“ชิตณรงค์” ยอมรับ ผลสรุป ปัญหาไร่ส้มติดค้างค่าโฆษณาส่งมาถึงแล้ว อ้างรายละเอียดมากขอเวลาสรุปก่อน เผยไร่ส้มทยอยจ่ายมาก่อนแล้วจนเกือบครบ ด้านไร่ส้มลดการทำไทอินลง โมเดิร์นไนน์เตรียมประชุมผู้ถือหุ้น 26 ตุลาคมนี้ ล่าสุดสร้างความเชื่อมั่นดึง 10 ผู้จัดรายการยักษ์ใหญ่ต่อสัญญาพิเศษอีก 2 เดือน
นายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่รายการ คุยคุ้ยข่าว ของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ติดค้างชำระค่าโฆษณากับ อสมท เกือบ 100 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ผลสอบจากคณะกรรมการได้ส่งสำนวนสอบมาที่ตนเองแล้ว แต่เนื่องจากมีเนื้อหาเป็นจำนวนมาก จึงต้องขอเวลาในการอ่านรายละเอียดอีกสักระยะหนึ่งก่อนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง แต่ถ้าหากใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาหลังจากเกิดเรื่องราวขึ้นมาแล้วทางบริษัทไร่ส้มก็ได้ทำการทยอยจ่ายชำระมาบ้างแล้วเหมือนกันจนเกือบจะครบจำนวนแล้ว แต่ทั้งนี้ในส่วนของผลสอบก็คงต้องดูกันต่อไปว่า เป็นความผิดที่ใคร เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว และเรื่องนี้คงไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้บอร์ดชุดใหม่พิจารณาแต่อย่างใด สามารถที่จะดำเนินการได้เลย
นายชิตณรงค์ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากรายการ ของบริษัทไร่ส้มแล้ว ทางอสมท อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมที่จะพิจารณาเกี่ยวกับรายการอื่นๆด้วย หากมีปัญหาเรื่องการติดค้างชำระค่าโฆษณาหรือค่าเวลา
แหล่งข่าวจากอสมท กล่าวเพิ่มเติมว่า รายการคุยคุ้ยข่าว เป็นรายการของไร่ส้ม ที่เช่าเวลาผลิตเองและหาโฆษณาเอง ส่วนรายการ ถึงลูกถึงคน เป็นรายการของอสมท ที่ว่าจ้างไร่ส้มดำเนินการผลิตให้ และรับค่าจ้างผลิตเท่านั้น ส่วนการหาโฆษณาเป็นเรื่องของอสมท
ไร่ส้มลดการทำไทอิน
ขณะที่ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เจ้าของรายการ “คุยคุ้ยข่าว” และรายการ “ถึงลูกถึงคน” ที่ออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ กล่าวว่า เรื่องรายการ คุยคุ้ยข่าว ที่มีปัญหาอยู่นี้ต้องปล่อยให้ทางคณะกรรมการสอบสวนว่ากันไป ส่วนตนเองก็มั่นใจในการดำเนินงานอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัทฯก็ได้ทำการปรับรายการ ถึงลูกถึงคน ไปบ้างแล้ว เช่น การลดระยะเวลาการออกอากาศมาเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับของเดิมเมื่อเริ่มรายการใหม่ๆ ส่วนเรื่องของการทำโปรดักต์ไทอิน (TIE IN คือ การนำสินค้าเข้ามาประกอบในรายการ) ทางบริษัทฯได้พยายามลดการทำตรงนี้ลงบ้างแล้ว เพื่อทำให้เกิดความเหมาะสมสำหรับผู้ชมรายการ ไม่เป็นการยัดเยียดจนเกินไป อีกทั้งมั่นใจว่ารายการจะดีหรือไม่ดีนั้น อยู่ที่ผู้ดำเนินรายการด้วยส่วนหนึ่ง หากผู้ดำเนินรายการทำตัวดี ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเอง
นายชิตณรงค์กล่าวว่า ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ บริษัท อสมท จะทำการประชุมผู้ถือหุ้น ว่า ในวันนั้นคาดว่าจะมีการถามตอบเกี่ยวกับ คณะกรรมการบริหารหรือบอร์ดชุดใหม่ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งการแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่นั้น คงเป็นเรื่องของสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากว่า อสมท มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ภาครัฐที่ถือหุ้นผ่านกระทรวงการคลังเกือบ 70%
“ในช่วงนี้การบริหารงานของอสมท ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร งานประจำก็ดำเนินต่อไป เพียงแต่ว่าการที่ตนรักษาการนั้นก็คงไม่เหมาะสมที่จะไปอนุมัติหรือดำเนินโครงการอะไรที่สร้างภาระผูกพัน ส่วนโครงการใหญ่ๆนั้นก็คงต้องรอบอร์ดและผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาสานต่อ”
เซ็นสัญญาผู้จัดบิ๊กสร้างความเชื่อมั่น
