ผมอาจจะเคยพูดเคยเขียนมาที่ไหนบ้างแล้วในเรื่องที่เกี่ยวกับกรรมเวรของคนเรา ที่คนบางคนมักจะได้รับอะไรที่ไม่น่าจะรับเสมอ หรืออาจจะเป็นอะไรที่ไม่น่าจะเป็นเสมอ หรือต้องเป็นอย่างไม่รู้ว่ามันควรจะเป็น
กรรมเวรที่ใครทำอะไรไว้ที่ไหนอย่างไร กรรมนั้นก็ตามมาเรียกร้องการชดใช้
เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ผมได้เขียนบทความชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องกรรมของคนเราโดยยกเอาเรื่องของการพิพาทระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุลมาพูดถึง ผมทำนายว่าผู้ที่จะได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องเป็นฝ่ายคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทั้งๆ ที่คุณสนธิเป็นคนธรรมดาไม่มีบุญบารมีอะไรติดต่อตัว นอกจากชีวิตที่อยู่ด้วยสัจจะในขณะที่นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้นเป็นเสมอเทพเจ้าหรือมหาบุรุษมีเงินที่ขายอะไรต่ออะไรในชาติได้ถึง 73,000 ล้านบาท รวมกับทรัพย์สินอื่นที่เก็บเล็กผสมน้อยอีกกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งการมีเงินมีทองขนาดนี้เรียกกันว่าจะซื้อประเทศไทยมาฉีกเล่นก็ยังสบาย แต่ในการต่อสู้กับคนอย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณแพ้อย่างสุนัขไม่รับประทานหรืออาจจะเรียกได้ว่าไม่มีน้ำยาเอาเลย
แต่พิจารณาจากดวงชะตาแล้ว ผมยิ่งมองเห็นความแตกต่างไปกับหมอพม่าที่ว่าท่านจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง หลังจากที่ท่านได้ขายทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว แม้แต่ความเชื่อถือของคนไทยทั้งชาติคือผมยิ่งมองเห็นว่า ท่านจะประสบความฉิบหายอย่างแสนสาหัสทุกข์ไปตลอดชีวิตชนิดบอกใครไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ที่ผมต้องหยิบยกเรื่องนี้มาเขียนถึงอีกครั้ง ไม่ใช่ผมจะอวดอุตริมนุสธรรมอะไรก็หาไม่ แต่ผมถือว่าเป็นการเขียนเพื่อการกุศลสำหรับท่านผู้อ่านที่ต้องการบทเรียนในการเกิดมาเป็นคนและมีชีวิตอยู่ เราจะอยู่อย่างไรในการเกิดมาเพื่อให้เราประสบความฉิบหายน้อยที่สุดในชีวิตของเรา
ผมเขียนเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มาตอบและยืนยันเสียเลยว่าทุกอย่างที่เกิดแก่คนทั้งคู่เกิดเพราะกรรมมันตามทันเท่านั้น
ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรไว้เมื่อไร แต่ที่มันมาเกิดเพื่อทำลายทุกอย่างแม้แต่ความสำเร็จในชีวิตได้อย่างที่ท่านนายตำรวจผู้นี้ประสบนั้น แต่สิ่งที่ผมกล้ายืนยันได้ก็เพราะกรรมที่แต่ละคนได้กระทำมา
