xs
xsm
sm
md
lg

"โกวิท"ย้ายตร.เลี้ยงเชื้อทรราช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โผโยกย้ายสีกากีสุดเละเทะ ฉาวทั้งสำนักงานตำรวจ หลังจาก"โกวิท วัฒนะ"ออกลาย แอบซ่อนคนในระบอบทักษิณไว้ตรึม! แฉแม้วแอบต่อสายฝากฝังเชื้อทรราช หวังรักษารัฐตำรวจเอาไว้รอวันเลือกตั้ง เผยตัวสำคัญทั้ง “อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช -ชัยยันต์ มะกล่ำทอง”โฆษกองค์รักษ์พิทักษ์ระบอบทักษิณ และ มือปราบพันธมิตรประชาชนกลับได้ดี เช่นเดียวกับ ผบช.สตม.เพื่อนแม้วยังสุขสบายดี ขณะที่ ส่วนตำแหน่ง "รอง ผบช.-ผบก."โกวิท ชิงแต่งตั้งโยกย้าย พบเด็กแม้วบางคนได้ดี ผู้การฯเชียงราย ขึ้นรอง ผบช.ภ.5

จากกรณีที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มีประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 17 ลงวันที่ 22 กันยายน 2549 เรื่องมอบอำนาจบริหารราชแผ่นดิน โดยให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งในหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีแทนหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ ต่อมาวันเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ได้มีการมีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแต่งตั้ง ก.ตร.รวม 9 คน

**"โกวิท"ดึงเพื่อน(นรต.22)นั่ง ก.ตร.**

สำหรับ ก.ตร.ที่ได้รับการแต่งตั้ง ตามประกาศ คณะปฎิรูปฯพบว่า พล.ต.อ.โกวิท (นรต.22) ได้ดันเพื่อนของตนเอง ขึ้นมาเป็น ก.ตร. ประกอบด้วย พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.(นรต.22) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.(นรต.25)รุ่น ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(นรต.22)พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 (นรต.29)ก็คือ ตำรวจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ความไว้วางใจ ในการแก้ปัญหาภาคใต้ พล.ต.ท.สมศักดิ์ แขวงโสภา ผบช.ตชด.(นรต.22)ซึ่งเป็นเพื่อนรักของ พล.ต.อ.โกวิท พล.ต.ท.นพ.นุกูล เจียมอนุกูลกิจ พตร.ไม่จบ นรต.และไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย อีกทั้ง เคยถูกร้องเรียนจากองค์กรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ท.ภิรมย์ บุญรอดพานิช อดีต ผบช.ส.ก.ตร.(นรต.22) และพล.ต.ท.สมศักดิ์ บุปผาสุวรรณ อดีต ผบช.ภ.8(นรต.22)

แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า ก.ตร.ชุดใหม่และวิธิคัดเลือกตร.เพื่อโยกย้ายครั้งนี้ทำลายศรัทธาของตำรวจอย่างยิ่ง เพราะไม่มีความเป็นธรรมและเป็นกลางหลงเหลืออยู่เลยหากเทียบกับโครงสร้างก.ตร.เดิม ซึ่งที่มาของก.ตร.นอกจากเลือกจากเพื่อนร่วมรุ่นแล้วยังให้รองผบ.ตร.อีก 2 คนไปคัดชื่อมากันเอง ซึ่งปกติจะต้องกลั่นกรองกันหลายครั้ง

ดังนั้นโผโยกย้ายที่ออกมาจึงไม่แปลกที่จะเต็มไปด้วยคนของพล.ต.อ.โกวิท และ พวกทั้งสิ้น แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือ มีตำรวจที่รับใช้ระบอบทักษิณติดโผถูกปูนบำเหน็จ เลื่อนยศ และซุกซ่อนขุมกำลังของรัฐตำรวจยุคทักษิณ ไว้เหมือนเดิม

“คปค.ล้มระบอบทักษิณลงไป ก็หวังว่าจะฟื้นฟูประเทศในทุกๆด้าน แต่สำนักงานตำรวจกลับมีเชื้อทรราชที่รอวันกลับมาโตใหม่เหลืออยู่เพรียบ กลายเป็นยุคของ ระบอบโกวิท ขึ้นมาแทน” แหล่งข่าวกล่าว

