ชีวิตของมนุษย์ที่อยู่ในสังคมจะต้องเผชิญกับความสำเร็จและความล้มเหลว เริ่มตั้งแต่การสอบในโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัย การประกอบธุรกิจ การคบเพื่อน ชีวิตสมรส ฯลฯ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เคยกล่าวไว้ว่า “ใครก็ตามที่สอบตกแล้วทำท่าจะเป็นจะตาย จะต้องสอบตกตลอดชีวิต เพราะชีวิตจะต้องมีสอบได้สอบตกตลอดเวลา”
คำคมของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นเรื่องที่น่าจะนำมาพิจารณา ในเบื้องต้นจะต้องเข้าใจว่าการทดสอบความสามารถโดยการออกข้อสอบนั้นขึ้นอยู่กับว่ากระบวนการการเรียนการสอนโดยเฉพาะเนื้อหาเป็นอย่างไร การออกข้อสอบเป็นอย่างไร และการวัดผลมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนหรือไม่อย่างไร ในส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหาและกระบวนการการเรียนการสอนนั้น ถ้าการเรียนการสอนและเนื้อหาเป็นไปในลักษณะท่องจำรายละเอียดมากมาย ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ถนัดเพราะไม่มีความอิสระในการคิด ก็อาจจะเสียเปรียบผู้อื่น ในส่วนของการออกข้อสอบถ้าออกข้อสอบที่ไม่ยุติธรรมเกินเลยจากที่สอน อ่านแล้วตีความหมายไม่ได้แจ่มชัดก็ย่อมจะส่งผลต่อผู้สอบ และประการสุดท้าย ถ้าการวัดผลมุ่งเน้นแต่ “ถูกใจ” เนื่องจากผู้ตรวจสอบการท่องจำข้อมูลได้แม่น ผู้ซึ่งไม่ชอบการท่องจำชอบแสดงความคิดเห็นก็จะเสียเปรียบ ดังนั้น การวัดผลการสอบจึงขึ้นอยู่กับระบบ วัฒนธรรมของสถาบันการศึกษา รวมตลอดทั้งวัฒนธรรมทางสังคมที่มองว่าความรู้คืออะไร ให้น้ำหนักกับความอิสระในทางความคิดมากน้อยเพียงใด เมื่อผู้สอบสอบตกจึงไม่สมควรจะเสียอกเสียใจถึงกับขั้นฆ่าตัวตาย เพราะการวัดผลสร้างขึ้นโดยมนุษย์ซึ่งอาจบกพร่องได้ หรืออาจไม่สอดคล้องกับความสามารถของตนซึ่งเก่งอีกทางหนึ่ง หรือเก่งเกินกว่าที่จะถูกวัดผลโดยระบบที่บกพร่อง จึงไม่ควรให้น้ำหนักกับการวัดผลและกฎเกณฑ์ที่กำหนดโดยมนุษย์ เพราะผู้ออกข้อสอบ ผู้วัดผล ไม่ใช่พระเจ้า
แต่ถึงแม้จะมีการสอบตกก็ต้องพยายามสอบใหม่ เรียนรู้วิธีการที่จะสอบได้ ถ้าระบบไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องเปลี่ยนวิชาที่เรียน ย้ายสถาบัน หรือแม้ย้ายประเทศถ้าทำได้ ไม่ควรจะตีโพยตีพาย เสียอกเสียใจจนถึงกับฆ่าตัวตาย ทั้งนี้เพราะเหตุว่าความล้มเหลวในการสอบไล่เป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับความล้มเหลวที่จะต้องดำรงชีวิตในฐานะที่เป็นมนุษย์ มีภารกิจตั้งแต่การดูแลตนเอง ครอบครัว การทำงาน และในฐานะพลเมืองดีของสังคม ซึ่งอาจ “สอบได้” “สอบตก” เป็นประจำ จึงควรให้น้ำหนักกับข้อคิดที่จะกล่าวข้างล่างนี้