คำว่ากรรมนั้นเป็นภาษาบาลีจากรากศัพท์เดิมคือคำว่า “กะระ” ซึ่งหมายถึงการกระทำ ซึ่งคำว่า “กะระ” ตัวนี้ได้แปรรูปเป็น “กัมมะ” ซึ่งแปลว่า “การกระทำ” ซึ่งคนไทยทุกคนจะได้ยินเสมอว่า “กัมมุนา วัตตี โลโก” หรือ “โลกนี้หมุนไปได้เพราะการกระทำ” ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดีหรือร้ายมันจะอยู่ที่ “กรรม” เท่านั้น แต่หลังจากที่ภาษาไทยได้มีการพัฒนามาเป็นร้อยปี คำว่า กัมมะ ตัวนั้นได้ถูกใช้เป็นภาษาไทยซึ่งหมายถึงผลของการกระทำเป็นที่รู้กัน และเข้าใจกันว่ากรรมที่ว่านั้นก็คือผลของการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งนั่นเอง และก็ชนกับความหมายของคำนี้ต่อไปอีกคือ “การทำกรรมดีก็ได้ดี ทำกรรมชั่วก็ได้ชั่ว”
แต่อย่างไรก็ตาม ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้ว่ากรรมของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรทำกรรมอะไรไว้ ไม่มีใครสามารถจะมีญาณอะไรที่จะหยั่งรู้ แต่คนทั้งสองเป็นเพื่อนฝูงร่วมทำมาหากินและพึ่งพาทางด้านธุรกิจกันมาก่อน ที่ผมพูดถึงเรื่องกรรมเรื่องเวรที่ว่ามานั้น ผมไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาพูด แต่ผมเอามาจากหลักวิชาโหราศาสตร์ไทย อินเดีย และสากลสามตำรับรวมกันมาศึกษาดวงของคนทั้งสอง และในการต่อสู้อันยาวนานของคนคู่นี้มีคนเคยถามผมว่า ในวาระสุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายแพ้และฝ่ายชนะ ตอนนั้นผมเขียนมาลงใน “ผู้จัดการรายวัน” ว่าผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้คือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้มันยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่างคนธรรมดากับคนมีเงินจำนวนมหาศาลที่กินบ้านกินเมืองใช้ไปอีกกี่ชั่วโคตรก็ยังไม่หมด เพราะฉะนั้น มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องติดตามศึกษาต่อไปโดยอาศัยหลักวิชาโหราศาสตร์สามตำรับที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งในฉบับเดือนเมษายนก็ไม่เคยผิด
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีดวงชะตาผูกกันไว้โดยหมอดูหลายหมอ แล้วแต่ใครจะถนัดทางไหน สำหรับผมนั้นเท่าที่ศึกษาดวงนี้ ผมใช้แค่วันเกิดเป็นหลัก สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นจะไม่นำมากล่าวถึง
มีคนยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492
ผมก็ต้องเอาตามนั้น ผมใช้วันเกิดนี้เป็นหลัก
วันที่กล่าวมานี้ สำหรับผมมากพอแล้วที่จะไม่ต้องใช้หลักเกณฑ์อะไรอีก เพราะใช้เฉพาะวันเกิดก็ดูเหมือนจะเห็นดวงชะตาได้ชัดเจนตั้งแต่เกิดจนตายได้ไม่ยากนัก
คนที่เกิดตามวันเดือนปีที่กล่าวมานี้ บางดวงไม่จำเป็นมากนักที่จะต้องใช้รายละเอียดอื่นแม้แต่ลัคนาเกิดมาเป็นหลักสำหรับการทำนาย เช่นเดียวกับดวง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีหมอดูประจำตัวหลายคนผูกดวงชะตานี้ไว้อย่างละเอียดและอ้างวันเวลาที่กล่าวมานี้ เมื่อผูกดวงแล้วลัคนาเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะสถิตในราศีกันย์ โดยมีราหูในราศีมีนเล็งลัคนาอยู่อย่างชัดเจน ผมไม่ยอมรับและไม่เห็นด้วย เพราะดวงชะตาที่มีราหูเล็งลัคนาเกิดนั้น จะมีชีวิตอย่างที่เจ้าชะตานี้ไม่ได้ เฉพาะอย่างยิ่งจะปาฏิหาริย์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศใดประเทศหนึ่งนั้นเป็นไปไม่ได้ และมีเงินเป็นแสนล้านบาทนั้นไม่ได้ แต่ที่จะให้ได้อย่างแน่นอนที่สุดก็คือความฉิบหายอันยั่งยืน
