"อลงกรณ์"ยื่นหลักฐานเพิ่มให้ดีเอสไอสอบสวน"ยงยุทธ" กรณีการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้สัมปทานตัดไม้ยูคาฯ ที่มุกดาหาร เผยเป็นวีซีดีคำรับสารภาพที่มีการซัดทอดถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ และเจ้าหน้าที่ อ.อ.ป. พร้อมได้แจ้งความที่ สน.ดุสิต และสภ.อ.เมืองเพชรบุรี ดำเนินคดีกับ"ยงยุทธ"ฐานหมิ่นประมาท ด้าน"ยุทธพงศ์"เตรียมยื่นเรื่องดีเอสไอ สอบล็อกสเปกประปาโคราช ท้า"สุวัจน์"ออกทีวีพิสูจน์ความจริง
วานนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริต เดินทางเข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กรณีการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้สัมปทานการตัดไม้ยูคาลิปตัสขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) โดยได้มอบแผ่นวีซีดีบันทึกคำรับสารภาพ ความยาว 1 ชั่วโมง และแผ่นวีซีดีบันทึกภาพสวนป่า
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จากที่ได้เคยร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ให้สอบสวนเรื่องการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้สัมปทานการตัดไม้ยูคาลิปตัสของ อ.อ.ป.ที่จังหวัดมุกดาหาร และส่งสำเนาเอกสารหลักฐานประกอบการร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้คณะทำงานฯได้สอบปากคำ นายสวรรค์ โฉมเฉลา ซึ่งเป็นหนึ่งในพยานคดีนี้ต่อหน้าสื่อมวลชนในจังหวัดมุกดาหารกว่า 10 คน โดยบันทึกไว้ในวีซีดี ที่นำมามอบเพิ่มเติมในครั้งนี้ ซึ่งคณะทำงานฯเห็นว่า การให้ปากคำของนายสวรรค์ มีสาระสำคัญและเป็นประโยชน์ในการสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษทางกฎหมายต่อไป
"วีซีดีนี้เป็นบันทึกคำสอบปากคำ ถือว่าเป็นคำสารภาพของบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นคนที่ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดขาย และลงนามในบันทึกการจ่ายเงินที่พาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ อ.อ.ป.และรัฐมนตรีด้วย ส่วนอีกชุดเป็นภาพถ่ายสภาพสวนป่าที่มีการตัดไม้ตอสด เพื่อให้ดีเอสไอไปดูในประเด็นการดำเนินการตัดไม้สวมตอต่อใบอนุญาตที่มีการอนุญาตไปก่อนหน้านี้หรือไม่" นายอลงกรณ์ กล่าว และว่า คำสารภาพนี้มีการระบุชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตนได้มอบหมายทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)ที่ สน.ดุสิต ในคดีหมิ่นประมาท เพราะมีความพยายามในการเบี่ยงเบนประเด็นใส่ร้ายว่า มีนักการเมืองไปกรรโชกทรัพย์ และพาดพิงถึงพี่เขยตนด้วย ซึ่งขณะนี้พี่เขยตนก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายยงยุทธ ไว้ที่ สภ.อ.เมืองเพชรบุรี ไว้แล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน
**ยื่นสอบล็อกสเปกประปาโคราช
ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 10.00 น.จะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อพล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้สอบสวนกรณีการล็อกสเปกโครงการก่อสร้างระบบประปามูลค่า 3,700 ล้านบาท พร้อมกับยื่นหลักฐานที่มีอยู่ ซึ่งเชื่อว่าจากหลักฐานดังกล่าวจะทำให้ ผู้ใหญ่ในเทศบาลนคราชสีมาจะต้องตกเป็นผู้ต้องหาถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาชี้แจงกับคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่าไม่มีการล็อกสเปกในโครงการดังกล่าวนั้น ขอท้าให้นายสุวัจน์ มาออกรายการวิทยุ หรือโทรทัศน์ช่องไหนก็ได้ เพื่อให้มาพิสูจน์ความจริงต่อหน้าสาธารณชน เพื่อประโยชน์ต่อประเทศและประโยชน์ของชาวโคราช และพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้ประชาชนชาวโคราชมีน้ำประปาใช้โดยเร่งด่วน แต่ไม่ต้องการให้นักการเมืองมาหากินกับชาวโคราช