ความสามารถในการจัดการกับความล้มเหลวคือความสำเร็จ คนที่สามารถเข้าใจความล้มเหลวของตนและพยายามแก้ไขโดยไม่ถูกกระทบกระทั่งในลักษณะเปราะบาง คือความสำเร็จในตัวเองอยู่แล้ว และถ้ามีความพยายามและใช้ปัญญาก็ย่อมสามารถจัดการกับความล้มเหลวดังกล่าวได้ แต่ถ้าปล่อยให้ความล้มเหลวในเบื้องต้นทำลายแม้กระทั่งกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไปด้วยการใช้ปัญญา และความชาญฉลาด ก็ย่อมจะถือว่าเป็นความล้มเหลวในการจัดการกับความล้มเหลว ตัวอย่างของกษัตริย์ที่แพ้สงครามแต่ได้บทเรียนจากแมงมุมที่พยายามชักใยล้มเหลวแล้วหลายครั้งจนประสบความสำเร็จ ก็คือความสามารถในการเข้าใจวิธีการลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่หลังจากการล้มเหลว จึงกล่าวได้ว่าความสามารถในการจัดการกับความล้มเหลวเป็นความสำเร็จเบื้องต้น ที่จะส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตการงานต่อไป
ความไม่สามารถในการจัดการกับความสำเร็จคือความล้มเหลว คนที่ประสบความสำเร็จในการทำงานหรือในชีวิต เกิดความหลงระเริง หยิ่งผยองในความสำเร็จเบื้องต้น ย่อมไม่สามารถจะทำงานใหญ่ได้ เพราะถูกทำลายโดยความสำเร็จเบื้องต้น (spoiled by early success) ตัวอย่างเช่น บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจในเบื้องต้น เกิดความมั่นใจขนาดหนักลงทุนแบบเททั้งหน้าตัก ใช้ชีวิตนอกลู่นอกทาง ฟุ่มเฟือยจนเกินกว่าฐานะ เกิดการไร้เหตุผลในการตัดสินใจ ก็จะประสบความล้มเหลวในที่สุด นี่คือตัวอย่างของความไม่สามารถจัดการกับความสำเร็จ ซึ่งก็คือความล้มเหลวในตัวของมันเอง
ในทางการเมือง ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จในการได้ตำแหน่งอำนาจบนพื้นฐานของความสำเร็จในทางธุรกิจ ถ้าระมัดระวัง มีสติ รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตัว มีจิตใจที่แข็งแกร่ง ไม่ถูกลากจูงถูลู่ถูกังโดยลาภยศและสรรเสริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกยอปอปั้นจากคนรอบด้าน หากแต่ปักหลักอยู่กับหลักการ อุดมคติและอุดมการณ์ และจริยธรรมอย่างมั่นคง ก็จะสามารถทำงานต่อไปได้โดยประสบความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอและมีความมั่นคงต่อเนื่อง
แต่กลับกันถ้าเกิดการหลงระเริง หยิ่งผยองจากการชนะศึก (winning the battle) และมีพฤติกรรมออกนอกลู่นอกทางจนก่อให้เกิดปัญหาทุกๆ ด้าน ก็จะประสบความล้มเหลวในลักษณะแพ้สงคราม (losing the war) นักรบผู้ยิ่งใหญ่จะต้องถือการชนะศึกเป็นกรณีที่จะเข้าใจเรื่องพิชัยสงคราม และถือการแพ้ศึกเป็นบทเรียนที่จะค้นหาสาเหตุข้อบกพร่อง โดยมีจุดประสงค์หลักที่จะต้องเอาชนะสงคราม แต่ในการเอาชนะสงครามนั้นบางครั้งต้องยอมแพ้ศึกเพื่อจุดประสงค์สูงสุดในบั้นปลาย
ผู้ซึ่งไม่สามารถจัดการกับความสำเร็จจึงเป็นผู้ซึ่งจะต้องล้มเหลว ความสามารถในการจัดการกับความสำเร็จมีความสำคัญพอๆ กับความสามารถในการจัดการกับความล้มเหลว คนส่วนใหญ่ไปมุ่งเน้นอยู่ที่ความสามารถในการจัดการกับความล้มเหลว จนลืมไปว่าความสามารถในการจัดการกับความสำเร็จเป็นเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้ เพราะถ้าขาดความสามารถในส่วนนี้ความสำเร็จในเบื้องต้น (ชนะศึก) จะกลายเป็นความล้มเหลวในบั้นปลาย (แพ้สงคราม)
คำคมของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นเรื่องที่น่าจะนำมาพิจารณา ในเบื้องต้นจะต้องเข้าใจว่าการทดสอบความสามารถโดยการออกข้อสอบนั้นขึ้นอยู่กับว่ากระบวนการการเรียนการสอนโดยเฉพาะเนื้อหาเป็นอย่างไร การออกข้อสอบเป็นอย่างไร และการวัดผลมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนหรือไม่อย่างไร ในส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหาและกระบวนการการเรียนการสอนนั้น ถ้าการเรียนการสอนและเนื้อหาเป็นไปในลักษณะท่องจำรายละเอียดมากมาย ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ถนัดเพราะไม่มีความอิสระในการคิด ก็อาจจะเสียเปรียบผู้อื่น ในส่วนของการออกข้อสอบถ้าออกข้อสอบที่ไม่ยุติธรรมเกินเลยจากที่สอน อ่านแล้วตีความหมายไม่ได้แจ่มชัดก็ย่อมจะส่งผลต่อผู้สอบ และประการสุดท้าย ถ้าการวัดผลมุ่งเน้นแต่ “ถูกใจ” เนื่องจากผู้ตรวจสอบการท่องจำข้อมูลได้แม่น ผู้ซึ่งไม่ชอบการท่องจำชอบแสดงความคิดเห็นก็จะเสียเปรียบ ดังนั้น การวัดผลการสอบจึงขึ้นอยู่กับระบบ วัฒนธรรมของสถาบันการศึกษา รวมตลอดทั้งวัฒนธรรมทางสังคมที่มองว่าความรู้คืออะไร ให้น้ำหนักกับความอิสระในทางความคิดมากน้อยเพียงใด เมื่อผู้สอบสอบตกจึงไม่สมควรจะเสียอกเสียใจถึงกับขั้นฆ่าตัวตาย เพราะการวัดผลสร้างขึ้นโดยมนุษย์ซึ่งอาจบกพร่องได้ หรืออาจไม่สอดคล้องกับความสามารถของตนซึ่งเก่งอีกทางหนึ่ง หรือเก่งเกินกว่าที่จะถูกวัดผลโดยระบบที่บกพร่อง จึงไม่ควรให้น้ำหนักกับการวัดผลและกฎเกณฑ์ที่กำหนดโดยมนุษย์ เพราะผู้ออกข้อสอบ ผู้วัดผล ไม่ใช่พระเจ้า
แต่ถึงแม้จะมีการสอบตกก็ต้องพยายามสอบใหม่ เรียนรู้วิธีการที่จะสอบได้ ถ้าระบบไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องเปลี่ยนวิชาที่เรียน ย้ายสถาบัน หรือแม้ย้ายประเทศถ้าทำได้ ไม่ควรจะตีโพยตีพาย เสียอกเสียใจจนถึงกับฆ่าตัวตาย ทั้งนี้เพราะเหตุว่าความล้มเหลวในการสอบไล่เป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับความล้มเหลวที่จะต้องดำรงชีวิตในฐานะที่เป็นมนุษย์ มีภารกิจตั้งแต่การดูแลตนเอง ครอบครัว การทำงาน และในฐานะพลเมืองดีของสังคม ซึ่งอาจ “สอบได้” “สอบตก” เป็นประจำ จึงควรให้น้ำหนักกับข้อคิดที่จะกล่าวข้างล่างนี้