ตำราเดิมเขียนบอกไว้ว่าดวงชะตาดวงใดที่มีดาวเสาร์ อังคาร ราหูเล็งลัคนาเกิดนั้นท่านบอกไว้ว่า “เสาร์เพ่งเล็งลัคน์ แล้วอสุรา (ราหู) ภุมเมศอัฏฐา (อังคาร) ว่าไว้” จะมีโทษที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และให้ร้ายเต็มที่ ซึ่งถ้าหากดวง พ.ต.ท.ทักษิณ มีลัคนาอยู่ราศีกันย์แล้ว ราหูในราศีมีนก็จะเล็งลัคนาเข้าอย่างจัง และราศีมีนตัวนั้นก็เป็นเจ้าเรือนภพที่ 6 หรืออริเข้าอีกด้วย โทษที่เจ้าชะตาจะต้องรับก็คือเรียกว่า “โทษแท้ ประหารหิน” ซึ่งมันเกิดจากการไปเกี่ยวข้องกับสมุนบริวารที่รู้จักกันนามของไอ้ห้อยไอ้โหนสองสามตัวนั่น
ในดวงชะตากรุงเทพฯ หรือดวงชะตาเมืองในปี 2548-49 นี้ ราหูจะเป็นดาวร้ายที่สุดที่จะเข้าสถิตในดวงชะตาเมืองในราศีมีนซึ่งถือว่าเป็นภพที่ 12 หรือภพวินาศของดวงชะตาทั่วไป เมื่อดวงชะตาเดิมสำหรับคนที่เกิดในปี 2492 ตามปีเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกิดมานั้น ราหูที่เรียกว่าเป็นดาวเดิมในดวงชะตาก็สถิตราศีมีนอยู่แล้ว ทำให้ราศีมีนหรือราศีวินาศมีราหูสองตัวนี้ โหราศาสตร์ถือว่าราหูทับราหูมาถึงปีที่กล่าวมานี้ ราหูตัวนี้ก็จะโคจรเข้ามาสถิตในราศีมีนซ้ำเข้าอีกตัวหนึ่งซึ่งถือว่าราหูทับราหู
ราหูทับราหูนั้น ในโหราศาสตร์หลายคัมภีร์ที่ผมอ้างมาแล้วถือว่าร้ายมาก ต่อให้เป็นเทวดาก็เอาตัวรอดยากทีเดียว
ตำรากล่าวว่า
ราหูและราหู ปะทะทับกันและกันกล
นั้นห้ามจรหน บรเทศจะอันตราย
สินทรัพย์จะร่อยริน ธิบดินทรจะหมองหมาย
โทษตนระมัดกาย จะเกิดพระเพลิงกาฬ
ศัตรูจะแกล้งกล่าว ธุระล่อและลวงผลาญ
พยาธิใหญ่จะประหาร บ่มิญาติจะม้วยมรณ์
ราหูเข้ามาทับราหูเดิมในปีนี้และที่ผ่านมากำลังให้โทษอย่างหนักที่บรรดาหมอดูทั่วไปไม่ได้บอกกล่าวห้ามปรามอะไร นอกจากหลงผีเขมรผีพม่า เรื่องซวยมันจึงเกิดขึ้นอย่างที่ไม่มีทางที่จะแก้ไขอะไรได้
จากวันที่เกิดคือวันที่ 26 กรกฎาคม 2492 อันเป็นวันเกิดของเจ้าชะตา เมื่อนำมาผูกแล้ว เท่าที่ทราบหมอดูประจำตัวของท่านผู้นั้นยืนยันกันว่า ลัคนาเกิดของเจ้าชะตาจะเป็นราศีกันย์ โดยเอาราหูในราศีมีนเล็งลัคนาเกิดเข้าไว้ แต่ผมรับไม่ได้เพราะตามทัศนะและการศึกษาโหราศาสตร์ของผม ถือว่าคนที่มีราหูเล็งลัคนาเกิดนั้น เป็นดวงอุบาทว์ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากจะเอาชีวิตที่จะต้องเกิดมารอความวิบัติที่จะมาถึง และผมขออนุญาตถือเอาลัคนาเกิดของเจ้าชะตามาไว้ที่ราศีตุลประมาณ 3 ลิปดาไม่เกินนั้น
และเมื่อลัคนาเกิดอยู่ราศีตุล ราหูในราศีมีนน่าจะ 6 แก่ลัคนาหรือเป็นอริอีกด้วย
ฉิบหายเท่ากัน!!
