“ธรรมรักษ์” ลงนามโผทหารก่อนยื่นรักษาการนายกฯ วันนี้ เสียงแข็งพิจารณาตามขั้นตอนผ่าน กก.กลาโหม ระบุเดิมตำแหน่งปลัดกห.ไร้ปัญหาแต่มีคนทำให้เกิดปัญหาจนวุ่น เปิดโผสุดท้ายหลังฝ่ายการเมืองต่อรองกองทัพแบบพบกันครึ่งทาง “บรรณวิทย์” ถูกเขี่ยไปนั่ง รอง ผบ.สส. “เสธ.อู้” ขึ้นปลัดฯกห.สมใจ ขณะที่ ตท.6 ดัน“มนตรี-จิรเดช-วิโรจน์”ตท.9 พรึ่บ เพื่อคานอำนาจ ตท.10 “สพรั่ง” เจอพิษการเมืองถูกโยกมาเป็นที่ปรึกษาฯกินอัตราพลเอก ขณะที่ ใบปลิว ว่อนกลาโหม ซัด “ธรรมรักษ์” ไม่เป็นธรรม ย้ำโผทหารต้องผ่าน กกต.ก่อนทูลเกล้าฯ
พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 ว่า พล.อ. สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหมจะนำบัญชีรายชื่อทั้งหมดมาให้ตนลงนาม ในวันนี้ (7 ก.ย.) เพื่อที่จะได้รีบนำเสนอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีทันที เนื่องจากท่านมีกำหนดการที่จะเดินทางไปต่างประเทศระหว่างวันที่ 9-14 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อโยกย้ายนั้นเราได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างมีคณะกรรมการตามระเบียบกระทรวงกลาโหม
“การหารือกันเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ผมได้เรียกคณะกรรมการเข้าประชุมหารือกันเป็นรายตำแหน่งแล้ว ซึ่งเราได้เสนอบัญชีโยกย้ายไปตามที่ ผบ.เหล่าทัพ นำเสนอมา ซึ่งบางตำแหน่งเกิดความทับซ้อนกัน บางทีก็ต้องถอยแล้วให้คนอื่นลงมาแทน เพราะบางทีเสนอตำแหน่งขึ้นมา แต่ทางหน่วยเหนือมีคนของเขาอยู่แล้ว ก็ต้องคุยกันว่าใครจะเป็นคนที่จะมาลงตำแหน่งตรงนี้ ซึ่งอาจจะต้องมีบางคนต้องถอยลงไปอยู่ที่เก่า ซึ่งเป็นรายละเอียด ขณะนี้ผมรอรายชื่อทั้งหมดจากปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อจะนำเสนอรักษาการนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นปลัดกระทรวงกลาโหม ส่งไปยังรักษาการนายกรัฐมนตรี”
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศติดต่อกันหลายวัน จะเกิดปัญหาความล่าช้าในการลงนามในบัญชีรายชื่อเพื่อทูลเกล้าฯหรือไม่ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า บัญชีรายชื่อนายทหารท่านพิจารณาเพียง 10 นาทีก็เสร็จแล้ว ซึ่งคิดว่า ทันในต้นเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากบางตำแหน่งที่เกษียณไปไม่มีคนทำงาน ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารจะเสร็จเมื่อไร ขึ้นอยู่กับสำนักพระราชวังที่จะโปรดเกล้าฯกลับลงมา
สำหรับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมที่มีปัญหาความไม่ลงตัวนั้น ขณะนี้ลงตัวแล้วหรือยัง พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า เดิมทีไม่มีปัญหา แต่มีคนทำให้มีปัญหา เมื่อถามว่า คนที่ระบุว่าเป็นคนทำให้มีปัญหาคือสื่อมวลชนหรือใคร พล.อ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า ตนไม่รู้ เพราะว่าที่มีการปล่อยข่าวออกมา ซึ่งมันไม่ตรงกัน
ส่วนที่ระบุว่าปลัดกระทรวงกลาโหมไม่ได้เสนอชื่อตามที่เป็นข่าวออกมานั้น แสดงว่าปลัดกระทรวงกลาโหมได้เสนอชื่ออีกคนหนึ่งขึ้นมาใช่หรือไม่ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ไม่รู้ เรื่องนี้เป็นเรื่องในที่ประชุม ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องนำมาเปิดเผย ใครจะได้รับตำแหน่งไหน หลังจากที่คณะกรรมการเสนอชื่อขึ้นไปก็ต้องรอการโปรดเกล้าฯลงมา
พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า การโยกย้ายทหารเราไม่ได้ดูรุ่น แต่ ตท.10 ที่เขาเติบโตมา ก็เติบโตมาตามไลน์ของเขา คนที่อยู่ข้างหลังก็ไม่โต เราอย่าไปเน้นว่า ต้องเป็นรุ่น 10 ไม่มีอะไรหวือหวา
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พล.อ. สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้นำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 ซึ่งได้ให้ พล.อ.อภิชัย ไวยรักษ์สัตว์ เจ้ากรมเสมียรตรา ตรวจสอบความถูกต้องแล้ว เสนอให้ พล.อ. ธรรมรักษ์ โดยหลังจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ ลงนามในคำสั่งแล้วได้นำเสนอต่อ พ.ต.ท. ทักษิณ ในวันนี้ (7 ก.ย.) เพื่อลงนามก่อนเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 9 ก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบัญชีโยกย้ายครั้งนี้ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช เสนาธิการทหาร ได้ข้ามมาเป็น ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นผลสำเร็จ หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวจาก 4 นายพลสำนักงาน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รอง ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ยื่นหนังสือถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อร้องเรียนว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ โยกย่ายไม่เป็นธรรม มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง
