"มิ่งขวัญ"เพิ่งรู้สึกตัวที่ปล่อยให้"แม้ว"โผล่หน้าจอ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. จูงมือบอร์ด อสมท ลาออกยกชุด มีผลทันทีวันนี้ ขณะที่หุ้น MCOT ถูกกระหน่ำทิ้ง 4 วันทำการ รูด 16 % โบรกเกอร์เชื่อวันนี้ต่างชาติพร้อมใจขายฉุดหุ้นรูดต่อแน่นอน จับตาวิสัยทัศน์ ผอ.อสมท คนใหม่ ด้าน "เสรี วงษ์มณฑา" เรียกร้องสื่อต้องปรับตัว หมดยุคปิดกั้นสื่อหลังระบอบทักษิณพังทลาย
วานนี้ (26 ก.ย.)นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)หรือ MCOT ได้แถลงผลการประชุมของคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 16/2549 วาระเรื่องกรณีการนำเสนอข่าวในวันที่ 19 ก.ย.49 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการบริษัทลาออกจากตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (27ก.ย.)เป็นต้นไป แต่คณะกรรมการจะรักษาการในตำแหน่งจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการยังมีมติให้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ลาออกจากตำแหน่ง โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ (27ก.ย.) เป็นต้นไป พร้อมแต่งตั้ง นายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ขึ้นรักษาการตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ภายในหนึ่งเดือน นับจากวันพ้นจากตำแหน่ง และจะส่งหนังสือนัดประชุมให้ผู้ถือหุ้นทราบไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนวันประชุม ตามมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535
สำหรับสถานการณ์ในวันที่ 19 ก.ย.49 ที่ผ่านมานั้น สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เป็นสถานีเดียวที่ให้ความร่วมมือในการเผยแพร่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่คณะปฏิรูปการปกครองเพื่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) จะเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วนคณะกรรมการบริษัทที่ลาออกครั้งนี้ ประกอบด้วย นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม ประธานกรรมการ นายรองพล เจริญพันธุ์ รองประธานกรรมการ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายภาวิช ทองโรจน์ กรรมการ นางอรอนงค์ มณีกาญจน์ กรรมการ นายประกิจ ประจนปัจจนึก กรรมการ นายธงทอง จันทรางศุ กรรมการ นายสมเกียรติ วันทะนะ กรรมการ และนายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ กรรมการ
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น MCOTภายหลังคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เข้ามายึดอำนาจในการปกครองจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 4 วันทำการติดต่อกัน จากราคาปิดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.อยู่ที่ 40 บาท ก่อนจะปรับตัวลดลง 1.75 บาท ในวันที่ 21 ก.ย. และปรับตัวลดลงอีก 2.25 บาท มาอยู่ที่ 36 บาท เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ก่อนจะปรับลดลงอีก 1 บาท มาอยู่ที่ 35 บาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย.
ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุด (26 ก.ย.)ราคาปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 4.29 % มูลค่าการซื้อขาย 138.42 ล้านบาท โดยราคาหุ้น 4 วันทำการปรับตัวลดลง 6.50 บาท หรือ 16.25 %
**หุ้น MCOT เตรียมรูดต่อ
นางธริศา ชัยสุนทรโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าราคาหุ้นของ MCOTวันนี้(27ก.ย.)จะปรับตัวลดลงมากพอสมควรหลังจากที่ นายมิ่งขวัญ ได้ยื่นใบลาออกจากกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คาดว่าจะเป็นแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศ ที่มีการถือหุ้นอยู่จำนวนมาก เพราะทุกครั้งที่มีการไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ต่างประเทศราคาหุ้นก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุนยังไม่ทราบว่าใครจะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนและวิสัยทัศน์การดำเนินงานจะเป็นอย่างไร และจะมีศักยภาพที่จะทำให้ MCOT มีการเติบโตขึ้นเท่ากับนายมิ่งขวัญหรือไม่ เพราะ ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาการเติบโตของ MCOT เกิดจากการดำเนินงานของนายมิ่งขวัญ ประกอบกับมีข่าวว่าจะมีการปรับผังรายการของทางช่อง 9 ดังนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานและราคาหุ้นทำให้บริษัทจะต้องมีการปรับประมาณ
นางสาวสุธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน)หรือ KEST กล่าวว่า ราคาหุ้น MCOT วันนี้จะยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากข่าวที่นายมิ่งขวัญ ลาออก โดยในช่วงท้ายตลาดวานนี้ ราคาหุ้นก็มีการปรับตัวลดลง ซึ่งแรงขายส่วนหนึ่งจะมาจากนักลงทุนต่างประเทศ เพราะการเข้ามาถือหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากมีความมั่นใจในการดำเนินงานของนายมิ่งขวัญ
ทั้งนี้ บริษัทแนะนำให้นักลงทุนรอซื้อเมื่อราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากหากพิจารณาในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของ MCOT นั้น ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งบริษัทยังไม่มีการดำเนินการปรับประมาณการณ์ผลการดำเนินงาน และราคาหุ้นที่เหมาะใหม่ เพราะ ต้องรอดูความชัดเจนว่าใครจะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL กล่าวว่า ที่ผ่านมาราคาหุ้นของ MCOT ได้สะท้อนกับข่าวที่นายมิ่งขวัญจะลาออก หลังจากที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตยมีการคุมตัว ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข่าวการลาออกดังกล่าว นั้นย่อมมีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนแน่นอน แต่จะมีการปรับตัวลดลงเท่าไรนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ ดังนั้นขณะนี้บริษัทแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้น MCOT
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องติดตามต่อว่า หลังจากที่นายมิ่งขวัญ ลาออกพร้อมบอร์ด อสมท จะเกิดอะไรขึ้นกับการทำงานหรือนโยบายของบริษัทอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับผังรายการ เนื่องจากรายการในช่อง 9 หลายรายการอาจจะเข้าข่ายที่จะต้องถูกปรับออกไปเพื่อความมั่นคงเนื่องจากมีรายการที่อาจจะมีการนำเสนอจนทำให้เกิดความสับสนหรือสถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นได้
"รายการประเภทที่นำบุคคลมาสัมภาษณ์ในรายการแบบรายการสด เข้าข่ายที่อาจจะต้องถูกถอนออกจากผังรายการ เนื่องจากอาจจะไม่สามารถควบคุมการนำเสนอรวมถึงการตอบคำถามของบุคคลที่ร่วมรายการได้ ซึ่งช่อง 9 มีรายการประเภทดังกล่างค่อนข้างมาก และถือว่าเป็นรายได้ที่สำคัญของบริษัทส่วนหนึ่งก็มาจากค่าโฆษณาในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งหากถูกปรับผังจริง จะกระทบต่อรายได้ของบริษัทแน่นอน" แหล่งข่าวกล่าว
**"เสรี"เรียกร้องสื่อต้องปรับตัว
ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประธานโครงการดุษฎีบัณฑิต การจัดการการสื่อสาร มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต กล่าวถึงแนวทางการทำงานของสื่อสมัยใหม่ว่า ที่ผ่านมาสื่อมวลชนโดยเฉพาะทีวีและวิทยุ หลายสถานีคงมีความอึดอัด เพราะไม่สามารถทำหน้าที่สื่อมวลชนได้เต็มที่ เพราะรัฐบาลทักษิณ ได้เข้ามาครอบงำและควบคุมสื่อด้วยวิธีการต่าง ๆ ทำให้ผู้ข่าวในทีวีและวิทยุส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอข่าวฝ่ายรัฐเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งขณะนี้ไม่มีระบอบทักษิณแล้ว สื่อทีวีและวิทยุก็น่าจะทำงานได้สะดวกขึ้น
"หลายคนในทีวีรู้สึกอึดอัด และละเลยจรรยาบรรณในการทำหน้าที่สื่อที่ดี หลายเรื่องที่นำเสนอถูกละเลยและปิดกั้นไม่ให้นำเสนอในช่วงที่มีระบอบทักษิณ ซึ่งรายการทีวีบางรายการยังมีพฤติกรรมการรับใช้ระบอบทักษิณอยู่ จึงอยากเรียกร้องให้มีปรับรายการเสียใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง และไม่มีการบิดเบือนอีกต่อไป"
