xs
xsm
sm
md
lg

แมทเทลรุกคอนวีเนียนสโตร์ ดันยอดขายของเล่นเด็กโต60%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แมทเทลเผยแผนปีหน้าเดินหน้ารุกตลาดมากขึ้น ทั้งการเพิ่มคอลเลคชั่นใหม่และกระจายช่องทางการขายสินค้า เล็งรุกช่องทางขายสู่คอนวีเนียนสโตร์ภายในสิ้นปีนี้ ตั้งเป้าดันยอดขายของเล่นเด็กโต60%

นายอรรณพ ชนินทร์วงศ์ศิริ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจ บริษัท แมทเทล กรุงเทพ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ว่าจะรุกแผนการตลาดเพิ่มมากขึ้น ทั้งในแง่ของการเพิ่มสินค้าคอลเลกชั่นใหม่ รวมถึงการกระจายกลุ่มสินค้าให้มีความหลากหลาย ซึ่งในการเพิ่มทั้งไลน์สินค้าและการตลาดในครั้งนี้เพื่อเป็นการปรับกลยุทธ์ใหม่ในตลาด เพราะปัจจุบันการแข่งขันด้านธุรกิจของเล่นเด็กมีเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายต่างเร่งทำตลาดในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว

เช่นเดียวกับบริษัทฯที่จะเดินหน้าขยายช่องทางรวมทั้งเพิ่มแผนตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีคาดหมายการเติบโตโดยรวมของบริษัทปีนี้จะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 60%ถ้าเทียบจากปีที่ผ่านมาที่มีการเติบโตอยู่แค่ 20% เท่านั้น ในขณะเดียวกันการเติบโตของบริษัทยังสวนทางกับภาพรวมการโตของตลาดที่คาดว่าปีนี้น่าจะมีการเติบโตได้เพียง 5 - 10% จากมูลค่าตลาดของเล่นเด็กที่มีอยู่กว่า 4500 ล้านบาท สาเหตุที่การเติบโตน้อยลงก็อาจเป็นเพราะช่วงต้นปีปัญหาทางด้านการเมืองที่ยังไม่ลงตัวอีกทั้งภาวะเศรษฐกิจเรื่องของราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงมากขึ้น จึงส่งผลให้ลูกค้ามีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น


ทั้งนี้สาเหตุจากการเติบโตของบริษัทที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาบริษัทได้มีการปรับเปลี่ยน แผนการทำตลาดใหม่โดยการประสานกำลังกันระหว่างบริษัทฯแม่(แมทเทล) เข้ามาทำตลาดรวมถึงแนวทางการทำธุรกิจ รวมกับตัวแทนจำหน่ายกับดีทแฮม จากเดิมที่บริษัททำการขายขาดให้ทางดีทแฮมเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจากการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ได้ผลตอบกลับในแง่ของยอดจำหน่ายสินค้า ที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงเล็งเห็นว่าการปรับเลี่ยนครั้งนี้ได้ดำเนินการถูกทางแล้ว

นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนการขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ อาทิ 1.คอนวีเนียนสโตร์ ร้านสะดวกซื้อ 2.ซูเปอร์มาร์เก็ต 3.ร้านขายเฉพาะทาง เช่น ทอยส์ อาร์ อาร์ท เป็นต้น ซึ่งช่องทางดังกล่าวจะมีราคาขายถูกกว่าดีพาร์ทเมนต์สโตร์ถึง 20 – 30% จะสามารถดำเนินการได้ช่วงสิ้นปีนี้

จากเดิมบริษัทจะใช้ช่องทางขายผ่าน 2 ช่องทางเป็นหลักประกอบด้วย 1.ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ 2.ไฮเปอร์มาร์เก็ต เป็นระยะเวลานานแล้วภายหลังจากที่ทำการเปิดตลาดมา ทั้งนี้บริษัทเล็งเห็นช่องทางใหม่ๆ ที่กล่าวมาเบื้องต้น จะสามารถขยายกลุ่มลูกค้าระดับปานกลางมากขึ้น เพราะอัตราการซื้อกลุ่มนี้มีมากถึง1หมื่นบาทต่อปี หรือความถี่ในการซื้อ 2-3 ครั้งต่อเดือน

เบื้องต้นสินค้าที่วางจำหน่ายจะนำสินค้าที่มีราคาระดับปานกลางวางขาย บาร์บี้(ตุ๊กตาหรับเด็กผู้หญิง) และ ฮอตวิวเร็ต(รถเด็กเล่น)ซึ่งราคาจะอยู่ในระดับปานกลาง ราคาเริ่ม 200-700 บาท และหลังจากที่ขายสินค้า 2 กลุ่มแล้วนั้นบริษัทฯมองว่าจะเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆได้และจะสามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันสินค้าบริษัทฯมีทั้งหมด 4 กลุ่มหลักซึ่งการเติบโตจะแตกต่างกันออกไป ประกอบด้วย 1.บาร์บี้(ตุ๊กตาสำหรับเด็กผู้หญิง) 60% 2.ฮอตวิวเร็ต(รถเด็กสำหรับผู้ชาย)30% 3. ฟิชชี่ไพร์(ของเด็กเล่นอ่อน) และ 4.โพร์วรี่ พ๊อกเก็ต (Powlly Pocket) ของเล่นเปลี่ยนชุดยาง รวม10%

“ในการกระจายสินค้าเพิ่มมากขึ้น อาจจะเป็นช่องทางที่ยังใหม่อยู่บ้างแต่มองว่าศักยภาพในตัวสินค้ารวมถึงการเติบโตของของเล่นในกลุ่มสินค้าของเด็กเล่นผู้หญิงซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตถึง 20% จากมูลค่าของเล่นหญิงในตลาดที่มีเพียง 20% ซึ่งจะแตกต่างกับของเล่นเด็กผู้ชายในตลาดที่มี 80% การเติบโตมี 5-10% และจากครึ่งปีหลังนี้ภายหลังจากที่ปัญหาทุกอย่างเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นอาจส่งผลให้เศรษฐกิจกลับมาดีเช่นเคย” นายอรรณพ กล่าว

ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวตุ๊กตาบาร์บี้รุ่นใหม่ "Dance with Me Barbie" นวัตกรรมล่าสุดจากบาร์บี้ ที่เจ้าของตุ๊กตาจะได้สนุกสนานเต้นรำไปพร้อมกันกับบาร์บี้ โดยมีริสต์แบนด์อินฟราเรด ใส่ข้อมือเจ้าของกับ ตุ๊กตาก็สามารถเต้นตามได้พร้อมกัน บาร์บี้รุ่น"Dance with Me Barbie" นี้ เป็นรุ่นพิเศษที่แยกออกมาจากบาร์บี้ 12 เจ้าหญิง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 2,999 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น