วารสารพม่า เปิดโฉม “อีที” หมอดูคู่บารมี “แม้ว-นายหญิง” ส่งตรงสะเดาะเคราะห์ถึงจันทร์ส่องหล้า เผยลูกค้าประจำเป็นนักการเมืองไทย ด้านหมอดูชื่อดังฟันธง “แม้ว” เผ่นนอกหนีเคราะห์ ตามสูตรพระรามเดินดง พร้อมทำนายไร้คนชื่อ “ทักษิณ” เป็นนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ www.Irrawaddy.org ได้เผยแพร่วารสารอิระวดี ออนไลน์ ฉบับเดือนกันยายน เผยโฉมหน้าหมอดูชื่อดังชาวพม่าที่ได้รับความเชื่อถือจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมมาน ชินวัตร ภริยา โดยวารสารดังกล่าวระบุว่า เป็นที่รู้กันว่าผู้นำรัฐบาลพม่า พล.อ.ตันฉ่วย และภรรยา เชื่อถือในเรื่องโชคลาง และมักจะเข้าพบหมอดูอยู่เป็นประจำ ซึ่งนักการเมืองไทยก็ไม่แตกต่างจากผู้นำพม่า โดยก่อนที่จะตัดสินใจในเหตุการณ์สำคัญๆ ก็จะเข้าพบหมอดูเพื่อจัดพิธีสะเดาะเคราะห์
วารสารออนไลน์อิระวดี ระบุว่า แม้กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็เคยยอมรับว่าต้องปรึกษาหมอดูในการขอคำปรึกษาเพื่อรับมือกับฝ่ายตรงข้าม พวกนักวิจารณ์ และการที่จะทำให้ถือครองอำนาจได้ จนมีข่าวลือหนาหูที่กรุงเทพฯ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลสำคัญในรัฐบาลไทย มักเดินทางไปพม่าเพื่อขอคำปรึกษาจากหมอดูชื่อดังชาวพม่าที่มีชื่อว่า E T ซึ่งอยู่ที่เมือง Thingangyun ชานเมืองย่างกุ้ง เพื่อที่จะปัดเป่าเคราะห์ร้ายทางการเมืองและเตรียมรับมือต่อสู้กับคู่อริ ทั้งนี้ ชื่อ ET ย่อมาจากชื่อจริงว่า E-THI ซึ่งเป็นหมอดูหญิงพิการชาวพม่า ที่เวลาพูดน้ำเสียงของเธอฟังแทบจะไม่ได้ยินและไม่เข้าใจเลย ซึ่งจะต้องอาศัยน้องสาวคอยแปลคำทำนายให้กับผู้ที่มาขอคำปรึกษา
ทั้งนี้ วารสารดังกล่าวยังอ้างอิงบทความของนายชัยอนันต์ สมุทวณิช เขียนเมื่อต้นเดือน ส.ค.ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการว่า นักการเมืองชั้นนำของไทยล้วนแล้วแต่ปรึกษาอีทีทั้งสิ้น โดยอีทีเดินทางมากรุงเทพฯ ประจำ ซึ่งเชื่อว่าสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ คนไทยอาจจะยังมีอคติกับชาวพม่าหลังจากที่โดนยึดกรุงศรีอยุธยาในปี 1767 แต่ไม่สามารถที่จะห้ามความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำของพม่าได้ พวกนายพลทั้งหลายในเมืองไทยก่อนที่จะทำการรัฐประหารในสมัยรัฐบาลของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็มีข่าวลือว่าได้เดินทางมายังเมืองหลวงของพม่าเพื่อทำพิธีที่วัดตามคำแนะนำของหมอดูคนหนึ่งในพม่า โดยเชื่อว่าจะเป็นการทำให้รัฐประหารสำเร็จ ถือว่าเป็นการดึงพลังความศักดิ์สิทธิ์ของวัดเพื่อมาสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเอง พวกเขาเดินทางจากพม่ามาสู่ประเทศไทยตามที่หมอดูพูด โดยใช้วิธีการเดินทางไปไม่แตะพื้นดิน เดินทางโดยใช้รถยนต์และเครื่องบิน นอกจากนี้ยังให้เดินบนพรมแดงตลอด ก่อนจะเข้ามายึดทำรัฐประหารรัฐบาลกลางของ พล.อ.ชาติชาย
