ปัจจุบันการทำธุรกิจผ่านอินเทอร์เน็ต ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องอาศัยหน้าร้าน ไม่ต้องพึ่งทำเลที่ตั้ง ซึ่งถือเป็นช่องทางในการทำธุรกิจอีกช่องทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบอยู่บ่อยครั้งในการประกอบธุรกิจในรูปแบบของ E-commerce คือความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ
ดังนั้นทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ออกเครื่องหมาย “Trustmark” เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
นางสาวอรจิต สิงคาลวณิช อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การออกเครื่องหมาย Trustmark ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้า/บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต เพื่อแสดงว่าเว็บไซต์นั้นได้ผ่านเกณฑ์ที่ทางกรมฯ กำหนด
ทั้งนี้ เว็บไซต์ที่มีผ่านหลักเกณฑ์ทั้ง 8 ข้อที่กรมฯกำหนด จะได้รับเครื่องหมายรับรองฯ ที่มีสัญลักษณ์ “Verified” ไปติดที่หน้าเว็บไซต์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจที่ดี กรมฯมีความเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถยกระดับผู้ประกอบการพาณิชย์ไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ กรมฯ จะดำเนินการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองฯ ดังกล่าวผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความสำคัญของเครื่องหมายรับรองฯ และในอนาคต กรมฯ มีโครงการที่จะยกระดับเครื่องหมายรับรองฯ ด้วยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรที่ออกเครื่องหมายฯ ในระดับสากล ได้แก่ Asia Trustmark Alliance และ Global Trustmark Alliance ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการขอรับเครื่องหมายรับรองฯ จะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน เป็นเจ้าของชื่อโดเมนนั้น และมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ข้อบังคับการขอใช้เครื่องหมายรับรองฯ
โดยหลักเกณฑ์ของการขอเครื่องหมาย Trustmark ประกอบด้วย
1.ความโปร่งใสของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเว็บไซต์จะต้องมีข้อมูลเบื้องต้น เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และวิธีการติดต่อ เป็นต้น เพื่อแสดงความมีตัวตนและเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถติดต่อหรือสอบถามได้
2.การตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะการโฆษณา การเสนอซื้อหรือขายสินค้าหรือบริการ ในเว็บไซต์ต้องมีรูปแบบที่เหมาะสมไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี
ซึ่งจะต้องไม่ทำการล่อลวงหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของสินค้า/บริการ
3.การให้ข้อมูลของสินค้าและบริการที่ชัดเจนและเพียงพอ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในเรื่องของข้อมูลสินค้า/บริการ วิธีการและระยะเวลาในการชำระราคาค่าสินค้า/บริการ และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น เงื่อนไขการรับประกันสินค้า เงื่อนไขการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า
4.การยืนยันการสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าและบริการ ที่จะต้องมีระบบทบทวนและยืนยันการสั่งซื้อ และมีทางเลือกในการยกเลิกหรือยืนยันการทำธุรกรรม และมีการจัดเตรียมแบบฟอร์มการสั่งซื้อและวิธีการกรอกข้อมูลที่ชัดเจน ที่ต้องมีใบยืนยันการสั่งซื้อเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าไปตรวจสอบหรือติดต่อได้ พร้อมทั้งมีการจัดส่งสินค้า/บริการ จะต้องระบุวิธีการและเวลาที่ชัดเจน และดำเนินการจัดส่งภายในระยะเวลาที่กำหนด
5.ระบบความปลอดภัยในการทำธุรกรรม โดยเว็บไซต์ จะต้องจัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมของผู้ซื้อหรือผู้ขาย โดยมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เหมาะสมกับข้อมูลที่มีการจัดเก็บและส่งผ่าน
6.การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บิโภค ที่เว็บไซต์ต้องแสดงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในที่ที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาได้สะดวก
7.ช่องทางในการติดต่อสื่อสารและรับเรื่องรองทุกข์ของผู้บริโภค โดยจะต้องจัดเตรียมช่องทางการติดต่อสื่อสาร รวมถึงการตอบข้อสงสัย และมีกระบวนการในการจัดการข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น และจะต้องมีการตอบสนองข้อร้องเรียน หรือข้อสอบถามภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับข้อร้องเรียนหรือข้อสอบถาม
8.การคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน ในกรณีที่เว็บไซต์มีสินค้าหรือบริการที่อาจส่งผลกระทบต่อเด็กหรือเยาวชน จะต้องจัดให้มีข้อความเตือนบนเว็บไซต์ เพื่อให้ความคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครสมาชิกผ่านทางเว็บไซต์ได้ที่ www.trustmarkthai.com หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2547-5050 ต่อ 3191, 3192 หรือ 0-2547-5959-61