ส่วนผังรายการนั้น ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาผังรายการอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในช่วงนี้เป็นรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่เกิดขึ้นก่อน จึงคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้ ในส่วนของการปรับผังรายการย่อยๆนั้นก็มีอยู่แล้วปรกติ
ล่าสุดในช่วงที่ยังรอบอร์ด อสมท ชุดใหม่นั้น อสมท ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้จัดรายการในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนี้ โดยได้ทำการต่อสัญญากับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์รายใหญ่จำนวน 10 ราย ประกอบด้วย บริษัท เวิร์คพ้อยท์ ฯ , บริษัท โพลีพลัส ฯ , บริษัท เจ เอส แอล จำกัด, บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด, บริษัท ไร่ส้ม จำกัด, บริษัท ทีวี บูรพา จำกัด, บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ดี ทอล์ค จำกัด, บริษัท แกรมมี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ทั้งนี้สัญญาเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคมและต่อสัญญาออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ในระหว่างนี้ผู้ผลิตรายการ ก็จะต้องเตรียมแผนพัฒนารายการของตน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการผังของ อสมท พิจารณาต่อไป ส่วนผู้จัดรายอื่นก็ได้ต่อสัญญาออกไปด้วยเช่นกัน
“การต่อสัญญาครั้งนี้ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้จัด และการที่ต่อแค่ 2 เดือน เพราะว่า ผมมีอำนาจและสามารถทำได้ในระดับนี้เท่านั้น” นายชิตณรงค์กล่าว
นายปัญญา นิรันดร์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯยังมีความมั่นใจกับช่องโมเดิร์นไนน์อยู่แล้ว แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เวิร์คพ้อยท์ฯเองก็มีการปรับปรุงและพัฒนาตัวเองและรายการตลอดเวลา ทำให้รายการได้รับความนิยมและมีโฆษณาเข้ามาตลอดเวลา ที่ผ่านมาเราก็ถูกเปลี่ยนแปลงมามาก แต่เราต้องมองโลกในแง่ดีไว้ก่อนว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี
ปัจจุบันบริษัทฯมีรายการในช่องโมเดิร์นไนน์ประมาณ 5 รายการ เช่น คุณพระช่วย ชิงช้าสวรรค์ ชัยบดินทร์โชว์ เป็นต้น
นายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่รายการ คุยคุ้ยข่าว ของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ติดค้างชำระค่าโฆษณากับ อสมท เกือบ 100 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ผลสอบจากคณะกรรมการได้ส่งสำนวนสอบมาที่ตนเองแล้ว แต่เนื่องจากมีเนื้อหาเป็นจำนวนมาก จึงต้องขอเวลาในการอ่านรายละเอียดอีกสักระยะหนึ่งก่อนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง แต่ถ้าหากใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาหลังจากเกิดเรื่องราวขึ้นมาแล้วทางบริษัทไร่ส้มก็ได้ทำการทยอยจ่ายชำระมาบ้างแล้วเหมือนกันจนเกือบจะครบจำนวนแล้ว แต่ทั้งนี้ในส่วนของผลสอบก็คงต้องดูกันต่อไปว่า เป็นความผิดที่ใคร เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว และเรื่องนี้คงไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้บอร์ดชุดใหม่พิจารณาแต่อย่างใด สามารถที่จะดำเนินการได้เลย
นายชิตณรงค์ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากรายการ ของบริษัทไร่ส้มแล้ว ทางอสมท อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมที่จะพิจารณาเกี่ยวกับรายการอื่นๆด้วย หากมีปัญหาเรื่องการติดค้างชำระค่าโฆษณาหรือค่าเวลา
แหล่งข่าวจากอสมท กล่าวเพิ่มเติมว่า รายการคุยคุ้ยข่าว เป็นรายการของไร่ส้ม ที่เช่าเวลาผลิตเองและหาโฆษณาเอง ส่วนรายการ ถึงลูกถึงคน เป็นรายการของอสมท ที่ว่าจ้างไร่ส้มดำเนินการผลิตให้ และรับค่าจ้างผลิตเท่านั้น ส่วนการหาโฆษณาเป็นเรื่องของอสมท
ไร่ส้มลดการทำไทอิน