และเมื่อไม่กี่วันมานี้มันก็มาถึงเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะมีบ้านทั่วโลกมีเงินกี่แสนล้านก็ต้องไปพร้อมกัน ไปนั่งรอความเป็นความตายที่ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไร
คำทำนายที่ผมทำนายออกมานี้ไม่ใช่อาศัยเฉพาะราหูเล็งลัคนาเกิด แต่อาศัยอาทิตย์และจันทร์เวลาเกิดที่สถิตในราศีกรกฎซึ่งอาจจะเป็นภพที่ 9 หรือภพที่ 10 ของดวงชะตาก็ตาม แต่ในวันเกิดวันนั้นเป็นวันแรม 14 ค่ำ เป็นวันดับที่มีอาทิตย์และจันทร์กุมกันสนิทอยู่พร้อมด้วยดาวพุธ (1-2-4) ดาวทั้งสามดวงนี้เป็นดาวสำคัญสำหรับดวงชะตาทุกดวงทุกคน แต่เพราะว่าดาวเหล่านี้ได้รับอิทธิพลอย่างแรงจากอาทิตย์เป็นดาวที่หมดแสงหรือหมดคุณภาพที่จะส่งผลความดีงามใดๆ ให้เข้าชะตา ทางโหราศาสตร์เรียกว่า ดาวดับ ซึ่งดับสนิทพร้อมกันถึง 3 ดวง เฉพาะอย่างยิ่งดาวพุธ (4) หรือถ้าจะให้ก็ให้เป็นไปในทางเลว และนำความฉิบหายมาให้ได้ในวันใดวันหนึ่ง นั่นคือเพราะดาวทั้งสามดวงที่เกาะกันอยู่ใต้อิทธิพลของอาทิตย์ และได้รับความสัมพันธ์อย่างดีจากดาวบาปเคราะห์ ทั้งด้านหน้าจากราหู 2 ตัวในราศีมีนเป็นโยค 5 และดาวเสาร์จรประจำปีที่โคจรเข้ากุมดาวทั้งสามในราศีกรกฏอย่างงดงาม โทษทั้งหมดของดาวทั้งสามนั้นจึงมากันครบในการให้โทษดวงชะตานี้ นั่นคือ อาทิตย์ (1) หมายถึงเกียรติยศและความสำเร็จในทางด้านเกียรติยศชื่อเสียงพังยับเยินอย่างไม่มีเหลือ และไม่มีทางซ่อมแซมได้อีกตลอดชีวิต (2) ดาวจันทร์ที่หมายถึงสินทรัพย์และความร่ำรวยรวมถึงครอบครัว ลูกเมีย และบรรดาลูกน้องบริวาร ทั้งธรรมดาและไอ้ห้อยไอ้โหนจะต้องฉิบหายไปทั้งชีวิตที่จะประสบเคราะห์กรรมในทุกด้านชนิดเรียกคืนไม่ได้ (4) การกะล่อนและโกหก ขาดคุณธรรม ไร้สัจจะสร้างชื่อเสียงและประวัติชั่วนานาชนิดที่ได้ทำมาอย่างสมบูรณ์
ทั้งหมดจะเป็นโทษอย่างที่เจ้าตัวทำมาตลอด
ที่แน่นอนที่สุดก็คือความหวังที่จะมาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือเสียเงินเป็นแสนๆ ล้านจนไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ก็จะไม่มีทางแก้ไขได้นอกจากฉิบหายไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรจะอุปโภคและบริโภคอย่างอิ่มหนำสำราญได้
นี่เป็นโหราศาสตร์จากตำราเก่าแก่ 3 ตำรับของผม ทั้งของอินเดีย ของโหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์ของกรีก และอียิปต์
ใครจะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ แต่ผมเขียนบอกกล่าวกันไว้เผื่อว่ามันจะเชื่อถือได้จะได้ระมัดระวังกันไว้ เฉพาะอย่างยิ่งดาวดับ 3 ตัวพร้อมกันที่กล่าวมาแล้ว
แต่สำหรับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็จะเป็นเพียงคนธรรมดา และจะอยู่กับสัจธรรมต่อไป
สนุกครับ...สนุกมาก!!