ความสามารถในการจัดการกับความล้มเหลวคือความสำเร็จ คนที่สามารถเข้าใจความล้มเหลวของตนและพยายามแก้ไขโดยไม่ถูกกระทบกระทั่งในลักษณะเปราะบาง คือความสำเร็จในตัวเองอยู่แล้ว และถ้ามีความพยายามและใช้ปัญญาก็ย่อมสามารถจัดการกับความล้มเหลวดังกล่าวได้ แต่ถ้าปล่อยให้ความล้มเหลวในเบื้องต้นทำลายแม้กระทั่งกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไปด้วยการใช้ปัญญา และความชาญฉลาด ก็ย่อมจะถือว่าเป็นความล้มเหลวในการจัดการกับความล้มเหลว ตัวอย่างของกษัตริย์ที่แพ้สงครามแต่ได้บทเรียนจากแมงมุมที่พยายามชักใยล้มเหลวแล้วหลายครั้งจนประสบความสำเร็จ ก็คือความสามารถในการเข้าใจวิธีการลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่หลังจากการล้มเหลว จึงกล่าวได้ว่าความสามารถในการจัดการกับความล้มเหลวเป็นความสำเร็จเบื้องต้น ที่จะส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตการงานต่อไป
ความไม่สามารถในการจัดการกับความสำเร็จคือความล้มเหลว คนที่ประสบความสำเร็จในการทำงานหรือในชีวิต เกิดความหลงระเริง หยิ่งผยองในความสำเร็จเบื้องต้น ย่อมไม่สามารถจะทำงานใหญ่ได้ เพราะถูกทำลายโดยความสำเร็จเบื้องต้น (spoiled by early success) ตัวอย่างเช่น บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจในเบื้องต้น เกิดความมั่นใจขนาดหนักลงทุนแบบเททั้งหน้าตัก ใช้ชีวิตนอกลู่นอกทาง ฟุ่มเฟือยจนเกินกว่าฐานะ เกิดการไร้เหตุผลในการตัดสินใจ ก็จะประสบความล้มเหลวในที่สุด นี่คือตัวอย่างของความไม่สามารถจัดการกับความสำเร็จ ซึ่งก็คือความล้มเหลวในตัวของมันเอง
ในทางการเมือง ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จในการได้ตำแหน่งอำนาจบนพื้นฐานของความสำเร็จในทางธุรกิจ ถ้าระมัดระวัง มีสติ รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตัว มีจิตใจที่แข็งแกร่ง ไม่ถูกลากจูงถูลู่ถูกังโดยลาภยศและสรรเสริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกยอปอปั้นจากคนรอบด้าน หากแต่ปักหลักอยู่กับหลักการ อุดมคติและอุดมการณ์ และจริยธรรมอย่างมั่นคง ก็จะสามารถทำงานต่อไปได้โดยประสบความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอและมีความมั่นคงต่อเนื่อง
แต่กลับกันถ้าเกิดการหลงระเริง หยิ่งผยองจากการชนะศึก (winning the battle) และมีพฤติกรรมออกนอกลู่นอกทางจนก่อให้เกิดปัญหาทุกๆ ด้าน ก็จะประสบความล้มเหลวในลักษณะแพ้สงคราม (losing the war) นักรบผู้ยิ่งใหญ่จะต้องถือการชนะศึกเป็นกรณีที่จะเข้าใจเรื่องพิชัยสงคราม และถือการแพ้ศึกเป็นบทเรียนที่จะค้นหาสาเหตุข้อบกพร่อง โดยมีจุดประสงค์หลักที่จะต้องเอาชนะสงคราม แต่ในการเอาชนะสงครามนั้นบางครั้งต้องยอมแพ้ศึกเพื่อจุดประสงค์สูงสุดในบั้นปลาย
ผู้ซึ่งไม่สามารถจัดการกับความสำเร็จจึงเป็นผู้ซึ่งจะต้องล้มเหลว ความสามารถในการจัดการกับความสำเร็จมีความสำคัญพอๆ กับความสามารถในการจัดการกับความล้มเหลว คนส่วนใหญ่ไปมุ่งเน้นอยู่ที่ความสามารถในการจัดการกับความล้มเหลว จนลืมไปว่าความสามารถในการจัดการกับความสำเร็จเป็นเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้ เพราะถ้าขาดความสามารถในส่วนนี้ความสำเร็จในเบื้องต้น (ชนะศึก) จะกลายเป็นความล้มเหลวในบั้นปลาย (แพ้สงคราม)