขึ้นโดยลำดับ ดังนั้นบางวันผมก็หนีพระออกจากกุฏิไปเล่นหมากฮอสแทบทุกวัน โดยหลบออกไปตอนเวลาสี่ทุ่มแล้วกลับประมาณเที่ยงคืนหรือตีสอง หรือบางวันพอกลับจากโรงเรียนผมก็ตรงไปเล่นหมากฮอสเลย แล้วกลับวัดก่อนสามทุ่ม สุดแท้แต่จะพอใจประการใด

วันหนึ่งผมเล่นหมากฮอสที่บ้านนายเณรจนเลยสองยามไปแล้วกำลังจะกลับวัด ในจิตใจพลันให้รำลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จ จึงเดินเกร่ย้อนกลับไปแถวตลาดวัดวิเศษหรือที่เรียกว่าตลาดบ้านขมิ้น ซื้อพวงมาลัยมาสามพวงแล้วแวะไปที่วิหารสมเด็จ

ผมไปถึงหน้าวิหารสมเด็จแล้วก็คุกเข่าลงที่บันไดหน้าวิหารซึ่งมีบันไดเพียงขั้นเดียว เพราะไม่อยากเข้าไปในวิหารเนื่องจากมืด และประตูห้องซึ่งเป็นที่สถิตของรูปปั้นเจ้าประคุณสมเด็จได้ปิดแล้ว

ผมวางพวงมาลัยลงกับพื้นวิหารแล้วกราบลงกับพื้น ในพลันนั้นให้รู้สึกเย็นวาบทั้งตัวแต่เป็นอาการเย็นแบบฉ่ำชื้น ผมเงยหน้ามองไปที่เบื้องหน้า เห็นประตูวิหารซึ่งปิดอยู่นั้นเปิดกว้างออกทั้งสองช่อง มีแสงสว่างเจิดจ้าอยู่ข้างในห้องอันเป็นที่ตั้งรูปเจ้าประคุณสมเด็จ จนเห็นรูปปั้นของสมเด็จทั้งสามองค์อย่างชัดเจน

เป็นแสงสว่างแบบเดียวกันกับเมื่อครั้งที่เคยเห็นที่ตู้พระไตรปิฎกเก่า ผมนั่งตกตะลึงขึงอยู่กับที่ ครู่หนึ่งสภาพการณ์ก็เข้าสู่ภาวะปกติดังเดิม ผมรู้สึกขนลุกซู่ชูชัน แต่มิได้รู้สึกหวาดกลัวแต่ประการใด

เพราะในใจรู้ว่านี่เป็นปาฏิหาริย์ของเจ้าประคุณสมเด็จที่อาจจะรับรู้ในความกตัญญูที่ผมมีต่อเจ้าประคุณสมเด็จ เนื่องจากไม่ว่าจะไปไหนมาไหนผมจะมีความรำลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จและมากราบไหว้เป็นประจำ จึงแสดงปาฏิหาริย์ให้ประจักษ์

พอหายตกตะลึงผมจึงก้มลงกราบอีกครั้งหนึ่ง แล้วสวดพระคาถาชินบัญชรถวายเจ้าประคุณ จบแล้วจึงกราบลากลับไปกุฏิ

วันรุ่งขึ้นเวลาเช้าผมยังซาบซ่านด้วยปิติในอภินิหารของเจ้าประคุณสมเด็จที่ได้ประจักษ์ในตอนกลางคืน มีความอิ่มอกอิ่มใจจนบอกไม่ถูก พอหมอปานตื่นขึ้นผมจึงเล่าความให้ฟังดังที่ได้ประสบมาทุกประการ

หมอปานก็ว่าปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง แต่ใครจะสัมผัสและประจักษ์แก่ตนได้หรือไม่นั้นย่อมขึ้นอยู่กับคุณงามความดีและจิตใจของแต่ละคน แต่เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะพูดมากออกไป เพราะคนจำนวนหนึ่งซึ่งไม่เชื่อถือในเรื่องเหล่านี้จะตำหนิติเตียนเอาได้

หมอปานบอกว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้ว่าจะทรงแสดงปาฏิหาริย์ได้เป็นเอนกประการ แต่ไม่ทรงสรรเสริญอภินิหารใดๆ นอกจากอนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือการแสดงธรรมเพื่อความรู้แจ้ง รู้จริง และเพื่อความถึงที่สุดแห่งทุกข์ และทรงตรัสห้ามมิให้ภิกษุอวดอ้างแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ถึงกับทรงประณามว่าเป็นอุตริมนุษยธรรม และทรงบัญญัติพระวินัยห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม ทรงบัญญัติโทษสถานหนักถึงขั้นปาราชิก ถ้าหากฝ่าฝืนก็จะเป็นอาบัติ ขาดจากความเป็นภิกษุ