ขณะที่ นายกิจจา ทวีกุลกิจ หมอดูชื่อดังกล่าวถึงหมอดูชาวพม่าคนดังกล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นหน้าหมอดูคนนี้มาก่อน แต่ทราบว่าเป็นหญิงพิการตาบอด หลังค่อม ตาโปน คนทั่วไปจึงเรียกอีที ซึ่งในวงการหมอดูคนอื่นจะไม่ค่อยยอมรับหมออีทีเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวยอมรับว่าเขาเก่งมาก เพราะดูดวงโดยใช้ญาณพิเศษไม่มีตำราในการดูดวงซึ่งเหมือนกับตน แต่หมออีทีจะทำนายดวงในระยะสั้นๆ 2-3 เดือน ซึ่งนักการเมืองไทยหลายคนจะเดินทางไปใช้บริการ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปใช้บริการเป็นประจำ และเมื่อครั้งเดินทางไปพบผู้นำพม่าล่าสุดก็ได้ไปพบและรับหมออีทีมาสะเดาะเคราะห์ที่บ้านด้วย
“ยอมรับว่าดวงนายกฯ ตอนนี้นับวันยิ่งแย่ การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ก็เพื่อหลบเลี่ยงบุคคลซึ่งเขารู้ว่าดวงแรงมาก และการอยู่ในตำแหน่งขณะนี้ก็เพื่อซื้อเวลา เหมือนกับนักมวยที่ประคองตัวอยู่ให้ครบยก แต่ไม่ออกหมัด เพียงแต่ไม่ให้แพ้น็อกเท่านั้น ทั้งๆ ที่ตัวนายกฯ เองรู้ว่าตัวเองแพ้หมดรูปแล้ว และผมขอฟันธงว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีนายกฯ ที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ล้านเปอร์เซ็นต์” นายกิจจา กล่าว
ด้าน นายภิญโญ พงษ์เจริญ หมอดูชื่อดังให้สัมภาษณ์ว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้ข้อมูลของหมอดูอีที แต่ในขณะนี้ดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหาอยู่ตรงที่ดาวเสาร์เป็นดาวโทษทุกข์ทับดาวอาทิตย์ มีปัญหาเรื่องชื่อเสียงตำแหน่ง ดาวเสาร์ทับดวงจันทร์ จะมีปัญหาเรื่องจิตใจ สุขภาพ ความรู้สึกเสน่ห์น้อยลง มีเรื่องการเสื่อมศรัทธา และดาวพุธซึ่งเป็นดาวประจำตัวของนายกฯ ที่ถูกดาวเสาร์ทับ ที่ถือเป็นกาลกิณีจึงต้องระวังเรื่องของความปลอดภัย สุขภาพ เสาร์ทับ 3 องค์ คือทั้ง อาทิตย์ จันทร์ พุธ เป็นราหูที่เล็งลัคนา ที่เป็นเรื่องของหุ้นส่วนทางการเมือง เกิดการแตกแยกที่ชัดเจนแต่ทั้งนี้การพยากรณ์นี้ก็ถือว่าพยากรณ์มานานแล้ว
“ที่สำคัญ คือ เดือนกันยายนนี้จะเกิดอุปราคาขึ้น 2 ครั้ง คือ วันที่ 8 ที่ถือเป็นจันทรุปราคา ผ่านมา และในวันที่ 22 ที่ถือเป็น สุริยุปราคา ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อตัวนายกฯด้วย ที่มันเกิดขึ้นในราศีเดียวกันพาดผ่านลัคนาของท่านซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และสถานการณ์ทางการเมืองที่พลิกผัน”
นายภิญโญ กล่าวว่า นายกฯ เดินทางไกลไปต่างประเทศและจะกลับมาในวันที่ 22 ก.ย. ถือเป็นการหลบคราสได้เหมือนกัน เพราะถ้าในช่วงนั้นหากอยู่กับที่ ก็อาจจะเกิดเหตุขึ้นมาได้ เพราะว่าตอนนี้ถือว่าสถานการณ์การเมืองกำลังวุ่นวาย แล้วนายกฯ ก็หลบไปเมืองนอกในห้วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์อุปราคาขึ้นทั้งสองครั้ง ถือเป็นการเปลี่ยนสถานที่จากที่ที่มีปัญหาอุปสรรคไปสู่อีกที่หนึ่ง เป็นการหลีกเคราะห์ และถือว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์อีกแบบหนึ่งโดยเดินทางไปในที่ทีปลอดภัยจากอุปสรรคที่เคยมี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะหลีกหนีปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
