xs
xsm
sm
md
lg

อาจารย์แก้วสรร ที่ผมรู้จัก

เผยแพร่:   โดย: โสภณ สุภาพงษ์

ก่อนนี้เมื่ออาจารย์แก้วสรร อติโพธิ อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับอาจารย์ขวัญสรวง อติโพธิ น้องชายฝาแฝด อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาจารย์แก้วสรร มักจะถามผมเสมอว่า “พี่จำได้ไหม คนไหนแก้ว คนไหนขวัญ” ผมก็จะตอบล้อเล่นว่า “ดูออก ผมดูตามพฤติกรรม ว่าคนไหนเรียบร้อย คนไหนนักเลง ก็รู้”

แต่ในความจริงแล้ว ถ้าเราดูพฤติกรรมแล้ว จะแยกไม่ออกสำหรับพี่น้องฝาแฝดชอบดื่มเบียร์แกล้มปัญญาคู่นี้ ร่าเริง เปิดเผย จริงใจ เป็นกันเอง เฮี้ยวนิดๆ และที่จะไม่มีวันแยกออกเลย คือ พฤติกรรมจากน้ำใจที่จะต่อสู้กับความอยุติธรรม ต่อสู้เพื่อสิทธิที่ถูกต้องของคนยากไร้ คนอ่อนแอ คนด้อยโอกาส ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นยักษ์เป็นมารใหญ่โต ร่ำรวย มีอิทธิพล เหาะเหินเดินอากาศขนาดไหน อาจารย์มีการจัดการ ต่อสู้อย่างสุขุม รอบคอบ มีวินัย แต่งับไม่เคยปล่อย เป็นที่ประทับใจผู้คนเสมอ

เมื่อก่อนถ้าจะแยกให้ออกว่า คนไหนแก้วคนไหนขวัญ เราต้องสังเกตเอาว่า ตำแหน่งของไฝบนใบหน้าอยู่ตรงไหน

แต่ในวันนี้ เราเห็นความแตกต่างได้บ้างจากร่างกายที่ผอมลงของอาจารย์แก้วเมื่อต้องทำงานอย่างตรากตรำตั้งแต่เริ่มเป็น ส.ว. เมื่อ 6 ปี ก่อนจนปัจจุบัน

คนที่กล่าวหาว่าอาจารย์แก้วสรร หน้าไม่เหมือนคน ไม่สมควรเป็น กกต.นั้น คงจะต้องเสียใจกับสิ่งที่กระทำลงไป ถ้าได้รู้ว่า อาจารย์แก้วสรรนั้นต้องพบกับความทุกข์ ในขณะที่เสียสละเพื่อผู้อื่น ความเศร้าที่ไม่เคยหลุดจากปาก ขอความเห็นใจหรือบ่นให้ใครฟัง

ผมรู้จักโดยการพบอาจารย์แฝดทั้งสองครั้งแรก เมื่อ 20 ปีก่อน ในขณะที่ผมในฐานะนักธุรกิจ ไปประชุมสัมมนาหัวข้อ มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมของ UNDP ในหมู่บ้านนอกเมืองเชียงใหม่ร่วมกับอาจารย์ประเวศ วะสี อาจารย์สุลักษณ์ ศิวลักษณ์ อาจารย์ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ และนักวิชาการอีกเกือบร้อยท่าน ในขณะที่ผมปรบมือพออกพอใจต่อต่อผู้บรรยายในหัวข้อ นักธุรกิจกับสิ่งแวดล้อม อาจารย์แก้วสรร - ขวัญสรวง หันมาถามผมว่า “พี่ พี่ไม่รู้เหรอ ว่าเขากำลังด่าพี่” แล้วหัวเราะชอบใจ

และเราก็ใกล้ชิดทางใจกันมากขึ้นอีกเมื่อผมกับอาจารย์แฝดต้องไปพูดบนเวทีด้วยกันเรื่องครอบครัวกับการเลี้ยงลูก ซึ่งผมได้ให้ความเห็นว่า เมื่อเด็กผมถูกสอนเสมอว่า “มนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่น เลี้ยงลูกด้วยนม” แต่บัดนี้ผมพบว่าธรรมชาติได้เปลี่ยนไปแล้ว สังคมส่วนใหญ่วันนี้ “มนุษย์เป็นสัตว์เลือดเย็น เลี้ยงลูกด้วยเงิน” ดูเหมือนว่าอาจารย์แฝดทั้งสองพอใจผมมาก และดูจะยอมรับผมเข้าชมรมปากจัดด้วยกับอาจารย์ตั้งแต่บัดนั้น