ดังนั้นทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ออกเครื่องหมาย “Trustmark” เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
นางสาวอรจิต สิงคาลวณิช อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การออกเครื่องหมาย Trustmark ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้า/บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต เพื่อแสดงว่าเว็บไซต์นั้นได้ผ่านเกณฑ์ที่ทางกรมฯ กำหนด
ทั้งนี้ เว็บไซต์ที่มีผ่านหลักเกณฑ์ทั้ง 8 ข้อที่กรมฯกำหนด จะได้รับเครื่องหมายรับรองฯ ที่มีสัญลักษณ์ “Verified” ไปติดที่หน้าเว็บไซต์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจที่ดี กรมฯมีความเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถยกระดับผู้ประกอบการพาณิชย์ไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ กรมฯ จะดำเนินการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองฯ ดังกล่าวผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความสำคัญของเครื่องหมายรับรองฯ และในอนาคต กรมฯ มีโครงการที่จะยกระดับเครื่องหมายรับรองฯ ด้วยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรที่ออกเครื่องหมายฯ ในระดับสากล ได้แก่ Asia Trustmark Alliance และ Global Trustmark Alliance ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการขอรับเครื่องหมายรับรองฯ จะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน เป็นเจ้าของชื่อโดเมนนั้น และมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ข้อบังคับการขอใช้เครื่องหมายรับรองฯ
โดยหลักเกณฑ์ของการขอเครื่องหมาย Trustmark ประกอบด้วย
1.ความโปร่งใสของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเว็บไซต์จะต้องมีข้อมูลเบื้องต้น เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และวิธีการติดต่อ เป็นต้น เพื่อแสดงความมีตัวตนและเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถติดต่อหรือสอบถามได้
2.การตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะการโฆษณา การเสนอซื้อหรือขายสินค้าหรือบริการ ในเว็บไซต์ต้องมีรูปแบบที่เหมาะสมไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี
ซึ่งจะต้องไม่ทำการล่อลวงหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของสินค้า/บริการ
3.การให้ข้อมูลของสินค้าและบริการที่ชัดเจนและเพียงพอ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในเรื่องของข้อมูลสินค้า/บริการ วิธีการและระยะเวลาในการชำระราคาค่าสินค้า/บริการ และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น เงื่อนไขการรับประกันสินค้า เงื่อนไขการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า
4.การยืนยันการสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าและบริการ ที่จะต้องมีระบบทบทวนและยืนยันการสั่งซื้อ และมีทางเลือกในการยกเลิกหรือยืนยันการทำธุรกรรม และมีการจัดเตรียมแบบฟอร์มการสั่งซื้อและวิธีการกรอกข้อมูลที่ชัดเจน ที่ต้องมีใบยืนยันการสั่งซื้อเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าไปตรวจสอบหรือติดต่อได้ พร้อมทั้งมีการจัดส่งสินค้า/บริการ จะต้องระบุวิธีการและเวลาที่ชัดเจน และดำเนินการจัดส่งภายในระยะเวลาที่กำหนด
5.ระบบความปลอดภัยในการทำธุรกรรม โดยเว็บไซต์ จะต้องจัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมของผู้ซื้อหรือผู้ขาย โดยมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เหมาะสมกับข้อมูลที่มีการจัดเก็บและส่งผ่าน
6.การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บิโภค ที่เว็บไซต์ต้องแสดงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในที่ที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาได้สะดวก
7.ช่องทางในการติดต่อสื่อสารและรับเรื่องรองทุกข์ของผู้บริโภค โดยจะต้องจัดเตรียมช่องทางการติดต่อสื่อสาร รวมถึงการตอบข้อสงสัย และมีกระบวนการในการจัดการข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น และจะต้องมีการตอบสนองข้อร้องเรียน หรือข้อสอบถามภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับข้อร้องเรียนหรือข้อสอบถาม
8.การคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน ในกรณีที่เว็บไซต์มีสินค้าหรือบริการที่อาจส่งผลกระทบต่อเด็กหรือเยาวชน จะต้องจัดให้มีข้อความเตือนบนเว็บไซต์ เพื่อให้ความคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครสมาชิกผ่านทางเว็บไซต์ได้ที่ www.trustmarkthai.com หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2547-5050 ต่อ 3191, 3192 หรือ 0-2547-5959-61