xs
xsm
sm
md
lg

อย่าไปคิดทำอะไรเลย หากินกันไปเถอะ

เผยแพร่:   โดย: ยอดรัก ตะวันรอน

อีกไม่กี่วันก็จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งจะเลือกได้หรือไม่ได้เลือกก็ยังยากอยู่ เพราะเท่าที่เลือกกันมาแล้ว การเลือกตั้งกลายเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองไปแล้ว คนเป็นหมื่นๆ พันๆคนที่เคยทำมาหากินสุจริตกันมาก่อนจะถูกเปลี่ยนมาเป็นขบวนการโจรานุโจรที่มีหน้าที่คดโกงการเลือกตั้งให้พรรคการเมืองตัวเองหรือรับจ้างใครก็ได้ที่ต้องการ ส่วนที่เหลือเป็นผู้คนสุจริตก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร พรรคพวกเขาทำอะไรหากินกันอย่างไรหรือจะหาประโยชน์จากการเลือกตั้งอย่างไรก็ปล่อยเขาทำกันไปต้องนั่งดูตาปริบๆ ไป

การเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นกิจกรรมทางการเมืองที่เราทำกันมานานแล้ว สมัยก่อนคนไทยยังไม่มีความรู้ความชำนาญในการเลือกตั้งหรือการเลือกผู้แทนราษฎร ก็เรียกกันว่าก้มหน้าก้มตาทำกันมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ต่อมาตอนหลังเมื่อผู้คนและบ้านเมืองของเราเจริญมากขึ้นเช่นเดียวกับการเลือกตั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องผู้คนส่วนมากก็รู้ทัน และมีความเฉลียวฉลาดอะไรต่ออะไรมากขึ้นตั้งแต่เคยช่วยกันฟรีๆ ในเรื่องต่างๆ ก็กลายมาเป็นต้องจ้างวานและทำมาหากินกันในธุรกิจการเลือกตั้ง ต่อมาเพื่อความสะดวกก็มีการจ่ายเงินเป็นการตอบแทนกันระหว่างคนสมัครผู้แทนกับคนเลือกผู้แทน การเลือกตั้งก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจ พัฒนามาเป็นการซื้อการขายรู้จักกันในนามการซื้อเสียงขายเสียง

และเราได้หรือไม่ได้ผู้แทนขึ้นอยู่กับการมีเงินที่สามารถจะซื้อหามาได้หรือไม่เท่านั้น

จากนั้นผู้แทนที่มีหน้าที่จะต้องยกมือสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่สนับสนุนก็จะขึ้นอยู่กับเงินค่าจ้างที่ทางรัฐบาลจะจ่ายให้

เพราะฉะนั้น ระบอบประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้ง จึงเป็นประชาธิปไตยที่เป็นธุรกิจการค้าหรือเป็นการซื้อเสียงขายเสียงระหว่างผู้สมัครรับเลือกตั้ง และผู้ให้การสนับสนุนการเลือกตั้ง

เพราะฉะนั้น ในการเลือกตั้งครั้งหนึ่งๆ นั้น จึงถือว่าเป็นการทำธุรกิจระดับชาติ

หรือถ้าจะพูดกันง่ายๆ ก็คือ ระยะเวลาที่คนเราที่มีพรรคพวกในท้องที่จะต้องลงสมัครผู้แทนอีก พวกหนึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนก็จะเป็นพวกให้ความช่วยเหลือทุกอย่างแม้แต่การลงคะแนนเสียงหรือไปชักชวนใครมาลงคะแนนเสียง เป็นเรื่องที่จะต้องได้เงินเสียเงินทั้งนั้น

เรียกกันว่าระบอบประชาธิปไตย

ฟังดูแล้วมันก็โก้ถึงใจทีเดียว!!

แต่ความจริงแล้วมันคือการซื้อการขายหรือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างนักการเมืองกับประชาชนที่ไม่มีทางเลือกอะไรนอกจากให้ทุกอย่างมันลอยไปตามน้ำหรือตามทิศทางของมัน เรื่องความถูกต้องความยุติธรรมในนามของประชาธิปไตยนั้น เป็นคำที่นำมาใช้การโกหกหลอกลวงและถือเอาความไพเราะเป็นสำคัญ

อยู่ไปอย่างนี้ก็ดีไปอย่าง เพียงแต่มีคำว่าประชาธิปไตยเอามาใช้พูดให้ถูกกาลเทศะทุกอย่างก็หมดปัญหา

แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว

ต่อจากนี้ไปไม่นานนักก็น่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ เพราะประเทศเรามีเงินมากมายการเลือกตั้งครั้งหนึ่งนั้นเราจะต้องเสียเงินไปเป็นค่าจัดการหรือค่าอะไรต่ออะไรก็ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคราวที่แล้วเราเลือกตั้งไปการเลือกตั้งก็เป็นโมฆะไปแล้ว และเงิน 2,000-3,000 ล้านบาทนั้นเสด็จน้ำไปแล้ว ไม่มีใครเดือดร้อน ไม่มีใครเสียดายหรือไม่ต้องหวงแหนว่ามันเป็นเงินของประเทศชาติประชาชน การที่เรามีรัฐบาลขึ้นมาปกครองประเทศชาติคราวที่แล้วนั้น ก็เพราะเราต้องการและหวังว่าคนที่จะเป็นรัฐบาลหรือมาทำหน้าที่ปกครองจะมีความเป็นผู้เป็นคนที่รู้จักเสียดายแทนประชาชน แต่เมืองไทยเราจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทุกคนมีอำนาจวาสนาอาจจะเป็นมนุษย์ที่ไม่มียางอายอยู่บ้าง มันก็ไม่ยอมอาย เพราะยางมันไม่มี

เพราะฉะนั้น เงินประชาชนเป็นพันๆ ล้านบาทครั้งนั้นก็ฉิบหายกันไป

และคนไทยต้องทนอยู่หรือต้องอยู่ภายใต้ระบบการเมืองที่เลวที่สุดเท่าที่มีอยู่ในโลกประเทศหนึ่ง


นักการเมืองไทยนับตั้งแต่ตัวใหญ่ๆ เป็นต้นมาจนกระทั่งถึงกระจอก ใครหากินได้อย่างไรก็ต้องหา เรื่องอื่นไม่ต้องคิด ในขณะนี้มีพรรคการเมืองที่อวดอ้างว่าพรรคของตนและคนในพรรคของตนเต็มไปด้วยความจงรักภักดีต่อพรรคและหัวหน้าพรรค แม้ว่าจะมีการขัดแย้งกันหรือจากกันไป มันก็ยังเหลืออยู่ไม่ยอมแตก นั่นสำแดงว่านักการเมืองของเขาเป็นนักการเมืองที่เยี่ยมมาก

แต่พระคุณท่านเป็นคนกะล่อนโดยธรรมชาติและเป็นมนุษย์ไร้ยางอายที่ไม่ยอมรับความจริงท่านก็พยายามพูดเข้าข้างตัวเอง เพราะความจริงมีอยู่ว่าคนเรานั้นตราบใดที่มันยังพึงพาคนอื่นอยู่ มันก็ไม่กล้ากัดเจ้าของเป็นธรรมดา มันก็จึงไม่ยอมเห่าและไม่ยอมกัดตราบที่ยังไม่ให้น้ำข้าวมัน หมาตัวไหนมันจะยอมแตกฝูง ไม่ใช่ความรักและความศรัทธาอะไรหรอกที่มันยังไม่แตก แต่เพราะมันจะไปที่ไหนอื่นไม่ได้เพราะมันไม่รู้ว่าจะไปเลียใครที่ไหน?

มันก็เท่านั้นแหละ

และยังมีความจริงพื้นฐานอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก นั่นคือมันเริ่มต้นขึ้นมาจากความจริงที่ว่าประชาชนส่วนใหญ่ในชาติไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอ หรืออาจจะไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยคืออะไรแม้แต่นายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งซึ่งมีคนบอกว่าจบด็อกเตอร์มาจากอเมริกายังรู้แต่เพียงว่าประชาธิปไตยนั่นคือการที่ประชาชนลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

นั่นแหละความรักของนักการเมืองที่ว่า

นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ที่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสิ่งที่เราไม่ทำหรือทำไม่ได้สำเร็จ เพราะปัญหาทางการเมืองสมัยนั้นมีความขัดแย้ง และพยายามแย่งชิงอำนาจกันนานาประการ ความหวังที่จะพัฒนาระบบการปกครองของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยนั้น มันทำไม่ได้จริงๆ ไม่ขัดแย้งกันในกลุ่มคนมีอำนาจในประเทศรบราฆ่าฟันกันเอง และแย่งอำนาจกันทำให้ประชาชนคนไทยทั้งชาติได้ถูกทอดทิ้งทุกด้านจากพวกเปลี่ยนการปกครอง เฉพาะประชาชนที่จะต้องรู้ว่าประชาธิปไตยที่คณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองที่ว่านั้นจะทำกันอย่างไรต่อไป แต่จะไม่ปรากฏว่ามีใครรับผิดชอบอย่างเอาจริงเอาจัง ประชาชนทั้งประเทศถูกทอดทิ้งให้อยู่กันตามมีตามเกิดไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอ สิ่งที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้รับผลก็คือความไม่รู้และไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยมันคืออะไร อยู่ที่ไหนและประกอบด้วยอะไรบ้าง

เพราะระบบการศึกษาที่มาพร้อมกับระบอบประชาธิปไตยที่ตัวมันเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร มันจึงทำได้เพียงเชื่อว่าประชาธิปไตยมาโกหกหลอกลวงเพื่อทำมาหากินเท่านั้น

เพราะประชาธิปไตยที่ประเทศไทยเราลากถูลู่ถูกัง และไม่ประสีประสาเข้ามาปกครองประเทศโดยพวกอ้ายงั่งพวกหนึ่งซึ่งผ่านไปแล้วไม่น้อยกว่า 5-6 ปี สิ่งที่เราได้พบและไ
กำลังโหลดความคิดเห็น