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่เทศบาลนครราชสีมา ว่าจ้างบริษัทไทยดีซีไอมาเป็นบริษัทที่ปรึกษาโครงการด้วยค่าจ้าง 93 ล้านบาท ทั้งที่บริษัทดังกล่าวมีประสบการณ์ด้านโยธา เคยทำถนนให้กรมทางหลวง หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงเรียกร้องให้ นายธีระ เพทายบรรลือ เจ้าของบริษัท มาเล่าความจริงให้ฟัง ก่อนที่เรื่องจะไปไกลมากกว่านี้
วานนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริต เดินทางเข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กรณีการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้สัมปทานการตัดไม้ยูคาลิปตัสขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) โดยได้มอบแผ่นวีซีดีบันทึกคำรับสารภาพ ความยาว 1 ชั่วโมง และแผ่นวีซีดีบันทึกภาพสวนป่า
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จากที่ได้เคยร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ให้สอบสวนเรื่องการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้สัมปทานการตัดไม้ยูคาลิปตัสของ อ.อ.ป.ที่จังหวัดมุกดาหาร และส่งสำเนาเอกสารหลักฐานประกอบการร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้คณะทำงานฯได้สอบปากคำ นายสวรรค์ โฉมเฉลา ซึ่งเป็นหนึ่งในพยานคดีนี้ต่อหน้าสื่อมวลชนในจังหวัดมุกดาหารกว่า 10 คน โดยบันทึกไว้ในวีซีดี ที่นำมามอบเพิ่มเติมในครั้งนี้ ซึ่งคณะทำงานฯเห็นว่า การให้ปากคำของนายสวรรค์ มีสาระสำคัญและเป็นประโยชน์ในการสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษทางกฎหมายต่อไป
"วีซีดีนี้เป็นบันทึกคำสอบปากคำ ถือว่าเป็นคำสารภาพของบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นคนที่ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดขาย และลงนามในบันทึกการจ่ายเงินที่พาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ อ.อ.ป.และรัฐมนตรีด้วย ส่วนอีกชุดเป็นภาพถ่ายสภาพสวนป่าที่มีการตัดไม้ตอสด เพื่อให้ดีเอสไอไปดูในประเด็นการดำเนินการตัดไม้สวมตอต่อใบอนุญาตที่มีการอนุญาตไปก่อนหน้านี้หรือไม่" นายอลงกรณ์ กล่าว และว่า คำสารภาพนี้มีการระบุชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตนได้มอบหมายทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)ที่ สน.ดุสิต ในคดีหมิ่นประมาท เพราะมีความพยายามในการเบี่ยงเบนประเด็นใส่ร้ายว่า มีนักการเมืองไปกรรโชกทรัพย์ และพาดพิงถึงพี่เขยตนด้วย ซึ่งขณะนี้พี่เขยตนก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายยงยุทธ ไว้ที่ สภ.อ.เมืองเพชรบุรี ไว้แล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน
**ยื่นสอบล็อกสเปกประปาโคราช
ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 10.00 น.จะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อพล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้สอบสวนกรณีการล็อกสเปกโครงการก่อสร้างระบบประปามูลค่า 3,700 ล้านบาท พร้อมกับยื่นหลักฐานที่มีอยู่ ซึ่งเชื่อว่าจากหลักฐานดังกล่าวจะทำให้ ผู้ใหญ่ในเทศบาลนคราชสีมาจะต้องตกเป็นผู้ต้องหาถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาชี้แจงกับคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่าไม่มีการล็อกสเปกในโครงการดังกล่าวนั้น ขอท้าให้นายสุวัจน์ มาออกรายการวิทยุ หรือโทรทัศน์ช่องไหนก็ได้ เพื่อให้มาพิสูจน์ความจริงต่อหน้าสาธารณชน เพื่อประโยชน์ต่อประเทศและประโยชน์ของชาวโคราช และพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้ประชาชนชาวโคราชมีน้ำประปาใช้โดยเร่งด่วน แต่ไม่ต้องการให้นักการเมืองมาหากินกับชาวโคราช
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่เทศบาลนครราชสีมา ว่าจ้างบริษัทไทยดีซีไอมาเป็นบริษัทที่ปรึกษาโครงการด้วยค่าจ้าง 93 ล้านบาท ทั้งที่บริษัทดังกล่าวมีประสบการณ์ด้านโยธา เคยทำถนนให้กรมทางหลวง หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงเรียกร้องให้ นายธีระ เพทายบรรลือ เจ้าของบริษัท มาเล่าความจริงให้ฟัง ก่อนที่เรื่องจะไปไกลมากกว่านี้