กรรมเวรที่ใครทำอะไรไว้ที่ไหนอย่างไร กรรมนั้นก็ตามมาเรียกร้องการชดใช้
เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ผมได้เขียนบทความชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องกรรมของคนเราโดยยกเอาเรื่องของการพิพาทระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุลมาพูดถึง ผมทำนายว่าผู้ที่จะได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องเป็นฝ่ายคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทั้งๆ ที่คุณสนธิเป็นคนธรรมดาไม่มีบุญบารมีอะไรติดต่อตัว นอกจากชีวิตที่อยู่ด้วยสัจจะในขณะที่นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้นเป็นเสมอเทพเจ้าหรือมหาบุรุษมีเงินที่ขายอะไรต่ออะไรในชาติได้ถึง 73,000 ล้านบาท รวมกับทรัพย์สินอื่นที่เก็บเล็กผสมน้อยอีกกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งการมีเงินมีทองขนาดนี้เรียกกันว่าจะซื้อประเทศไทยมาฉีกเล่นก็ยังสบาย แต่ในการต่อสู้กับคนอย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณแพ้อย่างสุนัขไม่รับประทานหรืออาจจะเรียกได้ว่าไม่มีน้ำยาเอาเลย
แต่พิจารณาจากดวงชะตาแล้ว ผมยิ่งมองเห็นความแตกต่างไปกับหมอพม่าที่ว่าท่านจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง หลังจากที่ท่านได้ขายทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว แม้แต่ความเชื่อถือของคนไทยทั้งชาติคือผมยิ่งมองเห็นว่า ท่านจะประสบความฉิบหายอย่างแสนสาหัสทุกข์ไปตลอดชีวิตชนิดบอกใครไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ที่ผมต้องหยิบยกเรื่องนี้มาเขียนถึงอีกครั้ง ไม่ใช่ผมจะอวดอุตริมนุสธรรมอะไรก็หาไม่ แต่ผมถือว่าเป็นการเขียนเพื่อการกุศลสำหรับท่านผู้อ่านที่ต้องการบทเรียนในการเกิดมาเป็นคนและมีชีวิตอยู่ เราจะอยู่อย่างไรในการเกิดมาเพื่อให้เราประสบความฉิบหายน้อยที่สุดในชีวิตของเรา
ผมเขียนเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มาตอบและยืนยันเสียเลยว่าทุกอย่างที่เกิดแก่คนทั้งคู่เกิดเพราะกรรมมันตามทันเท่านั้น
ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรไว้เมื่อไร แต่ที่มันมาเกิดเพื่อทำลายทุกอย่างแม้แต่ความสำเร็จในชีวิตได้อย่างที่ท่านนายตำรวจผู้นี้ประสบนั้น แต่สิ่งที่ผมกล้ายืนยันได้ก็เพราะกรรมที่แต่ละคนได้กระทำมา
คำว่ากรรมนั้นเป็นภาษาบาลีจากรากศัพท์เดิมคือคำว่า “กะระ” ซึ่งหมายถึงการกระทำ ซึ่งคำว่า “กะระ” ตัวนี้ได้แปรรูปเป็น “กัมมะ” ซึ่งแปลว่า “การกระทำ” ซึ่งคนไทยทุกคนจะได้ยินเสมอว่า “กัมมุนา วัตตี โลโก” หรือ “โลกนี้หมุนไปได้เพราะการกระทำ” ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดีหรือร้ายมันจะอยู่ที่ “กรรม” เท่านั้น แต่หลังจากที่ภาษาไทยได้มีการพัฒนามาเป็นร้อยปี คำว่า กัมมะ ตัวนั้นได้ถูกใช้เป็นภาษาไทยซึ่งหมายถึงผลของการกระทำเป็นที่รู้กัน และเข้าใจกันว่ากรรมที่ว่านั้นก็คือผลของการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งนั่นเอง และก็ชนกับความหมายของคำนี้ต่อไปอีกคือ “การทำกรรมดีก็ได้ดี ทำกรรมชั่วก็ได้ชั่ว”