“ผมคิดว่าคนเราถ้ามีกรรมถึงจะหลีกหนีอย่างไรก็ไม่พ้น ในอดีตมีบุคคลสำคัญที่หลีกหนีไปเมืองนอกแต่แล้วก็ต้องไปประสบอุบัติเหตุเหมือนกัน การเดินทางของ นายกฯครั้งนี้ เหมือนกับที่พระรามต้องเดินดงเพราะว่าดวงไม่ดีมีเคราะห์ โหรก็เลยแนะนำให้ออกเดินดง ถือเป็นการสะเดาะเคราะห์แบบพระรามเดินดง พ้นเวลาเคราะห์ก็กลับมาบ้านเมืองต่อ” นายภิญโญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ www.Irrawaddy.org ได้เผยแพร่วารสารอิระวดี ออนไลน์ ฉบับเดือนกันยายน เผยโฉมหน้าหมอดูชื่อดังชาวพม่าที่ได้รับความเชื่อถือจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมมาน ชินวัตร ภริยา โดยวารสารดังกล่าวระบุว่า เป็นที่รู้กันว่าผู้นำรัฐบาลพม่า พล.อ.ตันฉ่วย และภรรยา เชื่อถือในเรื่องโชคลาง และมักจะเข้าพบหมอดูอยู่เป็นประจำ ซึ่งนักการเมืองไทยก็ไม่แตกต่างจากผู้นำพม่า โดยก่อนที่จะตัดสินใจในเหตุการณ์สำคัญๆ ก็จะเข้าพบหมอดูเพื่อจัดพิธีสะเดาะเคราะห์
วารสารออนไลน์อิระวดี ระบุว่า แม้กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็เคยยอมรับว่าต้องปรึกษาหมอดูในการขอคำปรึกษาเพื่อรับมือกับฝ่ายตรงข้าม พวกนักวิจารณ์ และการที่จะทำให้ถือครองอำนาจได้ จนมีข่าวลือหนาหูที่กรุงเทพฯ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลสำคัญในรัฐบาลไทย มักเดินทางไปพม่าเพื่อขอคำปรึกษาจากหมอดูชื่อดังชาวพม่าที่มีชื่อว่า E T ซึ่งอยู่ที่เมือง Thingangyun ชานเมืองย่างกุ้ง เพื่อที่จะปัดเป่าเคราะห์ร้ายทางการเมืองและเตรียมรับมือต่อสู้กับคู่อริ ทั้งนี้ ชื่อ ET ย่อมาจากชื่อจริงว่า E-THI ซึ่งเป็นหมอดูหญิงพิการชาวพม่า ที่เวลาพูดน้ำเสียงของเธอฟังแทบจะไม่ได้ยินและไม่เข้าใจเลย ซึ่งจะต้องอาศัยน้องสาวคอยแปลคำทำนายให้กับผู้ที่มาขอคำปรึกษา
ทั้งนี้ วารสารดังกล่าวยังอ้างอิงบทความของนายชัยอนันต์ สมุทวณิช เขียนเมื่อต้นเดือน ส.ค.ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการว่า นักการเมืองชั้นนำของไทยล้วนแล้วแต่ปรึกษาอีทีทั้งสิ้น โดยอีทีเดินทางมากรุงเทพฯ ประจำ ซึ่งเชื่อว่าสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ คนไทยอาจจะยังมีอคติกับชาวพม่าหลังจากที่โดนยึดกรุงศรีอยุธยาในปี 1767 แต่ไม่สามารถที่จะห้ามความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำของพม่าได้ พวกนายพลทั้งหลายในเมืองไทยก่อนที่จะทำการรัฐประหารในสมัยรัฐบาลของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็มีข่าวลือว่าได้เดินทางมายังเมืองหลวงของพม่าเพื่อทำพิธีที่วัดตามคำแนะนำของหมอดูคนหนึ่งในพม่า โดยเชื่อว่าจะเป็นการทำให้รัฐประหารสำเร็จ ถือว่าเป็นการดึงพลังความศักดิ์สิทธิ์ของวัดเพื่อมาสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเอง พวกเขาเดินทางจากพม่ามาสู่ประเทศไทยตามที่หมอดูพูด โดยใช้วิธีการเดินทางไปไม่แตะพื้นดิน เดินทางโดยใช้รถยนต์และเครื่องบิน นอกจากนี้ยังให้เดินบนพรมแดงตลอด ก่อนจะเข้ามายึดทำรัฐประหารรัฐบาลกลางของ พล.อ.ชาติชาย
ขณะที่ นายกิจจา ทวีกุลกิจ หมอดูชื่อดังกล่าวถึงหมอดูชาวพม่าคนดังกล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นหน้าหมอดูคนนี้มาก่อน แต่ทราบว่าเป็นหญิงพิการตาบอด หลังค่อม ตาโปน คนทั่วไปจึงเรียกอีที ซึ่งในวงการหมอดูคนอื่นจะไม่ค่อยยอมรับหมออีทีเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวยอมรับว่าเขาเก่งมาก เพราะดูดวงโดยใช้ญาณพิเศษไม่มีตำราในการดูดวงซึ่งเหมือนกับตน แต่หมออีทีจะทำนายดวงในระยะสั้นๆ 2-3 เดือน ซึ่งนักการเมืองไทยหลายคนจะเดินทางไปใช้บริการ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปใช้บริการเป็นประจำ และเมื่อครั้งเดินทางไปพบผู้นำพม่าล่าสุดก็ได้ไปพบและรับหมออีทีมาสะเดาะเคราะห์ที่บ้านด้วย
