"ยรรยง"แจงนอมินีแอร์เอเชียยังไม่มีผลทางกฎหมาย ระบุต้องให้ศาลตัดสินเป็นขั้นสุดท้าย โต้สอบ 16 บริษัทเพิ่มไม่ใช่แค่ใบปลิวแต่ผู้ร้องมีตัวตน จับตา"สุรินทร์"จะโผล่ให้ข้อมูล 18 ก.ย.นี้หรือไม่ ส่วนแบงก์พาณิชย์มาแน่ เหตุมีเอี่ยวในซีด้า โฮลดิ้ง
นายยรรยง พวงราช รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาและกำกับการตรวจสอบการถือหุ้นและการกระทำอื่นที่เกี่ยวข้องตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า กรณีที่มีข้อสงสัยสถานะของบริษัทไทย แอร์เอเชีย ที่มีข้อมูลว่า อาจเข้าข่ายการเป็นนอมินีนั้น การตัดสินชี้ขาดและมีผลทางกฎหมายจะต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งขณะนี้ไม่ว่ากรณีแอร์เอเชีย หรือบริษัทใดๆที่เกี่ยวข้องกับเครือชินคอร์ป ไม่ว่าผลการพิจารณาของคณะทำงานฯ จะออกมาอย่างไร ก็ต้องส่งเรื่องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินการต่อให้ศาลเป็นผู้ตัดสินต่อไป
"ทุกกรณีต้องมีคำตัดสิน เพราะความผิดเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นและยังคงอยู่ ตัดสินได้เมื่อใด ก็ย้อนกลับไปได้ แต่อย่าไปมองแบบก้าวกระโดดว่าพาณิชย์จะต้องเป็นผู้ตัดสิน เราไม่ได้มีหน้าที่ขนาดนั้น เราแค่วินิจฉัยตามข้อมูลให้กว้างขวางที่สุด และเราไม่ใช่ผู้ตัดสิน"นายยรรยง กล่าว
สำหรับกรณีที่ได้รับหนังสือจากที่ปรึกษาด้านการลงทุนของนายสุรินทร์ อุปพัทธกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทกุหลาบแก้ว ให้ตรวจสอบกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัทดีแทค ของกลุ่มเทเลนอร์ ที่เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกรณีที่กลุ่มต่างๆ เรียกร้องให้ตรวจสอบนอมินี อีก 16 บริษัท ขอยืนยันว่า การร้องเรียนดังกล่าวมีหลักฐานมีลายเซ็นของผู้ร้องชัดเจน ไม่ใช่ใบปลิวที่กล่าวอ้างกัน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปตรวจสอบ โดยให้ส่งรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะในฐานะที่เป็นรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ไม่เกี่ยวกับคณะทำงานฯ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เข้ามา
นายยรรยง กล่าวว่า ในวันที่ 18 ก.ย.จะมีการประชุมคณะทำงานฯ ครั้งที่ 3/2549 ซึ่งได้เชิญ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะคณะกรรมาธิการตรวจสอบทุจริต วุฒิสภา ให้มาร่วมให้ข้อมูลด้วย แต่นายเจิมศักดิ์ ได้ส่งหนังแจ้งว่าไม่สามารถร่วมประชุมได้
ทั้งนี้ การประชุมจะเริ่มต้นในช่วง 14.00 น.โดยจะมีผู้แทนจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)เข้าให้ข้อมูลก่อน จากนั้นจะเป็นผู้แทนบริษัท ซีด้า โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งผู้แทนอาจเป็น นายสุรินทร์ อุปพัทธกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทกุหลาบแก้ว หรือเป็นบุคคลอื่นก็ได้ เพราะบริษัทซีด้าฯ ประกอบผู้หุ้นส่วนได้แก่ ธ.ไทยพาณิชย์ บริษัทไซเปรส และบริษัทกุหลาบแก้ว
นายยรรยง พวงราช รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาและกำกับการตรวจสอบการถือหุ้นและการกระทำอื่นที่เกี่ยวข้องตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า กรณีที่มีข้อสงสัยสถานะของบริษัทไทย แอร์เอเชีย ที่มีข้อมูลว่า อาจเข้าข่ายการเป็นนอมินีนั้น การตัดสินชี้ขาดและมีผลทางกฎหมายจะต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งขณะนี้ไม่ว่ากรณีแอร์เอเชีย หรือบริษัทใดๆที่เกี่ยวข้องกับเครือชินคอร์ป ไม่ว่าผลการพิจารณาของคณะทำงานฯ จะออกมาอย่างไร ก็ต้องส่งเรื่องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินการต่อให้ศาลเป็นผู้ตัดสินต่อไป
"ทุกกรณีต้องมีคำตัดสิน เพราะความผิดเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นและยังคงอยู่ ตัดสินได้เมื่อใด ก็ย้อนกลับไปได้ แต่อย่าไปมองแบบก้าวกระโดดว่าพาณิชย์จะต้องเป็นผู้ตัดสิน เราไม่ได้มีหน้าที่ขนาดนั้น เราแค่วินิจฉัยตามข้อมูลให้กว้างขวางที่สุด และเราไม่ใช่ผู้ตัดสิน"นายยรรยง กล่าว
สำหรับกรณีที่ได้รับหนังสือจากที่ปรึกษาด้านการลงทุนของนายสุรินทร์ อุปพัทธกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทกุหลาบแก้ว ให้ตรวจสอบกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัทดีแทค ของกลุ่มเทเลนอร์ ที่เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกรณีที่กลุ่มต่างๆ เรียกร้องให้ตรวจสอบนอมินี อีก 16 บริษัท ขอยืนยันว่า การร้องเรียนดังกล่าวมีหลักฐานมีลายเซ็นของผู้ร้องชัดเจน ไม่ใช่ใบปลิวที่กล่าวอ้างกัน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปตรวจสอบ โดยให้ส่งรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะในฐานะที่เป็นรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ไม่เกี่ยวกับคณะทำงานฯ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เข้ามา
นายยรรยง กล่าวว่า ในวันที่ 18 ก.ย.จะมีการประชุมคณะทำงานฯ ครั้งที่ 3/2549 ซึ่งได้เชิญ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะคณะกรรมาธิการตรวจสอบทุจริต วุฒิสภา ให้มาร่วมให้ข้อมูลด้วย แต่นายเจิมศักดิ์ ได้ส่งหนังแจ้งว่าไม่สามารถร่วมประชุมได้
ทั้งนี้ การประชุมจะเริ่มต้นในช่วง 14.00 น.โดยจะมีผู้แทนจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)เข้าให้ข้อมูลก่อน จากนั้นจะเป็นผู้แทนบริษัท ซีด้า โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งผู้แทนอาจเป็น นายสุรินทร์ อุปพัทธกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทกุหลาบแก้ว หรือเป็นบุคคลอื่นก็ได้ เพราะบริษัทซีด้าฯ ประกอบผู้หุ้นส่วนได้แก่ ธ.ไทยพาณิชย์ บริษัทไซเปรส และบริษัทกุหลาบแก้ว