แต่อย่างไรก็ตาม ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้ว่ากรรมของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรทำกรรมอะไรไว้ ไม่มีใครสามารถจะมีญาณอะไรที่จะหยั่งรู้ แต่คนทั้งสองเป็นเพื่อนฝูงร่วมทำมาหากินและพึ่งพาทางด้านธุรกิจกันมาก่อน ที่ผมพูดถึงเรื่องกรรมเรื่องเวรที่ว่ามานั้น ผมไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาพูด แต่ผมเอามาจากหลักวิชาโหราศาสตร์ไทย อินเดีย และสากลสามตำรับรวมกันมาศึกษาดวงของคนทั้งสอง และในการต่อสู้อันยาวนานของคนคู่นี้มีคนเคยถามผมว่า ในวาระสุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายแพ้และฝ่ายชนะ ตอนนั้นผมเขียนมาลงใน “ผู้จัดการรายวัน” ว่าผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้คือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้มันยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่างคนธรรมดากับคนมีเงินจำนวนมหาศาลที่กินบ้านกินเมืองใช้ไปอีกกี่ชั่วโคตรก็ยังไม่หมด เพราะฉะนั้น มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องติดตามศึกษาต่อไปโดยอาศัยหลักวิชาโหราศาสตร์สามตำรับที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งในฉบับเดือนเมษายนก็ไม่เคยผิด
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีดวงชะตาผูกกันไว้โดยหมอดูหลายหมอ แล้วแต่ใครจะถนัดทางไหน สำหรับผมนั้นเท่าที่ศึกษาดวงนี้ ผมใช้แค่วันเกิดเป็นหลัก สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นจะไม่นำมากล่าวถึง
มีคนยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492
ผมก็ต้องเอาตามนั้น ผมใช้วันเกิดนี้เป็นหลัก
วันที่กล่าวมานี้ สำหรับผมมากพอแล้วที่จะไม่ต้องใช้หลักเกณฑ์อะไรอีก เพราะใช้เฉพาะวันเกิดก็ดูเหมือนจะเห็นดวงชะตาได้ชัดเจนตั้งแต่เกิดจนตายได้ไม่ยากนัก
คนที่เกิดตามวันเดือนปีที่กล่าวมานี้ บางดวงไม่จำเป็นมากนักที่จะต้องใช้รายละเอียดอื่นแม้แต่ลัคนาเกิดมาเป็นหลักสำหรับการทำนาย เช่นเดียวกับดวง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีหมอดูประจำตัวหลายคนผูกดวงชะตานี้ไว้อย่างละเอียดและอ้างวันเวลาที่กล่าวมานี้ เมื่อผูกดวงแล้วลัคนาเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะสถิตในราศีกันย์ โดยมีราหูในราศีมีนเล็งลัคนาอยู่อย่างชัดเจน ผมไม่ยอมรับและไม่เห็นด้วย เพราะดวงชะตาที่มีราหูเล็งลัคนาเกิดนั้น จะมีชีวิตอย่างที่เจ้าชะตานี้ไม่ได้ เฉพาะอย่างยิ่งจะปาฏิหาริย์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศใดประเทศหนึ่งนั้นเป็นไปไม่ได้ และมีเงินเป็นแสนล้านบาทนั้นไม่ได้ แต่ที่จะให้ได้อย่างแน่นอนที่สุดก็คือความฉิบหายอันยั่งยืน