ส่วน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ถูกเตะโด่งข้ามไปเป็น รอง ผบ.ทหารสูงสุด โดยสลับให้ พล.ร.อ.สุรินทร์ เริงอารมณ์ รอง ผบ.ทหารสูงสุด กลับมาเป็น รองปลัดกระทรวงกลาโหม ส่วน พล.อ.สุนทร ขำคมกุล ศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการพลังงานทหาร ไปเป็น จเรทหารทั่วไป
ด้านกองบัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ รอง ผบ.ทหารสูงสุด ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ไพโรจน์ พานิชสมัย ประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. เป็นรอง ผบ.สส. พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ รอง เสนาธิการทหาร ขยับขึ้นเป็น เสนาธิการทหาร
ในส่วนกองทัพบก พล.อ.ไพศาล กตัญญู ผช.ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. แทน พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ (ตท.9) ที่เกษียณ โดยขยับ พล.ท.มล.กิติมาศ สุขสวัสดิ์ รอง เสธ.ทบ. ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. ส่วน พล.อ.พรชัย กรานเลิศ (ตท.10) ยังอยู่ในตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ. พร้อมขยับ พล.ท.มนตรี สังขทรัพย์ (ตท.9) ผบ.หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (นสร.) ขึ้นมาเป็น เสนาธิการทหารบก ขณะที่ พล.ท.ไวพจน์ ศรีนวล ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย ข้ามฝากมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. (อัตราพลเอก) จากเดิมที่คั่วอยู่ในตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. พล.ท.ฉัตรชัย ถาวรบุตร ผช.เสธ.ทบ ฝ่ายข่าว เป็น รองเสนาธิการทหารบก
ในขณะที่ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 ขยับเข้ามาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ (อัตราพลเอก) โดยมี พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ (ตท.9) แม่ทัพน้อยที่ 3 ขยับเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ (ตท.9) เป็นแม่ทัพภาคที่ 4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารครั้งนิ้ ผบ.เหล่าทัพ ได้ยืนยันหลักการในการเสนอชื่อบุคคลในเหล่าทัพเอง โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. และ แม่ทัพภาค ซึ่งถือเป็นการพบกันครึ่งทางกับฝ่ายการเมืองที่ต้องการดันคนของตัวเองไปนั่งในตำแหน่งสำคัญ เช่น พล.อ.เลิศรัตน์ ที่ได้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ยังมีส่วนที่น่าสนใจคือ การขึ้นมาดำรงตำแหน่ง สำคัญๆ ของเตรียมทหารรุ่น (ตท.9) เช่น พล.ท.มนตรี สังขทรัพย์ ผบ.นสร. เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งดำรงยศพลโทเพียง 6 เดือน เช่นเดียวกันระดับแม่ทัพภาค ที่ พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 ขยับขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ ที่ปรึกษากองทัพบก ไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 4
ผู้สือข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ที่กระทรวงกลาโหม ได้มีใบปลิวเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 โจมตีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารครั้งนี้ โดยหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า การปรับย้ายทหารครั้งนี้จะมีผลได้ผลเสียกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ เพราะอยู่ในช่วงที่มีรัฐบาลรักษาการ โดยการบริหารของ พล.อ. ธรรมรักษ์ ที่อาจทำให้การโยกย้ายนายทหารเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับทางฝ่ายการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งในอนาคต
ใบปลิวระบุว่า คำสัมภาษณ์ของ ร.ต.วิจิตร อยู่สุภาพ อดีตเลขาฯ กกต. ที่ได้กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารในช่วงมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ ม.215 (2) ที่ ครม.ที่อยู่ในช่วงรักษาการจะใช้อำนาจแต่งตั้งหรือย้ายข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งมิได้ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก กกต.เสียก่อน
ใบปลิวระบุว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร หากไม่ผ่าน กกต.ถือว่าไม่ชอบ ผู้มีส่วนได้เสีย สามารถฟ้องศาลปกครองเพื่อเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบได้ และกรณีนี้ไม่ใช่เรื่องวินัยทหาร จึงอยู่ในอำนาจของศาลปกครอง