ที่ผ่านมาสถานีโทรทัศน์บางช่องได้มีการสั่งห้ามบุคคลบางกลุ่มบางคนมาออกรายการทีวี ก็เท่ากับว่าเป็นการปิดกั้นข้อมูลและบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จึงอยากให้สื่อมวลชน ต้องช่วยกันชี้แจงและอธิบายถึงบริบทความจำเป็นที่เกิดขึ้นจากการปฎิรูปการปกครองในภาวะที่ประเทศกำลังเจอทางตัน
วานนี้ (26 ก.ย.)นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)หรือ MCOT ได้แถลงผลการประชุมของคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 16/2549 วาระเรื่องกรณีการนำเสนอข่าวในวันที่ 19 ก.ย.49 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการบริษัทลาออกจากตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (27ก.ย.)เป็นต้นไป แต่คณะกรรมการจะรักษาการในตำแหน่งจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการยังมีมติให้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ลาออกจากตำแหน่ง โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ (27ก.ย.) เป็นต้นไป พร้อมแต่งตั้ง นายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ขึ้นรักษาการตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ภายในหนึ่งเดือน นับจากวันพ้นจากตำแหน่ง และจะส่งหนังสือนัดประชุมให้ผู้ถือหุ้นทราบไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนวันประชุม ตามมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535
สำหรับสถานการณ์ในวันที่ 19 ก.ย.49 ที่ผ่านมานั้น สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เป็นสถานีเดียวที่ให้ความร่วมมือในการเผยแพร่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่คณะปฏิรูปการปกครองเพื่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) จะเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วนคณะกรรมการบริษัทที่ลาออกครั้งนี้ ประกอบด้วย นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม ประธานกรรมการ นายรองพล เจริญพันธุ์ รองประธานกรรมการ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายภาวิช ทองโรจน์ กรรมการ นางอรอนงค์ มณีกาญจน์ กรรมการ นายประกิจ ประจนปัจจนึก กรรมการ นายธงทอง จันทรางศุ กรรมการ นายสมเกียรติ วันทะนะ กรรมการ และนายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ กรรมการ
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น MCOTภายหลังคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เข้ามายึดอำนาจในการปกครองจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 4 วันทำการติดต่อกัน จากราคาปิดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.อยู่ที่ 40 บาท ก่อนจะปรับตัวลดลง 1.75 บาท ในวันที่ 21 ก.ย. และปรับตัวลดลงอีก 2.25 บาท มาอยู่ที่ 36 บาท เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ก่อนจะปรับลดลงอีก 1 บาท มาอยู่ที่ 35 บาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย.
ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุด (26 ก.ย.)ราคาปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 4.29 % มูลค่าการซื้อขาย 138.42 ล้านบาท โดยราคาหุ้น 4 วันทำการปรับตัวลดลง 6.50 บาท หรือ 16.25 %
**หุ้น MCOT เตรียมรูดต่อ
นางธริศา ชัยสุนทรโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าราคาหุ้นของ MCOTวันนี้(27ก.ย.)จะปรับตัวลดลงมากพอสมควรหลังจากที่ นายมิ่งขวัญ ได้ยื่นใบลาออกจากกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คาดว่าจะเป็นแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศ ที่มีการถือหุ้นอยู่จำนวนมาก เพราะทุกครั้งที่มีการไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ต่างประเทศราคาหุ้นก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุนยังไม่ทราบว่าใครจะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนและวิสัยทัศน์การดำเนินงานจะเป็นอย่างไร และจะมีศักยภาพที่จะทำให้ MCOT มีการเติบโตขึ้นเท่ากับนายมิ่งขวัญหรือไม่ เพราะ ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาการเติบโตของ MCOT เกิดจากการดำเนินงานของนายมิ่งขวัญ ประกอบกับมีข่าวว่าจะมีการปรับผังรายการของทางช่อง 9 ดังนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานและราคาหุ้นทำให้บริษัทจะต้องมีการปรับประมาณ
นางสาวสุธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน)หรือ KEST กล่าวว่า ราคาหุ้น MCOT วันนี้จะยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากข่าวที่นายมิ่งขวัญ ลาออก โดยในช่วงท้ายตลาดวานนี้ ราคาหุ้นก็มีการปรับตัวลดลง ซึ่งแรงขายส่วนหนึ่งจะมาจากนักลงทุนต่างประเทศ เพราะการเข้ามาถือหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากมีความมั่นใจในการดำเนินงานของนายมิ่งขวัญ
ทั้งนี้ บริษัทแนะนำให้นักลงทุนรอซื้อเมื่อราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากหากพิจารณาในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของ MCOT นั้น ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งบริษัทยังไม่มีการดำเนินการปรับประมาณการณ์ผลการดำเนินงาน และราคาหุ้นที่เหมาะใหม่ เพราะ ต้องรอดูความชัดเจนว่าใครจะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL กล่าวว่า ที่ผ่านมาราคาหุ้นของ MCOT ได้สะท้อนกับข่าวที่นายมิ่งขวัญจะลาออก หลังจากที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตยมีการคุมตัว ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข่าวการลาออกดังกล่าว นั้นย่อมมีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนแน่นอน แต่จะมีการปรับตัวลดลงเท่าไรนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ ดังนั้นขณะนี้บริษัทแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้น MCOT
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องติดตามต่อว่า หลังจากที่นายมิ่งขวัญ ลาออกพร้อมบอร์ด อสมท จะเกิดอะไรขึ้นกับการทำงานหรือนโยบายของบริษัทอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับผังรายการ เนื่องจากรายการในช่อง 9 หลายรายการอาจจะเข้าข่ายที่จะต้องถูกปรับออกไปเพื่อความมั่นคงเนื่องจากมีรายการที่อาจจะมีการนำเสนอจนทำให้เกิดความสับสนหรือสถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นได้
"รายการประเภทที่นำบุคคลมาสัมภาษณ์ในรายการแบบรายการสด เข้าข่ายที่อาจจะต้องถูกถอนออกจากผังรายการ เนื่องจากอาจจะไม่สามารถควบคุมการนำเสนอรวมถึงการตอบคำถามของบุคคลที่ร่วมรายการได้ ซึ่งช่อง 9 มีรายการประเภทดังกล่างค่อนข้างมาก และถือว่าเป็นรายได้ที่สำคัญของบริษัทส่วนหนึ่งก็มาจากค่าโฆษณาในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งหากถูกปรับผังจริง จะกระทบต่อรายได้ของบริษัทแน่นอน" แหล่งข่าวกล่าว
**"เสรี"เรียกร้องสื่อต้องปรับตัว
ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประธานโครงการดุษฎีบัณฑิต การจัดการการสื่อสาร มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต กล่าวถึงแนวทางการทำงานของสื่อสมัยใหม่ว่า ที่ผ่านมาสื่อมวลชนโดยเฉพาะทีวีและวิทยุ หลายสถานีคงมีความอึดอัด เพราะไม่สามารถทำหน้าที่สื่อมวลชนได้เต็มที่ เพราะรัฐบาลทักษิณ ได้เข้ามาครอบงำและควบคุมสื่อด้วยวิธีการต่าง ๆ ทำให้ผู้ข่าวในทีวีและวิทยุส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอข่าวฝ่ายรัฐเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งขณะนี้ไม่มีระบอบทักษิณแล้ว สื่อทีวีและวิทยุก็น่าจะทำงานได้สะดวกขึ้น
"หลายคนในทีวีรู้สึกอึดอัด และละเลยจรรยาบรรณในการทำหน้าที่สื่อที่ดี หลายเรื่องที่นำเสนอถูกละเลยและปิดกั้นไม่ให้นำเสนอในช่วงที่มีระบอบทักษิณ ซึ่งรายการทีวีบางรายการยังมีพฤติกรรมการรับใช้ระบอบทักษิณอยู่ จึงอยากเรียกร้องให้มีปรับรายการเสียใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง และไม่มีการบิดเบือนอีกต่อไป"
ที่ผ่านมาสถานีโทรทัศน์บางช่องได้มีการสั่งห้ามบุคคลบางกลุ่มบางคนมาออกรายการทีวี ก็เท่ากับว่าเป็นการปิดกั้นข้อมูลและบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จึงอยากให้สื่อมวลชน ต้องช่วยกันชี้แจงและอธิบายถึงบริบทความจำเป็นที่เกิดขึ้นจากการปฎิรูปการปกครองในภาวะที่ประเทศกำลังเจอทางตัน