**ตร.ดำเนินคดีพันธมิตรฯได้ดีนั่ง ก.ตร.**

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(นรต.22)และ ก.ตร.ชุดใหม่ ถือเป็นนายตำรวจที่มีบทบาทหน้าที่ ในการปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน รวมทั้ง ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ให้เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข 5 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้ง แนวร่วมพันธมิตรฯที่ชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดย พล.ต.ท.ชัยยันต์ มีความเห็นสั่งฟ้องเกี่ยวกับความมั่นคงรวม 5 ข้อหา โดยขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ

**เพื่อน"ทักษิณ"ยังคุม สตม.**

นอกจากนั้นพบว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.-ผบช.เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา มีนายตำรวจรุ่น พ.ต.ท.ทักษิณ (นรต.26)ยังอยู่ในตำแหน่งสำคัญ เช่น พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.)ยังอยู่ตำแหน่งเดิม หลังจาก พล.ต.ท.สุวัฒน์ ได้เข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท โดยมีรายงานข่าวว่า อาจจะมีการต่อรอง และก่อนหน้านี้ เป็นที่คาดการณ์กันว่า พล.ต.ท.สุวัฒน์ อาจจะถูกย้าย แต่สุดท้าย ก็ยังอยู่ในตำแหน่ง ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจาก เชื่อว่า หลัง คปค.ยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ทาง สตม.ได้อำนวยความสะดวกให้กับ พวกพ้อง อดีตรัฐบาลทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศ

**"อชิรวิทย์"โฆษกฯข้างแม้วได้ดี**

ด้าน พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผช.ผบ.ตร.นรต.รุ่น 21 จากที่ก่อนหน้านี้ ได้ออกมาแถลงข่าว ในลักษณะปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้ง ระบอบทักษิณ อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการชุมนุมของพันธมิตรฯเพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทางด้าน พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ก็มีท่าที ที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่การแต่งตั้งโยกย้ายที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.โกวิท และ ก.ตร.ชุดนี้ กลับปูมบำเหน็ญให้ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ขึ้นนั่ง รอง ผบ.ตร.กินยศ พล.ต.อ.อย่างเต็มตัว ขณะที่ พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผช.ผบ.ตร.นรต.รุ่น26 ถึงแม้จะไปนั่งในตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ.10)แต่ก็ได้เลื่อนยศ เป็น พล.ต.อ.ซึ่งเหมือนกับไม่ได้ถูกลงโทษ ทั้งๆที่ พล.ต.ท.วงกต คือ ตำรวจคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ

**พื้นที่อีสานใต้ยังเหนียวแน่น**

สำหรับพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม โดยที่ ก.ตร.ชุด พล.ต.อ.โกวิท ไม่ได้ย้ายล้างบาง ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นฐานเสียงสำคัญของ พรรคไทยรักไทย ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้จัดวางตำรวจของตัวเอง เพื่อไว้สนองตอบระบอบทักษิณ และอำนวยความสะดวกในการเลือกตั้ง โดยมีนายตำรวจเพื่อนทักษิณ ยังอยู่กันพร้อมหน้า ประกอบด้วย พล.ต.ต.อำนวย มหาผล ผบก.อุบลราชธานี (นรต.26)พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.นครราชสีมา (นรต.30) พล.ต.ต.ประสิทธ์ ทำดี ผบก.ชัยภูมิ (นรต.35) พล.ต.ต.ประพัฒน์ ศิริวัฒน์ ผบก.บุรีรัมย์ (นรต.26) พล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก.ยโสธร พล.ต.ต.เชิด ชูเวช ผบก.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบก.สุรินทร์ พล.ต.ต.ธงชัย ประทีปวณิช ผบก.อำนาจเจริญ

**ภาค 4 เปลี่ยนเฉพาะหัว**

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว (ผบช.ภ.4.)นรต รุ่น 26 ซึ่ง ก.ตร.ย้ายไปเป็น ผบช.ศ. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.สถาพร ออกมารับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะครั้งสั่งผู้ใต้บังคับบัญชารวบรวมหลักฐาน แจ้งจับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และขึ้นไปข่มขู่ นายอวยชัย

