”อภิรักษ์”เผยฤกษ์รื้อเสาชิงช้าคู่เก่าศุกร์ที่ 6 ต.ค. เวลา 13.29 น.ระบุเป็นมหัทธโนแห่งฤกษ์ ที่กำหนดโดยพระราชครูวามเทพมุนี พร้อมจัดพิธีตรียัมปวายปลายปีนี้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการบูรณะเสาชิงช้าว่า กทม.จะดำเนินการรื้อถอนเสาชิงช้าในวันศุกร์ที่ 6 ต.ค.49 เวลา 13.29 น.โดยถือเป็นมหัทธโนแห่งฤกษ์ โดยฤกษ์ดังกล่าวทางพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เป็นผู้กำหนด
ทั้งนี้ ก่อนการรื้อย้าย จะมีพิธีทางพุทธศาสนา จากนั้นจะเป็นการประกอบพิธีกรรมทางพราหมณ์ ซึ่งหลังจากที่รื้อถอนแล้วเสาชิงช้าเดิมทางกรมศิลปากรให้ความเห็นว่า ให้นำไปเก็บไปไว้ที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ทั้งหมด
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดทำเสาชิงช้าคู่ใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการอาบน้ำยาไม้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ลองประกอบเสาทั้ง 2 ต้นและตะเกียบเข้าดูแล้ว ปรากฏว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนการแกะสลักกระจังซึ่งเป็นยอดของเสาชิงช้านั้น หลังจากที่รื้อถอนเรียบร้อยแล้วจะนำกระจังเดิมมาลอกลาย เพื่อให้กระจังใหม่มีลายคงเดิม โดยจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 10 วัน
นอกจากนี้ จากที่ได้หารือกับวิศวกรรรมสถานแห่งประเทศไทย(วสท.)แล้วเห็นว่ากทม.ไม่จำเป็นต้องรื้อฐานรากเดิม เนื่องจากโครงการเก่ามีความคงทนแข็งแรงดีอยู่แล้วเพียงแต่จะต้องนำตอม่อที่เป็นฐานรากของเสาออกเพื่อนำเบ้าคอนกรีตลงลึก 1.5 เมตร และอัดทับด้วยซีเมนต์เกาต์ใส่ลงไปแทนที่ ซึ่งจะมีความคงทนมากกว่า ทั้งนี้ กทม.จะเคลื่อนย้ายเสาชิงช้าคู่ใหม่จากอยุธยามา กทม.ประมาณเดือนพฤศจิกายน และดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างดำเนินการจะนำผ้าใบมากั้นเพื่อไม่ให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมารู้สึกว่าขาดเสาชิงช้าไป ขณะที่บูรณะ
ส่วนการประกอบเสาชิงช้าคู่ใหม่ หลังจากที่ปรับปรุงโครงสร้างฐานรากเรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาคาดไม่เกิน 1 วัน ในการประกอบเสาชิงช้าคู่ใหม่แทนที่ ทั้งนี้กทม.จะทำหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินในการพิธีตรียัมปวายที่ กทม.กำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ธ.ค.49 – 10 ม.ค.50
ส่วนความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับทางจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของเสาชิงช้าคู่ใหม่นั้น ได้มอบหมายให้ นายไชยวัฒน์ ฉลองพันธรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ เป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับคณะทำงานต่อไป
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการบูรณะเสาชิงช้าว่า กทม.จะดำเนินการรื้อถอนเสาชิงช้าในวันศุกร์ที่ 6 ต.ค.49 เวลา 13.29 น.โดยถือเป็นมหัทธโนแห่งฤกษ์ โดยฤกษ์ดังกล่าวทางพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เป็นผู้กำหนด
ทั้งนี้ ก่อนการรื้อย้าย จะมีพิธีทางพุทธศาสนา จากนั้นจะเป็นการประกอบพิธีกรรมทางพราหมณ์ ซึ่งหลังจากที่รื้อถอนแล้วเสาชิงช้าเดิมทางกรมศิลปากรให้ความเห็นว่า ให้นำไปเก็บไปไว้ที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ทั้งหมด
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดทำเสาชิงช้าคู่ใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการอาบน้ำยาไม้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ลองประกอบเสาทั้ง 2 ต้นและตะเกียบเข้าดูแล้ว ปรากฏว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนการแกะสลักกระจังซึ่งเป็นยอดของเสาชิงช้านั้น หลังจากที่รื้อถอนเรียบร้อยแล้วจะนำกระจังเดิมมาลอกลาย เพื่อให้กระจังใหม่มีลายคงเดิม โดยจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 10 วัน
นอกจากนี้ จากที่ได้หารือกับวิศวกรรรมสถานแห่งประเทศไทย(วสท.)แล้วเห็นว่ากทม.ไม่จำเป็นต้องรื้อฐานรากเดิม เนื่องจากโครงการเก่ามีความคงทนแข็งแรงดีอยู่แล้วเพียงแต่จะต้องนำตอม่อที่เป็นฐานรากของเสาออกเพื่อนำเบ้าคอนกรีตลงลึก 1.5 เมตร และอัดทับด้วยซีเมนต์เกาต์ใส่ลงไปแทนที่ ซึ่งจะมีความคงทนมากกว่า ทั้งนี้ กทม.จะเคลื่อนย้ายเสาชิงช้าคู่ใหม่จากอยุธยามา กทม.ประมาณเดือนพฤศจิกายน และดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างดำเนินการจะนำผ้าใบมากั้นเพื่อไม่ให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมารู้สึกว่าขาดเสาชิงช้าไป ขณะที่บูรณะ
ส่วนการประกอบเสาชิงช้าคู่ใหม่ หลังจากที่ปรับปรุงโครงสร้างฐานรากเรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาคาดไม่เกิน 1 วัน ในการประกอบเสาชิงช้าคู่ใหม่แทนที่ ทั้งนี้กทม.จะทำหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินในการพิธีตรียัมปวายที่ กทม.กำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ธ.ค.49 – 10 ม.ค.50
ส่วนความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับทางจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของเสาชิงช้าคู่ใหม่นั้น ได้มอบหมายให้ นายไชยวัฒน์ ฉลองพันธรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ เป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับคณะทำงานต่อไป