นอกจากนี้ยังอ้างคำกล่าวของนายอุดมเดช ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ และนายนาย โคทม อารียา อดีต กกต. ที่ระบุเช่นกันว่า หากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระหว่างมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กกต. ไม่เว้นแม้แต่การโยกย้ายนายทหาร
พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 ว่า พล.อ. สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหมจะนำบัญชีรายชื่อทั้งหมดมาให้ตนลงนาม ในวันนี้ (7 ก.ย.) เพื่อที่จะได้รีบนำเสนอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีทันที เนื่องจากท่านมีกำหนดการที่จะเดินทางไปต่างประเทศระหว่างวันที่ 9-14 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อโยกย้ายนั้นเราได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างมีคณะกรรมการตามระเบียบกระทรวงกลาโหม
“การหารือกันเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ผมได้เรียกคณะกรรมการเข้าประชุมหารือกันเป็นรายตำแหน่งแล้ว ซึ่งเราได้เสนอบัญชีโยกย้ายไปตามที่ ผบ.เหล่าทัพ นำเสนอมา ซึ่งบางตำแหน่งเกิดความทับซ้อนกัน บางทีก็ต้องถอยแล้วให้คนอื่นลงมาแทน เพราะบางทีเสนอตำแหน่งขึ้นมา แต่ทางหน่วยเหนือมีคนของเขาอยู่แล้ว ก็ต้องคุยกันว่าใครจะเป็นคนที่จะมาลงตำแหน่งตรงนี้ ซึ่งอาจจะต้องมีบางคนต้องถอยลงไปอยู่ที่เก่า ซึ่งเป็นรายละเอียด ขณะนี้ผมรอรายชื่อทั้งหมดจากปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อจะนำเสนอรักษาการนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นปลัดกระทรวงกลาโหม ส่งไปยังรักษาการนายกรัฐมนตรี”
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศติดต่อกันหลายวัน จะเกิดปัญหาความล่าช้าในการลงนามในบัญชีรายชื่อเพื่อทูลเกล้าฯหรือไม่ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า บัญชีรายชื่อนายทหารท่านพิจารณาเพียง 10 นาทีก็เสร็จแล้ว ซึ่งคิดว่า ทันในต้นเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากบางตำแหน่งที่เกษียณไปไม่มีคนทำงาน ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารจะเสร็จเมื่อไร ขึ้นอยู่กับสำนักพระราชวังที่จะโปรดเกล้าฯกลับลงมา
สำหรับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมที่มีปัญหาความไม่ลงตัวนั้น ขณะนี้ลงตัวแล้วหรือยัง พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า เดิมทีไม่มีปัญหา แต่มีคนทำให้มีปัญหา เมื่อถามว่า คนที่ระบุว่าเป็นคนทำให้มีปัญหาคือสื่อมวลชนหรือใคร พล.อ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า ตนไม่รู้ เพราะว่าที่มีการปล่อยข่าวออกมา ซึ่งมันไม่ตรงกัน
ส่วนที่ระบุว่าปลัดกระทรวงกลาโหมไม่ได้เสนอชื่อตามที่เป็นข่าวออกมานั้น แสดงว่าปลัดกระทรวงกลาโหมได้เสนอชื่ออีกคนหนึ่งขึ้นมาใช่หรือไม่ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ไม่รู้ เรื่องนี้เป็นเรื่องในที่ประชุม ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องนำมาเปิดเผย ใครจะได้รับตำแหน่งไหน หลังจากที่คณะกรรมการเสนอชื่อขึ้นไปก็ต้องรอการโปรดเกล้าฯลงมา
พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า การโยกย้ายทหารเราไม่ได้ดูรุ่น แต่ ตท.10 ที่เขาเติบโตมา ก็เติบโตมาตามไลน์ของเขา คนที่อยู่ข้างหลังก็ไม่โต เราอย่าไปเน้นว่า ต้องเป็นรุ่น 10 ไม่มีอะไรหวือหวา
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พล.อ. สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้นำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 ซึ่งได้ให้ พล.อ.อภิชัย ไวยรักษ์สัตว์ เจ้ากรมเสมียรตรา ตรวจสอบความถูกต้องแล้ว เสนอให้ พล.อ. ธรรมรักษ์ โดยหลังจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ ลงนามในคำสั่งแล้วได้นำเสนอต่อ พ.ต.ท. ทักษิณ ในวันนี้ (7 ก.ย.) เพื่อลงนามก่อนเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 9 ก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบัญชีโยกย้ายครั้งนี้ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช เสนาธิการทหาร ได้ข้ามมาเป็น ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นผลสำเร็จ หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวจาก 4 นายพลสำนักงาน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รอง ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ยื่นหนังสือถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อร้องเรียนว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ โยกย่ายไม่เป็นธรรม มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง
ส่วน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ถูกเตะโด่งข้ามไปเป็น รอง ผบ.ทหารสูงสุด โดยสลับให้ พล.ร.อ.สุรินทร์ เริงอารมณ์ รอง ผบ.ทหารสูงสุด กลับมาเป็น รองปลัดกระทรวงกลาโหม ส่วน พล.อ.สุนทร ขำคมกุล ศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการพลังงานทหาร ไปเป็น จเรทหารทั่วไป
ด้านกองบัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ รอง ผบ.ทหารสูงสุด ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ไพโรจน์ พานิชสมัย ประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. เป็นรอง ผบ.สส. พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ รอง เสนาธิการทหาร ขยับขึ้นเป็น เสนาธิการทหาร
ในส่วนกองทัพบก พล.อ.ไพศาล กตัญญู ผช.ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. แทน พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ (ตท.9) ที่เกษียณ โดยขยับ พล.ท.มล.กิติมาศ สุขสวัสดิ์ รอง เสธ.ทบ. ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. ส่วน พล.อ.พรชัย กรานเลิศ (ตท.10) ยังอยู่ในตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ. พร้อมขยับ พล.ท.มนตรี สังขทรัพย์ (ตท.9) ผบ.หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (นสร.) ขึ้นมาเป็น เสนาธิการทหารบก ขณะที่ พล.ท.ไวพจน์ ศรีนวล ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย ข้ามฝากมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. (อัตราพลเอก) จากเดิมที่คั่วอยู่ในตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. พล.ท.ฉัตรชัย ถาวรบุตร ผช.เสธ.ทบ ฝ่ายข่าว เป็น รองเสนาธิการทหารบก
ในขณะที่ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 ขยับเข้ามาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ (อัตราพลเอก) โดยมี พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ (ตท.9) แม่ทัพน้อยที่ 3 ขยับเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ (ตท.9) เป็นแม่ทัพภาคที่ 4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารครั้งนิ้ ผบ.เหล่าทัพ ได้ยืนยันหลักการในการเสนอชื่อบุคคลในเหล่าทัพเอง โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. และ แม่ทัพภาค ซึ่งถือเป็นการพบกันครึ่งทางกับฝ่ายการเมืองที่ต้องการดันคนของตัวเองไปนั่งในตำแหน่งสำคัญ เช่น พล.อ.เลิศรัตน์ ที่ได้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ยังมีส่วนที่น่าสนใจคือ การขึ้นมาดำรงตำแหน่ง สำคัญๆ ของเตรียมทหารรุ่น (ตท.9) เช่น พล.ท.มนตรี สังขทรัพย์ ผบ.นสร. เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งดำรงยศพลโทเพียง 6 เดือน เช่นเดียวกันระดับแม่ทัพภาค ที่ พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 ขยับขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ ที่ปรึกษากองทัพบก ไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 4
ผู้สือข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ที่กระทรวงกลาโหม ได้มีใบปลิวเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 โจมตีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารครั้งนี้ โดยหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า การปรับย้ายทหารครั้งนี้จะมีผลได้ผลเสียกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ เพราะอยู่ในช่วงที่มีรัฐบาลรักษาการ โดยการบริหารของ พล.อ. ธรรมรักษ์ ที่อาจทำให้การโยกย้ายนายทหารเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับทางฝ่ายการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งในอนาคต
ใบปลิวระบุว่า คำสัมภาษณ์ของ ร.ต.วิจิตร อยู่สุภาพ อดีตเลขาฯ กกต. ที่ได้กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารในช่วงมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ ม.215 (2) ที่ ครม.ที่อยู่ในช่วงรักษาการจะใช้อำนาจแต่งตั้งหรือย้ายข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งมิได้ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก กกต.เสียก่อน
ใบปลิวระบุว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร หากไม่ผ่าน กกต.ถือว่าไม่ชอบ ผู้มีส่วนได้เสีย สามารถฟ้องศาลปกครองเพื่อเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบได้ และกรณีนี้ไม่ใช่เรื่องวินัยทหาร จึงอยู่ในอำนาจของศาลปกครอง
นอกจากนี้ยังอ้างคำกล่าวของนายอุดมเดช ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ และนายนาย โคทม อารียา อดีต กกต. ที่ระบุเช่นกันว่า หากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระหว่างมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กกต. ไม่เว้นแม้แต่การโยกย้ายนายทหาร