วะทา แกนนำคัดค้านการถ่ายโอนครู ถึงบนเวทีปราศัย และเมื่อไปตรวจสอบ นายตำรวจระดับ ผู้บังคับการ ในพื้นที่ของ บช.ภ.4 พบว่ายังอยู่กับพร้อมหน้าเช่นเดิม

**หัวหน้ารปภ.แม้วยังเสวยสุข

ข้อพิสูจน์อีกประการที่สะท้อนถึงความไม่เอาจริงและเชื่อว่าพล.ต.อ.โกวิท ไม่สนใจฟื้นฟูสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริงก็คือ การไม่ดำเนินการอะไรเลยกับ ตำรวจชุดที่ติดตามพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะหัวหน้ารปภ.อย่างพล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผบก.ส.3 ซึ่งเดิมมีกระแสข่าวว่าจะถูกย้ายไปประจำสง.ผบ.ตร. แต่ล่าสุดกลับยังอยู่ในตำแหน่งเดิม

**เพื่อน"ชิดชัย"ไม่ถูกย้าย**

นอกจากนั้น พบว่าการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ นายตำรวจคนสนิท และเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์(นรต.23) อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม ยังอยู่กันพร้อมหน้า โดย ก.ตร.ชุดนี้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด โดยเฉพาะ พล.ต.ต.มนตรี จำรูญ ผบช.ก.ซึ่งที่ผ่านมา ได้ทำงานรับใช้ รัฐบาลทักษิณ อย่างออกนอกหน้า เช่นคดีจับกุม ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชนะ มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง ที่ ชุดพนักงานสอบสวน ของ พล.ต.ท.มนตรี พยายามขยายผลไปสู่ คดีลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยดำเนินคดี 5 นายทหาร จาก กอ.รมน.จนนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างตำรวจ และทหาร

**ตร.ช่วยคดีทักษิณไม่ถูกย้าย**

ด้าน พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รอง ผบช.น.ซึ่งเป็นนายตำรวจที่ออกมาแสดงบทบาท ในฐานะผู้เสียหาย เพื่อดำเนินคดีกับ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และแนวร่วม ฐานความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง หลังจากออกมาชุมนุม ขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ และการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ พล.ต.ต.ชัชวาลย์ ยังอยู่ที่เดิม ขณะที่ พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และได้มีการทำคดีอย่างล่าช้า เพื่อหวังช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กลับไม่ถูกโยกย้ายเช่นกัน

**ลือเงินสะพัดวิ่งเต้นตำแหน่ง**

อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ มีรายงานว่า ได้มีการใช้เงินเพื่อวิ่งเต้นขอนั่งในตำแหน่งสำคัญ และวิ่งเต้นเพื่อไม่ให้ถูกโยกย้าย มากเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะนายตำรวจ คนสนิทของ ก.ตร.ที่ได้รับการแต่งตั้งทั้ง 8 คน ได้พยายามต่อสาย เพื่อขอให้ได้รับการพิจารณาในการแต่งตั้งครั้งนี้

นอกจากนั้น มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้พักอยู่ที่ประเทศอังกฤษได้ติดต่อกับพล.ต.อ.โกวิท เพื่อให้ช่วยดูแลตร.ในระบอบทักษิณด้วยตนเอง โดยก่อนหน้านี้หลังจากถูกรัฐประหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศว่า เขาสามารถที่จะต่อสายพูดคุยกับคนในคปค.ได้ตลอดเวลา

**ก.ตร.ชิงย้ายรองผบช.-ผบก.138 ตำแหน่ง**

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ได้ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่ห้องประชุมสำนักงาน ผบ.ตร. ชั้น 7 อาคาร 1 ตร. ในวาระการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในระดับรองผู้บัญชาการจนถึงผู้บังคับการ โดยมีตำแหน่งระดับรองผู้บัญชาการว่างอยู่ 19 ตำแหน่งขณะที่ตำแหน่งผู้บังคับการว่างถึง 32 ตำแหน่ง โดยมีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจที่มีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายนักการเมือง ออกจากตำแหน่งสำคัญ มาไว้ในตำแหน่งรอง ผบช.หรือผบก.ประจำสง.ผบ.ตร. หลายตำแหน่ง ทั้งนี้การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้มีการแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนรองผบช.-ผบก.ทั้งสิ้น 138 ตำแหน่ง

