แบล็คแคนยอน เพิ่มกลยุทธ์สู้ศึกปั้นแบรนด์ใหม่ “คาฟเฟนีโร” ลงสนาม จับกลุ่มพรีเมี่ยม ทุ่มเม็ดเงินกว่า 60 ล้านบาท เปิดรวดเดียว 3 จุด ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ลั่นพร้อมเดินหน้าขยายแบล็คแคนยอนต่อ ทั้งในและต่างประเทศ คาดยอดขายปีนี้โต 15% กวาดรายได้เข้ากระเป๋ากว่า 1 พันล้านบาท
นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายธุรกิจด้วยการแตกแบรนด์ร้านกาแฟใหม่ชื่อว่า “คาฟเฟนีโร” (Caffe Nero) โดยเปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีทั้งหมดด้วยกัน 3 สาขา ภายใต้งบประมาณลงทุนรวม 60 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะเปิดแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ขนาดในแต่ละพื้นที่นั้นๆ มีพื้นที่ 165- 75 -105 ตารางเมตรตามลำดับ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการกว่า 90 % พร้อมเปิดบริการแล้ว ที่เหลือ 10% ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขระบบภายในอยู่ คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จสมบูรณ์
ทั้งนี้แบรนด์ใหม่มีเป้าหมายจะขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ในระดับพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น จึงเล็งเห็นว่าสุวรรณภูมิจะเป็นช่องทางในการเปิดแบรนด์ใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มของลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ และลูกค้าที่เป็นชาวไทย ซึ่งเป้าหมายลูกค้าเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นต่างชาติ 70% c]tคนไทยอีก 30% จากเดิมที่แบล็คแคนยอนจับกลุ่มลูกค้าในระดับกลางมาตลอดระยะเวลา 14 ปี
ภายหลังจากที่ได้เปิดที่สนามบินสวรรณภูมิทั้ง 3 จุดแล้วนั้น บริษัทฯยังมีเป้าหมายที่จะเปิดร้าน“คาฟเฟนีโร” อีก 1 แห่ง ซึ่งจากที่วางแผนไว้เบื้องต้นจะขยายที่โครงการดิเอสพานาด(รัชดา) คาดว่าจะเปิดได้ภายในสิ้นปีนี้
“จากแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ครั้งนี้ เราหวังจะจับกลุ่มลูกค้าในระดับพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น ภายหลังจาก การเปิดตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิถึง 3 จุด เชื่อว่าจะสามารถสร้างแบรนด์ใหม่ให้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว แต่แผนการขยาย “คาร์เฟนีโร” นั้น จะมีความแตกต่างกับแบล็คแคนยอน เพราะเราจับลูกค้าคนละกลุ่มกัน ทั้งนี้เราหวังสร้างแบรนด์“คาฟเฟนีโร”ให้แข็งแกร่งก่อน ที่จะขยายสาขาต่อในปีหน้า”
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีแผนขยายสาขาของแบล็คคอนยอนด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนคอนเซ็ปท์ในการขยายยังอยู่ในรูปแบบการเปิดตามโมเดิร์นเทรดและตามปั๊มน้ำมันเช่นเคย โดยอีก 2-3 เดือนที่เหลือจะเปิดอีก 2 ที่ อาทิ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ บิ๊กซี(ลำลูกกา)
ทั้งนี้บริษัทฯได้ขยายสาขารูปแบบของแบล็คแคนยอนในประเทศแล้วกว่า 20 สาขาในปีนี้ ส่งผลให้ในปัจจุบันสาขาของแบล็คแคนยอนมีทั้งหมด 160 แห่ง และจากแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 2 –3 เดือนที่เหลือจะทำให้สิ้นปี บริษัทฯมีสาขาในรูปแบบแบล็คแคนยอน 162 แห่ง และ “คาฟเฟนีโร”อีก 3 แห่งและนอกจากแผนขยายสาขาในปีนี้แล้วนั้นบริษัทฯยังมีเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มอีกในปีหน้าอีก 15 แห่ง โดยเตรียมงบประมาณต่อสาขาไว้ 5 ล้านบาท
ส่วนแผนขยายสาขาต่างประเทศ บริษัทฯได้เตรียมขยายอีกในปี 2550 อีก 6 แห่ง ประกอบด้วย ประเทศ กัมพูชา 1 แห่ง ,อินโดนีเซีย 3 แห่ง ,อาหรับเอมิเรตส์ 2 แห่ง เป็นรูปแบบของแฟรนไชส์ทั้งสิ้น งบประมาณจะอยู่ที่ 7- 8 ล้านบาทต่อสาขา พื้นที่ 150-200 ตรม.