หมอปานว่าพระสงฆ์ในรุ่นหลังปฏิบัติไม่ได้ตามที่ศึกษาเล่าเรียน แต่กลับอ้างพุทธดำรัสดังกล่าวว่าไม่ทรงสรรเสริญให้แสดงซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด การบำเพ็ญเพียรทางจิตเพื่อบรรลุถึงอิทธิฤทธิ์และปาฏิหาริย์นั้นเป็นสิ่งปกติที่จะต้องเป็นไปตามขั้นตอนแห่งการศึกษาอบรม เป็นผลของการปฏิบัติโดยตรง ซึ่งไม่ได้ทรงห้ามศึกษาหรือปฏิบัติแต่ประการใด

พระตถาคตเจ้าทรงส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาอบรมและการปฏิบัติทางจิตเป็นอันมาก คำสอนส่วนใหญ่ของพระองค์คือคำสอนเกี่ยวกับการศึกษาอบรมทางจิตเพื่อถึงซึ่งความพ้นทุกข์และมีอานิสงส์ที่สามารถกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ได้

ที่ทรงห้ามและถือเป็นการผิดพระวินัยก็เฉพาะแต่การอวดอ้างแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันไม่มีในตน ซึ่งมีลักษณะเป็นการหลอกลวงฉ้อฉลอันถือว่าเป็นอุตริมนุษยธรรมที่ไม่มีในตน

ความจริงการบำเพ็ญเพียรทางจิตที่มีอานิสงส์ทำให้สามารถกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ได้เป็นธรรมชาติและปฏิบัติที่จะต้องได้รับผลของการปฏิบัติเช่นนั้น และในบางยุคบางสมัยหรือบางกาล อิทธิปาฏิหาริย์ก็มีประโยชน์และอาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เพื่อส่งเสริมศรัทธาประสาทะ หรือเพื่อข่มผู้เป็นอริที่เป็นอุปสรรค ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา

เหตุที่ไม่ทรงสรรเสริญเพราะไม่ใช่หนทางแห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ และหากมุ่งเน้นในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์เกินไปก็จะเกิดการติดยึดให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่อาจเจริญก้าวหน้าในธรรมต่อไปได้ ทั้งอาจเบี่ยงเบนไปในทางลุ่มหลงเพราะเป็นทางหรือเป็นเหตุที่จะได้มาซึ่งลาภและสรรเสริญอันจะโน้มน้าวจิตใจให้ใหลลงไปในทางต่ำ

แต่เมื่อได้บำเพ็ญเพียรจนจิตเป็นอธิจิตจนถอนความยึดมั่นถือมั่นได้สิ้นเชิงแล้ว ก็จะถึงซึ่งความหลุดพ้น เมื่อนั้นก็สามารถที่จะน้อมจิตนั้นไปสู่วิชชาและวิมุตได้โดยไม่ยากไม่ลำบาก

ดังนั้น ใครที่ไม่สามารถทำอิทธิปาฏิหาริย์ได้ก็อย่าได้เที่ยวอ้างหรือกล่าวถึงเรื่องนี้ส่งเดชเป็นอันขาด จะต้องแยกให้ชัดเจนถึงความสามารถในตนที่สามารถกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ได้อย่างหนึ่งกับการแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อีกอย่างหนึ่ง หากมีอยู่ในตนและกระทำได้จริง และเป็นการอันสมควร ก็ย่อมกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ได้ ไม่เป็นอาบัติแต่ประการใด แต่ผู้ที่ทำไม่ได้และไม่มีภูมิธรรมอันสามารถกระทำอิทธิปาฏิหาริย์อยู่ในตัวนั่นแหละ ถ้าหากไปอวดอ้างว่ามีอยู่ในตนก็ย่อมผิดพระวินัยและเป็นอาบัติอย่างร้ายแรง

ชาวพุทธจึงควรฝึกฝนอบรมจิตตนให้ถึงซึ่งภูมิธรรมที่สามารถกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ได้ เพราะอย่างน้อยเมื่อทำได้ถึงขั้นนี้ก็ย่อมแสดงว่าได้ถึงแล้วซึ่งทุติยฌานเป็นอย่างต่ำ หรืออาจถึงกระทั่งจตุตถฌานซึ่งเป็นฌานขั้นสูงอีกด้วย.

โปรดติดตามตอนที่ 35 “การไปมาหาสู่ทำให้กลายเป็นญาติ” ในวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2549
กำลังโหลดความคิดเห็น