“ยอมรับว่าดวงนายกฯ ตอนนี้นับวันยิ่งแย่ การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ก็เพื่อหลบเลี่ยงบุคคลซึ่งเขารู้ว่าดวงแรงมาก และการอยู่ในตำแหน่งขณะนี้ก็เพื่อซื้อเวลา เหมือนกับนักมวยที่ประคองตัวอยู่ให้ครบยก แต่ไม่ออกหมัด เพียงแต่ไม่ให้แพ้น็อกเท่านั้น ทั้งๆ ที่ตัวนายกฯ เองรู้ว่าตัวเองแพ้หมดรูปแล้ว และผมขอฟันธงว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีนายกฯ ที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ล้านเปอร์เซ็นต์” นายกิจจา กล่าว
ด้าน นายภิญโญ พงษ์เจริญ หมอดูชื่อดังให้สัมภาษณ์ว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้ข้อมูลของหมอดูอีที แต่ในขณะนี้ดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหาอยู่ตรงที่ดาวเสาร์เป็นดาวโทษทุกข์ทับดาวอาทิตย์ มีปัญหาเรื่องชื่อเสียงตำแหน่ง ดาวเสาร์ทับดวงจันทร์ จะมีปัญหาเรื่องจิตใจ สุขภาพ ความรู้สึกเสน่ห์น้อยลง มีเรื่องการเสื่อมศรัทธา และดาวพุธซึ่งเป็นดาวประจำตัวของนายกฯ ที่ถูกดาวเสาร์ทับ ที่ถือเป็นกาลกิณีจึงต้องระวังเรื่องของความปลอดภัย สุขภาพ เสาร์ทับ 3 องค์ คือทั้ง อาทิตย์ จันทร์ พุธ เป็นราหูที่เล็งลัคนา ที่เป็นเรื่องของหุ้นส่วนทางการเมือง เกิดการแตกแยกที่ชัดเจนแต่ทั้งนี้การพยากรณ์นี้ก็ถือว่าพยากรณ์มานานแล้ว
“ที่สำคัญ คือ เดือนกันยายนนี้จะเกิดอุปราคาขึ้น 2 ครั้ง คือ วันที่ 8 ที่ถือเป็นจันทรุปราคา ผ่านมา และในวันที่ 22 ที่ถือเป็น สุริยุปราคา ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อตัวนายกฯด้วย ที่มันเกิดขึ้นในราศีเดียวกันพาดผ่านลัคนาของท่านซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และสถานการณ์ทางการเมืองที่พลิกผัน”
นายภิญโญ กล่าวว่า นายกฯ เดินทางไกลไปต่างประเทศและจะกลับมาในวันที่ 22 ก.ย. ถือเป็นการหลบคราสได้เหมือนกัน เพราะถ้าในช่วงนั้นหากอยู่กับที่ ก็อาจจะเกิดเหตุขึ้นมาได้ เพราะว่าตอนนี้ถือว่าสถานการณ์การเมืองกำลังวุ่นวาย แล้วนายกฯ ก็หลบไปเมืองนอกในห้วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์อุปราคาขึ้นทั้งสองครั้ง ถือเป็นการเปลี่ยนสถานที่จากที่ที่มีปัญหาอุปสรรคไปสู่อีกที่หนึ่ง เป็นการหลีกเคราะห์ และถือว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์อีกแบบหนึ่งโดยเดินทางไปในที่ทีปลอดภัยจากอุปสรรคที่เคยมี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะหลีกหนีปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
“ผมคิดว่าคนเราถ้ามีกรรมถึงจะหลีกหนีอย่างไรก็ไม่พ้น ในอดีตมีบุคคลสำคัญที่หลีกหนีไปเมืองนอกแต่แล้วก็ต้องไปประสบอุบัติเหตุเหมือนกัน การเดินทางของ นายกฯครั้งนี้ เหมือนกับที่พระรามต้องเดินดงเพราะว่าดวงไม่ดีมีเคราะห์ โหรก็เลยแนะนำให้ออกเดินดง ถือเป็นการสะเดาะเคราะห์แบบพระรามเดินดง พ้นเวลาเคราะห์ก็กลับมาบ้านเมืองต่อ” นายภิญโญ กล่าว