สำหรับตำแหน่งสำคัญ มีดังนี้ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.ที่มีสายสัมพันธ์เป็นหลานเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกย้ายไปเป็นผบก.สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน(สบส.)โดยมี พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.9 มาดำรงตำแหน่ง ผบก.ป.แทน ขณะที่ พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.สบส.โยกเป็นผบก.น.5 แทน พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผบก.น.5 ที่ถูกย้ายไปเป็นผบก.วก.รร.นรต.แทน พล.ต.ต.วัฒนา สักวัตร ผบก.วก.รร.นรต.ที่ขึ้นเป็นรองผบช.รร.นรต. พล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา ผบก.ทางหลวง(ทล.) นรต.37 ลูกเขยกลุ่มธุรกิจบริษัทเกษตรรุ่งเรืองพืชพล ถูกย้ายเป็นผบก.ประจำสง.ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.ต.วีรพงศ์ ชื่นภักดี ผบก.ประจำสง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 33 หัวหน้าสำนักงาน พล.ต.อ.อิสระพันธ์ มารับตำแหน่งผบก.ทล.

ขณะที่ พล.ต.ต.สุชาติ กาญจนวิเศษ ผบก.ปศท. นรต.รุ่น 26 ถูกย้ายเป็นผบก.ประจำสง.ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.ต.เจิมศักดิ์ หอมหวน ผบก.อก.บช.ก. มารับตำแหน่งผบก.ปศท.แทน พ.ต.อ.วิมล เปาอินทร์ รองผบก.จร.ขยับขึ้นเป็นผบก.ตปพ(191) โดย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ โยกไปเป็น ผบก.ประจำสง.ผบ.ตร. ขณะที่ พ.ต.อ.ชิษณุพงษ์ ยุกตะธัช รองผบก.น 2 ขึ้นเป็นผบก.น 7 แทน พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา ที่ถูกย้ายมาประจำสง.ผบ.ตร.ขณะที่ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล ผบก.จร.ขยับขึ้นเป็น รองผบช.น. โดยมีพล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผบก.น.1 โยกเป็น ผบก.จร.

ขณะที่ พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัฒน์ ผบก.อก.สตม.ขึ้นเป็นรองผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. โดยมี พ.ต.อ.พงษ์เดช ชัยตวัฒน์ รองผบก.อก.สตม. ขึ้นเป็นผบก.อก.สตม.แทน พ.ต.อ.มนตรี โปรตระนันท์ รองผบก.ทล. นรต.29 หัวหน้าสำนักงานพล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. ถูกดันขึ้นเป็นผบก.รฟ.แทนพล.ต.ต.สันติ วิจักขณา ผบก.รฟ.ที่ขึ้นเป็นรองผบช.ก.

ขณะที่ พ.ต.อ.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบก.ป. ขึ้นเป็น ผบก.ประจำสง.ผบ.ตร. ขณะที่ พ.ต.อ.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รองผบก.น.6 ขึ้นผบก.น.1 ขณะที่ พ.ต.อ.จิรยุส ยุกตะเสวี รองผบก.ส.1 ขึ้นเป็น ผบก.ส.1 แทน พล.ต.ต.ชนบดี สันติชนาธิปัต ผบก.ส.1 ที่เกษียณอายุราชการ ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผบก.ส.3 หัวหน้า รปภ.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ย้ายเป็นผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร.

พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ประจำสง.ผบ.ตร. โยกเป็น ผบก.ภ.จ.ระนอง พล.ต.ต.จำนง แก้วศิริ ผบก.ภ.จ.เชียงราย ขึ้นเป็น รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัธน์ ผบก.อก.สตม. ขึ้นเป็น รองผบช.ภ.7 พ.ต.อ.ธนู เอี่ยววงค์ รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นเป็น ผบก.อก.ภ.8 ขณะที่ พล.ต.ต.สมโชค เจริญพร ผบก.วินัยขึ้นเป็นรองผบช. ขณะที่ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ เอมประณีตร์ รองผบก.ปค.นรต.ขึ้นเป็นผบก.อก.นรต.
กำลังโหลดความคิดเห็น