ตำราเดิมเขียนบอกไว้ว่าดวงชะตาดวงใดที่มีดาวเสาร์ อังคาร ราหูเล็งลัคนาเกิดนั้นท่านบอกไว้ว่า “เสาร์เพ่งเล็งลัคน์ แล้วอสุรา (ราหู) ภุมเมศอัฏฐา (อังคาร) ว่าไว้” จะมีโทษที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และให้ร้ายเต็มที่ ซึ่งถ้าหากดวง พ.ต.ท.ทักษิณ มีลัคนาอยู่ราศีกันย์แล้ว ราหูในราศีมีนก็จะเล็งลัคนาเข้าอย่างจัง และราศีมีนตัวนั้นก็เป็นเจ้าเรือนภพที่ 6 หรืออริเข้าอีกด้วย โทษที่เจ้าชะตาจะต้องรับก็คือเรียกว่า “โทษแท้ ประหารหิน” ซึ่งมันเกิดจากการไปเกี่ยวข้องกับสมุนบริวารที่รู้จักกันนามของไอ้ห้อยไอ้โหนสองสามตัวนั่น
ในดวงชะตากรุงเทพฯ หรือดวงชะตาเมืองในปี 2548-49 นี้ ราหูจะเป็นดาวร้ายที่สุดที่จะเข้าสถิตในดวงชะตาเมืองในราศีมีนซึ่งถือว่าเป็นภพที่ 12 หรือภพวินาศของดวงชะตาทั่วไป เมื่อดวงชะตาเดิมสำหรับคนที่เกิดในปี 2492 ตามปีเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกิดมานั้น ราหูที่เรียกว่าเป็นดาวเดิมในดวงชะตาก็สถิตราศีมีนอยู่แล้ว ทำให้ราศีมีนหรือราศีวินาศมีราหูสองตัวนี้ โหราศาสตร์ถือว่าราหูทับราหูมาถึงปีที่กล่าวมานี้ ราหูตัวนี้ก็จะโคจรเข้ามาสถิตในราศีมีนซ้ำเข้าอีกตัวหนึ่งซึ่งถือว่าราหูทับราหู
ราหูทับราหูนั้น ในโหราศาสตร์หลายคัมภีร์ที่ผมอ้างมาแล้วถือว่าร้ายมาก ต่อให้เป็นเทวดาก็เอาตัวรอดยากทีเดียว
ตำรากล่าวว่า
ราหูและราหู ปะทะทับกันและกันกล
นั้นห้ามจรหน บรเทศจะอันตราย
สินทรัพย์จะร่อยริน ธิบดินทรจะหมองหมาย
โทษตนระมัดกาย จะเกิดพระเพลิงกาฬ
ศัตรูจะแกล้งกล่าว ธุระล่อและลวงผลาญ
พยาธิใหญ่จะประหาร บ่มิญาติจะม้วยมรณ์
ราหูเข้ามาทับราหูเดิมในปีนี้และที่ผ่านมากำลังให้โทษอย่างหนักที่บรรดาหมอดูทั่วไปไม่ได้บอกกล่าวห้ามปรามอะไร นอกจากหลงผีเขมรผีพม่า เรื่องซวยมันจึงเกิดขึ้นอย่างที่ไม่มีทางที่จะแก้ไขอะไรได้
จากวันที่เกิดคือวันที่ 26 กรกฎาคม 2492 อันเป็นวันเกิดของเจ้าชะตา เมื่อนำมาผูกแล้ว เท่าที่ทราบหมอดูประจำตัวของท่านผู้นั้นยืนยันกันว่า ลัคนาเกิดของเจ้าชะตาจะเป็นราศีกันย์ โดยเอาราหูในราศีมีนเล็งลัคนาเกิดเข้าไว้ แต่ผมรับไม่ได้เพราะตามทัศนะและการศึกษาโหราศาสตร์ของผม ถือว่าคนที่มีราหูเล็งลัคนาเกิดนั้น เป็นดวงอุบาทว์ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากจะเอาชีวิตที่จะต้องเกิดมารอความวิบัติที่จะมาถึง และผมขออนุญาตถือเอาลัคนาเกิดของเจ้าชะตามาไว้ที่ราศีตุลประมาณ 3 ลิปดาไม่เกินนั้น
และเมื่อลัคนาเกิดอยู่ราศีตุล ราหูในราศีมีนน่าจะ 6 แก่ลัคนาหรือเป็นอริอีกด้วย
ฉิบหายเท่ากัน!!