ขณะที่ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เจ้าของรายการ “คุยคุ้ยข่าว” และรายการ “ถึงลูกถึงคน” ที่ออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ กล่าวว่า เรื่องรายการ คุยคุ้ยข่าว ที่มีปัญหาอยู่นี้ต้องปล่อยให้ทางคณะกรรมการสอบสวนว่ากันไป ส่วนตนเองก็มั่นใจในการดำเนินงานอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัทฯก็ได้ทำการปรับรายการ ถึงลูกถึงคน ไปบ้างแล้ว เช่น การลดระยะเวลาการออกอากาศมาเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับของเดิมเมื่อเริ่มรายการใหม่ๆ ส่วนเรื่องของการทำโปรดักต์ไทอิน (TIE IN คือ การนำสินค้าเข้ามาประกอบในรายการ) ทางบริษัทฯได้พยายามลดการทำตรงนี้ลงบ้างแล้ว เพื่อทำให้เกิดความเหมาะสมสำหรับผู้ชมรายการ ไม่เป็นการยัดเยียดจนเกินไป อีกทั้งมั่นใจว่ารายการจะดีหรือไม่ดีนั้น อยู่ที่ผู้ดำเนินรายการด้วยส่วนหนึ่ง หากผู้ดำเนินรายการทำตัวดี ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเอง
นายชิตณรงค์กล่าวว่า ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ บริษัท อสมท จะทำการประชุมผู้ถือหุ้น ว่า ในวันนั้นคาดว่าจะมีการถามตอบเกี่ยวกับ คณะกรรมการบริหารหรือบอร์ดชุดใหม่ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งการแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่นั้น คงเป็นเรื่องของสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากว่า อสมท มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ภาครัฐที่ถือหุ้นผ่านกระทรวงการคลังเกือบ 70%
“ในช่วงนี้การบริหารงานของอสมท ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร งานประจำก็ดำเนินต่อไป เพียงแต่ว่าการที่ตนรักษาการนั้นก็คงไม่เหมาะสมที่จะไปอนุมัติหรือดำเนินโครงการอะไรที่สร้างภาระผูกพัน ส่วนโครงการใหญ่ๆนั้นก็คงต้องรอบอร์ดและผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาสานต่อ”
เซ็นสัญญาผู้จัดบิ๊กสร้างความเชื่อมั่น
ส่วนผังรายการนั้น ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาผังรายการอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในช่วงนี้เป็นรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่เกิดขึ้นก่อน จึงคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้ ในส่วนของการปรับผังรายการย่อยๆนั้นก็มีอยู่แล้วปรกติ
ล่าสุดในช่วงที่ยังรอบอร์ด อสมท ชุดใหม่นั้น อสมท ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้จัดรายการในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนี้ โดยได้ทำการต่อสัญญากับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์รายใหญ่จำนวน 10 ราย ประกอบด้วย บริษัท เวิร์คพ้อยท์ ฯ , บริษัท โพลีพลัส ฯ , บริษัท เจ เอส แอล จำกัด, บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด, บริษัท ไร่ส้ม จำกัด, บริษัท ทีวี บูรพา จำกัด, บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ดี ทอล์ค จำกัด, บริษัท แกรมมี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ทั้งนี้สัญญาเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคมและต่อสัญญาออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ในระหว่างนี้ผู้ผลิตรายการ ก็จะต้องเตรียมแผนพัฒนารายการของตน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการผังของ อสมท พิจารณาต่อไป ส่วนผู้จัดรายอื่นก็ได้ต่อสัญญาออกไปด้วยเช่นกัน
“การต่อสัญญาครั้งนี้ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้จัด และการที่ต่อแค่ 2 เดือน เพราะว่า ผมมีอำนาจและสามารถทำได้ในระดับนี้เท่านั้น” นายชิตณรงค์กล่าว
นายปัญญา นิรันดร์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯยังมีความมั่นใจกับช่องโมเดิร์นไนน์อยู่แล้ว แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เวิร์คพ้อยท์ฯเองก็มีการปรับปรุงและพัฒนาตัวเองและรายการตลอดเวลา ทำให้รายการได้รับความนิยมและมีโฆษณาเข้ามาตลอดเวลา ที่ผ่านมาเราก็ถูกเปลี่ยนแปลงมามาก แต่เราต้องมองโลกในแง่ดีไว้ก่อนว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี
ปัจจุบันบริษัทฯมีรายการในช่องโมเดิร์นไนน์ประมาณ 5 รายการ เช่น คุณพระช่วย ชิงช้าสวรรค์ ชัยบดินทร์โชว์ เป็นต้น