เมื่อเราขอให้อาจารย์แก้ว หรืออาจารย์ขวัญ ทำงานอะไร สิ่งที่เราจะได้เสมอก็คือ ขอหนึ่งได้สอง คือ เราจะได้ทั้งอาจารย์สถาปัตย์สิ่งแวดล้อม และอาจารย์กฎหมายพร้อมกันเสมอ เมื่อเราขอให้อาจารย์แฝดทั้งสองมาทำงานให้ฟรีๆในเรื่องของชาวบ้าน อาจารย์ก็จะมาทำให้ค่ำมืดดึกดื่น ลูกๆอาจารย์ในชุดนักเรียน ก็จะมานั่งคอยพ่อตาแป๋ว เมื่อผมบอกว่าสงสารลูกอาจารย์ต้องมาแกร่วหิวข้าวคอยพ่อ คำตอบจากอาจารย์ทั้งสองคือ “มันชินแล้วพี่ ไม่เป็นไรครับ” แปลกที่ลูกอาจารย์ไม่เคยบ่น

อาจารย์แฝดทั้งสองอายุน้อยกว่าผมมาก ใช้ชีวิตด้วยความพอเพียง รักวิถีชีวิตชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการตำแหน่ง ต้องการเพียงได้ทำงานช่วยผู้คน ประชาสังคมทั่วประเทศรักอาจารย์

เมื่อช่วงที่อาจารย์แก้วสรร นักกฎหมายมหาชน เป็นรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น อาจารย์ต้องรับภาระความกระชั้นชิดของการบริหารโครงการ สร้างสนามกีฬาและหอพักนักกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ อันใหญ่โตมโหฬารที่สุดของประเทศด้วยเงินลงทุนมหาศาลที่รังสิต(ซึ่งกลายมาเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปัจจุบัน) คุณสมบัติสำคัญสำหรับโครงการนี้ของอาจารย์แก้ว คือไม่โกง ทำงานหนัก ไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหม จนงานสำเร็จลุล่วงได้น่าอัศจรรย์

เมื่ออาจารย์แก้ว สมัคร ส.ว. เมื่อ 6 ปีก่อนนั้น ป้ายแนะนำตัวกระจิริดที่แขวนแสดงถึงระบอบทุนไม่นิยมสุดขั้วของอาจารย์ แขวนเล็กๆ น้อยๆ ตามข้างถนนคนสุดท้ายนั้น เรียกความประทับใจคนได้มากทีเดียว รวมทั้งผมด้วย

ชีวิตการเป็น ส.ว.ของอาจารย์ ที่ผมเห็นนั้น น่าประทับใจยิ่งกว่านัก อาจารย์แก้วรับเรื่องราวร้องทุกข์ของชาวบ้านที่ถูกกดขี่ข่มเหง ของคนเล็กคนน้อยทุกหมู่ทุกเหล่า ของข้าราชการที่ได้รับความอยุติธรรมจากการทำหน้าที่เพื่อชาวบ้าน ดูแลต่อต้านกฎหมายที่มุ่งขายชาติ ขายอธิปไตยทุกฉบับ ชอบทำงานอยู่ข้างหลัง จนพวกเราต้องบังคับให้เป็นประธานกรรมาธิการ

ไม่ว่าใครก็ตามในสภาจะปฏิเสธไม่ได้ว่า อาจารย์จะแสดงความเห็นด้วยหรือโต้เถียงขัดแย้งเต็มที่ แต่เมื่อลงมติแล้ว เป็นจบกัน อาจารย์แก้วมีวินัยเสมอ ไม่เคยติดใจใครเป็นส่วนตัว

ช่วงการเลือกตั้ง ส.ส. ของ กกต.ที่สร้างปัญหาขัดแย้งแก่บ้านเมืองมากมายในเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาจารย์แก้วต้องทุ่มเททำงานหาวิธีป้องกันปัญหาผิดกฎหมายต่างๆ ที่พวกเราไม่ค่อยถนัดหามรุ่งหามค่ำ แม้ในวันที่คุณสุพัตราภรรยาที่รักของอาจารย์ต้องจากไปอย่างไม่คาดฝัน อาจารย์แก้วไม่เคยปริปาก ผมได้แต่เพียงบีบมืออาจารย์ บอกว่าผมภูมิใจในอาจารย์ ผมสังเกตเห็นน้ำตาที่เอ่อในนัยน์ตาอาจารย์ได้

อาจารย์แก้วผอมลงไปพอสมควรแต่แจ่มใส ดีงาม

พระบรมราโชวาทที่ทรงให้ไว้ บอกเราว่า “ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด ดังนั้นการทำให้บ้านเมืองมีความเป็นปกติสุขเรียบร้อย จึงไม่ใช่การทำให้คนเป็นคนดี หากอยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง ปกครองกองทัพ ปกครององค์กร และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ และไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”

การทำตามพระบรมราโชวาท ก็คือการได้ส่งเสริมให้อาจารย์แก้วสรรได้ทำงานที่สำคัญเพื่อบ้านเมือง หน้าที่ใดก็ได้

เพราะชาติจะได้ประโยชน์ ส่วนอาจารย์แก้วสรรไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าทำงานเพื่อผู้คน และได้ทำดีครับ....
กำลังโหลดความคิดเห็น