xs
xsm
sm
md
lg

โจรยิงครูใต้พร้อมลูกสาหัส จี้‘สุรยุทธ์’เร่งแก้ฆ่ารายวัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โจรใต้ก่อเหตุรายวัน ลอบซุกระเบิด จยย.หวังบึ้มสังหารทหาร ฉก.12 ขณะเดียวกันประกบยิงครูสาวโรงเรียนนิคมพิทักษ์ราษฎร์ ที่ยะลา พร้อมลูกชายอาการสาหัส ด้านอาการ “ครูจูหลิง” ยังน่าเป็นห่วงแพทย์ให้ยาป้องกันการชักเพิ่มหลังมีอาการไม่สู้ดี ขณะที่สมองยังไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นใดๆ นักธุรกิจ-ผู้นำศาสนาใต้เสนอ “สุรยุทธ์” เร่งแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ 3 เรื่องโดยเร็ว “ยุติฆ่ารายวัน- ส่งเสริมการศึกษา-สร้างงานในชุมชน”

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง มีจะรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศไทยช่วงนี้ โดยเมื่อเวลา 12.20 น.วานนี้ (3 ก.ย.) ต.ค.ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.12 ยะลา จำนวน 5 นาย ซึ่งมีฐานประจำอยู่ที่บ้านยือราปัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ร้านอาหารไม่มีชื่อ เลขที่ 154 ตั้งอยู่ตรงข้ามเยื้องกับ สภ.อ.บันนังสตา และอยู่ติดกับโรงเรียนบันนังสตาวิทยา มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 18-19 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน กธล 314 ยะลา เข้ามาจอดในซอยสนามกีฬา ข้างร้านดังกล่าว แล้วเดินลงจากรถวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง จากนั้นจึงเกิดระเบิดขึ้นที่รถคันดังกล่าวขึ้น แต่โชคดีที่ระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ต่อมาตำรวจกองวิทยาการ เขต 45 ยะลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 5 กก. ซุกซ่อนไว้บนเครื่องยนต์รถ จุดชนวนด้วยนาฬิกาปลุก โดยรถคันดังกล่าว ตรวจสอบพบว่าเป็นของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.อ.เมืองยะลา เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เดิมเป็นสีแดง แต่คนร้ายได้เปลี่ยนเป็นสีดำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายมุ่งวางระเบิดหวังสังหารเจ้าหน้าที่ทหารที่มักจะมานั่งรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านดังกล่าวเป็นประจำทุกวัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญพยานที่เห็นใบหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุ มาสเกตช์ภาพผู้ต้องสงสัยแล้ว

จากนั้น เวลา 13.00 น.วันเดียวกัน ได้เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ คนนั่งซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่ ส.ต.ต.หญิง ศิริพร สังขะหะรัตน์ อายุ 33 ปี ครูโรงเรียนนิคมพิทักษ์ราษฎร์ ต.บ้านแหร อ.ธารโต .จ.ยะลา กระสุนโดนบริเวณแขนซ้าย จำนวน 1 นัด อาการสาหัส

นอกจากนั้น คนร้ายยังยิงใส่ ด.ช.ศักดิ์นรินทร์ สังขะหะรัตน์ อายุ 13 ปี บุตรชาย กระสุนเข้าหน้าอกซ้าย 1 นัด อาการสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ส.ต.ต.หญิง ศิริพร พร้อมบุตรชายขับรถออกจากบ้านพักเพื่อไปโรงเรียน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายตามประกบยิงจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเหตุไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีครูโรงเรียนดังกล่าวถูกคนร้ายฆ่าปาดคอเสียชีวิตมาแล้ว

วันเดียวกันคณะแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 137 เกี่ยวกับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของครูจูหลิง ปงกันมูล โดยระบุว่าโดยรวมอาการยังทรงตัวแต่แพทย์ก็ยังคงดูเรื่องภาวะการติดเชื้อแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย และล่าสุด แพทย์ได้ให้ยากันชักเพิ่มเติม เนื่องจากเพราะอาการขณะนี้ไม่สู้ดีนัก รวมทั้งให้ยารักษาอาการปอดติดเชื้อและยาป้องกันลิ่มเลือดที่ขาแข็งตัว ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขั้นในขณะนี้ ในขณะที่ภาวะทางร่างกายยังไม่มีการตอบสนองใดๆ ต่อการรักษา โดยเฉพาะระบบสมองซึ่งไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น ส่งผลให้ยังคงไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถหายใจเองได้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา โดยแผนการรักษาหลังจากนี้ แพทย์ยังคงพยายามประคับประคองสัญญาณชีพให้อยู่ในภาวะปกติต่อไปเพื่อสังเกตอาการทางสมองจนกว่าร่างกายของครูจูหลิงจะไม่สามารถตอบสนองต่อการรักษา