ปัจจุบันสาขาทั้งหมดของแบล็คแคนยอนที่อยู่ต่างประเทศรวมแล้วมีกว่า 16 ประเทศ และหลังจากการขยายสาขาเพิ่มอีก 6 แห่งในปีหน้า เชื่อว่าจะสามารถครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นและทำให้แบรนด์แบล็คแคนยอนเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
นายประวิทย์กล่าวว่า บริษัทฯคาดการว่าผลประกอบการโดยรวมปีนี้จะเติบโต 15% หรือมีรายได้รวมกว่า 1 พันล้านบาท
นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายธุรกิจด้วยการแตกแบรนด์ร้านกาแฟใหม่ชื่อว่า “คาฟเฟนีโร” (Caffe Nero) โดยเปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีทั้งหมดด้วยกัน 3 สาขา ภายใต้งบประมาณลงทุนรวม 60 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะเปิดแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ขนาดในแต่ละพื้นที่นั้นๆ มีพื้นที่ 165- 75 -105 ตารางเมตรตามลำดับ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการกว่า 90 % พร้อมเปิดบริการแล้ว ที่เหลือ 10% ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขระบบภายในอยู่ คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จสมบูรณ์
ทั้งนี้แบรนด์ใหม่มีเป้าหมายจะขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ในระดับพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น จึงเล็งเห็นว่าสุวรรณภูมิจะเป็นช่องทางในการเปิดแบรนด์ใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มของลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ และลูกค้าที่เป็นชาวไทย ซึ่งเป้าหมายลูกค้าเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นต่างชาติ 70% c]tคนไทยอีก 30% จากเดิมที่แบล็คแคนยอนจับกลุ่มลูกค้าในระดับกลางมาตลอดระยะเวลา 14 ปี
ภายหลังจากที่ได้เปิดที่สนามบินสวรรณภูมิทั้ง 3 จุดแล้วนั้น บริษัทฯยังมีเป้าหมายที่จะเปิดร้าน“คาฟเฟนีโร” อีก 1 แห่ง ซึ่งจากที่วางแผนไว้เบื้องต้นจะขยายที่โครงการดิเอสพานาด(รัชดา) คาดว่าจะเปิดได้ภายในสิ้นปีนี้
“จากแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ครั้งนี้ เราหวังจะจับกลุ่มลูกค้าในระดับพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น ภายหลังจาก การเปิดตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิถึง 3 จุด เชื่อว่าจะสามารถสร้างแบรนด์ใหม่ให้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว แต่แผนการขยาย “คาร์เฟนีโร” นั้น จะมีความแตกต่างกับแบล็คแคนยอน เพราะเราจับลูกค้าคนละกลุ่มกัน ทั้งนี้เราหวังสร้างแบรนด์“คาฟเฟนีโร”ให้แข็งแกร่งก่อน ที่จะขยายสาขาต่อในปีหน้า”
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีแผนขยายสาขาของแบล็คคอนยอนด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนคอนเซ็ปท์ในการขยายยังอยู่ในรูปแบบการเปิดตามโมเดิร์นเทรดและตามปั๊มน้ำมันเช่นเคย โดยอีก 2-3 เดือนที่เหลือจะเปิดอีก 2 ที่ อาทิ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ บิ๊กซี(ลำลูกกา)
ทั้งนี้บริษัทฯได้ขยายสาขารูปแบบของแบล็คแคนยอนในประเทศแล้วกว่า 20 สาขาในปีนี้ ส่งผลให้ในปัจจุบันสาขาของแบล็คแคนยอนมีทั้งหมด 160 แห่ง และจากแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 2 –3 เดือนที่เหลือจะทำให้สิ้นปี บริษัทฯมีสาขาในรูปแบบแบล็คแคนยอน 162 แห่ง และ “คาฟเฟนีโร”อีก 3 แห่งและนอกจากแผนขยายสาขาในปีนี้แล้วนั้นบริษัทฯยังมีเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มอีกในปีหน้าอีก 15 แห่ง โดยเตรียมงบประมาณต่อสาขาไว้ 5 ล้านบาท
ส่วนแผนขยายสาขาต่างประเทศ บริษัทฯได้เตรียมขยายอีกในปี 2550 อีก 6 แห่ง ประกอบด้วย ประเทศ กัมพูชา 1 แห่ง ,อินโดนีเซีย 3 แห่ง ,อาหรับเอมิเรตส์ 2 แห่ง เป็นรูปแบบของแฟรนไชส์ทั้งสิ้น งบประมาณจะอยู่ที่ 7- 8 ล้านบาทต่อสาขา พื้นที่ 150-200 ตรม.
ปัจจุบันสาขาทั้งหมดของแบล็คแคนยอนที่อยู่ต่างประเทศรวมแล้วมีกว่า 16 ประเทศ และหลังจากการขยายสาขาเพิ่มอีก 6 แห่งในปีหน้า เชื่อว่าจะสามารถครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นและทำให้แบรนด์แบล็คแคนยอนเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
นายประวิทย์กล่าวว่า บริษัทฯคาดการว่าผลประกอบการโดยรวมปีนี้จะเติบโต 15% หรือมีรายได้รวมกว่า 1 พันล้านบาท