และเมื่อไม่กี่วันมานี้มันก็มาถึงเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะมีบ้านทั่วโลกมีเงินกี่แสนล้านก็ต้องไปพร้อมกัน ไปนั่งรอความเป็นความตายที่ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไร
คำทำนายที่ผมทำนายออกมานี้ไม่ใช่อาศัยเฉพาะราหูเล็งลัคนาเกิด แต่อาศัยอาทิตย์และจันทร์เวลาเกิดที่สถิตในราศีกรกฎซึ่งอาจจะเป็นภพที่ 9 หรือภพที่ 10 ของดวงชะตาก็ตาม แต่ในวันเกิดวันนั้นเป็นวันแรม 14 ค่ำ เป็นวันดับที่มีอาทิตย์และจันทร์กุมกันสนิทอยู่พร้อมด้วยดาวพุธ (1-2-4) ดาวทั้งสามดวงนี้เป็นดาวสำคัญสำหรับดวงชะตาทุกดวงทุกคน แต่เพราะว่าดาวเหล่านี้ได้รับอิทธิพลอย่างแรงจากอาทิตย์เป็นดาวที่หมดแสงหรือหมดคุณภาพที่จะส่งผลความดีงามใดๆ ให้เข้าชะตา ทางโหราศาสตร์เรียกว่า ดาวดับ ซึ่งดับสนิทพร้อมกันถึง 3 ดวง เฉพาะอย่างยิ่งดาวพุธ (4) หรือถ้าจะให้ก็ให้เป็นไปในทางเลว และนำความฉิบหายมาให้ได้ในวันใดวันหนึ่ง นั่นคือเพราะดาวทั้งสามดวงที่เกาะกันอยู่ใต้อิทธิพลของอาทิตย์ และได้รับความสัมพันธ์อย่างดีจากดาวบาปเคราะห์ ทั้งด้านหน้าจากราหู 2 ตัวในราศีมีนเป็นโยค 5 และดาวเสาร์จรประจำปีที่โคจรเข้ากุมดาวทั้งสามในราศีกรกฏอย่างงดงาม โทษทั้งหมดของดาวทั้งสามนั้นจึงมากันครบในการให้โทษดวงชะตานี้ นั่นคือ อาทิตย์ (1) หมายถึงเกียรติยศและความสำเร็จในทางด้านเกียรติยศชื่อเสียงพังยับเยินอย่างไม่มีเหลือ และไม่มีทางซ่อมแซมได้อีกตลอดชีวิต (2) ดาวจันทร์ที่หมายถึงสินทรัพย์และความร่ำรวยรวมถึงครอบครัว ลูกเมีย และบรรดาลูกน้องบริวาร ทั้งธรรมดาและไอ้ห้อยไอ้โหนจะต้องฉิบหายไปทั้งชีวิตที่จะประสบเคราะห์กรรมในทุกด้านชนิดเรียกคืนไม่ได้ (4) การกะล่อนและโกหก ขาดคุณธรรม ไร้สัจจะสร้างชื่อเสียงและประวัติชั่วนานาชนิดที่ได้ทำมาอย่างสมบูรณ์
ทั้งหมดจะเป็นโทษอย่างที่เจ้าตัวทำมาตลอด
ที่แน่นอนที่สุดก็คือความหวังที่จะมาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือเสียเงินเป็นแสนๆ ล้านจนไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ก็จะไม่มีทางแก้ไขได้นอกจากฉิบหายไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรจะอุปโภคและบริโภคอย่างอิ่มหนำสำราญได้
นี่เป็นโหราศาสตร์จากตำราเก่าแก่ 3 ตำรับของผม ทั้งของอินเดีย ของโหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์ของกรีก และอียิปต์
ใครจะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ แต่ผมเขียนบอกกล่าวกันไว้เผื่อว่ามันจะเชื่อถือได้จะได้ระมัดระวังกันไว้ เฉพาะอย่างยิ่งดาวดับ 3 ตัวพร้อมกันที่กล่าวมาแล้ว
แต่สำหรับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็จะเป็นเพียงคนธรรมดา และจะอยู่กับสัจธรรมต่อไป
สนุกครับ...สนุกมาก!!