ด้านนายอับดุลอายิ อาแวสือแม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า นับตั้งแต่มีการยึดอำนาจการปกครอง โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ประชาชนในพื้นที่ต่างมีความหวังมากขึ้นที่จะเห็นการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และเห็นว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ควรเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งตั้งบุคคลเข้าทำงานในพื้นที่ควรจะได้รับการยอมรับจากประชาชนด้วย

นายอับดุลเราะแม เจ๊ะแซ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ยะลา กล่าวเห็นด้วยที่ พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างดี ตนเห็นว่าปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความจำเป็นต้องเดินหน้าแก้ไขต่อไป คิดว่านายกฯคนใหม่คงคิดหาทางแก้ปัญหาจนบรรลุเป้าหมาย และขอฝากให้นายกฯคนใหม่เร่งแก้ปัญหาให้เป็นไปตามความต้องการของคนในพื้นที่ แต่เกรงว่า ระยะเวลาเพียง 1 ปีของรัฐบาลชั่วคราวชุดนี้ จะไม่สามารถแก้ปัญหาไม่สงบได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ยะลา พร้อมสนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ประนีประนอม

นายยะโก๊บ หร่ายมณี โต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เชื่อว่าจะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ที่สำคัญมีความประนีประนอม ขณะที่ปัจจุบันสังคมเกิดความแบ่งแยกอย่างเห็นได้ชัด เมื่อท่านเข้ามาเชื่อว่า น่าจะสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นได้ และขณะนี้ทุกฝ่ายก็พยายามเรียกร้องให้แก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กลับคืนสู่ความสงบสุขโดยเร็วที่สุด

“จึงอยากเสนอให้นายกฯคนใหม่ เร่งดำเนินการใน 3 เรื่อง คือ 1.ทำให้เหตุการณ์ไม่สงบรายวันยุติให้เร็วที่สุด 2.ด้านการศึกษาที่ภาคใต้ยังด้อยกว่าพื้นที่อื่น อยากให้สนับสนุนทั้งด้านบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ เป็นรายเฉพาะวิชา ซึ่งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังขาดอย่างมาก และ 3.การส่งเสริมวิชาชีพ สร้างงานในชนบทและหมู่บ้าน หากทุกคนมีงานทำแล้ว ลูกหลานที่จะถูกชักจูงไปในทางที่ไม่ดี ก็คงจะลดลงและหมดไปในที่สุด”

นายปัญญา อ่องสกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์หอการค้ากลุ่ม 18 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างมาก ทำให้บางส่วนต้องอพยพไปประกอบอาชีพในพื้นที่อื่นซึ่งนายกฯคนใหม่ควรเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และขอให้พิจารณายืดการชำระหนี้ของเกษตรกรและผู้ประกอบการอีก 3 ปี ตามที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้

“ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้คือการเร่งแก้ปัญหาการก่อเหตุร้ายรายวันให้ยุติโดยเร็วเนื่องจากส่งผลต่อภาวะความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก” นายปัญญา กล่าว

ด้าน นพ.แวมาหะดี แวดาโอ๊ะ อดีต ส.ว.นราธิวาส ให้สัมภาษณ์แสดงความเชื่อมั่นว่า พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นผู้ที่มีความรู้ความ เข้าใจในปัญหาสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นผู้หนึ่งที่รู้แนวทางในการแก้ปัญหาเป็นอย่างดี ซึ่งจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ รัฐบาลควรต้องหาแนวทางในการลดเงื่อนไขการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งมาจากความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะขั้นตอนการสอบสวนทั้งจากกรณีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม กรณีตากใบ และการอุ้มฆ่าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งคลี่คลายคดีให้เกิดความชัดเจน และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น